ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 168
บทที่ 168 แค่วิธีการแปลกๆที่ชุบชีวิตผู้คนได้
เมื่อเด็กน้อยได้ยินแบบนั้น เขาก็ได้ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง
“พี่ใหญ่ ผมขอร้อง โปรดช่วยชีวิตพ่อของผมด้วยเป่าน้อย เป่าน้อยไม่อยากเสียพ่อไป”
เจียงฮ่าวได้เผยรอยยิ้มละมุนออกมาเพื่อทําให้เด็กน้อยได้ผ่อนคลายกังวล
“เป่าน้อย อย่าร้องไห้นะ เป่าน้อยเป็นผู้ใหญ่แล้วนี่นา”
“ไม่ต้องกังวลนะ เดี๋ยวพ่อของนายก็ดีขึ้นแล้ว”
เมื่อพูดจบเจียงฮ่าวก็ตรงไปหาชายวัยกลางคนพร้อมทั้งใช้มือแตะที่หน้าผาก
“เฮ้…”
สาวน้อยที่อยู่ข้างๆนั้น เธอเองอยากจะตรงเข้าห้ามเจียงฮ่าวใจจะขาด แต่เจียงฮาวไม่สนใจไยดีเธอแม้แต่น้อย
เขาไม่อยากเสียเวลาต่อปากต่อคําอีกต่อไป หากเขาช้ากว่านี้ เขากลัวว่าเป่าน้อยจะต้องเห็นซากร่างของพ่อของตนติดตาไปตลอดชีวิต
นี่ก็เพราะเขาสัมผัสได้ว่าพ่อของเป่าน้อยนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ให้รถพยาบาลจะมาได้ทันก็ตาม
เจียงฮ่าวได้วางมือของเขาไปที่หน้าผากของพ่อเป่าน้อยท่ามกลางการจับจ้องกับทุกคนที่ตอนนี้กําลังตกตะถึงกับเรื่องที่เกิดขึ้นจนแทบจะลืมหายใจ
“ระบบ ถ่ายทอดแก่นแห่งชีวิตสองขวด”
“รับทราบ นายท่าน”
ภายใต้คําสั่งของเจียงฮาว แกนแห่งชีวิตสองขวดได้หายไปจากมิติเก็บของเจียงฮาวในทันที
พลังงานแห่งชีวิตได้ถ่ายเทไปยังพ่อของเป่าน้อย
ด้วยความทรงอานุภาพของแก่นแห่งชีวิตถึงสองขวด บาดแผลบนร่างกายของพ่อเป่าน้อยได้หายไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า
กระดูกที่แตกร้าวไปทั่วทั้งตัวได้เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ เลือดที่ควรจะอยู่ในร่างกายเริ่มผลิตขึ้นมาทดแทนเลือดที่เสียไปอย่างรวดเร็ว เนื้อเยื่อทั่วร่างกายกลับประสานเข้ากันอย่างสมบูรณ์
โดยความจริงแล้ว แค่แก่นแห่งชีวิตเพียงขวดเดียวก็เพียงพอต่อการชุบชีวิตของผู้คนได้ แต่พ่อของเป่าน้อยนั้นนอกจากจะบาดเจ็บชนิดที่แทบจะไม่เหลือชิ้นดีแล้ว ชีพจรของเขายังขาดหายไปแล้วตอนที่เขาตรวจสอบเมื่อกี้
นี่จึงทําให้เจียงฮาวตัดสินใจใช้แก่นแท้ของชีวิตสองขวดในทันที
ในตอนนี้ แก่นแท้ของชีวิตทั้งสองขวดได้ไหลเข้าสู่ร่างกายของพ่อเป่าน้อยจนหมดแล้ว บาดแผลทั่วทั้งร่างหายไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า
แม้แต่ชีพจรของเขาก็ยังกลับมาเต้นอีกครั้ง
ทุกคนที่จ้องมองเจียงฮาวผู้ซึ่งทําเพียงแตะหน้าผากของพ่อเด็กน้อยแล้วไม่ได้ทําอะไรอีกเลย ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
แต่กับสาวน้อยที่มองเห็นการเปลี่ยนแปลงไปเต็มๆนี้กลับรู้สึกว่าเจียงฮ่าวนั้นเป็นเทพในร่างมนุษย์
“เฮ้ นาย…ทํา…ทําได้ยังไง”
เจียงฮ่าวไม่ตอบโต้ เขายังคงท่าทางของเขาเอาไว้
และเป็นตอนนี้ที่ทุกคนโดยรอบร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น
“ไม่จริงน่าเมื่อ เมื่อกี้ ชายคนนั้นขยับนิ้วแล้ว”
ตอนนี้เจียงฮ่าวได้รเริ่มเงยหน้าขึ้นมา
ทุกๆคนในตอนนี้มองไปยังร่างของชายวัยกลางคนที่นอนจมกองเลือดอยู่นั้น พวกเขารีบตอบสนองและตั้งคําถาม
“ยังไง นี่คือรักษาแล้ว”
แม้แต่สาวน้อยก็ยังสงสัย
เป็นตอนนี้ที่เปลือกตาพ่อของเป่าน้อยกระขยับไปมาและลืมตาขึ้น
เมื่อเห็นผู้คนที่มุงดูโดยรอบเขาก็ได้เอ่ยถามออกมาเบาๆ
“ที่ไหนกัน”
คําพูดนี้ได้สร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนโดยรอบ
“ไม่จริงน่าฉิบ เขายังไม่ตาย”
“ห้ะ” “เขาใช้วิธีไหนรักษากัน”
ท่ามกลางเสียงพูดของผู้คน พ่อของป่าน้อยได้นั่งลง เมื่อคนอื่นได้เห็นฉากนี้ต่างก็ตกตะลึงจนอ้าปากค้างกว้าง
เป่าน้อยในตอนนี้ไม่อาจจะต้านทานความรู้สึกที่กลัวพ่อของตนต้องเจ็บหากเขาไปแตะต้องพ่อของตนได้อีกต่อไป เขาพึ่งเข้าไปกอดพ่อของตนอย่างดีใจ และตะโกนออกมาด้วยเสียงอันดังลั่นด้วยเสียงที่เปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้น
“พ่อครับ ฮือๆๆ พ่อ”
เจียงฮาวที่เห็นท่าทางดีใจอย่างที่สุดของเป่าน้อยแล้วก็ได้เผยลอยยิ้มกว้างออกมา ก่อนที่เขาจะหันหลังและจากไปอย่างเงียบงัน
หญิงสาวที่เมื่อสักครู่กล่าวห้ามปรามเจียงฮ่าวในตอนนี้ตกอยู่ในสภาพตกตะลึง เธอมองไปร่างของชายวัยกลางคนที่ในตอนนี้ถูกเป่าน้อยกอดอยู่เต็มอกท่ามกลางบ่อเลือด
เธอพูดออกมาเบาๆ ในขณะที่ยังไม่มีสติกลับคืน
“นี่มัน…เป็น..ไป..ไม่ได้”
เป็นตอนนี้ที่รถโรงพยาบาลมาถึง
“ขอทางหน่อย ขอทางหน่อย”
“คนเจ็บอยู่ไหนล่ะ”
สาวน้อยในตอนนี้ตื่นจากภวังค์และเริ่มมองหาเจียงฮาวในทันที แต่เจียงฮ่าวนั้น ได้จากไปไกลแล้ว
ในตอนนี้หมอก็มาถึงเพื่อจะได้ดูอาการของชายวัยกลางคนที่ยังคงนั่งอยู่ท่ามกลางบ่อเลือดและไร้รอยบาดแผลแม้แต่ปลายก้อย