ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 25
บทที่ 25 ทุกๆคนตกตะลึงในทันทีเมื่อได้ยิน
ต่อให้ได้ยินแบบนั้น มีหรือที่คนอย่างเจียงฮ่าวเมื่อได้ยินแล้วจะยอมรับกลับคืนมา และเขาเองนั้นไม่ได้ตัดใจส่งสิ่งของเลอค่าแบบนี้ให้กับซ่งหว่านเอ๋อเพียงเพื่อเป็นของขวัญให้เธอเท่านั้น
“คุณหว่านเอ๋อ ของนี่ฉันมอบให้เธอแล้วจะรับคืนกลับมาได้ยังไง”
“อีกอย่างหนึ่ง ฉันเองไม่ได้มาที่นี่เพียงเพื่อการร่วมฉลองงานวันเกิดของเธออย่างเดียวเท่านั้น ขอพูดตรงๆเลยแล้วกันนะว่าฉันได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้มาทำข้อตกลงกับธุรกิจหยกของตระกูลเธอน่ะ”
“หรือจะให้พูดอีกอย่างก็คือสมบัติแบบนี้นั้นนับจะนี้อาจารย์ของฉันหวังไว้ว่าจะสามารถส่งมอบให้ตระกูลของเธอเป็นผู้ดำเนินการต่างๆให้”
“อีกอย่างหนึ่ง จริงอย่างที่ผู้อาวุโสท่านนี้กล่าวเอาไว้ ช่างเป็นผู้อาวุโสที่สายตาหลักแหลมจริงๆ จี้หยกนี้ยังมีคู่ของมันอยู่อีกครึ่งหนึ่ง หรือจะให้เรียกว่าหยกคู่หงส์มังกรก็ไม่ผิดนัก”
เจียงฮ่าวพูดออกมาแบบนี้ทำให้ผู้อาวุโสลำดับสามแห่งตระกูลซ่งถึงกับเขินกันเลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่ได้แสดงท่าทีอะไรออกมาก็ตาม
หลังจากพูดจบ เจียงฮ่าวก็ได้หันไปมองยังราชันย์หยกอย่างซ่งหว่านซ่งในทันที
ซ่งหว่านซ่ง ในตอนนี้กำลังจ้องมองไปยังหยกหงส์เพลิงที่อยู่ตรงหน้า ในฐานะที่เขาได้รับฉายามาว่าจักรพรรดิ์หยก แน่นอนว่าแค่มองปราดเดียวเขาก็รู้แล้วว่านี้คือหยกจักรพรรดิ์อย่างไม่ต้องสงสัย
ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเขานั้นยังเห็นถึงฝีมือต่างๆของสุดยอดปรมาจารย์นักแกะสลักผู้นี้ได้อย่างเดียวเช่นเดียวกัน เขาบอกได้เลยว่ามูลค่าทางเทคนิคนี้สูงล้ำจนไม่สามารถประเมินเป็นมูลค่าได้
และในเมื่อสุดยอดปรมาจารย์นักแกะสลักผู้นี้ต้องการร่วมงานกับตนแบบนี้ ไม่เพียงเขาจะไม่ปฏิเสธแล้ว เขายังรู้สึกประทับใจในทันที่ได้ยินอีกด้วย
“แน่นอน ฉันตกลง ในอนาคต สมบัติทั้งหมดที่มาจากอาจารย์ของเธอนั้นสามารถนำมาวางขายที่ร้านของฉันได้ และฉัน ในนามของสมาพันธ์นักแกะสลักหยก จะขอส่วนแบ่งเพียงสิบเปอร์เซนต์เท่านั้น”
ซ่งหว่านซ่งไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากเลยด้วยซ้ำ ต่อให้เขานั้นจะไม่รู้ว่าปรมาจารย์ผู้นี้มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ต่อให้คำพูดของเขาในตอนนี้จะส่งปัญหาให้กับเขาในภายหลัง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าฝีมือแกะสลักชั้นฟ้าแบบนี้แล้วเขายินดีที่จะยอมรับมัน
ด้วยการที่ซ่งหว่านซ่งนั้นอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างที่จะสูงล้ำในสังคม การที่คนอย่างเขานั้นจะยอมรับผลประโยชน์เพียงเล็กน้อยแบบนี้ทำให้คนทั่วไปนั้นยากจะเข้าใจได้
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าตัวเขานั้นเป็นคนโง่แต่อย่างใด หากเขาเป็นคนโง่จริงก็คงจะเรียกที่จะเสนอกำไรเพียงเล็กน้อยให้กับสุดยอดปรมาจารย์ผู้นี้เท่านั้น
นี่ก็เพราะว่าเขานั้นประเมินแล้วว่าหากสามารถผูกมิตรกับสุดยอดปรมาจารย์ผู้นี้ได้จะมอบผลกำไรให้กับเขาได้อย่างไม่สิ้นสุด
เจียงฮ่าวเองที่ได้ยินก็ถึงกับหูอื้อในทันทีและอดที่จะประหลาดใจจากคำตอบที่เขาได้ยินไม่ได้เหมือนกัน แต่เขาเองก็เหมือนจะเข้าใจในเรื่องนี้ได้ทันที
“ตกลงครับ 10% ในฐานะที่เป็นตัวแทนของอาจารย์ขอกล่าวขอบคุณท่านจักรพรรดิ์หยกแทนอาจารย์ของผมด้วย”
เจียงฮ่าวโค้งคำนับและกล่าวขอบคุณซ่งหว่านซ่งในทันที
เมื่อซ่งหว่านซ่งเห็นแบบนั้น เขาได้รีบเข้าไปประคองเจียงฮ่าวในทันที
“ทำไมทำตัวห่างเหินกันแบบนี้ล่ะ หืม เธอหมายความว่าไง จักรพรรดิ์หยกเหรอ แหม่ จักพรรดิ์หย่งจักรพรรดิ์เหยิกอะไรกัน ในเมื่อเธอเองก็รู้จักแถมยังเป็นเพื่อนร่วมชั้นของหว่านเอ๋อ เธอแค่เรียกฉันว่าลุงซ่งก็พอแล้ว”
เจียงฮ่าวที่ได้ยินก็ถึงกับต้องมีท่าทีอึกอักไปเล็กน้อย
“เอ่ออออ งั้น ต้องขอบคุณลุง..เอ่อ…ลุงซ่งด้วยแล้วกันครับ”
“….”
ทันทีที่ทั้งสองคนนี้แทบจะทำข้อตกลงกันต่อหน้าสาธารณะชนได้แทบจะในทันที นี่ทำให้แขกเหรื่อภายในงานที่เห็นต่างก็ตกตะลึง
“สิบเปอร์เซนต์…เนี่ยนะ” “จักรพรรดิ์เนี่ยนะต้องการส่วนแบ่งแค่สิบเปอร์เซนต์ นี่จักรพรรดิ์หยกยอมทำงานให้เพื่อส่วนแบ่งแค่นี้จริงเหรอ”
“อึ้กก ฉันว่านายอย่าพึ่งรีบด่วนสรุปดีกว่านะนั่น สำหรับฉันแล้วมันไม่ใช่น้อยๆเลยนะ”
“ไม่คิดเลยจริงๆว่าจี้หยกนั่นจะเป็นผลงานจากสุดยอดปรมาจารย์ช่างฝีมือ”
“……”
ในตอนนี้ ทั้งผู้อาวุโสสามแห่งตระกูลซ่ง เจียนฮ่าว และซ่งหว่านซ่ง ได้พูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ก็ได้มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในระหว่างการสนทนาจนทำให้เจียงฮ่าวเองต้องรู้สึกลำบากใจไม่น้อย
“เพื่อนตัวน้อย เธอพอจะบอกได้รึเปล่าว่าอาจารย์ของเธอนั้นอยู่ที่ไหนกัน ฉันอยากจะขอไปทำการคารวะเขาตรงหน้าสักครั้งหนึ่งที่ให้โอกาสดีแก่พวกเรา”
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินเขาก็รู้สึกได้ถึงว่าตกอยู่ในปัญหาทันที
“กับเรื่องนี้ผมเกรงว่าจะเป็นไม่ได้น่ะ อาจารย์ของผมมีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง ท่านเดินทางไปทั่วเพื่อฝึกฝีมือ เมื่อท่านอารมณ์ดีก็จะมาหาผมเท่านั้น แม้แต่ผมเองก็ยังไม่รู้ที่อยู่ที่แน่ชัดเลย นี่เกรงว่าต้องทำให้ท่านผู้อาวุโสสามต้องผิดหวังแล้ว”
เมื่อลุงซ่งได้ยินดังนั้นก็มีท่าทีผิดหวังในทันที
“ถ้างั้น เพื่อนตัวน้อย หากในอนาคต เมื่อใดก็ตามที่อาจารย์ของเธอนั้นมีผลงานใหม่ล่ะก็ อย่างน้อยๆก็ขอให้ตาแก่คนนี้ได้เชยชมผลงานก่อนใครสักนิดสักหน่อยก็ยังดี”
“เรื่องนี้ย่อมได้แน่นอนอยู่แล้วครับ”
เจียงฮ่าวได้ตอบรับขึ้นมาในทันทีที่ได้ยิน
ในตอนนี้ เจียงฮ่าวได้กลายเป็นตัวเด่นของเลี้ยงนี้ในทันที ทุกคนนั้นอยากจะหาจังหวะทำความรู้จักเขาให้จงได้ ส่วนฉินโชวนั้น ทุกคนได้หลงลืมไปแล้วว่ามีตัวตนอยู่ในงานเลี้ยงนี้
ฉินโชวที่ยืนจ้องมองจากระยะไกลนั้นก็ได้เห็นเจียงฮ่าวที่ตอนนี้กำลังถูกรายล้อมด้วยผู้คนด้วยสีหน้าอันอิ่มเอิม
ในที่สุด มันก็ได้พาผู้ติดตามจากไปอย่างเงียบๆ
“…..”
ในระหว่างงานเลี้ยงนี้เอง เจียงฮ่าวก็ได้ตัดสินใจนำเครื่องหยกที่ผ่านการสร้างของระบบออกมาสามชิ้น
เครื่องหยกเหล่านี้ประกอบด้วย แหวนหยกดำคุณภาพสูง ปิ่นปักผมนกเพลิง และพระพุทธรูปนั่งขัดสมาธิบนดอกบัว
และพวกมันก็ถูกซื้อไปโดยผู้คนในงานในทันทีด้วยราคา หนึ่งล้าน สามล้าน และห้าล้านตามลำดับ
นี่เองทำให้เจียงฮ่าวนั้นดูรวยมากในทันที
และด้วยเหตุนี้ ทำให้ตัวตนของเจียงฮ่าวนั้นเป็นที่จับตาของผู้คนระดับบนในทันใด