ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 52
บทที่ 52 กลับหน้ามือเป็นหลังมือ
ด้วยสีหน้าของนักเรียนห้องแปดในตอนนี้นั้นเอาจริงอย่างมาก และนี่เองทำให้หลิวเปียวถึงกับต้องสะดุ้งไปเล็กน้อย แต่ในที่สุด มันก็ได้ทำใจสู้และทำการคุกเข่าก้มหัวลงไปหนึ่งที พร้อมกับเงยขึ้นมาจ้องมองเจียงฮ่าวด้วยสายตาที่มุ่งมั่นและพูดออกมา
“ท่านอาจารย์ โปรดสอนพวกเราเล่นบาสเก็ตบอลด้วยเถอะ”
หลังจากพูดจบ เขาได้ทำการดึงกางเกงของเพื่อนของเขาคนหนึ่งที่กำลังกระมิดกระเมี้ยนอยู่ข้างๆ
และเมื่อได้เห็นว่ากัปตันของตัวเองยอมทำถึงขนาดนั้น ทุกคนในทีมจึงได้ทำการคุกเข่าแทบจะพร้อมกัน และพูดออกมาด้วยเสียงอันดังลั่นอย่างพร้อมเพรียง
“ท่านอาจารย์ โปรดสอนพวกเราเล่นบาสเก็ตบอลด้วยเถอะ…”
การแสดงออกที่แม้แต่พระเจ้าก็ยังต้องหันควับมามองแบบนี้ เจียงฮ่าวเองก็ต้องนิ่งอึ้งแบบสุดๆไปเหมือนกัน ไม่เพียงแต่เขา แม้แต่คนอื่นๆเองก็ตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน
นั่นก็เพราะแต่เดิมนั้นพวกเขาคิดว่าคนอย่างหลิวเปียวและพวกจะต้องโกรธแค้นจนถึงขั้นมีเรื่องกัน
แต่ใครจะไปคิดว่านอกจากจะไม่มาหาเรื่องแก้แค้นแล้ว พวกเขายังมาก้มหัวขอร้องให้เจียงฮ่าวเป็นอาจารย์แบบนี้
แถมไอ้คนที่น่าจะเป็นตัวตั้งตัวตียังเป็นคนที่เปิดฉากหาเรื่องก่อนหน้านี้ซะอีก
จึงไม่แปลกที่ทุกคนนั้นจะตกตะลึง
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาคิดถึงเทคนิคการเล่นของเจียงฮ่าวที่ไหลลื่นราวกับนักบาสNBAนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเข้าใจความรู้สึกของพวกหลิวเปียว สมควรจะเป็นพวกหลิวเปียวมากกว่าที่ต้องตกตะลึงจนเปลี่ยนท่าทีของพวกคนไป
“จะบ้าเรอะ พวกนายรีบๆลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ ฉันเองเล่นบาสเก็ตบอลไม่เป็นหรอก ฉันแค่เล่นไปเรื่อยๆเท่านั้นเอง”
ในทันทีที่ได้ยินเจียงฮ่าวพูดออกมานั้น ทุกๆคนต่างก็มีความรู้สึกเดียวกันบังเกิดขึ้นมา พวกเขาจ้องมองไปยังเจียงฮ่าวพร้อมกับความรู้สึกหนึ่งที่ไม่ได้พูดออกมา
“เชื่อก็บ้าแล้ว”
แต่กับหลิวเปียวและพวกที่กำลังคุกเข่าอยู่นั้น เมื่อได้ยินแบบนี้ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเข้าไปอีก นั่นก็เพราะพวกนี้เชื่อไปเต็มๆ และเมื่อคิดได้ว่าพวกตนที่ฝึกฝนมาอย่างหนักหลายปีแต่ยังเล่นได้ดีไม่สู้คนที่ไม่ได้คิดจริงจังกับการเล่นบาสแม้แต่น้อย
ความเจ็บปวดนี้ทำให้พวกเขาที่คุกเข่าอยู่นั้น แทบจะทรุดลงไปกับพื้นอย่างพร้อมเพียง
และนี่เองยิ่งทำให้พวกเขานั้นประทับใจในตัวเจียงฮ่าวมากกว่าเดิมและหมายมั่นว่าจะต้องดูดความรู้จากเจียงฮ่าวในฐานะลูกศิษย์ให้จงได้
“ท่านอาจารย์ โปรดยอมรับด้วย”
หลิวเปียวนั้นเป็นพวกสมองกล้ามถือตัวเป็นใหญ่ คนแบบเขานั้นการที่มายอมสละเกียรติของคนคุกเข่าอ้อนวอนเจียงฮ่าวแบบนี้ทำให้ผู้คนนั้นกลับต้องรู้สึกนับถือเสียมิได้
และเมื่อพวกเขานั้นยังคงเห็นว่าเจียงฮ่าวนั้นยังไม่มีท่าทีว่าจะรับพวกตนเป็นสิทธิ์ พวกเขาจึงรีบพูดออกมาอย่างร้อนรน
“หากอาจารย์ไม่ยอมรับพวกเราเป็นศิษย์ พวกเราจะไม่ลุกขึ้นเป็นอันขาด”
เจียงฮ่าวเองในตอนนี้ที่อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่นั้น แน่นอนว่าตัวเขานั้นไม่ต้องการลูกศิษย์ เขาจึงได้เสนอทางเลี่ยงของตนออกมา
“อยากคุกเข่าต่อไปก็เชิญ ตอนนี้ฉันนั้นสนใจแต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้น ไม่มีเวลามาสอนพวกนายอย่างแน่นอน”
เมื่อพูดจบ เขาก็ได้ทำการเดินอ้อมหลิวเปียวไป โดยไม่คาดคิด หลิวเปียวได้พุ่งเข้ามากอดขาของเจียงฮ่าวซะอย่างนั้น และได้รีบพูดออกมา
“อาจารย์อย่าพึ่งไป พวกเราจะไม่รบกวนเวลาเรียนของอาจารย์อย่างแน่นอน พวกเราเพียงแค่ให้ท่านชี้แนะพวกเรายามว่างเท่านั้น แค่นั้นพวกเราก็พอใจมากแล้ว”
ในตอนนี้เจียงฮ่าวนั้นรู้สึกขนลุกไปทั่วทั้งตัวในทันทีเมื่อถูกกอดขาโดยหลิวเปียว ยังไม่ต้องนับตำแหน่งของมือของหลิวเปียว แค่โดนผู้ชายด้วยกันเองกอด แถมยังเป็นไอ้พวกสมองกล้ามที่เหงื่อกำลังชุ่มโชกอีกด้วย ก็เกินพอที่จะรู้สึกขนลุกได้
เขาได้ทำการสลัดขาของตนในทันทีพร้อมกับพูดออกมาด้วยเสียอันดังลั่น
“รีบๆออกไปให้พ้นเลยนะเว้ย ฉันไม่ใช่พวกไม้ป่าเดียวกันนะไอ้เวรนี่”
เมื่อสิ้นคำของเจียงฮ่าว นักเรียนที่รายรอบอยู่นั้นอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา นี่ทำให้หลิวเปียวเองในตอนนี้ก็ต้องรู้สึกแปลกใจไปเล็กน้อย
เขาได้ลองดูตำแหน่งที่ตัวเองกอดแล้วก็พบว่ามือของตนที่รัดพันขาของเจียงฮ่าวอยู่นั้นใกล้กับเป้าของเจียงฮ่าวอย่างมาก ยังไม่ต้องบอกถึงใบหน้าที่แทบจะชนกันอยู่แล้ว นี่ทำให้หลิวเปียวเองก็ต้องหนาวสันหลังขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว นี่ทำให้เขารีบร่นแขนและใบหน้าลงไปในทันที
“ท่านอาจารย์อย่ากังวล ผมเองก็ไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น ผมสัญญาหากท่านรับพวกเราเป็นศิษย์ ผมจะยอมปล่อยแน่นอน”
และในตอนนี้เอง ทีมของหลิวเปียวที่เล็งเห็นจุดอ่อนก็ค่อยกระดึบเข้ามารุมล้อมเจียงฮ่าวในทันที
“ท่านอาจารย์ พวกเราสัญญาว่าจะปล่อยท่านไปเพียงรับพวกเราเป็นศิษย์เท่านั้น”
เมื่อเห็นฉากนี้ เจียงฮ่าวสูญสิ้นซึ่งคำพูดในบัดดล
เมื่อเห็นว่าคาบเรียนกำลังจะเริ่ม เจียงฮ่าวที่ไม่มีทางเลือกอื่นจึงได้พูดออกมา
“แม่…. เออ ก็ได้ ลุกขึ้นมาได้แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น สายตาของหลิวเปียวในตอนนี้นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาในทันที
“ท่านอาจารย์สัญญาแล้วนะ”
เจียงฮ่าวพูดออกมาอย่างหน่ายใจ
“สัญญาจริงๆคร้าบบบบบ”
แต่ก่อนที่หลิวเปียวและพวกจะรู้สึกดีใจอย่างออกนอกหน้านั้น เจียงฮ่าวได้พูดดักคอเอาไว้ก่อน
“บอกไว้ก่อนนะว่านับแต่นี้ฉันจะไม่พูดจาให้เกียรติพวกนายอีก และอย่างที่บอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าฉันไม่มีเวลามาก ฉันจะสอนพวกนายได้เฉพาะช่วงเวลาว่างเท่านั้น”
เมื่อได้ยินดังนั้น แม้หลิวเปียวและพวกจะรู้สึกผิดหวังไปเล็กน้อย แต่ยังไงซะ แค่เจียงฮ่าวยอมสอนพวกเขานั้นพวกเขาก็ถือได้ว่าดีมากอยู่แล้ว แค่นี้ก็ทำให้พวกเขามีความสุขมากพอแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นพวกเขาจึงได้รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพูดสัญญาออกมา
“ได้ครับ ยินดีครับ เหมาะสมแล้วครับท่านอาจารย์”
“งั้นพวกเราไม่รบกวนอาจารย์ไปเรียนแล้วครับ เชิญเลยครับท่านอาจารย์”