ระบบย่อยสลายขั้นเทพ - ตอนที่ 54
บทที่ 54 คำตอบที่ไม่คาดฝัน
ในทันทีที่หวังหยางหมิงได้พูดความต้องการของคนออกมานั้นทำให้นักเรียนทั่วทั้งห้องที่ได้ยินอดที่จะตื่นเต้นแทนไม่ได้
“ไอ้ฉิบ… ถูกแนะนำเข้าเป็นนักกีฬาจังหวัดตรงๆเลยเหรอ”
“ไอ้ฉิบหาย ฉันเคยได้ยินมาว่าใครก็ตามที่จะเข้าเป็นนักกีฬาจังหวัดได้จะต้องผ่านการคัดกรองแล้วคัดกรองอีกไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมกับเจียงฮ่าวถึงได้ง่ายนักนะ”
“ไม่รู้ว่าเจียงฮ่าวจะสนใจรึเปล่าแหะ”
“…”
ถึงแม้ว่านักเรียนทุกคนจะตกตะลึงกับคำพูดของหวังหยางหมิงกันไปหมดนั้น
แต่กับเจียงฮ่าวแล้วเขาแค่ประหลาดใจเท่านั้น
ถึงแม้ว่าการโดนเรียกตัวเข้าทีมนักกีฬาบาสเก็ตบอลแบบนี้นั้นจะไม่ใช่สิ่งที่ใครๆจะได้รับมาอย่างง่ายๆ
แถมโค๊ชคนนี้ยังสามารถแนะนำเขาจนเป็นนักกีฬาจังหวัดโดยตรงได้ นี่คือสิ่งที่ทำให้เจียงฮ่าวนั้นประหลาดใจ
อาจารย์คนนี้คงไม่ธรรมดาเป็นแน่
อย่างไรก็ตาม กับตัวเขานั้นไม่ได้สนใจในสิ่งที่อาจารย์คนนี้เสนอมาแต่อย่างใด
นั่นก็เพราะว่าเขานั้นไม่เคยคิดที่จะเข้าเป็นนักกีฬาของจังหวัดอยู่แล้ว และการแข่งขันเมื่อวานเองก็เป็นเพียงสถานการณ์บังคับเท่านั้น
เจียงฮ่าวได้จ้องมองไปยังหวังหยางหมิงที่กำลังแสดงความคาดหวังในคำตอบของเขาอย่างเห็นได้ชัด เขาได้กล่าวคำขอโทษออกไปอย่างจริงใจ
“ต้องขอโทษจริงๆครับโค๊ชหวัง ขอบคุณครับที่มาที่นี่เพื่อเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
“แต่ตัวผมนั้นไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมทีมนักกีฬาจริงๆ และไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมเป็นนักกีฬาจังหวัดเลยแม้แต่น้อย”
“ตอนนี้ใกล้ได้เวลาที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ผมเองก็ต้องใช้เวลาช่วงนี้ในการทบทวนบทเรียนเพื่อให้ติดมหาวิทยาลัยที่ต้องการ”
“ห้ะ”
“เจีงฮ่าวปฏิเสธเหรอ นั่นคือทีมนักกีฬาบาสเกตบอลเลยนะ”
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขานั้นนึกถึงผลการเรียนของเจียงฮ่าวในช่วงหลังมานี้ พวกเขาก็เข้าใจเจียงฮ่าวได้ในทันทีเช่นเดียวกันโดยไม่ได้ประหลาดใจสักเท่าไหร่
อีกฝากฝั่งหนึ่งนั้น หวังหยางหมินเองก็มีท่าทีมึนตึงเล็กน้อยจากคำตอบจองเจียงฮ่าว
เขานั้นคิดว่าเจียงฮ่าวยินดีที่จะตอบรับคำชวนในทันทีเมื่อนำทีมนักกีฬาจังหวัดมาอ้าง
เขาไม่เคยคิดจริงๆว่าเจียงฮ่าวนั้นปฏิเสธเขา
หวังหยางหมิงคิดว่าเจียงฮ่าวนั้นอาจจะยังไม่เข้าใจคำพูดของตนที่สื่ออกไปได้ดีพอเขาจึงรีบอธิบายย้ำกับเจียงฮ่าวอีกครั้ง
“เมื่อกี้เธออาจจะได้ยินไม่ชัดนะ”
“ฉันสามารถทำให้เธอเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของจังหวัดเราโดยไม่ต้องผ่านการคัดกรองใดๆทั้งสิ้นเลยนะ”
เจียงฮ่าวเองถึงกับต้องพูดไม่ออกไปอีกครั้ง
เขานั้นไม่เคยมีใจกับการเข้าร่วมทีมจังหวัดเลยแม้แต่น้อย เอาตรงๆ ฝีมือของเขานั้นเพียงพอที่จะเข้าทีมชาติได้ด้วยซ้ำ แต่ต่อให้ไปได้ถึงขนาดนั้นเขาก็ยังไม่สนอยู่ดี
เขานั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง จึงทำได้เพียงอธิบายออกมาอีกครั้งได้เท่านั้น
“โค๊ชหวังครับ ผมเองเข้าใจสิ่งที่อาจารย์พูดมาได้อย่างดีครับ แต่ตัวผมเองนั้นไม่ต้องการที่จะเข้าร่วมทีมจังหวัดเลยแม้แต่น้อย อย่างที่ผมบอก ผมนั้นมีความตั้งใจที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย และเพื่อการนั้นแล้วผมจำเป็นต้องทุ่มเวลาไปกับเรียนเพื่อคว้าโอกาสในการเข้ามหาวิทยาลัยที่ผมต้องการให้จงได้”
เมื่อหวังหยางหมิงได้ยินแบบนี้แล้วก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความร้อนรนออกมา
นั่นก็เพราะเขาเองก็ได้ไปย้อนดูวิดีโอการแข่งเมื่อวานนี้แล้ว ให้เขาพูดตรงๆก็ได้ว่าทักษะการเล่นของเจียงฮ่าวนั้นสามารถไปได้ถึงทีมชาติอย่างไม่ยากเย็น
ยิ่งเจียงฮ่าวในตอนนี้ยังหนุ่มแน่น ตัวเขานั้นถือได้ว่าเป็นอัจฉริยะทางด้านการกีฬาอย่างแท้จริง
นี่จึงเป็นเหตุที่เขานั้นไม่อยากที่จะยอมแพ้
ถึงแม้จะคิดอย่างงั้นแต่ตัวเขาก็ไม่ได้แสดงท่าทีร้อนรนออกมาแต่อย่างใด เขานั้นเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างได้เมื่อนึกถึงว่าเจียงฮ่าวนั้นต้องการเข้ามหาวิทยาลัย
“เข้ามหาวิทยาลัยอย่างนั้นเหรอ”
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาได้รีบเอ่ยปากพูดออกมา
“นักเรียนเจียงฮ่าว เมื่อกี้เธอว่าต้องการเข้าร่วมมหาวิทยาลัยสินะ”
“แน่นอนว่านักเรียนที่เป็นนักกีฬาเองก็ยังต้องเข้าร่วมสอบเข้ามหาวิทยาลัยด้วยเช่นกัน และในตอนนี้ ทุกๆมหาวิทยาลัยเองก็ต้องการนักศึกษาที่มีความสามารถอย่างการเป็นนักกีฬาแบบนี้”
“หากเธอนั้นยอมเข้าร่วมทีมบาสเก็ตบอลแล้วนี่จะไม่ยิ่งช่วยส่งเสริมกันหรอกเหรอ เธอก็น่าจะรู้ว่าการเข้ามหาวิทยาลัยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
“แถม ทุกมหาวิทยาลัยเองก็ยังมีการรับจำนวนที่จำกัดอยู่อีก ถ้าเธอนั้นไม่ได้มีประสบการณ์อะไรเป็นพิเศษ เธอเองก็น่าจะทำคะแนนสอบได้ไม่ดีนี่ ทางมหาวิทยาลัยอาจจะไม่สนใจก็ได้ โดยเฉพาะหากมหาวิทยาลัยที่เธอยากจะเข้านั้นมีชื่อเสียง พวกเขานั้นจะพิจารณาคนกลุ่มนี้เป็นอันดับแรก”
เมื่อเจียงฮ่าวได้ยินคำพูดหนึ่งของอาจารย์ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะลั่นออกมา
“คะแนนสอบของผมเนี่ยนะไม่เข้าเกณฑ์”
ดูเหมือนว่าอาจารย์หวังคนนี้จะไม่ได้ดูหาข้อมูลของเขาก่อนที่จะมานี่เลยแหะ
เมื่อได้ยินคำพูดของโค๊ชหวังแล้ว เหล่านักเรียนอดไม่ได้ที่จะนิ่งอึ้งไปพร้อมกัน
“เจียงฮ่าวเนี่ยนะมีคะแนนไม่ถึงเกณฑ์”
“ไอ้ฉิบหาย อันดับหนึ่งในสี่โรงเรียนด้วยคะแนน 747 คะแนน นี่หมอนั่นยังไม่มีคุณสมบัติจะเข้ามหาวิทยาลัยได้อีกเหรอ”
“สวรรค์ทรงโปรด ไม่จริงใช่รึเปล่าครับ แล้วนี่พวกเราจะมีชีวิตอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยได้ยังไงกัน”
“….”
ทุกคนในตอนนี้กู่ร้องออกมาราวกับชีวิตของพวกตนนั้นหมดสิ้นซึ่งอนาคตอีกต่อไปแล้ว