ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 171 กลุ่มเทียน
บทที่ 171 กลุ่มเทียน
บทที่ 171 กลุ่มเทียน
หลังจากที่ทุกคนจากไปแล้ว อวี๋ฉู่กล่าวกับลู่หยวนเช่นกันว่า “เจ้าหนู ข้ามีบางอย่างที่ต้องคุยกับเฉิงไท่ ถ้าเจ้าต้องการอะไร เรียกข้าได้”
ชายหนุ่มพยักหน้า อนุญาตให้ผู้พิทักษ์เหาะจากไป
บุตรศักดิ์สิทธิ์กำลังจะพาอาจารย์ผู้หมดสติกลับยอดเขาหอก เมื่ออุ้มขึ้นมา ชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงครางอย่างแผ่วเบาอยู่ในอ้อมแขน เมื่อก้มมองลงไปพลันเห็นหลิงอวิ๋นลืมตาขึ้นช้า ๆ
ยามลืมตาความงดงามของนางยังพร่างพราย แต่ตอนนี้สายตาของหลิงอวิ๋นปราศจากความแข็งแกร่งอวดดีเหมือนเมื่อครู่ แต่มันเต็มไปด้วยความสับสน
ลู่หยวนขมวดคิ้ว “ตื่นแล้วหรือ?”
หลิงอวิ๋นงุนงง ต้องใช้เวลาหลายอึดใจจึงตอบสนองได้ ครั้นพบว่านางถึงกับถูกชายหนุ่มกอดเอาไว้ ดวงหน้าที่เหมือนกับหยกจึงแดงก่ำทันที
นางออกแรงผลักเขาหลายครั้ง กล่าวว่า “เจ้าปล่อยข้าได้แล้ว”
บุตรศักดิ์สิทธิ์ไม่ขยับ เพียงถามว่า “อาจารย์สำนักอยากให้ข้าปล่อยจริง ๆ หรือ?”
หลิงอวิ๋นพยักหน้า ลู่หยวนจึงปล่อยทันที หลิงอวิ๋นไม่คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะปล่อยอย่างกะทันหันขนาดนี้ นางจึงตอบสนองไม่ทัน จนร่างตกลงไปด้วยความเร็วมหาศาล ทำเอานางคว้าจับชุดของเขาเอาไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
“ทำไมอาจารย์สำนักถึงเกาะข้าเช่นนี้ล่ะ?”
บุตรศักดิ์สิทธิ์ส่งเสียงหัวเราะชั่วร้ายออกมา สีหน้าของอีกฝ่ายแดงก่ำมากยิ่งขึ้น นางไม่สามารถหาอะไรมาโต้แย้งได้
เมื่อนางประคองร่างกายได้แล้วจึงยอมปล่อยมือ นางสัมผัสร่างกายของตัวเอง ก่อนจะหยิบโอสถออกมาสองสามเม็ดแล้วกลืนเข้าไป บาดแผลทั้งหมดจึงถูกรักษา
หลิงอวิ๋นรู้เช่นกันว่า นางได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากถูกเจียงเชียนชิวโจมตีเมื่อครู่ แต่เพราะลู่หยวน ทำให้บาดแผลของนางไม่หนักไปกว่านี้
หลิงอวิ๋นระงับความแดงก่ำบนใบหน้า ถึงแม้จะเคอะเขิน แต่นางยังกล่าวว่า “ขอบคุณ”
“ไม่มีปัญหา”
ลู่หยวนยืนเอามือไพล่หลัง “ถ้าอาจารย์สำนักอยากขอบคุณจริง ๆ ท่านมอบอาวุธระดับศักดิ์สิทธิ์ โอสถชั้นยอด หรือมรดกอื่น ๆ ให้ข้าได้ ข้าไม่ใช่คนช่างเลือกหรอกนะ”
มุมปากของคนฟังกระตุก สิ่งที่ชายหนุ่มกล่าวมา แม้แต่นางเองก็ไม่ค่อยชอบใจ
ยังกล้าบอกว่าไม่ใช่คนช่างเลือกอีกหรือ?!
“ข้าไม่มีอะไรจะให้แล้ว มีก็แต่เรื่องหอกสะบั้นนิลกาฬ เมื่อบาดแผลหายดีแล้ว ข้าจะสอนเจ้าก็แล้วกัน” นางตอบกลับมา
ลู่หยวนยังไม่ทันกล่าวอะไร หลิงอวิ๋นก็สังเกตเห็นว่าแผ่นหินที่ลอยอยู่ในอากาศไกลออกไป มีร่างหนึ่งถูกพันธนาการด้วยโซ่เหล็กนับไม่ถ้วน
ครั้นพินิจโดยละเอียด พบว่าคนผู้นี้คือหยางอวิ๋น
“หยางอวิ๋นหรือ ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่?”
หลิงอวิ๋นดึงสัมผัสเทวะส่วนหนึ่งส่งออกไปสำรวจทันที นางสัมผัสได้ว่าค่ายกลที่อยู่ใต้เท้าเขาเป็นแบบเดียวกับที่เฉิงไท่เคยติดตั้ง
ถึงแม้หยางอวิ๋นจะถูกพันธนาการก็ยังคงมีสติจนหางตาขยับได้ เขาไม่สามารถกล่าวอะไรได้สักคำ ได้แต่หวังว่าอาจารย์จะเข้ามาช่วยเหลือ
ยังไม่ทันที่จะขอร้อง เขาก็สัมผัสได้ว่าหลิงอวิ๋นดึงสัมผัสเทวะกลุ่มนั้นกลับไป สีหน้าของนางเคร่งขรึม ก่อนจะหันหลังกลับไปที่ยอดเขาหอก
ลู่หยวนมองดูสีหน้าของหลิงอวิ๋น พลางคลี่ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วเดินตามไป
หลิงอวิ๋นถูกแยกห่างกับบุตรแห่งโชคชะตา แถมค่ายกลในวันนี้ถูกติดตั้งโดยเฉิงไท่ ถึงแม้หลิงอวิ๋นจะไม่ทราบว่าลูกศิษย์ไปยั่วโมโหเจ้าสำนักอย่างไรถึงถูกติดตั้งค่ายกลแบบนั้นขึ้นมา จนต้องอับอายต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก
ทว่า… นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญจะเป็นจะตายสำหรับนางอีกแล้ว
วีรกรรมมากมายของหยางอวิ๋น หากเป็นไปตามบทปกติแล้ว เป็นธรรมดาที่หลิงอวิ๋นจะหลงรักศิษย์ที่ยืนหยัดเพื่อนางจนมาอยู่ในสภาพนี้ ทว่าการกระทำของเขามีแต่ทำให้เรื่องราวเลวร้ายลง แถมจากความประพฤติก่อนหน้านั้น ยังทำให้หลิงอวิ๋นไม่ได้พิศวาสในตัวอีกฝ่ายนัก
ลึกลงไปในหัวใจ นางยังรู้สึกว่าศิษย์ของตนเป็นพวกวิปริตอยู่
ลู่หยวนสังเกตเห็นว่าตอนที่นางจากไป ศิษย์ผู้มีรากฐานการบ่มเพาะไม่ได้สูงส่งนัก ต่างปรี่เข้ามาหาหยางอวิ๋นอย่างพร้อมเพรียง ด้วยสีหน้าหวั่นวิตกยิ่ง
ในใจของชายหนุ่มรู้ทันทีว่า คนพวกนี้น่าจะเป็นสมาชิกของกลุ่มอวิ๋น
เพียงขยับหนึ่งก้าว เขาก็เหาะห่างออกไปหลายลี้ทันที ตามหลิงอวิ๋นกลับยอดเขาหอก
หลายวันต่อมา บุตรศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ยอดเขาหอกเพื่อฝึกฝน ถึงแม้เขาจะไม่ได้ย่างเท้าออกจากยอดเขา แต่ข่าวทั่วทั้งสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ที่ไป๋ชิวเอ๋อร์รวบรวมมาให้ ล้วนมาถึงหูเขาประปราย
ในวันนี้ ไป๋ชิวเอ๋อร์ยังคงปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ช่วงสองวันนี้ล้วนมาถึงที่ห้องโถงหลักที่ลู่หยวนอยู่
นางคุกเข่าด้านข้าง ขณะเอ่ยเสียงนุ่มนวลสนทนากับคุณชายลู่
บุตรศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่อีกด้านกลับปรือตา ราวกับไม่ได้ฟังอะไร
ทันใดนั้น เสียงของไป๋ชิวเอ๋อร์พลันเงียบงันไป นางวางยันต์ในมือลง ก่อนหยิบยันต์อีกใบขึ้นมา กล่าวว่า “ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กลุ่มอวิ๋นกลายเป็นมังกรไร้หัว หลายกลุ่มเริ่มโจมตีกลุ่มอวิ๋น เมื่อวานมีความขัดแย้งเพียงเล็กน้อย ทำให้กลุ่มอวิ๋นได้รับความเสียหายไปมาก”
“ข้าค้นหาผู้อยู่ในเหตุการณ์เมื่อวานเพื่อจะสอบถามข่าวคราว เห็นเขาบอกว่ามีหลายคนในกลุ่มอวิ๋นไปอ้อนวอนต่อเจ้าสำนัก แต่เจ้าสำนักเมินเฉย ตอนนี้มีเสียงเล่าลือแปลกประหลาดอยู่ในกลุ่มอวิ๋น”
เปลือกตาของลู่หยวนขยับ “เสียงหรือ? เสียงอะไร?”
“บางคนคาดเดาว่า เหตุการณ์นี้ทำให้เจ้าสำนักโกรธหยางอวิ๋น จนอยากขับไล่เขาออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์”
เมื่อได้ยินดังนี้ ชายหนุ่มยันตัวขึ้นมานั่ง “ดูท่าว่าใครบางคนในกลุ่มอวิ๋นคงเริ่มมีความคิดเป็นอื่นไปเสียแล้ว ถ้าแบบนี้ ข้าก็ต้องออกโรงช่วยเขาเสียหน่อย!”
ไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดการจองจำของหยางอวิ๋นก็ถูกคลายออก เขาลากร่างกายอันเหนื่อยล้าไปที่ยอดเขา เพื่อต้องการ ‘กราบขออภัย’ เฉิงไท่
ระหว่างทาง ศิษย์คนใดที่เห็นเขาก็จะพากันกระซิบกระซาบกันสองสามประโยค แต่เป็นประโยคที่ว่าหยางอวิ๋นกับลูกน้องก่อเรื่องจนถูกเฉิงไท่ลงทัณฑ์
หยางอวิ๋นยืนอยู่ใต้ยอดเขา พลางเงยหน้ามองขึ้นไป พบว่ายอดเขาได้รับการปกป้องจากรัศมีแสงอ่อน ๆ ราวกับเป็นตำหนักศักดิ์สิทธิ์ให้ผู้คนเคารพศรัทธา
จุดที่ผู้ทรงอำนาจสูงสุดของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์อยู่!
หากยืนอยู่ที่นี่ในวันปกติแล้วเงยหน้ามองขึ้นไป หยางอวิ๋นย่อมรู้สึกยำเกรง ถึงอย่างไรเฉิงไท่ก็ใจดีกับเขา หากอีกฝ่ายไม่แนะนำให้ท่านบรรพชนหอกรับเขาไว้ เกรงว่าหลิงอวิ๋นคงไม่แม้แต่จะสังเกตเห็นเขา
แต่ตอนนี้ เมื่อหยางอวิ๋นเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงก่ำพลันกระจายไปทั่วตาขาว หน้าอกแทบจะถูกย้อมไปด้วยโทสะไร้ที่สิ้นสุด
สามวันที่เขาถูกตรึงไว้กับที่ ถูกผู้คนจ้องมองด้วยสายตาเหยียดหยาม ขอเพียงลืมตาขึ้นมา ตัวอักษรบนแผ่นหินก็จะสะท้อนในดวงตา
ทุกคำพูดเหมือนกับการตีตรา แผดเผาลึกเข้าไปในจิตใจ
หลังจากผ่านมาหลายวัน ชายหนุ่มเพียงเข้าใจความจริงข้อเดียวเท่านั้น
เขาไม่เคยทำอะไรผิด!
เป็นเฉิงไท่ที่ผิด!
เป็นสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ต่างหาก!
เป็นแผ่นดินนี้ต่างหาก!
เป็นทั่วทั้งวิถีแห่งสวรรค์ต่างหาก!
ในเมื่อวิถีแห่งสวรรค์ไม่ยุติธรรม คนธรรมดาจึงยืนขวางทาง บิดเบือนความผิดชอบชั่วดี
นี่มันเป็นการทำลายสวรรค์!
หยางอวิ๋นหรี่ดวงตาสีชาดลง ก่อนจะเห็นศิษย์คนหนึ่งเข้ามาพร้อมกระบี่ กล่าวว่า “น้องหยางอวิ๋น เจ้าสำนักแจ้งว่าไม่ต้องการพบเจ้า ขอให้กลับไปที่ยอดเขาหอกเดี๋ยวนี้”
หยางอวิ๋นส่งเสียงตอบรับ แล้วสะบัดแขนเสื้อจากไป
ทว่าเมื่อเขาก้าวห่างออกไปสองสามก้าว เขาพลันได้ยินเสียงของศิษย์ดังขึ้นรอบข้าง
“เขาคือหยางอวิ๋นแน่นอน”
“ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้เขาเป็นศิษย์เอกคนเดียวของอาจารย์สำนักหลิงอวิ๋น แต่ตอนนี้เขากำลังจะถูกเตะออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์!”
“ชิ ถ้าข้าเป็นเจ้าสำนัก แล้วมาเจอคนอวดดีเช่นนี้ขึ้นมา ข้าคงทุบตีให้ตายไปนานแล้ว จะเก็บเขาไว้ที่นี่อีกทำไม?”
หยางอวิ๋นเผยรอยยิ้มอยู่ในใจ
เป็นแค่สำนักมายาศักดิ์สิทธิ์แท้ ๆ คิดหรือว่าข้าเต็มใจอยู่ที่นี่?!
หลังจากการแข่งขันภายในสิ้นสุดลง เขาจะเก็บทุกสิ่งที่ควรได้มา แล้วจากไปทันที
เมื่อกลับมาในอนาคต มันจะเป็นการกลับมาเยี่ยงราชัน!
ถึงตอนนั้น กฎทั้งหลายของสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์จะต้องเปลี่ยนไป!
หยางอวิ๋นก้าวไปข้างหน้า กำลังจะเหาะจากไป แต่เขาทันได้ยินประโยคหนึ่งดังขึ้นมาว่า “ข้าได้ยินมาว่ากลุ่มอวิ๋นถูกยุบแล้ว เป็นความจริงหรือไม่?”
“!?”
หยางอวิ๋นหันกลับมาทันที พบศิษย์สองคนที่อยู่ไม่ไกลนักกำลังสนทนากันเสียงดัง
หนึ่งในนั้นตอบว่า “ไม่ใช่ถูกยุบหรอก แค่เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนผู้นำ มีหลายคนที่หายไป มีหลายคนเพิ่มเข้ามา”
หยางอวิ๋นก้าวออกมาทันที เขามาปรากฏตัวตรงหน้าศิษย์สองคนนั้น
เขาคว้าคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยมือทั้งสองข้างเอาไว้แน่น ก่อนแค่นน้ำเสียงเย็นชาอันเต็มไปด้วยโทสะ “เมื่อครู่เจ้าว่าอะไรนะ?!”
“ใครมันกล้ามาแตะต้องกลุ่มอวิ๋นของข้า?!”
ศิษย์ทั้งสองคนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางอวิ๋น จึงรีบตอบว่า “เซียวเทียน!”
“หลังจากเจ้าถูกจองจำ กลุ่มอวิ๋นก็ถูกกลุ่มอื่นเล่นงานหลายครั้ง พวกเขาส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนั้นเอง กระบี่ยักษ์เซียวเทียนก็ลุกขึ้นยืนหยัด เป็นผู้นำกลุ่มศิษย์ใหม่เอาชัยชนะกลับคืนมาได้”
“ข้าไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม แต่มันมีการเสนอให้เปลี่ยนชื่อกลุ่มอวิ๋น แล้วแต่งตั้งให้เซียวเทียนเป็นผู้นำ”
“กลุ่มอวิ๋นในตอนนี้ ถูกเรียกว่ากลุ่มเทียน”
หยางอวิ๋นแทบจะหักนิ้วตัวเอง เขาอยู่ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ นอกจากฝึกฝนแล้ว ความพยายามส่วนใหญ่หมดไปกับการบ่มเพาะกลุ่มอวิ๋น
เขาดีกับทุกคนในกลุ่ม คนเหล่านี้ย่อมต้องช่วยเหลือเขาในอนาคต
บุตรแห่งโชคชะตาหยางไม่เคยคาดคิดว่า คนเหล่านี้จะหักหลังแล้วไปเข้าร่วมกับคนอื่น!
คนเหล่านี้คือรากฐานสำคัญของหยางอวิ๋น ตัวตนของคนเหล่านี้เอง ที่จะทำให้เขาออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างองอาจและเด็ดเดี่ยวมากขึ้น
ในช่วงหลายปีต่อมา พวกเขาจะเติบโตเป็นยักษ์ใหญ่ในยุทธจักร เพื่อให้การช่วยเหลือเขาโดยไม่มีเงื่อนไข
คนเหล่านี้อยู่ในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์มาตลอด พวกเขาล้วนอยู่กับอาจารย์สำนักหลายคน ไม่ว่าจะเป็นความวุ่นวายที่ใดในสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ ต่างก็ต้องมาถึงหูของเขา
หยางอวิ๋นครุ่นคิดเอาไว้แล้ว หลังจากการแข่งขันภายในจบลง เขาจะหาโอกาสปล่อยให้ลู่หยวนข่มเหง จนถึงขั้นใช้กำลังต่อหน้าทุกคน!
ถึงตอนนั้น เขาจะฉวยโอกาสออกจากสำนักมายาศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นก็ทำข้อตกลงกับบุตรศักดิ์สิทธิ์สักสองสามปี
แบบนี้ ทุกคนก็จะเป็นศัตรูกับลู่หยวน โดยเฉพาะสมาชิกของกลุ่มอวิ๋น ด้วยเรื่องนี้ พวกเขาจะไม่มีทางอยู่อย่างสันติกับเจ้านั่นแน่นอน
แต่ก่อนจะได้ทำทั้งหมดนี้ ใครบางคนถึงกับชิงตำแหน่งของเขาไป คนเหล่านั้นที่อยู่กับกลุ่มอวิ๋นเต็มใจยอมรับเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นผู้นำกลุ่มคนใหม่ นี่พวกเขาคิดว่าข้า หยางอวิ๋นตายแล้วหรือ?!
ยิ่งบุตรแห่งโชคชะตาหยางคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งโกรธมากเท่านั้น หากเขาจำไม่ผิด เซียวเทียนเหมือนจะมีความสัมพันธ์อันดีกับลู่หยวนด้วย การกระทำของเจ้าหนุ่มจากโถงกระบี่นั่น อาจจะมาจากคำสั่งของลู่หยวนก็ได้!
“ลู่หยวน ทำไมเจ้าต้องเข้ามาสอดมือทุกเรื่องด้วย?!”