ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 325 ชิวเสวียนลงมือ
บทที่ 325 ชิวเสวียนลงมือ
บทที่ 325 ชิวเสวียนลงมือ
สิ้นเสียงของชิวเสวียน พลังมารรอบร่างราชันมารเริ่มปั่นป่วน
ราชันมารเพิ่งผ่านการต่อสู้กับจิ่วเฟิ่งมา พลังของเศษเสี้ยวจิตสำนึกจึงลดลงไปมาก
“เจ้าหนู เจ้าคู่ควรที่จะกลืนกินพลังของข้าอย่างนั้นหรือ?!”
เพียงราชันมารสะบัดมือ พลังอันเป็นเอกลักษณ์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้พลังมารอันปั่นป่วนเริ่มกลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้ง เพลิงสวรรค์ประหนึ่งอสรพิษเพลิงที่อยู่ในร่างของเขาถูกพลังดังกล่าวเข้าพัวพัน ก่อนจะสลายไปทีละน้อย
ชิวเสวียนไม่ได้ทำสิ่งใด เพราะกำลังรอให้อีกฝ่ายใช้พลังมารสะกดเพลิงสวรรค์ก่อนแล้วค่อยลงมือ
ชิวเสวียนพลันปลดปล่อยพลังเพื่อเรียกความสามารถในการควบคุมร่างกลับคืนมา เขาสร้างผนึกขึ้นด้วยมือข้างหนึ่งแล้วพลังแห่งวิถีคุณธรรมอันน่ายำเกรงก็ปรากฏขึ้นจากภายในร่างกาย!
พลังแห่งวิถีคุณธรรมพลุ่งพล่านออกมาแล้วกวาดไปทั่วกลิ่นอายมารรอบข้าง
ร่างซึ่งดูเหมือนแม่ทัพเซียนพลันปรากฏขึ้นข้างกายรูปลักษณ์มาร อยู่ทางด้านหลังของชิวเสวียน
แม่ทัพเซียนถือหอกไว้ในมือ แม้มองเห็นรูปลักษณ์ได้ไม่ชัดเจน แต่ก็มองออกว่ามันสวมชุดเกราะสีทอง ซึ่งรายล้อมไปด้วยพลังแห่งวิถีคุณธรรม ทำให้ผู้คนเกิดความเคารพยำเกรง!
ทันทีที่ยักษ์ตัวนั้นปรากฏขึ้น พลังแห่งวิถีคุณธรรมก็ปกคลุมร่างมารซึ่งอยู่ข้างกาย
พลังมารที่พลุ่งพล่านออกมาต่างก็ถูกพลังแห่งวิถีคุณธรรมกำราบเอาไว้!
“เจ้าหนู เจ้ากล้าดียังไง?!”
ราชันมารตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด เขาเห็นว่าร่างที่เป็นของชิวเสวียนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทันใด
ใบหน้าซึ่งเดิมเต็มไปด้วยจิตมารพลันเปลี่ยนไป สีหน้ากว่าครึ่งเปลี่ยนไปจากเดิมที่เต็มไปด้วยโทสะก็กลายเป็นการหยอกล้อ
“เหอะ… เจ้าเป็นเพียงร่างจำแลงที่เกิดจากหนึ่งในสิบของจิตสำนึกราชันมารเท่านั้น คิดหรือว่าตัวเองคือร่างจริงของราชันมารผู้เคยต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ทั้งหลายเมื่อสามแสนปีก่อน?!”
“ข้า! จะมอบความตาย! ให้เจ้าเอง!”
สิ้นเสียงคำรามของชิวเสวียน แม่ทัพเซียนซึ่งอยู่ด้านหลัง ถือหอกด้วยสองมือแผ่พลังวิถีคุณธรรมอันพลุ่งพล่านออกมาจากร่าง กลายเป็นโซ่หนานับไม่ถ้วนก่อนพันธนาการร่างของราชันมารเอาไว้
ชิวเสวียนร่ายผนึกด้วยมืออีกข้าง อักขระสีขาวก่อตัวขึ้นที่หน้าผากของเขา ดวงตาข้างหนึ่งทอประกายสีขาวคมปลาบ สายลมรอบข้างพัดผ่าน ท่วงท่าดูประหนึ่งเซียน!
ราชันมารในตอนนี้ไม่สามารถขัดขืนได้ รูปลักษณ์มารซึ่งอยู่ด้านหลังถูกโซ่จองจำไว้
แม่ทัพเซียนหยิบหอกขึ้นมา พลังแห่งวิถีคุณธรรมนับไม่ถ้วนก่อตัวขึ้นที่ปลายหอก ก่อนพลังอันหนักอึ้งจะเคลื่อนลงสู่ใต้หล้า!
ราชันมารหัวใจเต้นแรง หากวันนี้ถูกเจ้าเด็กนี่กลืนกิน เขาคงได้จบสิ้นเป็นแน่!
“เจ้าหนู รอเดี๋ยว!”
ราชันมารเอ่ยว่า “หากกลืนกินข้าตอนนี้ เจ้าก็จะไม่ได้โชคชะตาที่เหลือซึ่งเป็นของเผ่ามารในโลกนี้!”
“ในโลกใบนี้ ยังมีเกราะสวรรค์หัวใจมารซึ่งเป็นของราชันมารอยู่ มันสามารถต้านทานการโจมตีอย่างสุดกำลังของผู้อยู่ขั้นอมตยุทธ์ได้!”
สิ้นคำนั้น การเคลื่อนไหวของแม่ทัพเซียนในอากาศพลันหยุดนิ่ง!
แม้ราชันมารจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่กล้าวางใจแม้แต่น้อย!
เจ้าเด็กคนนี้ไม่ใช่คนดีแน่นอน!
มีเพียงการแสดงผลประโยชน์เท่านั้นที่ทำให้อีกฝ่ายสนใจ!
ตอนเข้ามาที่โลกแห่งนี้ เจ้าเด็กนี่แสดงท่าทางอ่อนน้อม เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด อีกฝ่ายถึงขั้นยอมมอบร่างให้แก่วิญญาณเขาก่อนจะเข้าปะทะกับจิ่วเฟิ่ง!
แต่ตอนนี้ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง!
ราชันมารมั่นใจแล้วว่าเด็กคนนี้มีความคิดที่จะกลืนกินตนตั้งแต่แรกเห็น!
พลังอันแกร่งกล้าจากปลายหอกยังคงเล็งมาที่รูปลักษณ์มาร ขอเพียงชิวเสวียนต้องการ หอกซึ่งเต็มไปด้วยพลังแห่งวิถีคุณธรรมจะทะลวงอากาศมาแทงเขาจนถึงแก่ความตาย!
ชิวเสวียนเงียบสักพักคล้ายกับกำลังครุ่นคิดบางอย่าง
ราชันมารใช้โอกาสเอ่ยต่อว่า “ข้าเป็นเพียงหนึ่งในเศษเสี้ยวจิตสำนึกของราชันมารเท่านั้น ต่อให้กลืนกินข้าไป รากฐานการบ่มเพาะก็เพิ่มขึ้นเพียงไม่กี่ขั้นเท่านั้น แต่ถ้าวันนี้ไม่ฆ่า ข้าจะยอมจำนนและพาเจ้าไปหาสถานที่ ซึ่งมีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ของราชันมารที่หลงเหลืออยู่!”
“ตอนนี้ข้ารู้อยู่ที่หนึ่ง! มีสถานที่ลับซึ่งเต็มไปด้วยโชคชะตาของเผ่ามารอยู่บริเวณจุดตัดของทะเลใต้และแดนมัชฌิม! หากเจ้าไว้ชีวิต ข้าจะพาเจ้าไปเอาโชคชะตาเหล่านั้นให้อย่างแน่นอน!”
สิ้นคำ สีหน้าของชิวเสวียนพลันเปลี่ยนไป เขาเงยหน้าขึ้นแล้วเอ่ยว่า “จุดตัดของทะเลใต้และแดนมัชฌิมหรือ?”
ราชันมารพยักหน้าทันที “ถูกต้อง!”
ชิวเสวียนพลันคลี่ยิ้ม “ยอดเขาสูงตระหง่านสองลูกตั้งอยู่เคียงข้างกันใช่หรือไม่? ใช่สถานที่ซึ่งมีเสียงฟ้าร้องคำรามทุกฤดูกาลหรือไม่? แม้กระทั่งฟ้าผ่ายังปรากฏเป็นครั้งคราวใช่ไหม?”
ราชันมารเผยสีหน้าประหลาดใจ “เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
ร่างจริงของราชันมารได้สำรวจที่นั่นมาหลายพันปีกว่าจะค้นพบสถานที่ลับ มันซ่อนของดีจากเผ่ามารไว้มากมาย บัดนี้กาลเวลาผันผ่านมาสามแสนปีแล้ว หากว่ากันตามจริง ผนึกนั่นไม่น่าจะถูกคลายออก!
แล้วเจ้าเด็กนี่รู้ได้อย่างไร?!
“เหอะ…”
ชิวเสวียนยิ้มหยัน “ขอบคุณที่บอกเรื่องนี้ให้ทราบ ข้าจะเป็นคนไปเอาของพวกนั้นเอง!”
สิ้นคำ เขาใช้เพียงความคิด ก่อนแม่ทัพเซียนซึ่งอยู่ด้านหลังจะแทงหอกในมือตรงมาที่รูปลักษณ์มาร!
ราชันมารขัดขืนด้วยการเค้นพลังมารบางส่วนออกมา ทำให้รูปลักษณ์มารซึ่งอยู่ในอากาศมีพลังเพิ่มขึ้น ก่อนจะหันกายแล้วเงื้อดาบใหญ่ขึ้นปะทะกับหอก ที่ทะลวงผ่านท้องนภาเข้ามา
ลำแสงสีขาวซึ่งทะยานสู่ท้องนภาพลันกระจายออกจากจุดที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกัน แล้วปกคลุมโลกทั้งใบด้วยแสงสว่าง
แม้กระทั่งวั่งไฉก็ยังต้องหรี่ตาภายใต้แสงสว่างเจิดจ้านี้ พลังมังกรของมันก็เพิ่มขึ้นตามสัญชาตญาณเพื่อปกป้องอูโจ้วผู้อยู่เบื้องล่าง!
ฟ้าว! ฟ้าว! ฟ้าว!
แสงสีขาวกระจายไปตามคลื่นอากาศจนฟ้าดินสั่นสะเทือน พื้นที่รอบข้างพังทลายก่อนจะทันได้ตั้งตัว!
ผ่านไปหลายอึดใจ ในที่สุดพลังมารก็ขัดขืนไม่ได้แล้วเริ่มสูญสลาย
หอกของแม่ทัพเซียนซึ่งอยู่ในอากาศเพิ่มพลังขึ้นอีกครั้ง ก่อนแทงทะลุรูปลักษณ์ของมาร!
ตู้ม!
รูปลักษณ์มารพังทลาย จิตสำนึกที่หลงเหลืออยู่ของราชันมารเริ่มเลือนราง ก่อนจะหลุดออกจากร่างของชิวเสวียน!
ร่างซึ่งเป็นของชิวเสวียนกลับคืนสู่เจ้าของอีกครั้ง เขาเผยรอยยิ้มสงบออกมา ขณะที่พลังแห่งวิถีคุณธรรมกับพลังมารโคจรเข้าหากัน ซึ่งดูแปลกประหลาดยิ่ง
ชิวเสวียนร่ายผนึกในมือ ก่อนพลังแห่งวิถีคุณธรรมจะกระจายออกไป พลังที่เป็นของเมล็ดพันธุ์มารทะยานออกไปราวหมาป่าคลั่ง ร่างที่น่าสะพรึงยิ่งกว่ารูปลักษณ์มารของราชันมารก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหลัง!
ร่างนั้นมีสามเขาหกตา มีเกราะมารสีม่วงดำปกคลุมทั่วร่าง พลังมารลอยฟุ้งทั่วทุกหนแห่งราวกับพวกมันมาเยือนโลก!
“กลืนกิน!”
สิ้นคำสั่งของชิวเสวียน ร่างนั้นก็อ้าปากกว้าง ทำให้อากาศรอบข้างม้วนตัวอย่างรวดเร็ว เศษเสี้ยวจิตสำนึกของราชันมารเคลื่อนตามไปแรงดึงดูดนี้ ก่อนจะถูกดูดเข้าไป!
เขาหรี่ตาลง หลังจากกลืนกินและย่อยเศษเสี้ยวจิตสำนึกนี้ ทันใดนั้นก็ทะลวงสู่ขั้นครึ่งก้าวเทียมเทพเข้าสู่ระดับการบ่มเพาะขั้นเทียมเทพ!
เพียงเท่านี้… เขาก็ทวงสิ่งที่เป็นของตนเองกลับมาจากตระกูลชิวได้!