ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 471 สู้กับหู่เซียว
บทที่ 471 สู้กับหู่เซียว
บทที่ 471 สู้กับหู่เซียว
ภายนอกเผ่ามังกรเกล็ด ลู่หยวนกับหู่เซียวกำลังเผชิญหน้ากันจากระยะไกล แม้พละกำลังของทั้งสองยังคงเพิ่มขึ้น แต่ไม่มีใครเป็นฝ่ายลงมือก่อน
ทันใดนั้น พลังที่เพิ่มขึ้นของลู่หยวนก็หยุดนิ่ง แล้วร่างหนึ่งก็ทะยานออกจากด้านข้างก่อนจะตรงเข้าหาหู่เซียว!
ร่างนั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว!
แม้แต่หู่เซียวก็ตอบสนองไม่ทัน
ร่างดังกล่าวเคลื่อนมาถึงข้างกายขณะถือกระบี่หักไว้ในมือ แล้วปราณวิญญาณจำนวนมากก็รวมตัวอยู่รอบบริเวณ!
เมื่อกระบี่ยาวกำลังจะเริ่มฟาดฟัน ขณะนั้นหู่เซียวก็หันหลังพร้อมหมุนค้อนยักษ์สีดำในมือรับการโจมตี!
ทันทีที่ปะทะกับกระบี่หัก พลังทั้งหมดก็ถูกปลดปล่อยออกมา!
‘วิ้ง!’
ทันทีที่คลื่นอันบ้าคลั่งพุ่งออกมา พวกมันก็สั่นสะเทือนไปทุกทิศทาง!
กู้ชิงหรันเหลือบมองและหมายจะสังหารด้วยพลังไร้ที่สิ้นสุด แต่หู่เซียวมองออกแล้วว่านางรับมือได้ยาก ถึงอย่างไร เมื่อครู่อีกฝ่ายก็กำราบค่ายกลโลหิตหมื่นเผ่าลงได้อย่างง่ายดาย!
ดังนั้น เมื่อเห็นว่ากู้ชิงหรันกำลังตรงเข้ามาพร้อมกระบี่หัก เขาก็ใช้พลังเพื่อแยกนางออกไปทันที!
แม้อาวุธทั้งสองจะปะทะกัน แต่บริเวณที่กู้ชิงหรันอยู่ถูกหู่เซียวสะบั้นในบัดดล!
คราวนี้พลังของกู้ชิงหรันกลับถูกกำราบ!
หู่เซียวอยากใช้พลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับกู้ชิงหรัน แต่ด้านหลังของอีกฝ่ายยังมีลู่หยวนที่ตรงเข้ามาหมายจะเอาชีวิต!
ความเร็วของลู่หยวนไวยิ่งกว่า!
หู่เซียวไม่มีเวลาคิดเรื่องการตอบโต้ เขาทำได้เพียงใช้มือข้างหนึ่งโจมตีไปทางลู่หยวน!
พลังอันแก่กล้าของลู่หยวนระเบิดในทันที แล้วง้าวก็ทะยานออกไปอย่างคลุ้มคลั่งประหนึ่งหัวมังกรที่ตรงเข้าหาหู่เซียว!
‘ปัง!’
‘ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม!’
พลังของลู่หยวนยังคงเพิ่มขึ้นขณะคลื่นกลิ่นอายแผ่กระจายไปทุกทิศทาง!
ห้วงอากาศรอบข้างผันผวนอย่างต่อเนื่องราวกับจะถูกบดขยี้โดยพลังดังกล่าวได้ทุกเมื่อ!
ลู่หยวนและกู้ชิงหรันมองหน้ากันก่อนจะเห็นความหมายในดวงตาของอีกฝ่าย
ทั้งสองยกยิ้มก่อนจะเหลือบมองหู่เซียว
เสียงครวญครางอันแผ่วเบาดังมาจากอากาศ แล้วพลังไร้ที่สิ้นสุดก็ก่อตัวเป็นคลื่นอันคลุ้มคลั่งถาโถมเข้ามา
หู่เซียวรู้สึกได้ว่าแรงกดดันเบาลง แล้วร่างของลู่หยวนกับกู้ชิงหรันก็หายไปในพริบตา!
หู่เซียวพลันรวบรวมพลังทั้งหมดก่อนจะระเบิดออกไป!
แต่สองคนนั้นกลับหายไปจากอากาศโดยปราศจากร่องรอย!
จักรพรรดิจูอั้นผู้อยู่อีกฝั่งก็มายืนอยู่ข้างกายหู่เซียว เขาทราบว่าหากอีกฝ่ายแพ้ เผ่าจูอั้นก็จะไม่ได้ผลประโยชน์แต่อย่างใด!
ด้วยความช่วยเหลือของจักรพรรดิจูอั้นจึงทำให้หู่เซียวโล่งอก
แม้จักรพรรดิจูอั้นจะไม่มีสมองแต่ก็ยังพอมีพละกำลัง ด้วยความช่วยเหลือของอีกฝ่าย อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องไขว้เขวจากการรับมือกับทั้งสองคนเหมือนก่อนหน้านี้!
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พวกเขาก็ไม่ทราบว่าลู่หยวนกับกู้ชิงหรันหายไปไหน ซึ่งทั่วทั้งฟ้าดินหาได้มีร่องรอยของอีกฝ่ายไม่!
‘วิ้ง!’
หมู่เมฆเหนือสวรรค์ชั้นเก้าที่เริ่มสลายตัวพลันรวมตัวกันแล้วเคลื่อนลงมา แล้วกระจายไปทั่วท้องนภาในทันที!
หู่เซียวและจักรพรรดิจูอั้นเงยหน้ามองก่อนจะหรี่ตาลง
พวกเขาพบสายอสนีที่เคลื่อนไปมาบนผืนฟ้าราวกับจะฟาดลงมาทุกเมื่อ!
ซึ่งท่ามกลางหมู่เมฆก็มีร่างหนึ่งลอยอยู่ นางสวมมงกุฎทองคำกับปิ่นปักผมหยก ดวงตาหลุบต่ำ กระบี่หักในมือพาดผ่านไปมา ให้ความรู้สึกราวกับพลังของโลกอยู่ในกำมือ!
ร่างนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกู้ชิงหรัน!
นางฟาดฟันกระบี่หักไปที่หู่เซียวผู้อยู่เบื้องล่าง!
‘ครืน!’
เสียงฟ้าร้องดังกึกก้องราวกับทั่วทั้งฟ้าดินจะแตกสลาย!
อสนีสวรรค์สามสายเคลื่อนออกจากด้านหลังกู้ชิงหรันประหนึ่งงูที่เลื้อยออกมาจากป่า พวกมันแลบลิ้นแล้ววูบไหวก่อนจะมุ่งหน้าสู่สถานที่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด้านหน้าของหู่เซียวไปอย่างรวดเร็ว!
เนื่องจากได้เห็นอสนีสวรรค์ติดตามจักรพรรดินาคาทะยานมาแล้ว หู่เซียวกับจักรพรรดิจูอั้นก็ทราบเช่นกันว่าพวกเขาไม่อาจหลบเลี่ยงได้!
ตอนนี้เขาทำได้เพียงกัดฟันแล้วสู้กลับเท่านั้น!
หู่เซียวย่อกายก่อนพลังที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนจะทะยานออกจากร่าง!
จักรพรรดิจูอั้นผู้กำลังจะขัดขืนอสนีสวรรค์ร่วมกับหู่เซียวก็สัมผัสถึงพลังนี้ได้ก่อนจะละทิ้งทุกสิ่งจนสิ้น แล้วไปซ่อนอยู่ด้านหลังหู่เซียวเพื่อรอคอยอย่างสงบ
หู่เซียวกำลังจะใช้พลังต้นกำเนิด อสนีสวรรค์แค่นี้ย่อมไม่คณามือแต่อย่างใด!
สิ้นความคิด อสนีสวรรค์ทั้งสามก็เคลื่อนลงมา!
ชั้นหมอกสีแดงปรากฏเหนือร่างของหู่เซียว พวกมันกระจัดกระจายก่อนจะรวมตัวเป็นค้อนยักษ์ในมือ!
“โฮก!”
เสียงคำรามของเสือดังขึ้นจากภายในค้อนยักษ์
สายตาของหู่เซียวพลันเปลี่ยนไป ดวงตาที่เดิมเป็นสีดำก็กลายเป็นสีอำพัน โดยลูกตาสีดำที่อยู่ข้างในก็ขยับไปมา
แรงกดดันของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณกระจายออกไปในทันที!
หู่เซียวขยับมือก่อนค้อนยักษ์จะโผล่ออกมาเป็นคลื่นอันเกรี้ยวกราดแล้วกระแทกเข้าใส่อสนีสวรรค์!
‘ตู้ม!’
เสียงคำรามดังกึกก้องไปทั่วฟ้าดิน แล้วพลังภายในก็กระจายไปทั่วทุกแห่งหน!
หลงเฉียนอวิ๋นผู้ซ่อนอยู่ไกลออกไปถูกพลังดังกล่าวกระหน่ำเข้าใส่ ต่อให้ระดมกำลังตอนนี้ก็ไม่สามารถขัดขืนทั้งหมดได้ ทำให้หน้าอกของเขาหนักอึ้งจนใบหน้าซีดเซียว!
หลงเฉียนอวิ๋นสูดหายใจขณะมองหู่เซียวและกู้ชิงหรันด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ทั้งสองน่ากลัวมากกว่าที่คิดนัก!
ระหว่างต่อสู้เมื่อครู่ พลังจากคลื่นกระแทกมากพอจะเพิกเฉยต่อโล่ของเขาก่อนจะโจมตีเข้ามาได้!
หากพลังทั้งหมดตรงเข้ามา เกรงว่าแม้แต่หลงเฉียนอวิ๋นก็ไม่อาจต้านทานไหว!
สีหน้าของกู้ชิงหรันในท้องนภายังคงเหมือนเดิม แต่เมื่อเห็นหมอกเคลื่อนลงมาจากร่างของหู่เซียว นางก็แย้มยิ้ม
รอยยิ้มเย้ยหยันบนใบหน้าของนางช่างคล้ายกับลู่หยวนอย่างน่าประหลาด!
หู่เซียวมองอสนีสวรรค์ที่เคลื่อนไปมาในท้องนภาที่รวมตัวอย่างต่อเนื่อง เขาทราบเช่นกันว่าหากยังเป็นแบบนี้ต่อไป ตนเองก็ไม่อาจทราบได้ว่าจะต้องสูญเสียไปอีกมากเท่าไหร่!
แม้จะยังไม่ทราบว่าลู่หยวนอยู่ที่ใด แต่ถ้าเขาจัดการกู้ชิงหรันได้ก็ไม่จำเป็นต้องห่วงเรื่องอสนีสวรรค์อีกต่อไป!
หลังจากตั้งสติแล้ว พลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์โบราณก็ปรากฏบนร่างของหู่เซียวอีกครั้ง
ด้านหลังของหู่เซียวปรากฏร่างเสือดุร้าย!
เพียงแต่หางของมันถึงกับเป็นหางของมังกร แล้วกรงเล็บทั้งสี่ก็เป็นกรงเล็บของมังกรเช่นกัน!
ช่างแปลกประหลาดนัก
ทันทีที่ร่างดังกล่าวปรากฏ พลังทั้งหมดในร่างของหู่เซียวก็หายไป แล้วหมอกสีแดงจำนวนหนึ่งก็พันรอบมือของเขา
เมื่อหมอกสีแดงจางหาย เกล็ดมังกรก็ลอยอยู่บนฝ่ามือ!
“สาวน้อย เจ้าต้องตายก่อนเป็นแน่!”
หู่เซียวทะยานออกไป แล้วเงาของเสือดุร้ายที่อยู่ด้านหลังก็เคลื่อนไหวตามขณะตรงเข้าหากู้ชิงหรัน!
กู้ชิงหรันไม่ขยับแม้แต่น้อย นางยกกระบี่หักด้วยมือขวาขึ้นก่อนอสนีนับไม่ถ้วนจะรวมตัวในบัดดล
ส่วนมือซ้ายของนางสร้างผนึกขณะหลับตา โดยริมฝีปากสีแดงขยับเล็กน้อยราวกับกำลังท่องบางอย่าง
“ช้าไป!”
เสียงคำรามหมองหม่นของหู่เซียวดังขึ้นก่อนจะมาอยู่ด้านหน้ากู้ชิงหรัน!