ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 519 เตาหลอมหยกไร้นภา
บทที่ 519 เตาหลอมหยกไร้นภา
บทที่ 519 เตาหลอมหยกไร้นภา
หลังจากได้ยินคำถามของลู่หยวน ฉินอี่หานก็ส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบ “ไม่มีผู้ใดสลัก มันมาจากสวรรค์!”
ลู่หยวนเหลือบมองไปด้านข้าง
ฉินอี่หานเอ่ย “สิ่งนี้มาจากสถานที่แปลกประหลาด วันหนึ่ง มันจุติลงมาจากท้องฟ้าแล้วเคลื่อนลงสู่ดินแดนของราชวงศ์อู๋ซวง มันเต็มไปด้วยพลังมหาศาลมาก ในวันนั้น แม้วิถีสวรรค์จะปล่อยสายฟ้าฟาดนับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่อาจทำลายมันได้ถึงครึ่งหนึ่ง”
“ถึงอย่างไรบรรพชนราชวงศ์อู๋ซวงของข้าเป็นผู้นำกลับมาแล้วผนึกไว้ที่นี่ประหนึ่งกำแพงหิน ทว่าหลังจากจักรพรรดิขึ้นครองบัลลังก์และล่วงลับมาหลายชั่วอายุคนก็ไม่มีใครเข้าใจความหมายของมันได้”
ลู่หยวนส่งเสียงอืมก่อนจะลุกขึ้นแล้วจากไป
จะต้องมีข้อมูลบางอย่างอยู่ในภาพวาดหินนี้ไม่ผิดแน่ แต่อาจเป็นเพราะตอนเมล็ดพันธุ์มารมาที่นี่ ข้อมูลก็ได้รับการทำความเข้าใจหมดแล้วจนไม่สามารถถูกเปิดเผยได้อีก!
หรือถ้าดูจากสถานการณ์ในตอนนี้ของลู่หยวน เขายังไม่สามารถทำความเข้าใจได้
ลู่หยวนยังถามระบบ แต่มันไม่ตอบกลับแต่อย่างใดราวกับคำพูดของเขาไม่มีความหมาย
นี่เป็นครั้งแรกที่ระบบไม่ตอบคำถามของลู่หยวน
ลู่หยวนสงบสติก่อนจะกลับไปที่ห้องโถงใหญ่ ในอีกไม่กี่วันต่อมา เขาเริ่มนั่งสมาธิและฝึกฝนอยู่ในราชวงศ์อู๋ซวง
ภายใต้การสนับสนุนของทรัพยากรจำนวนมากของราชวงศ์อู๋ซวง เศษเสี้ยววิญญาณของอู๋เต้าก็ฟื้นคืนกลับมา แม้จะยังสั่นคลอนเล็กน้อย แต่ก็สามารถเอ่ยคำได้ในที่สุด
ลู่หยวนบอกอู๋เต้าเกี่ยวกับภาพวาดหินแล้วถามว่าเคยได้ยินมาก่อนหรือไม่ แต่เขาก็ส่ายหน้าแล้วบอกว่าไม่เคยได้ยินมาก่อน
ด้วยเหตุนี้ เรื่องดังกล่าวจึงถูกพับเก็บไว้เป็นการชั่วคราว
ไม่กี่วันต่อมา ลู่หยวนกับกู้ชิงหรันจัดระเบียบเรียบร้อยก็มีข่าวมาจากจูเยี่ยนว่าซากปรักหักพังกำลังเผยท่าทีของการเปิดออกทีละน้อย!
ลู่หยวนยังจำได้ว่าเรื่องของเหิงอีเจี้ยนในหุบเขาบูรพายังไม่ได้รับการคลี่คลาย แต่คราวนี้เขาไม่ได้รีบร้อน
ถึงอย่างไรเหิงอีเจี้ยนได้เข้าสู่ดินแดนต้องห้ามแล้วและดูเหมือนว่ายังมีชีวิตอยู่ คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่เขาจะต้านเอาไว้ได้สักพัก
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลู่หยวนจึงพากู้ชิงหรันกลับไปที่หุบเขาบูรพา
คฤหาสน์ประตูสวรรค์
สถานที่แห่งนี้ถูกห้อมล้อมโดยค่ายกลทุกด้านขณะทอดยาวผ่านดินแดนออกไปนับแสนลี้ พวกมันมีการเชื่อมโยงมากมายประหนึ่งบ้านเมืองขนาดใหญ่!
แต่ที่นี่ไม่มีเส้นชีพจรจักรพรรดิ แต่มีตระกูลเชื้อสายทั้งเก้าอยู่ร่วมกัน พวกเขาทั้งพึ่งพาอาศัยและคานอำนาจซึ่งกันและกัน!
ทุกวันนี้ ตระกูลซ่งอยู่อันดับหนึ่งในบรรดาตระกูลเชื้อสายทั้งเก้า
ในบรรดาเก้าเชื้อสายของคุณชายซ่งชิงหนึ่งในนั้นมาจากตระกูลซ่ง เขาเปี่ยมด้วยความสามารถและประสบความสำเร็จมากมายตั้งแต่อายุน้อย อีกทั้งยังเหนือกว่าคุณชายแปดเชื้อสายจนมีศักยภาพพอที่จะออกคำสั่งกับคฤหาสน์ประตูสวรรค์!
คฤหาสน์ประตูสวรรค์เป็นสถานที่ฝึกฝนหรูหราที่มีปราณวิญญาณเข้มข้นและอุดมสมบูรณ์ แม้มันจะตั้งอยู่บนเนินเขาแต่ก็มีหญ้าวิญญาณหายากอยู่ทุกหนแห่ง แม้กระทั่งน้ำพุใสกระจ่างก็ยังเต็มไปด้วยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์!
เตาหลอมหยกขนาดใหญ่มากตั้งอยู่บนยอดเขานอกตำหนัก
เตาหลอมดังกล่าวมีความหนาเท่ากับห้าสิบคนโอบ หากไปยืนอยู่ข้างมันแล้วเงยหน้ามองก็จะให้ความรู้สึกเหมือนกับถูกบดบังฟ้าและตะวัน
มันคือหนึ่งในเตาหลอมดีที่สุดในโลกแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ… เตาหลอมหยกไร้นภา!
สิ่งนี้มีประวัติศาสตร์มากมาย ว่ากันว่าเจ้าของเตาหลอมนี้คือนักเล่นแร่แปรธาตุอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์แผ่นดินหยวนหง…จั่วชาง!
ตอนจั่วชางถือกำเนิด ทะเลลมปราณของเขาแตกสลายจนไม่สามารถรวบรวมปราณวิญญาณได้ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจทำการฝึกฝนไปตลอดชีวิต
แต่กลายเป็นว่าร่างที่แตกสลายนี้ซึ่งถูกโลกทอดทิ้ง กลับสามารถพิชิตเพลิงวิญญาณได้อย่างง่ายดาย!
ไม่ว่าจั่วชางจะไปที่ใด เพลิงวิญญาณก็ยอมจำนน!
แม้กระทั่งเพลิงวิญญาณอันดับหนึ่งก็ตกอยู่ใต้อาณัติของจั่วชางก่อนจะถูกนำไปใช้งาน!
นักเล่นแร่แปรธาตุผู้หนึ่งตกตะลึงยิ่งหลังจากพบจั่วชาง ดังนั้นเขาจึงรับเป็นศิษย์ก่อนพาอีกฝ่ายเข้าสู่ประตูของนักเล่นแร่แปรธาตุ
ทว่าเพียงแค่สามสิบปี จั่วชางก็กลายเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุแข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินหลัก
แผ่นดินหยวนหงทุกวันนี้ โอสถนับไม่ถ้วนต่างถูกกลั่นโดยจั่วชางทั้งสิ้น
โอสถทะลวงขั้นหนึ่งที่จั่วชางเคยกลั่นขึ้นมาถูกจัดว่าเป็นโอสถดีที่สุด ซึ่งตอนนี้ไม่มีใครสามารถก้าวข้ามมันไปได้
ซึ่งเตาหลอมหยกไร้นภาคือหนึ่งในเตาเล่นแร่แปรธาตุดั้งเดิมของจั่วชาง!
ศิษย์สำนักโอสถนับไม่ถ้วนต่างแห่แหนกันมาที่นี่ ว่ากันว่าเตาหลอมนี้ได้รับความเสียหายและสูญหายไปจากโลกแล้ว คาดไม่ถึงว่ามันถึงกับอยู่ในคฤหาสน์ประตูสวรรค์แห่งนี้
หากข่าวนี้แพร่งพรายออกไป เกรงว่ามันจะทำให้เกิดความปั่นป่วนมากมายต่อโลกแห่งการเล่นแร่แปรธาตุ!
ตอนนี้ ซ่งชิงกำลังปล่อยกลุ่มเพลิงวิญญาณเข้าไปตรงหน้าเตาหลอมหยกไร้นภา จากนั้นใส่หญ้าวิญญาณ ควบคุมความร้อนและทำการกลั่นโอสถ
ผู้ติดตามทั้งหลายซึ่งอยู่ข้างกายมองดูอย่างตั้งใจ พวกเขาติดตามมานาน ทำให้ทราบดีว่าซ่งชิงไม่เคยแตะต้องสิ่งนี้มาก่อน แต่ตอนนี้ไม่รู้อีกฝ่ายคิดอะไรถึงได้มาที่นี่เพื่อทำการกลั่นโอสถ
แม้ไม่ทราบว่าซ่งชิงทำสำเร็จหรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็อยากกลั่นโอสถขั้นหนึ่งทันทีที่มาถึง!
ซ่งชิงมีท่าทีสงบยิ่งขณะสายตาจับจ้องเตาเล่นแร่แปรธาตุ เมื่อความร้อนเพิ่มขึ้น เขาก็รีบก้าวเข้าสู่ขั้นต่อไป
หนึ่งชั่วโมงต่อมา เตาหลอมหยกที่ถูกผนึกพลันสั่นไหว แล้วตอนนี้เองที่ซ่งชิงลงมือ!
หลังจากตรวจสอบด้วยมือ เขาพบว่าเพลิงวิญญาณรวมตัวเป็นกลุ่มนอกเตาหลอมหยก จากนั้นก็สลายไป
“วิ้ง!”
เตาหลอมหยกเปิดออกทันที แล้วกลิ่นหอมของโอสถก็กระจายออกมา!
ผู้คนทั้งหลายซึ่งอยู่ข้างกายเข้าใจทันทีว่าโอสถนี้ได้รับการกลั่นแล้ว!
พวกเขาต่างประสานมือทำความเคารพซ่งชิงพร้อมแสดงความยินดี “ยินดีด้วยคุณชาย!”
สีหน้าของซ่งชิงสงบยิ่งขณะมองโอสถตรงหน้า จากนั้นเสียงกลไกก็ดังก้องมาจากส่วนลึกในใจ
[ขอแสดงความยินดีกับท่านที่ประสบความสำเร็จในการกลั่นโอสถขั้นหนึ่ง ทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของท่านในตอนนี้ +1000]
[ระดับทักษะการเล่นแร่แปรธาตุของท่านในตอนนี้ : ชำนาญ]
ซ่งชิงถอนหายใจเล็กน้อย การเล่นแร่แปรธาตุในครั้งนี้ได้รับความช่วยเหลือมากมาย ถึงกระนั้นเขาก็ยังประสบความสำเร็จจนไปถึงระดับเชี่ยวชาญ นับว่าไม่ได้แย่อะไร!
เพลิงวิญญาณสลายไปก่อนจะกลับคืนสู่ร่างของคนผู้หนึ่งที่อยู่ข้างกาย
ซ่งชิงสบตาครู่หนึ่งก่อนจะถอนสายตา ตอนนี้เขายังไม่มีเพลิงวิญญาณ เพราะเหตุนั้นจึงต้องพึ่งของผู้อื่นในการกลั่นโอสถขึ้นมา
แต่มันไม่สำคัญ คราวนี้ซากปรักหักพังเปิดออกแล้ว มันน่าจะมีเพลิงวิญญาณที่ดีอยู่ข้างใน!
ซ่งชิงเคยเผชิญกับเพลิงวิญญาณหลายครั้ง แต่อันดับของพวกมันต่ำเกินไป ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ต้องรับพวกมันเข้ามา!
ซึ่งซากปรักหักพังในครั้งนี้น่าจะมีเพลิงวิญญาณสิบอันดับแรกปรากฏขึ้น!
หากซ่งชิงพบเจอกับพวกมัน เขาจะต้องเอามาครอบครองให้ได้อย่างแน่นอน!
จ้าวเยี่ยนผู้ยืนอยู่ข้างกายก้าวมาข้างหน้าเพื่อเล่าเรื่องเกี่ยวกับราชวงศ์อู๋ซวงให้ซ่งชิงทราบ
ซ่งชิงคิ้วขมวดเล็กน้อยหลังจากฟังจบ “พลังที่เทียบเคียงกับวิถีสวรรค์หรือ?! เจ้าแน่ใจนะว่าไม่ได้มองผิดไป?”
จ้าวเยี่ยนส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “คุณชาย ข้ามั่นใจมากว่าแม้พลังอันน่าทึ่งของลู่หยวนจะไม่อาจแทนที่วิถีสวรรค์ได้ แต่ภายในมิตินั้น แม้แต่วิถีสวรรค์ก็ไม่กล้าก้าวข้ามเข้าไป!”
“แผนการที่เตรียมมาอย่างดีของฉินเซียวล้มเหลวไม่เป็นท่า!”
ซ่งชิงพยักหน้าพลางหรี่ตา เขาเงียบไปสักพักก่อนจะเอ่ยถาม “จูเยี่ยนตายหรือยัง?”
คนผู้หนึ่งซึ่งอยู่ข้างกายก้าวออกมาแล้วตอบ “ยังไม่ตาย เขาถูกจองจำโดยคนที่ลู่หยวนส่งไป!”
ซ่งชิงยิ้ม “ยังไม่ตายหรือ? ดูท่าว่าข่าวเกี่ยวกับซากปรักหักพังคงจะถูกเปิดเผยเพื่อแลกกับชีวิตเพียงไม่กี่วัน และการล่าสมบัติที่ซากปรักหักพังในครั้งนี้ จะมีอะไรให้ได้เห็นอีกไม่น้อย!”