ระบบวายร้ายแห่งโชคชะตา - บทที่ 556 สังหารผู้มาจากแดนเซียน
บทที่ 556 สังหารผู้มาจากแดนเซียน
ลู่หยวนถือกล่องกระบี่ในมือขณะยิ้มกว้าง “ข้าอยากช่วยเจ้าทะลวงดินแดนบางอย่าง”
ผู้หญิงคนนั้นตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว นางเงยหน้ามองอย่างเกรี้ยวกราดขณะเอ่ยคำอย่างชอบธรรมทันที “ไม่…”
แต่ก่อนจะทันได้เอ่ยคำจบ นางก็เห็นลู่หยวนยกกล่องกระบี่ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งอำนาจสูงสุดเคลื่อนตัวกดทับลงมา
“โครม!”
สิ้นเสียงดังสนั่น กล่องกระบี่ฟาดเข้าใส่ศีรษะของผู้หญิงคนนั้นอีกครั้ง!
นางผู้กำลังจะพ่นคำออกมาทำการเปลี่ยนใจ “ไม่ใช่เจ้าแล้วจะให้ใคร!”
“ฟู่!”
กล่องกระบี่หยุดเหนือศีรษะของผู้หญิงคนนั้นทันที แล้วปราณกระบี่เหนือกล่องกระบี่ขนัดนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับน้ำเสียงคุกคามที่ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด
หัวใจของผู้หญิงคนนั้นเต้นราวกับฟ้าร้อง ความเร็วของมันลดลงเมื่อเห็นกล่องกระบี่หยุดนิ่ง
ลู่หยวนยิ้มกว้าง “แล้วเจ้ายังจะยืนบื้ออะไรอีก เอามา!”
ผู้หญิงคนนั้นกลืนน้ำลายขณะยกมือขวาขึ้น แล้วเส้นใยบางอย่างถักทอบนฝ่ามือก่อนหยกไม่ราบเรียบจะปรากฏขึ้น
“นี่คือศิลาทะลวงดินแดน มันสามารถทะลวงดินแดนได้ภายในระยะเวลาหนึ่งโดยไม่มีการกีดกันหรืออุปสรรคแต่อย่างใด! ต่อให้เป็นวิถีสวรรค์ก็สามารถทะลวงได้!”
ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยต่อ “เพียงแต่จำนวนครั้งที่ใช้สิ่งนี้ได้ค่อนข้างจำกัด ศิลาทะลวงดินแดนในมือข้าใช้ได้เพียงหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น”
“ชิ”
ลู่หยวนจิปากด้วยท่าทางไม่ค่อยพอใจ
แม้เจ้านี่จะเป็นของดี แต่มันกลับใช้ได้เพียงหนึ่งถึงสองครั้งเท่านั้น
ผู้หญิงคนนี้ไม่รู้จักใช้อย่างประหยัดหรือไง แล้วทำไมถึงไม่เอาของใหม่มาให้เล่า?!
ในเมื่อมันเป็นแบบนี้แล้ว ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย!
ลู่หยวนพลันเอ่ยถาม
ผู้หญิงคนนั้นตอบตามตรง “ใช่ว่าทุกคนจะมีของที่สามารถทะลวงดินแดนเพียงแต่มหาจักรพรรดิทุกคนจะครอบครองศิลาทะลวงดินแดนเอาไว้เป็นจำนวนมาก”
“แต่ว่านับตั้งแต่เส้นทางระหว่างแดนเซียนกับแดนมนุษย์จำนวนมากถูกปิด มหาจักรพรรดิเหล่านี้ส่งคนหรือไม่ก็ทะลวงดินแดนมาสู่แดนมนุษย์ด้วยตัวเองผ่านบางสิ่งบางอย่าง ทำให้ศิลาทะลวงดินแดนถูกใช้จนเกือบหมดสิ้น ดังนั้นในตอนนี้ คาดว่ามหาจักรพรรดิเหล่านั้นผู้อยู่ทั่วทั้งแดนเซียนเพียงครอบครองมันหนึ่งถึงสองก้อนเท่านั้น”
ผู้หญิงคนนั้นยื่นศิลาทะลวงดินแดนด้วยความเคารพขณะหลุบตา นางมีท่าทียอมจำนนสุดขีด
ลู่หยวนยื่นมือออกไปเพื่อรับศิลาดังกล่าว
แต่ในตอนนี้เอง ผู้หญิงคนนั้นที่หลุบตาและใบหน้าโชกไปด้วยโลหิตแผ่จิตสังหารเย็นยะเยือกในดวงตา!
ทันทีที่ลู่หยวนรับศิลาทะลวงดินแดน เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลระเบิดออกมาจากร่างของอีกฝ่าย แล้วมือของเขาก็ถูกพันธนาการเอาไว้อย่างแน่นหนา
เพียงแค่หนึ่งอึดใจนี้ก็มากพอจะให้นางฉวยโอกาสได้!
“มนุษย์ เจ้ากล้ามาท้าทายทวยเทพอย่างพวกข้าเสียได้ ตายซะ!”
ทันทีที่สิ้นคำ แรงกดดันมหาศาลก็เคลื่อนลงมาอย่างรุนแรง แล้วดาบสั้นก็ปรากฏในมือของนางก่อนจะตรงเข้ามาที่หน้าอกของลู่หยวน!
ดาบเคลื่อนผ่านชั้นห้วงอากาศในพริบตาและกำลังจะเสียบเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย
พวกตี้อู่เหอซ่านที่อยู่ในร่างของลู่หยวนพากันตื่นตัวก่อนจะรวบรวมพละกำลังทั้งหลายเพื่อปัดป้องการโจมตีให้ลู่หยวน
แม้กระทั่งชุ่ยฮวากับวั่งไฉก็มอบพลังทั้งหลายให้เพื่อหมายจะปกป้องเขา!
แต่ถึงอย่างไรผู้หญิงคนนั้นก็มาจากแดนเซียน ต่อให้เป็นเพียงร่างจำแลงที่ทะลวงดินแดนจนสูญเสียพลังส่วนใหญ่ แต่นางก็ยังทรงพลังกว่าเศษเสี้ยววิญญาณของตี้อู่เหอซ่าน!
ดาบสั้นเคลื่อนทะลวงโล่ของพวกตี้อู่เหอซ่าน ซึ่งมันอยู่ห่างจากหัวใจของลู่หยวนเพียงสามชุ่น!
ในตอนนี้ ผู้หญิงคนนั้นก็เผยรอยยิ้มออกมา
เหอะ หากคนจากแดนมนุษย์ผู้ต่ำต้อยไม่สามารถถือกล่องกระบี่ไท่อีเอาไว้ คิดหรือว่าจะสามารถต่อกรกับนางได้?!
แค่พันธนาการเพียงชั่วครู่ก็มากพอจะจัดการเจ้าเด็กสารเลวนี่ได้แล้ว!
ผู้หญิงคนนั้นเผยรอยยิ้มชั่วร้ายขณะพลังในมือยิ่งเพิ่มขึ้น มันทะลวงผ่านอำนาจมังกรกับเฝยเฝยที่ปกป้องลู่หยวนเข้าไป!
ในช่วงวิกฤตนั้นเอง!
“เคร้ง!”
เสียงแจ่มชัดดังขึ้น แล้วดาบสั้นของผู้หญิงที่กำลังรุกคืบอย่างไร้อุปสรรคก็ถูกหยุดไว้ทันที!
รอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของนางพลันหายไป แล้วกระบี่หักก็เข้ามาปัดป้องดาบสั้นบริเวณหน้าอกของลู่หยวน
กลิ่นอายเย็นเยือกค่อยแผ่ซ่านมาจากข้างกาย ขณะร่างในชุดสีขาวผู้สวมมงกุฎสีทองกับปิ่นหยกปรากฏข้างกาย แล้วจิตสังหารก็ปรากฏ นางไม่ใช่ใครอื่นนอกจากกู้ชิงหรัน!
“ไท่อีหรือ?!”
ผู้หญิงคนนั้นพ่นลมออกจมูกอย่างเย็นชา “เจ้าปกป้องเจ้าเด็กสารเลวนี่งั้นหรือ?!”
กู้ชิงหรันคิ้วขมวดด้วยความมุ่งมั่นยิ่ง “ชื่อของข้าคือกู้ชิงหรัน!”
“เหอะ เจ้าคิดหรือว่าแค่เปลี่ยนชื่อแล้วจะสามารถล้างชะตากรรมนั่นได้?!”
ผู้หญิงคนนั้นเปิดปาก “สักวันเจ้าก็ต้องเป็นไท่อี แล้วมันจะเป็นเช่นนั้นชั่วนิจนิรันดร์!”
“นี่คือเกียรติและโชคชะตาของเจ้า! หากวันนี้ไม่กลับคืนสู่จุดเดิม ไม่ช้าก็เร็วเจ้าก็ต้องกลับไปอยู่ดี! เจ้า…”
ก่อนนางจะทันเอ่ยคำจบ เสียงของลู่หยวนก็ดังมาจากข้างกาย “พูดมากน่ารำคาญ”
นางหันมามองก่อนจะพบว่ากล่องกระบี่ถูกยกขึ้นอีกครั้ง!
“ฟู่!”
“โครม!”
สิ้นเสียงดังกึกก้อง ผู้หญิงคนนั้นก็ถูกฟาดศีรษะอีกครั้ง!
พละกำลังที่เพิ่งก่อตัวขึ้นมาสลายไปในบัดดล!
ร่างของนางล้มลงก่อนจะถูกฝังลงไปในดิน
ผู้หญิงคนนั้นสั่นสะท้านขณะรวบรวมพละกำลังอย่างยากลำบาก นางทราบเช่นกันว่าร่างจำแลงกำลังจะตายในไม่ช้า
เมื่อร่างจำแลงตายก็จะเกิดผลกระทบกับการบำเพ็ญของร่างหลัก
ผู้หญิงคนนั้นลืมตาขึ้นเล็กน้อยขณะเงยหน้า แล้วภาพของกล่องกระบี่ไท่อีก็ปรากฏอีกหน
นางรู้สึกเหมือนกับหัวใจกำลังจะแตกสลาย
พลังของกระบี่ไท่อีเล่มนี้ยังไม่ตื่นขึ้นมา ต่อให้นำมันมาใช้ต่อสู้ก็อาจจะไม่สามารถเอาชนะนางได้
แต่เด็กคนนี้ยังคงดื้อดึงที่จะถือกล่องกระบี่เอาไว้!
ผู้หญิงคนนั้นมองกล่องกระบี่ที่เคลื่อนลงมาก่อนจะค่อยหลับตาลง
นางจะต้องเป็นคนแรกที่ถูกทุบตีจนตายด้วยกล่องกระบี่ไท่อีเป็นแน่!
“โครม!”
กล่องกระบี่เคลื่อนลงมา แล้วชีวิตของผู้หญิงคนนั้นก็หายไป
“นางหนังเหนียวเหลือเกิน ต้องทุบตีหลายครั้งกว่าจะตาย”
ลู่หยวนถือกล่องกระบี่ขณะพึมพำกับตัวเอง
กู้ชิงหรันเหลือบมองเขาโดยไม่เอ่ยคำอะไร
“แล้วอีกคนล่ะ?”
ลู่หยวนกลับมามีสติขณะมองรอบข้าง จากนั้นก็จับจ้องไปทางสาวใช้ผู้ห่างออกไปหลายร้อยลี้อย่างรวดเร็ว
นางเห็นผู้หญิงคนนั้นถูกทุบตีจนตายเต็มสองตา เมื่อเห็นลู่หยวนหันสายตามาในตอนนี้ ภาพจำของเขาจึงไม่ต่างจากราชาแห่งนรกที่กำลังจับจ้อง!
สาวใช้ยืนอยู่กับที่ขณะกลืนน้ำลาย จากนั้นจึงหันหลังแล้วหนีหายไปไกล
แต่ขณะที่หลบหนี นางก็เห็นความผันผวนในห้วงอากาศก่อนร่างหนึ่งในชุดขาวพาดกล่องกระบี่ไว้บนบ่าจะปรากฏ!
“โครม!”
ศีรษะของสาวใช้เจ็บแปลบพร้อมกับพละกำลังที่หายไป ร่างของนางก็ล้มลงพลัน
ลู่หยวนตามติดไปตลอดทางก้าวแล้วก้าวเล่า เมื่อสาวใช้ล้มลงกับพื้น นางก็สิ้นลมหายใจ
เกรงว่าคนในแดนเซียนอาจจะไม่มีใครคาดคิดว่าจักรพรรดินีเหยาจีผู้นี้จะถูกทุบตีจนตายโดยใครบางคนจากแดนมนุษย์ที่ถือกล่องกระบี่เอาไว้
หากตายหนึ่งก็มีอีกสองที่ต้องตาย
[แจ้งเตือนจากระบบ: ทัณฑ์แห่งวิถีสวรรค์สิ้นสุดลงแล้ว ท่านจะได้รับการคำนวณจากการสังหารบุตรแห่งโชคชะตาเฉินจง!
[ค่าโชคชะตาวายร้ายที่ท่านใช้มีค่ามากกว่าที่ได้รับจากการฆ่าบุตรแห่งโชคชะตาเฉินจง ส่วนเกินจะถูกหักออกจากค่าโชคชะตาของราชวงศ์อู๋ซวง!]
[ค่าชะตาวายร้ายที่เหลืออยู่ของท่านในตอน: 0!]