ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 114
ตอนที่ 114 พนักงานระดับ G
เช้าวันรุ่งขึ้นสภาพอากาศก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้า! ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องมาหลายวันได้แพ็คกระเป๋ากลับบ้านเกิดไปแล้ว พร้อมกับแขกคนใหม่อย่างฤดูไม้ร่วงที่มาหาก่อนเวลา
และวันนี้ก็เป็นวันที่ดวงอาทิตย์กลับสว่างจ้า กู้จวิน ไช่ฉีซวน และกลุ่มนักศึกษาฝึก งานทั้งหมดก็มารวมตัวกันในห้องประชุมขนาดเล็กภายในศูนย์ฝึกอบรมตามที่พี่ชายเฉียงได้นัดหมาย
หลังจากการประเมินค่า S ของพวกเขา ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นการทําจิตบําบัดขนาดเล็กเพียงแค่ครึ่งวัน และเมื่อผ่านการพักผ่อนทั้งคืน เหล่านักศึกษาฝึกงานทุกคนก็มีใบหน้าที่ดูดีขึ้นมาก
และเช่นเคย..การประกาศผลยังคงเป็นพี่ชายเฉียงอีกครั้ง! ทว่า! แม้พี่ชายเฉียงจะไม่ได้รับการประเมินค่า S แต่ใบหน้าของเขากลับดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ตามคําบอกเล่าที่เขาเล่าลือกัน ดูเหมือนว่าภรรยาของพี่เฉียงจะแอบส่องว่าพี่เฉียงจะแอบทํางานจนมีกหรือไม่!? ทว่าเมื่อวานเขากลับบ้านเร็ว ทําให้เขากลายเป็นสามีที่เหลือที่รอดพ้นจากการบ่นของภรรยาแบบหวุดหวิด
“ นี่คือผลลัพธ์ของการประเมินค่า S ของพวกเธอ” โจวเจียเฉียงส่งกองเอกสารให้พวกเขา หลังจากที่ได้รับเอกสารจากฝ่ายจิตวิทยามาสดๆร้อนๆ ซึ่งคราวนี้มันแตกต่างจากรายงาน การทดสอบบุคลิกภาพเมื่อครั้งทําการสัมภาษณ์อย่างสิ้นเชิงเพราะพวกเขาได้รับอนุญาตให้ทราบค่า S ของตนเอง เช่น ความดันโลหิต หากค่า S ต่ําเกินไป พวกเขาก็จําเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
ทว่า! เมื่อพวกเขากําลังเอื้อมมือไปรับ จู่ๆ พี่ชายเฉียงก็ทําหน้าเศร้า! นั่นทําให้เหล่านักศึกษาฝึกงานตื่นตระหนกอย่างมาก ทุกคนเริ่มจิตใจไม่ดี จากนั้นพี่ชายเฉียงก็มองไปที่แฟ้มผลลัพธ์การประเมินด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ ทุกคนผ่านแล้ว! ยินดีด้วย ทุกคนเป็นคนปกติมากๆ”
การเฉลิมฉลองเริ่มขึ้นทันที พวกเขาทั้งหมดรับรายงานและเปิดอ่านทันทีและแบ่งปันค่าประเมินของตนเองให้คนอื่นรู้
เจียงปันเซี่ย หม่าเจียหัว หยางหมิง และเฉิงอี้เฟิง…พวกเขาทั้งหมดได้คะแนนเก้าสิบห้าคะแนน
ส่วนโจวอี้ได้เก้าสิบเจ็ด และไปฉีชวนได้คะแนนสูงสุดที่เก้าสิบเก้า
ส่วนในสามคนที่ถูกส่งไปที่ชั้นผ่าตัดเพื่อช่วยคณะศัลยแพทย์ผ่าตัดฉุกเฉิน ซุนอี้เหิง ได้คะแนนเก้าสิบสองคะแนน และหวังรั่วเซียงได้เก้าสิบคะแนน
พี่ชายเฉียงยิ้มและเฝ้าดูพวกเขาสนทนากันเอง เนื่องจากค่า S เป็นส่วนหนึ่งของความเป็นส่วนตัว จึงถือเป็นการตัดสินใจของแต่ละคนที่จะแบ่งปันกับผู้อื่น แน่นอนว่ามีเพียงมือใหม่เหล่านี้เท่านั้นที่จะทําอะไรแบบนั้น
หลังจากที่พวกเขาอยู่ในเฟคต้านานพอแล้วเหมือนพวกแก่ๆ ยศโตๆที่รู้มาก พวกเขาจะเข้าใจโดยธรรมชาติว่าค่า S ไม่ใช่หัวข้อสนทนาที่ดี ในความเป็นจริงมีกฎห้ามไม่ให้คนหนึ่งถามคนอื่นเกี่ยวกับค่า S ของพวกเขาด้วย เว้นแต่อีกฝ่ายเต็มใจที่จะแบ่งปันด้วยตัวเอง และนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการเตือนพวกเขาในภายหลัง
ตอนนี้มีเพียงค่า S ของกู้จวินเท่านั้นที่ยังคงเป็นปริศนา เพื่อนๆ ที่เหลือทั้งหมดหันมาหาเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น คล้ายกับพวกเขากําลังจะลุ้นว่ากู้จวินจะทําให้พวกเขาประหลาดใจ อีกครั้งด้วยคะแนนเต็มหนึ่งร้อยหรือไม่?
กู้จวินศึกษารายงานในมือของเขาอย่างละเอียดและเห็นเครื่องหมายเจ็ดสิบห้าอยู่บนนั้น นอกจากนั้นยังมีข้อมูลรายละเอียดอื่น ๆ ที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ อย่างไรก็ตามเขาไม่เคยได้รับการฝึกอบรมการประเมินค่า S มาก่อน ไม่ว่าในกรณีใด ความคิดเห็นที่พี่สาวเหลียงทิ้งไว้ในรายงานของเขาจะต้องไม่สมบูรณ์อย่างแน่นอน เพราะไม่มีการพูดถึง “ความจําผิดปกติ” เลย ความคิดเห็นของเธออ่านได้ว่า
“ ผู้เข้าทดสอบอยู่ภายใต้ความกดดันทางจิตใจอย่างมากและต้องเข้ารับการบําบัด แบบกลุ่มทุก ๆ สองสัปดาห์ นอกเหนือจากนั้นแนะนําว่าผู้เข้าทดสอบควรได้รับมอบหมายให้ทํากิจกรรมกลุ่มมากขึ้น เพื่อขยายวงสังคมของเขาและสร้างสายสัมพันธ์ทางอารมณ์ที่มั่นคงยิ่งขึ้น”
กดดันทางจิตใจมาก?
ง่ายดายอย่างงั้นเลย!
“เจ็ดสิบห้า” กู้จวินโบกมือรายงานในมือและตอบสนองความอยากรู้อยากเห็นของคนอื่น ๆ และทันใดนั้นบรรยากาศในห้องก็เย็นลงทันที และจากนั้นเสียงหัวเราะที่ดังก้องไปในอากาศก็หายวับ
นั่นเป็นคะแนนต่ําเตี้ยเรี่ยดินกว่าคนอื่นๆ มาก พี่ชายเฉียงเคยบอกว่าถ้าจะมีคนล้มเหล วค่า S จะต่ํากว่าเจ็ดสิบ ค่า S ของคนอื่น ๆ มากกว่าเก้าสิบ แต่กู้จวินซึ่งเป็นอัจฉริยะในทุกสิ่ง กลับทําคะแนนได้เพียงแค่เจ็ดสิบห้าเท่านั้น ทว่าเขาเป็นถึงเด็กแห่งความหวังที่ทุกคนคาดหวังเชียวนะ…แต่ทําไม่ได้แค่นี้?
“เสี่ยกู้” เสียงที่กังวลของไช่ฉีซวนทําให้ความเงียบในห้องแตกเป็นเสี่ยง ๆ วันหลังนายอยากกินซุปแบบไหน? ฉันจะทําอาหารให้นายเอง”
“ เห้! กู้จวิน ตอนทดสอบเธอถามนายแบบไหนเหรอ? มันเกิดอะไรขึ้น!?” หวังรั่วเซียง ถามขึ้นด้วยความตื่นตระหนก “ คําถามของเธอคือถามว่า “นายใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระอะไรบ้าง ถูกไหม?”
เอื้อ!! ถามแบบนี้ ฆ่าฉันเถอะ! เธอจงใจที่จะทําร้ายฉันใช่ไหม?
“ ไม่มีอะไรพิเศษ แต่ฉันแน่ใจว่ามันไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น ๆ ” กู้จวินส่ายหัวด้วยรอยยิ้ม ความห่วงใยของคนอื่นที่จ้องมองมาทางเขา ทําให้เขารู้สึกอบอุ่นเหมือนดวงอาทิตย์กําลังห้อมล้อม พวกเขาทุกคนราวกับแสงเปล่งประกายรอบหัวใจของกู้จวินจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าพี่สาวเหลียงรู้ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่แตกสลายที่เขามีกับพ่อแม่และนั่นคือเหตุผลที่เธอแนะนําให้เขาขยายวงสังคม และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ทางสังคมของเขาให้มากๆ แต่จริงๆแล้วการอยู่ท่ามกลางเพื่อนสมาชิกเหล่านี้ก็ดีพอสําหรับเขาแล้ว
ในขณะที่คิด! ทันใดนั้นมีบางอย่างเข้ามากระทบหัวสมองของเขา และหัวใจของเขาก็บีบตัวอย่างรุนแรง บางที “สถาบันคาร์ลอต” ก็คงมีนักศึกษาแบบนี้เช่นกัน ความสัมพันธ์และมิตรสหาย
“ อาจขึ้นนายกําลังอยู่ในภาวะเครียด…แต่อย่างไรก็ตามหลังจากนี้นายก็แค่ทําตามข้อแนะนํา” โจวเจียเฉียงไม่อนุญาตให้พวกเขาอ้อยอิ่งในหัวข้อนี้ นั่นก็เพราะหลังจากนี้องค์กรก็มีแผนของตัวเองสําหรับกู้จวินเตรียมเอาไว้แล้ว “ ยังไงก็ตามมาเซ็นสัญญากับพวกนี้ก่อน…”
โจวเจียเฉียงมอบสัญญาให้พวกเขา แม้ว่ามันจะเป็นหน้าที่แต่เขาก็ยังขอให้พวกเขาอ่านเงื่อนไขอย่างดีและละเอียดก่อนที่พวกเขาจะลงลายเซ็น
จากนั้นสัญญาจะมีผลผูกพันจริงๆหรือไม่? มันก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาว่าพวกเขาจะทํางานให้กับองค์กรลับของประเทศได้ดีหรือไม่ก็เท่านั้นแหละ!
แต่พวกเขาก็จะฟังคําแนะนําของโจวเจียเฉียงอยู่ดี และทําสัญญาแบบเงียบ ๆ รวมทั้งอ่านมันทีละหน้า และกู้จวินศึกษามันอย่างละเอียดที่สุด และมันก็เป็นไปตามที่เขาคาดไว้ ประโยคที่เกี่ยวกับการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นในที่ทํางานและความเครียดทางจิตใจได้รับความเสียหายอย่างมาก
ความหมายโดยรวมก็คือ “ ทีม B ได้ทํางานอย่างหนักเพื่อประเทศและกรมการแพทย์ของเฟคต้าก็เสียใจที่การทํางานของคุณมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่เราได้เตือนคุณเกี่ยวกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง”
ถึงกระนั้นค่าตอบแทนก็สูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ
เมื่อนักศึกษาทั้งกลุ่มเซ็นสัญญา โจวเจียเฉียงเก็บของทั้งหมดลงกระเป๋าและเดินออก จากห้องประชุมไป ดูเหมือนว่าเขาจะมอบสัญญาให้กับพนักงานคนอื่น ๆ เพราะเมื่อโจวเจียเฉียงกลับมา เขาไม่มีสัญญาในมืออีกต่อไปแล้ว แต่กลับมาพร้อมกับโทรศัพท์ที่ถูกยึดเมื่อเดือนก่อน และรหัสพนักงานใหม่เอี่ยมที่เป็นของพวกเขาแทน
“ เอาล่ะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกคุณทุกคนเป็นสมาชิกระดับ G อย่างเป็นทางการของเฟคต้า! คุณจะมีสิทธิ์เข้าถึงสิทธิที่สอดคล้องกับตําแหน่งสมาชิกระดับ G ฉันยังไม่ได้แนะนําเรื่องนี้กับคุณอย่างเป็นทางการ แต่ระดับการเป็นสมาชิกของเฟคต้ามีตั้งแต่เกรด A ถึงเกรด G จากนั้นก็เป็นเด็กฝึกงาน ฉันเป็นสมาชิกเกรด F ซึ่งสูงกว่าพวกคุณเพียงหนึ่งเกรด”
โจวเจียเฉียงเกาใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นจากสิว และถอนหายใจจากนั้นก็หัวเราะ “ ฉันทํางานที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว แต่ฉันก็เป็นแค่สมาชิกเกรด F ดังนั้นฉันหวังว่าจะไม่มีพวกคุณเดินตามรอยของฉันเป็นคนต่อไป”
สิ้นสุดคําพูดนี้ทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ในขณะนั้นไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคลิ นิกหรือกลุ่มงานเบ็ดเตล็ด ทุกคนเต็มไปด้วยความมั่นใจและความมุ่งมั่นที่จะก้าวหน้าในอาชีพการงาน บรรยากาศนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใช่นี่ชวนจนเขาเข้าสู่โหมดกวีและท่องว่า “ พวกเรายังเด็ก ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนร่วมโรงเรียนวัยเยาว์ที่อยู่วัยผลิบานต้องเต็มที่ในชีวิต จงใช้ชีวิตโดยที่เต็มไปด้วยความกระตือรือร้น และทิ้งพันธนาการทั้งหมดไว้อย่างกล้าหาญ”
นั่นทําให้พวกเขาหัวเราะหนักขึ้นเท่านั้น น้ําหนักของความเครียดมหาศาลถูกยกขึ้นจากไหล่ของกู้จวิน ตอนนี้เขารู้แล้วว่าทําไมเขาต้องบําบัดแบบกลุ่ม? ฉีซวนเป็นตัวช่วยคลายความเครียด…เขาไม่ได้ทําอะไร แค่เดินก็ทําให้คนหัวเราะแล้ว
หลังจากหัวเราะกันแล้ว โจวเจียเฉียงก็ให้ทุกคนตั้งใจฟัง “ ตอนนี้ฉันจะแนะนําเค้า โครงของเฟคต้าให้พวกคุณ นี่จะเป็นการบรรยายครั้งสุดท้ายที่ฉันให้คุณแล้ว หลังจากวันนี้จะมีเพียงกิจกรรมละลายพฤติกรรมสําหรับสมาชิกใหม่ของแต่ละแผนก เป็นทางเลือกของคุณที่จะเข้าร่วมหรือไม่! แต่ฉันขอแนะนําให้คุณเข้าร่วมเป็นการส่วนตัว มันเป็นการดีสําหรับคุณในการขยายวงสังคมของตนเอง โอ้! อาจขึ้น คนอื่นไปหรือไม่ฉันไม่สน แต่คุณต้องไปและมีส่วนร่วมให้มากที่สุดเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียดของคุณ” โจวเจียเฉียงเริ่มใช้คําว่า “คุณ” กับทุกคน เพราะทุกคนคือ พนักงานเต็มตัวแล้ว!
“ตกลงครับ” กู้จวินพยักหน้า ตอนนี้เขากลับเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว! ถ้าเขายัง ดติดอยู่กับเรื่องปริศนา คงไม่มีเวลามาสนใจกิจกรรมละลายพฤติกรรมแน่นอน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาก็ยังรู้สึกไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัยอยู่ดี ต้องมีเหตุผลที่ลัทธิชีวิตหลังความตายเลือกช่วงเวลานี้เพื่อกลับมาเป็นจุดสนใจ…