ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 34
ไว้ใจได้เลย?
ล้อเล่นป่ะหมอนี่?
ซูไห่อยากจะระเบิดหัวเราะออกมาเพราะความไม่เชื่อถือ โอ้ว! พี่ชายเเซ่กู้ ไม่ทราบว่าท่านได้ความมั่นใจที่ไร้เหตุผลเเบบนี้มาจากซอกหลืบไหนเเห่งใดกัน? เหตุใดทำไมท่านถึงได้กล้าหาญขนาดนี้? หรือเมื่อเช้าคุณกินปลาเข้าไป…ถึงได้มั่นใจว่าตนเองจะทำมันได้เเบบไม่มีปัญหา? รู้รึเปล่าที่ปลาถูกจับได้น่ะเพราะว่ามันโง่!!!
เมื่อได้ยินความมั่นใจที่เกือบจะไร้สติจากกู้จวิน ไช่ฉีซวนก็แอบคิดว่าตัวเองต้องรีบทำอะไรสักอย่างให้บรรยากาศหายตึงเครียด ทว่าเมื่อพิจารณาถึงบรรยากาศที่เงียบสงัดไปชั่วครู่ เขารู้สึกได้ทันทีถึงความไม่เหมาะสมเเล้วรีบปิดปากระงับเสียงของตนเองแน่น
“ จงจริงจังตั้งใจเเละทำให้ดีซะ!” ศาสตราจารย์กู้ตะคอกอย่างโกรธเคือง ในสายตาของเขา เจ้าเด็กอันธพาลคนนี้กลับทำตัวไม่ดีอีกแล้ว เขากล่าวอย่างเกรี้ยวกราดปนความผิดหวัง “มีดผ่าตัดเขาไม่ได้ถือกันเเบบนั้น! อยากจะหั่นนิ้วตนเองนักรึไง”
เมื่อนักศึกษาทุกคนได้ยินเเบบนั้น สายตาของฝูงชนก็หันไปที่มือของกู้จวินทันทีโดยที่มิได้นัดหมาย ทุกคนสังเกตการจับมีดผ่าตัดของเขา
นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ของมือขวาของเขากำลังจับด้ามของมีดผ่าตัดอย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดว่ามันไม่เป็นมืออาชีพอย่างมาก….คล้ายกับคนที่จับเพราะขอไปที คนขายหมูยังจับมีดได้ดีกว่ากู้จวิน…
“ฉันรู้น่า ฉันไม่ได้ใช้มีดผ่าตัดอันนี้สักหน่อย เเค่จะตรวจเช็คอุปกรณ์เฉยๆ”
เขาหยิบมีดผ่าตัดใส่ถาดอุปกรณ์อย่างรวดเร็ว
ในการผ่าศพนั้น…ไม่สิ เเม้กระทั่งผ่าตัดคนเป็นๆ ศัลยแพทย์ก็ต้องใช้เครื่องมือที่มากกว่าแค่มีดผ่าตัด บนถาดสเเตนเลสนั้นมีอุปกรณ์ที่สำคัญทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นคีมผ่า กรรไกร คีมตัดเส้นเลือด ตะขอดึงและอื่น ๆ อีกมากมาย โดยศัลยแพทย์จะปรับการใช้อุปกรณ์ให้เหมาะสมกับเคสที่เขาเจอ
กู้จวินมองศพมนุษย์ที่ถูกวางอยู่บนโต๊ะผ่าศพ ด้านบนมีโคมไฟไร้เงาที่ส่องสว่างอย่างชัดเจน เขาจึงมองเห็นสารสีดำที่ไม่ทราบชื่อจำนวนมากที่ไหลออกมาจากผิวหนังด้านหลังของมือซ้าย ซึ่งบริเวณใต้ผิวหนังส่วนนี้ควรจะเป็นสีเหลืองอ่อนตามทฤษฎีที่ปรากฎอยู่ในหนังสือ
แต่สิ่งที่พวกเขาเห็นมีเพียงน้ำสีดำที่ทะลักออกมาเลอะเป็นเป็นหย่อม ๆ การสังเกตเพียงอย่างเดียวเป็นการยากที่จะมองหาตำแหน่งของหลอดเลือดดำและเส้นประสาทใต้ผิวหนังได้
ในการผ่าเพื่อแยกชั้นโครงสร้างให้ดียิ่งขึ้น กรรไกรผ่าตัดเป็นสิ่งสำคัญ!
“ ชั้นนี้ควรเป็นพังผืดชนิดเเบบตื้น ” กู้จวินมองข้อมือด้านซ้ายของศพ จากนั้นก็กล่าวข้อสรุปของเขาด้วยเสียงแผ่วเบา “เเต่ปัญหาก็คือมันเรียงซ้อนกัน…”
“ ซ้อนกัน?” หวังรั่วเซียงผงะและชะโงกหน้าไปดูใกล้ ๆ ทันที
ทุกคนจับจ้องต่อข้อสังเกตของกู้จวินด้วยความตกใจ…
ในความเป็นจริงกู้จวินสามารถบอกได้ถึงความผิดปกตินี้ได้ตั้งเเต่เเรกเห็นเเล้ว ปกติเเล้วโครงสร้างร่างกายของมนุษย์ทั่วไป…โดยเฉพาะอย่างยิ่งพังผืดใต้ผิวหนังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี ไม่ว่าจะพิการเเละผิดปกติอย่างไรก็ตาม มนุษย์ปกตินั้นจะมีโครงสร้างพังผืดใต้ผิวหนังเกาะตัวอยู่อย่างหลวม ๆ ทำให้มีประโยชน์ต่อการเคลื่อนไหวที่คล่องตัว
อย่างไรก็ตามมือของศพร่างนี้มีรูปร่างผิดปกติ จากลักษณะของมันพังผืดชนิดตื้นอันนี้คงถูกบิดและพันกันตามลักษณะภายนอกทำให้มีช่องว่างจำนวนมากนั่นทำให้มีสสารสีดำไปกระจุกตัวกันอยู่ภายใน
“ โอ้?” เมื่อได้ยินคำพูดของกู้จวิน ศาสตราจารย์กู้ก็ขมวดคิ้วด้วยความเเปลกใจทันที จากนั้นเขาก็โน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อพิสูจน์คำตอบที่ได้จากลูกศิษย์อันธพาลคนนี้
อืม! ดูเหมือนคนพาลคนนี้จะมีความคิดอยู่บ้าง ใช่เเล้ว! คุณสมบัติของหมอที่ดีนั่นก็คือต้องมีความคิด
หวังรั่วเซียงชะโงกหน้าไปดูเช่นกัน เธอขยับตัวไปจนแทบจะติดกับกู้จวิน นั่นทำให้กู้จวินที่ยืนอยู่เฉยๆได้กลิ่นหอมหวานที่หายากจากร่างกายของเธออย่างที่ไม่คาดคิด
ทว่าเธอกลับได้รับประโยคเย็นชาตอบรับจากกู้จวินมาเพียง 1 ประโยค
“ เเม่พจนานุกรม! ช่วยถอยกลับไปหน่อยได้ไหม เธอกำลังบังฉันอยู่นะ” กู้จวินเอ่ยด้วยความรำคาญ ผู้หญิงคนนี้บังเขาอยู่จริงๆ จงใจจะขวางภารกิจเขาเหรอ? ออกไปได้เเล้ว!
“ โอเคๆ” หวังรั่วเซียงถอยไปหาที่ว่างที่ยังมองเห็นการผ่าตัดอยู่อย่างสงบ เธอไม่กวนเขาอีก แต่เธอก็ไม่ได้ถอยออกไปไกลเกินไป ดวงตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่โต๊ะผ่าศะไม่ขยับแม้แต่นิดเดียว
ที่ข้างโต๊ะผ่าศพ ซูไห่และคนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง นี่มันก็เหมือนกับการที่หมาป่าทำตัวเหมือนคนกินมังสวิรัติและปฏิเสธอาหารจานอร่อยอย่างเด็ดขาด พฤติกรรมของกู้จวิน มันทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความสงสัย
กู้จวินไม่สนใจกับความคิดเพ้อเจ้อของคนอื่นที่เอาเเต่คิดว่าเขายังไม่เอาไหนเเละหลีหญิงเหมือนเคย พอเขาทำเเบบนี้พวกนั้นจึงเกิดความไม่อยากจะเชื่อ
กู้จวินมุ่งความสนใจไปที่การผ่าศพด้านหน้าของเขา ด้วยนิ้วหัวแม่มือขวาและนิ้วนางอันขาวผ่อง เขาสอดนิ้วผ่านห่วงแต่ละข้างและใช้นิ้วกลางของเขาดันไปด้านหน้าวงกลมเพื่อควบคุมและปรับสมดุลกรรไกรอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้เขายังใช้นิ้วชี้เเตะที่บานพับและถือกรรไกรผ่าตัดอย่างถูกต้องตามลักษณะในตำรา
แม้ว่ากู้จวินจะไม่ได้เเตะต้องการผ่าศพมานานหลายเดือนจนเเทบจะไม่คุ้นเคยเเล้ว แต่มือของกู้จวินกลับไม่มีสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่แน่ใจหรือหวั่นเกรงในการกระทำของตนเองเเม้เเต่นิด เขากลับยกมือขึ้นอย่างมั่นคง ในตอนนี้กู้จวินมีทั้งความสงบ ปฏิกิริยารวดเร็วและกระฉับกระเฉง
การฝึกฝนทั้งหมดของเขาเกี่ยวกับการผ่าศพถูกปลุกขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว กล้ามเนื้อของเขาจดจำความรู้สึกในสมัยก่อนได้เเละนึกถึงการกระทำในอดีตของเมื่อสมัยเรียนทันที นั่นทำให้เขาจดจำความรู้ของเขาทั้งหมดที่เคยทอดทิ้งไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง
กู้จวินหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นก็ควบคุมการหายใจของเขาได้อย่างมั่นคง และพยายามตัดพังผืดตื้นที่ซ้อนๆกันจากหลังมืออย่างระมัดระวัง
ตามที่เขาคาดไว้มีสารสีดำจำนวนมากอยู่ใต้พังผืดตื้น เเละสีดำนั้นปิดทับโครงสร้างของกล้ามเนื้อจนหมด เมื่อมองไปที่ภาพที่ผิดปกตินี้ กู้จวินก็ได้วิเคราะห์ด้วยความมั่นใจ
“ มีสารสีดำนี้สะสมอยู่ชั้นใต้ผิวหนังมากมาย ฉันไม่คิดว่ามันเป็นต่อมถุงน้ำใต้ผิวหนังเเน่นอน”
กู้จวินหยิบคีมหลอดเลือดจากถาดอุปกรณ์และกรรไกรผ่าตัดมารวมกัน จากนั้นกู้จวินก็แยกพังผืดตื้นออกจากหลอดเลือดดำอย่างแม่นยำ ด้วยเวลาเพียงพริบตาเดียว!
เนื้อเยื่อในพื้นที่นี้แย่มาก มันเปราะบางมากคล้ายจะพังทลายได้ทุกเมื่อ ปกติไม่มีอยากจะผ่ากัน ไม่อย่างนั้นทุกอย่างจะเละ! ไม่มีใครชอบศพมนุษย์เละๆเหลวเป๋วหรอก
เเต่ด้วยความมุ่งมั่นอย่างมาก กู้จวินจึงเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ผ่าตัดทั้งสองอย่างระมัดระวัง เขากดเเละจับกรรไกรอย่างชำนาญ เขาใช้ปลายงัดเปิดพังผืดตื้นอย่างไวว่อง จากนั้นเขาก็หาทางเข้าไปในเนื้อส่วนบางนั้นด้วยคีมหลอดเลือดและค่อยๆนำหลอดเลือดดำที่ติดผิวหนังชั้นในออกมา ทั้งหมดนั้นเป็นกระบวนการที่ตึงเครียด เเละกู้จวินก็ไม่ได้กระพริบตาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
คุณพระช่วย…
เหล่านักศึกษาทีมทดลองทั้งหมดเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เเม้กระทั่งสามัญสำนึกเรื่องผ่าตัดของพวกเขาเมื่ออยู่ต่อหน้ากู้จวินมันก็เหมือนจะสูญสลาย ด้วยความเร็วดุจพระเจ้า เเละการใช้เครื่องมืออย่างชำนาญ มันทำให้พวกเขาเเทบจะมองไม่เห็นฉากผ่าตัดเลย
เพียงแค่มองด้วยตา เเม้มือของพวกเขาจะไม่ได้สัมผัสเหมือนกู้จวิน เเต่พวกเขาก็รู้ว่าเส้นเลือดแต่ละเส้นที่หลังมือของมนุษย์นั้นบางและเปราะมากเพียงใด เเต่เเตะมันก็พร้อมจะระเบิดคล้ายเป็นโกโก้ครั๊น!
สำหรับการผ่าศพมนุษย์ทั่วไป นี่ก็ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงมนุษย์ที่มีรูปร่างผิดปกติ เเละมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเเปลกประหลาดอีก! มันยากของมันจะยิ่งเพิ่มมากกว่า 2 เท่าตัว!