ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 53
ความหนาวเย็นค่อยๆ ไหลลงมาตามลำคอของเหล่าอาจารย์และบรรดานักศึกษาทั้งหมด มันราวกับว่าพวกเขาเห็นความทรงจำเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนพวกนั้นกลับมาอีกครั้ง การพูดเเบบนี้ไม่ต่างอะไรกับเอามนุษย์ต้นไทรมาให้พวกเขาดูอีกครั้งเลย
นี่ไม่ใช่ความตกใจและความกลัวเหมือนที่พวกเขาเคยรู้สึกก่อนหน้านี้ หากแต่เป็นความรู้สึกมืดมนและสิ้นหวัง พวกเขาเมื่อมองเห็นภาพผู้ป่วยในวีดีโอ พวกเขาก็ยิ่งซึมเศร้ามากขึ้นอีก
ก่อนหน้านี้พวกเขาทำตัวเหมือนนกกระจอกเทศ พวกเขาซ่อนตัวจากความจริงและหลอกตัวเองว่า ‘ต้นไม้มนุษย์’ เป็นเพียงโรคพันธุกรรม หรือไม่ก็การทดลองที่ผิดพลาด ใช่! มันก็เเค่การทดลอง ไม่ใช่มนุษย์จริงๆหรอก พวกมันเป็นผี ปีศาจไปเเล้ว!
เเต่ภาพในวิดีโอได้ดึงพวกเขาออกจากคำโกหก และแสดงความจริงให้พวกเขาเห็นอย่าวชัดเจน ตาของพวกเขาในตอนนี้สว่างไสวเหมือนถูกลากไปตบกลางสี่เเยก!
สิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนนี้ไม่ใช่ปีศาจหรือผี
มันเป็นโรค!!
และที่เเย่กว่านั้นก็คือ…พวกเขาเป็นหมอ!
เมื่อความจริงนี้ปรากฎขึ้น มันทำให้นักศึกษาเเละอาจารย์ทั้งหมดจมลงสู่ห้วงเเห่งความเศร้าโศก และความกดดันมหาศาลก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของพวกเขา เช่นเดียวกับพายุที่กำลังโหมกระหน่ำ!!
ภาระในฐานะทาสทางการแพทย์กำลังจะตกใส่พวกเขาเเล้ว!!
“ เมื่อผู้ป่วยนั้นได้อยู่ในขั้นที่ 3 อย่างสมบูรณ์เเบบ เเละกลายเป็นต้นไทรโดยสมบูรณ์เเล้ว….” ใบหน้าของศาสตราจารย์ฉินเริ่มปรากฎร่องรอยของอารมณ์ที่มืดมนและความเจ็บปวดในใจขึ้นมา
“ พวกเราไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะ ‘มนุษย์’ อีกต่อไป!! แต่เป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่….ตอนนี้โรคนี้นั้นไม่มีทางรักษาได้ เเต่พวกเราก็จะพยายามรักษาเเละวิจัยต่อไปอย่างยากเย็น เเละในขณะนี้พวกเราได้ศึกษามนุษย์ต้นไทรอย่างละเอียดเเละก็พบว่าพวกมันสามารถพัฒนาไปได้ 2 สถานะ นั้นคือ ‘อยู่หรือตาย’ ต้นไทรมนุษย์ที่ร่างกายบิดเบี้ยวนั้น มันสามารถเติบโตต่อไปได้ อีกทั้งของเหลวสีดำในร่างกายของมันจะทำสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ติดเชื้อเมื่อสัมผัสกับมัน ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งมีชีวิตที่ติดเชื้อ โรคนี้จะพัฒนาอย่างรวดเร็วและเข้าสู่ขั้นตอนการปลิดชีพไวกว่าปกติหลายเท่าตัว ตอนนี้นักศึกษากู้จวินตั้งสมมติฐานอย่างถูกต้อง ต้นไทรมนุษย์สามารถเเพร่เชื้อเเละรวมหลอมรวมกับสิ่งมีชีวิตอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ได้ ส่วนคำตอบของซุนอี้เหิงที่บอกว่าเป็นการทดลองอะไรนั่น…ไม่เป็นความจริง!!!”
หลังจากอธิบายจบ ที่หน้าจอก็เริ่มเล่นวิดีโออื่นต่อไปไม่ให้ขาดช่วง คราวนี้ทุกคนมึนงงยิ่งกว่าเดิม ฉากในวิดีโอทำให้ทุกคนที่รับชมตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกอีก!
มันยังคงเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือวีดีโอมันส์กว่าเดิมเยอะ!!
ฉากยังคงเป็นห้องขังสีขาวเปล่าๆเเบบเดิมเป๊ะ! ทว่าภายในนั้นมีกรงโลหะทาสีขาวขนาดมหึมาตั้งอยู่ ภายในกรงนี้มีต้นไทรมนุษย์ยืนอยู่…เเต่!
เห็นได้ชัดว่ามันไม่เหมือนกับ ‘ต้นไทร’ ในสนามกีฬาที่เอามาโชว์ อย่างเเรก ต้นไทรในภาพนั่นมีขนาดใหญ่กว่าต้นไทรที่เอามาโชว์อย่างมาก หากกล่าวว่าต้นไทรต้นนี้เป็นการรวมกันของคน 10 คน ต้นไทรที่อยู่ในวีดีโออาจจะมีศพขั้นต่ำประมาณ 30 ศพรวมกันอยู่ก็ได้ มันเป็นภาพที่น่าสยดสยอง ที่สำคัญมันไม่ได้อยู่นิ่งๆ…เเละส่งเสียงร้องโง่ๆเหมือนต้นไทรในสนามกีฬา
ต้นไทรมนุษย์มหึมาเริ่มเดินไปรอบ ๆ กรงอย่างช้าๆ ในขณะที่เจ้าหน้าที่สองคนสวมอุปกรณ์ป้องกันเต็มรูปแบบเดินเข้ามาหา
ทันใดนั้นเองใบหน้าบนต้นไทรหลายสิบหน้าก็กรีดร้องโหยหวนราวกับว่าพวกมันถูกซ้อมโดยเจ้าหน้าที่อย่างหนัก พวกเขาเริ่มส่งเสียงดังพร้อม ๆ กันและมันก็ทำให้เกิดพลังคลื่นเสียงที่ดังมากจนเเม้เเต่เหล็กยังสั่นสะเทือน เหล่าเจ้าหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นตระหนกเเม้จะเตรียมการมาเเล้วก็ตาม
เเม้เหล่านักศึกษาจะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์นี้เหมือนเจ้าหน้าที่จริงๆ เเต่พวกเขาก็เดาได้ว่าเหตุการณ์นี้มันจะโกลาหลเเค่ไหน ซึ่งมันคงเลวร้ายยิ่งกว่าสิ่งที่พวกเขาเพิ่งทนผ่านมาได้เเน่ๆ
“ นักชีววิทยาในแผนกสรุปว่า ความคลุ้มคลั่งของสิ่งมีชีวิตชนิดนี้จะรุนเเรงขนาดไหนขึ้นอยู่กับ ‘ศัตรู’ ที่เข้ามาไล่ล่ามัน!”
ศาสตราจารย์ฉินกล่าวถึงพฤติกรรมของต้นไทรมนุษย์ในขณะที่วิดีโอกำลังเล่น
“ หากใครในพวกคุณดันประสบพบกับความโชคร้ายเเละต้องพบกับต้นไทรที่มีรูปร่างผิดปกติเข้าโดยบังเอิญ จำไว้! สิ่งที่คุณควรทำก็คือ อย่ายืนเอ๋อด้วยความตื่นกลัว คุณจะต้องหนีจากระยะการล่าของมันทันที มิฉะนั้นเมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง…คุณอาจจะได้เป็น ‘ส่วนหนึ่ง’ ของต้นไทรนั้นเอง”
ในขณะที่ศาสตราจารย์ฉินกำลังพูดอยู่นั้นเจ้าหน้าที่ในวีดีโอก็ปล่อยหนูทดลอง 2 ตัวเข้าไปในกรง
“ วี๊ดดดด! วี๊ดดดด!”
เมื่อเผชิญหน้ากับสัตว์ประหลาดขนาดมหึมาตัวนั้น หนูสองตัวก็ร้องโหยหวนด้วยความกลัว และพยายามเกร็งตัวสั่นสู้ จากนั้นก็หนีไปเเอบที่ตามซอกตามมุม ทว่า…ในไม่ช้าหนูก็ติดอยู่ในมือของต้นไทรเสียเเล้ว และไม่สามารถรอดจากเงื้อมมือแห่งความตายได้ ในวีดีโอภาพถูกเร่งขึ้น พวกเขาเห็นของเหลวสีดำถูกปล่อยออกมาอย่างรวดเร็วและทะลุเข้าไปในผิวหนังของหนู
หลายนาทีต่อมาร่างกายของหนูสองตัวก็บิดเบี้ยวเช่นกัน หลังจากผ่านไป 10 นาทีพวกหนูทั้งหมดก็อยู่ในภาวะกล้ามเนื้อเกร็งเเล้ว เเละที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ 30 นาทีถัดมา พวกหนูทั้งสองตัวก็อยู่ในขั้นที่ 3 หรือ ‘ขั้นปลิดชีพ’ เเล้ว!
อาจารย์และนักศึกษาหลายร้อยคนที่ได้เห็นการรวมตัวกันของสิ่งมีชีวิตที่เป็นโรคเเต่ต่างสายพันธ์จนกลายเป็นต้นไทรปีศาจที่น่ากลัว
ภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาดังกล่าว แสดงให้ทุกคนเห็นว่าหนูทดลองกลายเป็นส่วนหนึ่งของต้นไทรที่ผิดปกติภายในสองชั่วโมงได้อย่างไร
ภายในสนามกีฬามีเเต่ความเงียบ ทุกคนที่เฝ้าดูได้ยินเพียงเสียงสั่นเบาๆของเครื่องปรับอากาศเท่านั้น มันเป็นภาพที่น่าหดหู่สำหรับพวกเขาทั้งหมด
นักศึกษาบางส่วนขนลุกผมตั้งด้วยความสยดสยอง ในขณะที่คนอื่น ๆ รีบรวบผมของตนเองไว้เพื่อป้องกันไม่ให้มันตั้งจนอับอายผู้คน
ส่วนคนที่มีจิตใจแข็งแกร่ง น่าเศร้าที่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นพวกเขาก็มองขึ้นไปบนเพดานหรือพื้นสนามเพื่อปรับอารมณ์
“ เอ่อ…” ไช่ฉีซวนอ้าปากค้างด้วยความตื่นตะลึง เขาเองก็อยากเล่าอะไรบางอย่าง เเต่เพราะภาพในวีดีโอ เขาก็เลยลืมว่าจะพูดเรื่องอะไร
หวังรั่วเซียเองก็ตกอยู่ในความเงียบเช่นเดียวกัน อาการของเธอโดยรวมเเล้วค่อนข้างเเย่ลง ด้านข้างของเธออย่าง ‘เฮ่ออี้หาน’ เธอกอดเพื่อนร่วมทีมของเธอไว้แน่นและพึมพำอย่างหวาดกลัว
“ มัน…น่าสงสารเกินไปเเล้ว น่าสงสารจริงๆ…”
ใช่!! มันเป็นเรื่องที่น่าสงสารเเละน่าสังเวชที่สุด ดวงตาของกู้จวินหรี่เเคบลงและเขามองตรงไปที่ภาพต้นไม้ปีศาจบนหน้าจอ
ทว่า!! ทำไมเขาถึงเห็นความงามสง่าและงดงามเป็นพิเศษในสิ่งที่เรียกว่า ‘ต้นไม้มนุษย์’ เเบบนี้
มันช่างงดงามเเละสมบูรณ์เเบบจริงๆ!!
มันเหมือนกับการเกิดใหม่ของหอคอยสูง…ที่เกิดจากเศษซากปรักหักพังอันเกิดจากการทำลายล้างจนย่อยยับมารรวมตัวกันใหม่…มันกลายเป็นสรวงสวรรค์ที่สวยงามกว่าสิ่งมีชีวิตใดๆ
เห็นได้ชัดว่า…มันคือความงดงาม!!