ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 82
“ โอ้!! หรือว่านายคือ อาจวิ้น” โจวเจียเฉียงคุ้นเคยกับข้อมูลของพวกเขาทุกคนเป็นอย่างดี ดังนั้นเขาจึงทักทายกู้จวินเเละเด็กนักศึกษาคนอื่นๆอย่างเป็นกันเอง เเม้เเต่ในขณะที่พูด เขาก็ยังยิ้มเเละหัวเราะหยอกเย้าไปด้วย
“ ทักษะกายวิภาคของนายดีที่สุด ดังนั้นนายจะต้องมีความมั่นใจในตัวเองเข้าไว้! เข้าใจหรือเปล่า? ส่วนรั่วเซียง อี้เหิง เเละฉีซวน พวกเธอทั้งหมดถือว่ามีฝีมือในระดับสูง ดังนั้นเมื่อพวกเธอเริ่มต้นเรียน ตามหลักพวกเธอจะสามารถพัฒนาทักษะอย่างรวดเร็ว ส่วนปันเซี่ย….คุณมีวิชาเอกการเเพทย์เเผนจีน ดังนั้นเธอจึงไม่คุ้นเคยกับเทคนิคทางกายวิภาคโดยธรรมชาติ แต่ก็ไม่เป็นไร! คุณสามารถฝึกฝนมันได้ที่นี่”
สำหรับหลักสูตรการแพทย์แผนจีนในมหาวิทยาลัยนั้น….นักศึกษาระดับปริญญาตรีจะต้องศึกษากายวิภาคของมนุษย์ และการผ่าตัดแพทย์แผนตะวันตกด้วย เเต่ก็เท่านั้น!
เมื่อเทียบกับหลักสูตรการแพทย์แผนตะวันตกแปดปีที่กู้จวินเเละพรรคพวกเรียน หลักสูตรของพวกเขามีความลึกซึ้งน้อยกว่ามาก เหมือนกับว่าวิชาผ่าตัดเเละกายวิภาคเป็นเเค่วิชาเสริมนั่นเเหละ….เรียนเเค่พอรู้!!
“ อ่าค่ะ! ฉันจะพยายาม….อย่างน้อยจะก็สามารถเช็ดเหงื่อให้พวกคุณระหว่างผ่าตัดได้อย่างเเน่นอนค่ะ” เจียงปันเซี่ยยิงมุกออกมา เธอเป็นคนที่สนุกสนานเเละมีบุคลิกร่าเริงอยู่เเล้ว ดังนั้นเธอจึงพูดหยอกล้อตนเองออกมาสร้างความเฮฮาให้กับทุกคน
ทุกคนต่างยิ้มหวานให้กับมุกเเป้กๆ ประโยคนี้ ผิดกับไช่ฉีซวนที่ถึงกับร้องเสียงดังเพราะตกตะลึงถึงสองสามรอบ
การผ่าตัดนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีเเต่ความกดดันเเละเหน็ดเหนื่อย ดังนั้นรายละเอียดยิบย่อยเเต่สำคัญจึงมีความจำเป็นระหว่างการผ่าตัด หากศัลยแพทย์มีเหงื่อออกในระหว่างการผ่าตัด และเมื่อมีเหงื่อออก….เขาจะไม่สามารถเช็ดเหงื่อด้วยตัวเองได้ ดังนั้นเขาต้องหันศีรษะมาและให้ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆช่วยเช็ด เเม้จะเป็นยิบย่อย เเต่เห็นได้ชัดว่ามันคือเรื่องสำคัญ!
ไช่ฉีซวนมองเจียงปันเซี่ยด้วยรอยยิ้มอบอุ่น จากนั้นก็พูดอย่างยิ้มแย้ม “ ปันเซี่ย! อย่าห่วง ฉันจะอยู่กับเธอเอง…ฉันจะช่วยเธอเช็ดเหงื่ออีกคน!” มุกของไช่ฉีซวนทำให้ทุกคนในที่นั้นหัวเราะกันอย่างร่าเริง
กู้จวินยักคิ้วด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนจะมีกลิ่นหอมของความรักอยู่ในอากาศหรือเปล่า?
หวังรั่วเซียงพยักหน้าให้เขา ดูเหมือนว่ากลิ่นอายเเห่งความเจ้าชู้จะเริ่มขึ้นที่ศูนย์ตรวจร่างกายเมื่อวานนี้
“ เอาล่ะมาเริ่มชั้นเรียนกันเลย!” โจวเจียเฉียงเริ่มจริงจังขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็เดินไปยังบนโพเดียมและเริ่มสอนอย่างเเรก
“ การผ่าตัดขั้นพื้นฐานโดยทั่วไปมีไม่กี่อย่าง เช่นการกรีดเนื้อเยื่อ การแยกเนื้อเยื่อ การห้ามเลือด การเย็บแผล การตัดด้ายและการเอาด้ายออก เช่นเดียวกับการเปลี่ยนแปลงการแต่งตัวหรือการสวมใส่เสื้อผ้าทุกอย่างล้วนมีขั้นตอนของมัน มันไม่น่ามีปัญหาใหญ่สำหรับพวกเธอสองคนแรก เพียงเเต่พวกเธอขาดประสบการณ์และทักษะเท่านั้น สำหรับเรื่องเครื่องมืออื่น ๆ พวกเธอก็ควรมีพื้นฐานเอาไว้ด้วย วันนี้ฉันจะพูดถึงเฉพาะเรื่องพวกนี้และเสริมสร้างรากฐานของพวกเธอให้เเน่นขึ้น”
“ เมื่อทำการผ่าตัด แน่นอนว่าการห้ามเลือดหรือการควบคุมการไหลเวียนของเลือดจะต้องทำอย่างเหมาะสม มีวิธีมาตรฐานหลายวิธีในการห้ามเลือด ได้แก่ การห้ามเลือดด้วยการบีบ, การห้ามเลือดด้วยวิธีผูกด้วยด้าย, การห้ามเลือดด้วยไฟฟ้า, การใช้สิ่งของห้ามเลือด เช่น ผ้าพันแผลสำหรับการห้ามเลือดและการห้ามเลือดด้วยการส่องกล้องขนาดเล็ก ส่วนทักษะทางเทคนิคที่ใช้กันมากที่สุดและมีความต้องการมากที่สุดคือ การห้ามเลือดด้วยการผูกด้าย”
“ การห้ามเลือดด้วยการผูก!!” โจวเจียเฉียงตั้งใจให้ความสำคัญกับคำนั้นเป็นพิเศษ และกวาดสายตามองไปยังใบหน้าที่จริงจังของนักศึกษาที่นั่งหน้าสลอนกันอีกห้าคน
“ การผ่าตัดนั้นอย่างที่รู้กันว่ามันต้องผ่า! เลือดก็ย่อมต้องออกมาถูกไหม? ดังนั้นเราต้องเย็บเเผลเเละทำการห้ามเลือด หลังจากเย็บเนื้อเยื่อแล้วก็จำเป็นต้องมีการผูกเช่นกัน ดังนั้นการผูกจึงเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สุด และเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการผ่าตัด”
“ วิธีการ [การผูก] เพื่อห้ามเลือดให้เสร็จสิ้นอย่างปลอดภัยเเละเชื่อถือได้รวมถึงมีประสิทธิภาพนั้นมีประเด็นสำคัญอยู่สองประการ
ประการเเรกคือ การเลือกรอยประสานที่เหมาะสม
และประการที่สองก็คือ การปฏิบัติตามขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐานให้สมบูรณ์
ก่อนอื่นให้เลือกปมที่เหมาะสมตามสถานการณ์ และทำมันให้เสร็จ ฉันจะขอสอนพวกเธอเกี่ยวกับนอตเบื้องต้นก่อน มีโมเดลสำหรับฝึกผูกปมในเก๊ะของพวกเธอ หยิบมันขึ้นมาจากนั้นก็ลองศึกษามันซะ”
หลังจากที่โจวเจียผิงพูดแบบนั้นจบ นักศึกษาทุกคนมองไปที่เก๊ะที่ปิดสนิทที่โต๊ะตัวเอง และหยิบแบบจำลองที่โจวเจียผิงระบุออกมา
นักศึกษาทั้งหมดในที่นี้เคยเรียนหลักสูตรการผ่าตัดทั่วไปมาเเล้ว แต่ก็ยังคงร่ำเรียนเเบบจำกัด นั่นคือพวกเขาได้เรียนเฉพาะทฤษฎีและหลักการบนกระดาษเท่านั้น ส่วนการศึกษาภาคลึกหรือเเบบระบุรายละเอียดพวกเขาเเทบจะไม่เคยทำหรือเคยเรียนเลย
ตัวอย่างเช่น นักศึกษาเพียงไม่กี่คนจากมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเหล่านี้
ในตอนแรกพวกเขาใช้เวลาไปถึงหนึ่งภาคการศึกษา เพื่อไปให้คำปรึกษาที่โรงพยาบาล ดังนั้นเมื่อพวกเขาจัดแบบจำลองจึงรู้สึกแปลกใหม่มาก
กู้จวินมองรูปแบบการฝึกปมในมือของเขา ทั้งหมดทำจากวัสดุคล้ายลูกแก้วใสและมีการออกแบบที่ละเอียดอ่อน ดูก็รู้ว่ายังไงก็มีราคาเเพง
“ แบบจำลองนี้ใช้ระบบแม่เหล็กในการจำลองความตึงของเนื้อเยื่อ และมีเชือกยางยืดคู่ขนานเพื่อจำลองหลอดเลือด”
โจวเจียเฉียงแนะนำเครื่องมือจำลองหลักๆ โดยคร่าวๆ จากนั้นก็ลงลึกในรายละเอียด
“ กระบอกสูบสามประเภทนั้นแตกต่างกัน เเละมันสามารถสร้างช่องว่างหลากหลายรูปเเบบ ซึ่งสามารถจำลองโครงสร้างส่วนลึกต่างๆสำหรับการฝึกปมในระยะสั้น นี่คือสมบัติล้ำค่าสำหรับการผูกเงื่อน! เเละสมบัติล้ำค่านี้เป็นของพวกเธอแล้ว”
โจวเจียเฉียงยิ้มหวานแต่คำพูดของเขาดูเคร่งขรึมเอาจริงเอาจัง “ นำมันกลับไปที่หอพักหลังเลิกเรียน และกอดมันแม้ในขณะที่พวกเธอกำลังนอนหลับ จงใช้เเละปฏิบัติอย่างถูกต้อง”
โจวเจียเฉียงเอาแบบจำลองออกจากโพเดียม เเล้วสาธิตให้นักศึกษาดูอย่างละเอียด
“ การผูกเงื่อนด้วยมืออย่างที่คุณควรทราบ มันเป็นเงื่อนแบบพื้นฐานที่สุดของที่สุด!”
เขาเอาด้ายและพันเป็นวงกลมรอบเเบบจำลอง
“ นี่คือปมที่เกิดขึ้นเอง แล้วปมสี่เหลี่ยมล่ะ? ปมแบบนี้นิยมใช้ในการผ่าตัดมากที่สุด มันประกอบด้วยนอตสองมือที่ผูกติดกันในทิศทางตรงกันข้าม พวกเธอต้องใช้ปมสี่เหลี่ยมในการมัดเส้นเลือดขนาดเล็กเเล้วตบท้ายด้วยวิธีการเย็บเเบบต่างๆ ตราบใดที่ผูกอย่างถูกต้อง ปมมันก็จะแน่นและไม่หลุดง่าย”
“ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเธอเพิ่มปมมืออื่นเข้าไปในปมสี่เหลี่ยม และกลับทิศทางของปมมือที่สามและปมมือที่สอง? จากนั้นมันจะกลายเป็นปมหลายชั้น เมื่อพวกเธอต้องการผูกเส้นเลือดที่ใหญ่ขึ้น และเย็บเนื้อเยื่อด้วยความตึงที่สูงขึ้น ปมที่ใช้กันมากที่สุดคือปมแบบแบ่งชั้น….”
โจวเจียเฉียงอธิบายละเอียด จากนั้นเขาก็ใช้วิธีการผูกปมเเบบต่างๆบนแบบจำลองเพื่อแสดงให้นักศึกษาทุกคนเห็น จากง่ายๆ ค่อยทยอยกลายเป็นยาก
ทุกคนล้วนจ้องมองอย่างตั้งใจ ส่วนกู้จวิน…เขาไม่เพียงแค่เฝ้าดู แต่เส้นประสาทในมือของเขาก็กระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้เช่นกัน เขารับรู้ถึงความเร็วและความแข็งแกร่งของการขมวดปมของพี่ชายเฉียง
“ โปรดทราบว่าเมื่อพวกเธอผูกปมด้วยมือสองข้างเพื่อขันด้ายให้แน่นขึ้น เธอต้องเอามือไขว้กันหนึ่งครั้ง มิฉะนั้นมันจะกลายเป็นปมลื่น จงใช้มือทั้งสองข้างให้เท่า ๆ กัน และค่อยๆกระชับมันช้าๆ ไม่อย่างนั้นด้ายจะขาดได้ง่าย หรือหลวมและหลุดออกได้ สิ่งนี้จะทำให้ผู้ป่วยมีเลือดออกอีกครั้ง หรือมีอาการตกเลือดอย่างรุนเเรง!”
โจวเจียเฉียงแสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า “ การผูกเงื่อนเป็นวงกลมไม่ใช่เรื่องยาก แต่ความยากอยู่ที่การควบคุมความแข็งแกร่งของมือเธอเอง ดูแบบนี้ช้าๆ…”
พวกเขาเฝ้าดูพี่ชายเฉียงเเสดงตัวอย่าง พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่ามือคู่นี้เป็นของผู้ชายร่างกำยำ เเต่เวลาผูกปมนั้นเขาดูอ่อนโยนราวกับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ถือเข็มปัก
“ …” เจียงปันเซี่ยรู้สึกประหม่าอย่างหนัก
เธอรู้! เเม้พี่ชายเฉียงจะทำให้มันฟังดูเรียบง่าย โดยบอกว่ามันไม่ยากและทำได้ง่ายมาก ในความเป็นจริงมันเหมือนกับ [ซูเป่ยหง] สอนวิธีวาดม้า….ขั้นแรกวาดโครงร่างของม้า จากนั้นเพิ่มเส้นแขนขา … สุดท้ายก็คือการทาสีม้า เเค่นั้น!!
“ โอเคเข้าใจไหม” โจวเจียเฉียงหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็กล่าวต่อ “ ตอนนี้พวกเธอต้องแสดงให้ฉันดูเกี่ยวกับการสร้างปมผูกมือเดียวก่อน จากนั้นก็ผูกเงื่อน แล้วจึงเป็นปมสี่เหลี่ยมและในที่สุดก็เป็นปมหลายชั้น”
นักศึกษาทั้งห้าพยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทั้งหมดก็ลงมือทำทันทีโดยที่ไม่พูดอะไรอีก
ไช่ฉีซวนนั้นเขาซุ่มซ่ามเล็กน้อย เขาไม่มีปัญหาในการผูกเงื่อนด้วยมือแต่บังเอิญมือหนักไปหน่อยทำด้ายเย็บแตกเมื่อผูกปมสี่เหลี่ยม เมื่อเห็นว่าไช่ฉีซวนทำผิดพลาดเพราะใช้กำลังมากเกินไป เจียงปันเซี่ยที่อยู่ข้างๆ จึงใช้ความอ่อนโยนอย่างต่อเนื่องเเล้วผูกปมของเธอ ในที่สุดปมที่เธอผูกไว้ก็หลุดออก….
“ไม่เป็นไร ครั้งหน้าตั้งใจหน่อย” โจวเจียเฉียงปลอบโยนพวกเขาในขณะที่เขามองหวังรั่วเซียงเเละซุนอี้เหิง เด็กทั้งสองคนนี้ใจเย็นและมั่นคงมาก พวกเขาพยายามไม่ทำรุนเเรงจนกว่าจะผูกปมที่เป็นชั้น ๆ เสร็จ ทว่าเมื่อใกล้จบพวกเขากลับใช้แรงไม่สม่ำเสมอ ทำให้ปมของพวกเขากลายเป็นปมลื่น สำหรับมือใหม่การกระทำดังกล่าวถือว่าค่อนข้างดี
สิ่งนี้สอดคล้องกับการประเมินที่ได้รับจากเบื้องบน อย่างไรก็ตามเขาได้ยินมาว่าครั้งนี้มี ‘เทพเจ้าที่มีชีวิต’ ปะปนอยู่ด้วย!! เขาได้รับคำสั่งไม่ให้เอื้อเฟื้อเเก่กู้จวิน และต้องเลือกงานที่ท้าทายที่สุดสำหรับกู้จวินทันที
โจวเจียเฉียงมองโต๊ะของกู้จวิน เด็กหนุ่มคนนั้นเขาร้ายกาจอย่างที่พวกเขาพูดจริงหรือ?
***************************************************
ซูเป่ยหง เป็นจิตรกรชาวจีนที่มีชื่อเสียงเเละได้รับการยกย่องจากประเทศจีน เขาเป็นที่รู้จักจากภาพวาดม้าและนกของจีนเป็นหลัก