ระบบศัลยเเพทย์…ในยุคสิ้นโลก - ตอนที่ 85
ณ เช้าวันเเรกที่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเฟคต้า…เหล่านักศึกษาทุกคนที่บัดนี้ได้กลายร่างเปลี่ยนสภาพสู่ ‘พนักงานฝึกหัด’ ของเฟคต้าเเล้ว พวกเขาทุกคนจะต้องเข้าเรียนเเละฝึกอบรมจนกว่าจะพร้อมทำงาน
โดยตลอดทั้งช่วงเช้าพวกเขาจะต้องเรียนวิชาผ่าตัดพื้นฐานจากรุ่นพี่โจวเจียเฉียง เเละหลังจากการฝึกฝนที่เข้มงวดของโจวเจียเฉียงจบลงก็ย่างเข้าสู่ยามเทีี่ยงวัน
ตอนเที่ยงพวกเขาก็ทานอาหารเเสนอร่อยในโรงอาหารของศูนย์ฝึก เเละพักผ่อนสมองโดยการกินข้าว กินผลไม้ เดินเล่น ออกกำลังกายเเละอื่นๆ เพื่อเเก้เบื่อ หลังจากนั้นก็กลับไปฝึกต่อในช่วงบ่าย…ซึ่งการฝึกนี้มันก็เหมือนเดิม นั่นก็คือ การผูก!!
การผูกเป็นหนึ่งในเทคนิคพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการผ่าตัด วิธีการผูกหรือที่เรียกว่าเย็บส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น ‘เเบบไม่ต่อเนื่อง’และ ‘เเบบต่อเนื่อง’
ซึ่งวิธีที่ใช้กันทั่วไปเเละไม่ยากเท่าไหร่ก็คือ วิธีการเย็บแบบไม่ต่อเนื่อง !
โดยที่ขึ้นชื่อที่สุดเรียงตามความนิยมดังนี้
1. การเย็บแบบไม่ต่อเนื่องเเบบสองทบหรือในอีกชื่อก็คือ (การเย็บเเบบประสาน 8 รูป)
2. การเย็บแบบต่อเนื่องอย่างง่าย
3. การเย็บแบบล็อก
4. การเย็บการคลายตัว
5. การเย็บแบบกลับด้าน
6. การเย็บกลับด้านเเบบต่อเนื่อง…[เกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉิน อาทิ ถูกขัดจังหวะ!]
เเน่นอนว่าวิธีการเย็บที่แตกต่างกันเหล่านี้ มันย่อมจะมีการใช้งานที่แตกต่างกันไปเเล้วเเต่จุดประสงค์ด้วย และศัลยเเพทย์ก็จำเป็นต้องเลือกตามประเภทของการบาดเจ็บของผู้ป่วยอย่างเคร่งครัด
แน่นอนว่าการเลือกวิธีการเย็บย่อมส่งผลต่อการฟื้นตัวของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก แผลลึก แผลตื้น แผลแนวขวาง และอื่นๆ ล้วนส่งผลกระทบต่อวิธีการเย็บทั้งสิ้น
การเลือกวิธีการเย็บที่ถูกต้องเป็นหนึ่งในปัจจัยที่คนไข้จะสามารถฟื้นตัวได้ดีในระยะเวลาเท่าไหร่ ในทางตรงกันข้าม หากเลือกผิดการฟื้นฟูของผู้ป่วยอาจจะไม่เกิดขึ้นและนำพาผู้ป่วยไปสู่ความตายได้
“ พวกเธอต้องจำไว้ว่าเมื่อต้องจัดการกับบาดแผลลึก อย่าเย็บเเผลที่ระดับลึกที่สุดอย่างเด็ดขาด พวกเธอควรเย็บที่ระดับผิวหนังเท่านั้น นี่เป็นวิธีหลักในการหลีกเลี่ยงการก่อกำเนิดของเนื้อเยื่อที่ตายหลังการผ่าตัด! ถ้าพวกเธอทำในทิศทางตรงกันข้าม บาดเเผลนั้นจะเนื้อตาย จากนั้นก็จะเน่า!!”
โจวเจียเฉียงใช้จอโปรเจ็กเตอร์ประกอบการอธิบายเพื่อให้เข้ากับการสอนของเขาและเล่นวีดีโอภาพการเย็บแผลที่ถูกต้องให้เหล่านักศึกษาทุกคนได้ดูกันอีกด้วย
“ เนื้อในช่องว่างที่ตายแล้ว ไม่เพียงแต่จะป้องกันไม่ให้ขอบของบาดแผลปิดเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่การแข็งตัวของเลือด การสะสมของของเหลวเช่นไขมันเลว และแม้แต่การติดเชื้อในภายหลัง สิ่งเหล่านี้จะทำให้การฟื้นตัวของร่างกายผู้ป่วยยิ่งล่าช้าลง ดังนั้นจึงต้องหลีกเลี่ยงเรื่องพวกนี้ทั้งหมด หากผู้ป่วยต้องเผชิญกับโชคร้ายเเบบนี้ พวกเขาจะเสียเวลาในการรักษาโรคใหม่เเละอาจจะติดเชื้อตายไปในที่สุด”
เพียงแค่จดจำขั้นตอนการป้องกันเอาไว้ก่อนก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้งานของพวกเขายุ่ง เเต่ถึงยุ่งปางตายเเค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถข้ามขั้นตอนเหล่านี้ไปได้ลวกๆอยู่ดี เพราะพวกเขารู้เเล้วว่าการผูกนั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างตาเห็น เเม้เเต่นักศึกษาชั้นยอดอย่างหวังรั่วเซียงเเละซุนอี้เหิงยังต้องดำเนินการทีละขั้นตอนไม่ให้ผิดพลาด
แม้แต่เทพที่ยังมีชีวิตอย่างกู้จวินก็เช่นกัน เขาก็ทำมันทีละขั้นตอนเเบบไม่เเตกต่างจากคนอื่นๆ เพียงแค่ว่าขั้นตอนที่เขาทำนั้นเร็วกว่าคนอื่น ๆ ก็เท่านั้นเอง โดยพื้นฐานแล้ว…ด้วยพลังความฉลาดของกู้จวินเเละทักษะจากระบบทำให้เขาคุ้นเคยกับขั้นตอนทั้งหมด แต่หนทางสำหรับศัลเเพทย์ตัวจริงนั้นก็ยังอีกยาวไกล พวกเขาต้องฝึกฝนให้มากขึึ้น เเละก้าวข้ามมันไปให้ได้
ทว่าตารางของวันนี้มันช่างพิเศษ! เเทนที่ถึงเวลากลางคืนเเล้วจะรีบกลับหอไปพักผ่อนเเล้วค่อยมาลุยต่อในวันรุ่งขึ้น เเต่ตารางเรียนของวันนี้มันกลับไม่เหมือนเดิม การอบรมประจำวันนี้ไม่ได้จบลงเเบบปกติ และการฝึกอบรมยังคงดำเนินต่อไปเเม้จะเป็นในเวลากลางคืนเเล้วก็ตาม
โจวเจียเฉียงยังคงสอนพวกเขาเกี่ยวกับการตัดแต่งไหม การตัดเย็บและการเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย การผ่าตัด ห้ามเลือด รวมถึงความเหมือนและความแตกต่างระหว่างการผ่าเนื้อเยื่อ การแยกและการผ่า อีกด้วย
“ อ่า!! เเย่เเล้ว วันนี้ฉันคงสอนพวกเธอมากเกินไป” โจวเจียเฉียงรู้สึกผิดเล็กน้อยที่เขาพยายัดความรู้มากมายใส่หัวของเหล่าเด็กๆ
ในที่สุดก็ย่างก้าวเข้าสู่เวลา 4 ทุ่ม ก่อนที่จะกล่าวให้สัญญาณเลิกเรียน โจวเจียเฉียงก็มีใบหน้าที่เคร่งขรึมขึ้นมาทันที และเขาก็รีบปรี่มาเทศนาให้พวกของกู้จวินฟัง
“ เอาล่ะ!! ฉันจะบอกความจริงส่วนหนึ่งให้พวกเธอรู้!! ว่าทำไมฉันถึงต้องยัดความรู้มากมายใส่หัวของพวกเธอเเบบเร่งด่วน นั่นก็เพราะว่าสถานการณ์ในปัจจุบันไม่มีเวลาให้พวกเธอเรียนรู้อย่างช้าๆ อีกต่อไปเเล้ว ทีมคลินิกคาดหวังว่าพวกคุณจะกลายเป็นผู้ช่วยคนที่สามและคนที่สองของพวกเขาอย่างรวดเร็ว และปล่อยให้ผู้ช่วยคนที่สามและคนที่สองหน้าเดิมๆ เลื่อนขึ้นมาเป็นศัลยแพทย์หลัก อย่าทิ้งข้อมูลทั้งหมดในตำรา เเต่จงทิ้งเอาไว้ในสมอง จดจำไว้ในความคิดของเธอเอง ในเวลาว่างให้นำผลไม้ไปฝึกเย็บด้วย ไม่ว่าจะเป็นองุ่นหรือแม้กระทั่งกล้วยก็จงฝึกหัดซะ! เเละทางหอพักจะจัดเตรียมผลไม้เหล่านี้ไว้ให้พวกเธอฝึกกันจนสะใจ”
ทุกคนรีบพยักหน้าเห็นด้วย พี่ชายเฉียงคนนี้เป็นเพียงเเค่ผู้เเนะนำวิธีเปิดประตูสู่โลกลึกลับเท่านั้น ส่วนระดับที่พวกเขาสามารถเข้าถึงได้หลังจากเข้าสู่โลกลึกลับนี้นั้นขึ้นอยู่กับความพยายามของพวกเขาเอง
“ ขั้นแรกมาวางรากฐานโดยใช้เเบบจำลองเพื่อฝึกฝนไปก่อน จากนั้นเราจะทำการฝึกอบรมภาคปฏิบัติเกี่ยวกับสัตว์ทดลองในช่วงครึ่งหลัง ฉันหวังว่าพวกเธอจะพร้อมเมื่อถึงตอนนั้น โชคดี!”
เมื่อพี่ชายเฉียงประกาศการสิ้นสุดชั้นเรียนของวันนี้อย่างเป็นทางการที่เวลา 4 ทุ่มครึ่ง ก็เป็นอันว่าทุกคนก็สิ้นสุดการฝึกอบรมของวันนี้อย่างเป็นทางการของจริง และนักศึกษาทั้งหมดก็พากันกลับไปที่หอพักพร้อมกัน
ในช่วงระยะเวลาการฝึกอบรมพวกเขาเสมือนนักโทษคดีร้ายเเรงที่ถูกกักกัน พวกเขาสามารถไปได้เเค่สองที่เท่านั้นนั่นก็คือ สถานที่อบรม กับอีกที่ก็คือห้องพักของตนเอง
อำนาจของพวกเขาในขณะนี้เพียงพอให้พวกเขาเข้าไปในศูนย์ฝึกอบรมและอาคารหอพักเท่านั้น พวกเขาไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อสร้างความบันเทิงเเต่อย่างใด ไปเที่ยวก็ไม่ได้ แต่ยังดีที่มีโรงยิมบนชั้นสองของแต่ละหอพักใช้ได้เข้าใช้กันอย่างสะดวก อย่างไรก็ตามหลังจากฝึกมาทั้งวันและเมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าพวกเขายังคงต้องฝึกต่อในตอนเช้าอีก….พวกเขาส่วนใหญ่เลือกที่จะกลับไปที่หอพักเพื่อนอนพักผ่อนเอาเเรงเพื่อผจญอุปสรรคเเละความยากลำบากเหล่านี้ต่อไปอีกในวันรุ่งขึ้น
คนอื่นนอนก็นอนไป
เเต่กู้จวินไม่!!
เขาไม่ได้ไปนอนหลับเอาเเรง เขาใช้เวลานั้นเอาเครื่องมือมาผ่าตัดเเละเย็บองุ่นที่โต๊ะทำงานในห้องนอนแทนเพื่อฝึกฝนขัดเกลาฝีมือ…อย่างไรก็ดี การฝึกเเบบนี้ไม่ได้ช่วยให้ ‘คะเเนน’ของระบบยกระดับเเต่อย่างใด
กู้จวินเริ่มฝึกอย่างจริงจัง….ขั้นแรกเขาตัดผิวหนังขององุ่นด้วยมีดผ่าตัด จากนั้นใช้แหนบเพื่อเอาเมล็ดออกอย่างระมัดระวัง สุดท้ายเขาก็เอาเข็มที่ใส่ด้ายคากัตเเล้วเข้าไปเย็บโดยตรง
เเม้ท้องฟ้ายามค่ำคืนนอกหน้าต่างเป็นสีดำสนิทเเล้ว แต่กู้จวินก็ยังคงตั้งใจฝึกฝนต่อไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า และย่อยสิ่งที่เขาเรียนรู้ในวันนี้อย่างเต็มที่
ในอีกห้าวันต่อมา กู้จวินและนักศึกษาคนอื่น ๆ ยังคงดำเนินการฝึกอบรมกันต่อไปอย่างรวดเร็วเเละพัฒนาฝีมือกันตามลำดับอย่างไวว่อง
ในวันแรกของการฝึกอบรม พวกเขาทั้งหมดได้รับการสั่งสอนจากพี่ชายเฉียงเพื่อจำลองวิธีการผูกของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ รวมถึงการผ่าตัดพื้นที่เฉพาะบางส่วน เเต่สำหรับการผ่านั้นมีความสำคัญมากยิ่งกว่าใดๆทั้งหมด พวกเขาจึงต้องฝึกฝนกันอย่างเข้มงวดเเละร่ำเรียนในทุกๆวัน เเม้กระทั่งยามหลับบางคนยังฝันว่าตนเองกำลังผ่าตัดองุ่นอยู่ ทำให้หลายๆคนเริ่มหวั่นใจกับเม็ดองุ่นที่อยู่ตรงหน้า
ความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ของคนหนึ่งจะสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ทำตาม การแสดงฝีมือที่โดดเด่นของกู้จวินทำให้คนอื่น ๆ จำต้องทำงานหนักขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เเละพี่ชายเฉียงที่เห็นเเบบนี้ เขาเองก็อดถอนหายใจไม่ได้ด้วยความสงสาร ยังถือว่าโชคดีที่รุ่นของเขาไม่มีปีศาจอย่างกู้จวิน ไม่เช่นนั้นชะตาของเขาคงยากลำบากเเละต้องพัฒนาฝีมือตนเองเพื่อให้มีที่ยืน!
“ พวกเธอเป็นนักเรียนกลุ่มที่ดีที่สุดที่ฉันเคยสอนมา!” โจวเจียเฉียงนั้นกล่าวยกย่องพวกเขาเป็นประจำ ซึ่งทำให้ไช่ฉีซวนเเละเจียงปันเซี่ยรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก พวกเขาถึงกลับลอบยิ้มไม่หุบไปหลายวัน
ในขณะที่กู้จวินมีความสงสัยอย่างมากว่าพี่ชายเฉียงจะพูดประโยคนั้นกับนักศึกษาใหม่ที่เข้ารับการอบรมจากเขาทุกคน
หลังจากการฝึกอบรมการผ่าตัดทางนิติเวชระยะแรกสิ้นสุดลง นักศึกษาทั้งห้าคนก็รีบดำเนินการฝึกอบรมเเผนกอายุรศาสตร์ต่อ ซึ่งสอนโดยอาจารย์หญิงอีกคนที่มีชื่อว่า ‘หวางหยิง’
สำหรับโจวเจียเฉียง…งานถัดไปของเขาก็มาถึง เหล่านักศึกษาที่เพิ่งได้รับการคัดเลือกให้เข้ามาใหม่อีกหกคนอยู่ในความดูเเลของเขาหลังจากที่เหล่าพรรคพวกของกู้จวินจากไป เเละเด็กทั้งหมดเป็น “ทาส” ทางการแพทย์จากเมืองใกล้เคียงของจังหวัดในภาคตะวันออก และได้รับการคัดเลือกจากการแข่งขันทักษะเมื่อเร็วๆนี้
เเละทุกคนบังเอิญมาเจอกันตอนที่พวกเขาทานอาหารในโรงอาหาร และเริ่มแลกเปลี่ยนเรื่องซุบซิบกันมากมาย เเละหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องพี่ชายเฉียง…เป็นไปอย่างที่กู้จวินคิด แน่นอนว่าพี่ชายเฉียง…ได้กล่าวว่าพวกเขาเป็นกลุ่มที่ดีที่สุดที่เขาเคยสอนมา…เเบบเดียวกับที่พูดกับกลุ่มของกู้จวินเป๊ะๆ
ไช่ฉีซวนกับเจียงปันเซี่ยก็ได้เเต่อ้าปากค้างด้วยความผิดหวัง ในขณะที่กู้จวินได้เเค่เลิกคิ้วก่อนจะหัวเราะกลบเกลื่อนเบาๆ