ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 1025 ยกระดับแบบจำลองการทดสอบ
บทที่ 1025 ยกระดับแบบจำลองการทดสอบ
พอได้ยินคำพูดของศีรษะไอหมอกเหลือง หานฮวงถามไปว่า “เจ้าจะแลกเปลี่ยนด้วยสิ่งใด”
ศีรษะไอหมอกเหลืองเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “หารือเรื่องมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ร่วมกัน เมื่อถึงเวลาข้าจะเป็นกำลังสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเจ้า มิใช่นั่งบงการอยู่เบื้องหลังรอชมผลลัพธ์”
หานฮวงหัวเราะ พูดว่า“หากอยากร่วมมือกับข้าก็ต้องพิสูจน์ความสามารถของเจ้าสักหน่อย!”
ตูม!
พลังอันน่าหวาดหวั่นระเบิดออกมาจากร่างหานฮวง เสื้อคลุมสะบัดไหวรุนแรง ปราณอนธการพัวพันกายหมุนวนดั่งพายุ ทะนงโอหัง
ศีรษะไอหมอกเหลืองค่อยๆ ถอยหลังไป เอ่ยยิ้มๆ “สมกับเป็นเทพมารอนธการ พลังระดับนี้ในหมู่ยอดมหามรรคนับว่าเลิศล้ำไร้พ่ายแล้ว”
หานฮวงแค่นเสียง
ศีรษะไอหมอกเหลืองเริ่มรวบรวมไอหมอกเหลืองเข้ามา ก่อตัวขยับขยายจากส่วนใต้ศีรษะ งอกเป็นกายเนื้ออย่างรวดเร็ว
หานฮวงอดทนรอคอย อยากเห็นพลังของอีกฝ่ายเช่นกัน
หลังจากสิ้นสุดงานชุมนุมฟ้าบุพกาลเขาก็ไม่เคยได้ลิ้มรสศึกใหญ่อันดุเดือดมานานมากแล้ว
“เทพมารอนธการ คุณสมบัติของเจ้าเลิศล้ำ แต่ว่านับจากโบราณมามีบุตรแห่งสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วน เจ้าเพิ่งมีตบะไม่กี่ล้านปีเท่านั้น สำหรับข้าแล้วเจ้าก็เหมือนลมหายใจหนึ่งในช่วงชีวิตมนุษย์ธรรมดาเท่านั้น”
ศีรษะไอหมอกเหลืองเอ่ยอย่างมีนัยลุ่มลึก วาจานี้หานฮวงฟังแล้วขมวดคิ้ว
“สู้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”
….
หลานล้านปีผ่านไป
[ตรวจสอบพบว่าท่านมีอายุครบห้าสิบล้านปีบริบูรณ์แล้ว ชีวิตก้าวหน้าไปอีกขั้น ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]
[หนึ่ง ออกจากปิดด่านทันที บุกเบิกอนธการขึ้นในฟ้าบุพกาล จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน ยอดสมบัติหนึ่งชิ้น]
[สอง เก็บตัวบำเพ็ญ รักษาปณิธานเดิม จะได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน โอกาสยกระดับความสามารถจากระบบหนึ่งครั้ง]
[คุณได้รับโอกาสใช้งานสวรรค์ประทานโชคหนึ่งครั้ง]
หืม
ยกระดับความสามารถของระบบ!
รางวัลนี้เป็นของใหม่!
แถมยังปรากฏขึ้นในตัวเลือกที่สองอีก หานเจวี๋ยแสดงสีหน้าพึงพอใจออกมา
ระบบรู้ความแล้ว
เขาเลือกตัวเลือกที่สอง
[ท่านเลือกเก็บตัวฝึกบำเพ็ญได้รับชิ้นส่วนมหามรรคหนึ่งชิ้น ชิ้นส่วนอนธการหนึ่งชิ้น ศิลาก่อวิญญาณหนึ่งก้อน โอกาสยกระดับความสามารถจากระบบหนึ่งครั้ง]
[โปรดเลือกความสามารถระบบที่ต้องการยกระดับ]
หานเจวี๋ยคิดไปคิดมาก็เลือกสวรรค์ประทานโชค
[สวรรค์ประทานโชคเป็นระดับสูงสุดแล้ว ไม่สามารถยกระดับได้อีก นอกจากท่านจะอยู่เหนือกว่าเทพมารปฐมยุคขึ้นไปอีก]
ใช่จริงๆ ด้วย สวรรค์ประทานโชคเกี่ยวข้องกับโลกปฐมยุค ดังนั้นมหาโชคแห่งโลกปฐมยุคจึงเลิศล้ำกว่ามหาโชคแห่งฟ้าบุพกาลของเจียงเจวี๋ยซื่อ
หานเจวี๋ยคิดดูอีกครั้ง ตัดสินใจเลือกแบบจำลองการทดสอบ
ตลอดเส้นทางบำเพ็ญนี้ แบบจำลองการทดสอบมีประโยชน์สูงสุด ทำให้หานเจวี๋ยประเมินพลังศัตรูของตนได้
[เลือกยกระดับแบบจำลองการทดสอบใช่หรือไม่]
‘ใช่!’
[เริ่มยกระดับแบบจำลองการทดสอบ]
จำเป็นต้องรอเวลาไปอีกสักระยะเหมือนเดิม
หานเจวี๋ยหันเหความสนใจไปยังชิ้นส่วนมหามรรค รวบรวมชิ้นส่วนมหามรรคครบเก้าชิ้นแล้ว แต่พลังวิเศษมหามรรคไม่ได้จำเป็นสำหรับเขาแล้ว
ไม่สู้เก็บเอาไว้ก่อนเถอะ วันหน้าอาจจะได้ใช้ประโยชน์
ชิ้นส่วนมหามรรคเก้าชิ้นสามารถสรรค์สร้างพลังวิเศษมหามรรคได้ เช่นนั้นหากมีเก้าสิบเก้าชิ้นเล่า
หานเจวี๋ยตั้งตารอยิ่งนัก
หานเจวี๋ยอยู่ว่างไม่มีอะไรทำจึงตัดสินใจหยุดพัก เขามองไปที่หานหลิง
หานหลิงรับรู้ได้ถึงสายตาของเขาจึงลืมตาขึ้น รอให้หานเจวี๋ยเอ่ยสั่งการ
ตบะของสาวน้อยคนนี้บรรลุถึงยอดมหามรรคระยะสมบูรณ์แล้ว เร็วจริงๆ
แต่เมื่อเทียบกับหานเจวี๋ยยังคงนับว่าช้ามาก ถึงอย่างไรสองพ่อลูกก็อายุห่างกันแค่สิบล้านปีเท่านั้น
ตอนอายุเท่านาง หานเจวี๋ยก็บรรลุผู้สร้างมรรคาแล้ว
“ระยะนี้พบอุปสรรค์ในการบำเพ็ญหรือไม่” หานเจวี๋ยถาม
หานหลิงตอบว่า “พบจริงๆ เจ้าค่ะ โลกที่ข้าบุกเบิกขึ้นยากจะสำเร็จเป็นโลกมหามรรคดั่งที่ท่านพ่อกล่าวถึงได้ ข้าไม่สามารถรวบรวมมหามรรคสามพันวิถีขึ้นมาได้ เช่นนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ”
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “มหามรรคต้นกำเนิดที่พ่อสอนเจ้าไปผสานรวมแก่นแท้แห่งมหามรรคสามพันวิถีไว้ สามารถดูดซับพลังกฎเกณฑ์จากมหามรรคสามพันวิถีแห่งฟ้าบุพกาลได้ แล้วค่อยพัฒนาเป็นมหามรรคสามพันวิถีของตัวเอง”
หานหลิงกระจ่างขึ้นมาทันที นางผุดลุกขึ้นมา “ท่านพ่อ ข้าต้องการออกไปเจ้าค่ะ!”
หานเจวี๋ยพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ส่งนางออกจากอาณาเขตเต๋าแห่งที่สาม
หานหลิงโผล่มายังฟ้าบุพกาลทันที นางมุ่งไปยังด้านล่างของมหามรรคสามพันวิถี เริ่มดำเนินการ
จะว่าไปนี่นับเป็นครั้งแรกที่สาวน้อยคนนี้ออกมาตามลำพัง หานเจวี๋ยค่อนข้างกังวลจึงคอยจับตามองนาง
ด้วยตบะของนางนับว่าหาคู่ต่อสู้ในฟ้าบุพกาลได้น้อยยิ่ง แต่หานเจวี๋ยเกรงว่านางจะถูกหลอกเอาได้
มีเทพธิดามากมายเพียงใดที่ถูกมนุษย์หลอกล่อทำให้จิตใจหวั่นไหว เรื่องราวเช่นนี้ในอดีตหานเจวี๋ยเคยฟังมานักต่อนักแล้ว
นี่คือธิดาหัวแก้วหัวแหวนของหานเจวี๋ย ไหนเลยจะปล่อยให้ถูกคนถ่อยคว้าตัวไปได้
หานเจวี๋ยคอยเฝ้ามองเงียบๆ
หานหลิงดูดซับพลังกฎเกณฑ์จากมหามรรคสามพันวิถี ไม่นานนักก็ดึงดูดให้เหล่าผู้ทรงพลังรู้ตัว แต่พอผู้ทรงพลังคนนั้นเห็นหานหลิงยังไม่ทันพูดอะไรก็รีบถอยหนีไปอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสของเขาที่เคยเข้าร่วมงานชุมนุมฟ้าบุพกาลครั้งก่อน จดจำรูปโฉมของหานหลิงได้ จึงถ่ายทอดเสียงให้เขารีบไสหัวกลับไปทันที อย่าได้ล่วงเกินธิดาของอริยะสวรรค์
ไม่นานนักเทพมหาทัณฑ์ก็มาถึง เข้ามาพูดคุยกับหานหลิง การปรากฏตัวขึ้นของเขาทำให้เหล่าผู้ทรงพลังและผู้มีอิทธิพลของกลุ่มต่างๆ ไม่กล้าปริปาก
หานหลิงดูดซับพลังกฎเกณฑ์ไปพลางสนทนากับเทพมหาทัณฑ์ไปพลาง
เมื่ออยู่ต่อหน้าเทพมหาทัณฑ์นางมีท่าทีอ่อนน้อมดั่งชนรุ่นเยาว์ ทำให้เทพมหาทัณฑ์พอใจยิ่ง เอ่ยชมเชยไม่ขาดปาก
ร้อยปีต่อมา หานฮวงและหานทั่วก็มาหาหานหลิง พี่น้องรวมตัวกันย่อมครึกครื้นนัก
ในเวลาเดียวกันนี้
ข้อความแถวหนึ่งเด้งขึ้นมาตรงหน้าหานเจวี๋ย
[แบบจำลองการทดสอบยกระดับเสร็จสิ้น]
[แบบจำลองการทดสอบ: ท่านสามารถตั้งค่าระดับขั้นตบะและพลังของคู่ต่อสู้เพื่อจำลองการต่อสู้ได้ สามารถวิวัฒนาการระดับตบะในช่วงอดีตและขีดจำกัดในอนาคตของศัตรูตามขีดความสามารถของระบบ อีกทั้งสามารถตรวจสอบสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลกมหามรรคทั้งใบได้ โดยจะทำการคัดลอกพลังของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดมาใช้สำหรับต่อสู้ ผลลัพธ์จากการต่อสู้จะไม่กระทบต่อสภาพจิตใจและร่างกายในความเป็นจริง ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการต่อสู้]
วิวัฒนาการขีดจำกัดตบะในอนาคตของศัตรูได้!
ขอบเขตการตรวจสอบคือโลกมหามรรคทั้งใบ!
ดวงตาหานเจวี๋ยพลันเปล่งประกาย ตื่นเต้นปรีดาอยู่ในใจ
กล่าวก็คือเขาสามารถตรวจสอบตบะของทั่วฟ้าบุพกาลได้ เลือกต่อสู้ได้ตามใจชอบ ทั้งยังต่อสู้กับพวกเขาในยุคอนาคตได้!
อารมณ์หานเจวี๋ยเบิกบาน รีบตรวจสอบทั่วทั้งฟ้าบุพกาลทันที จากนั้นก็เริ่มใช้งานแบบจำลองการทดสอบ
เขาท้าสู้กับสรรพสิ่งทั้งหมดในฟ้าบุพกาล ตั้งค่าให้ระบบแสดงตบะในขีดสูงสุดของสรรพสิ่งทั้งหมดในอนาคต
ยอดเยี่ยมมาก!
ไม่ตั้งค่ายังพอว่า แต่พอตั้งค่าแล้วมีผู้สร้างมรรคาปรากฏตัวขึ้นถึงยี่สิบกว่าคน อริยะมหามรรคก็มีจำนวนเกินแสนคนไปแล้ว!
ฟ้าบุพกาลยังคงเลิศล้ำนัก แฝงเร้นบุตรแห่งสวรรค์อันแสนล้ำเลิศไว้มากมาย
ผู้สร้างมรรคาเหล่านี้ ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคนคุ้นเคยของหานเจวี๋ยทั้งสิ้น ส่วนที่เหลือไม่เคยพบมาก่อน
มีหลายคนที่ทำให้หานเจวี๋ยประหลาดใจ พวกเขาก็สามารถพิสูจน์ผู้สร้างมรรคาได้อย่างนั้นหรือ
มองข้ามไปแล้วจริงๆ
หานเจวี๋ยเริ่มตั้งสมาธิต่อสู้
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขากวาดล้างสรรพสิ่ง!
ไม่มีแรงกดดันเลยสักนิด!
หานเจวี๋ยเริ่มท้าสู้มหาเทวาพ้นนิวรณ์ในสภาวะสูงสุด พบว่ามหาเทวาพ้นนิวรณ์ในระดับสูงสุดก็ไม่ได้แกร่งไปกว่าปัจจุบันนี้สักเท่าไร
ด้วยเหตุนี้หานเจวี๋ยจึงจมจ่อมอยู่ในแบบจำลองการทดสอบ
หลายหมื่นปีต่อมา
หานหลิงดูดซับพลังกฎเกณฑ์เสร็จสิ้น เตรียมจะจากไป ทันใดนั้นนางมองเห็นว่าไม่ไกลออกไปมีเงาร่างหนึ่งกำลังดูดซับพลังมหามรรคอยู่เช่นกัน
นางเพ่งมองให้ละเอียด เป็นเหล่าจื่อ
หานหลิงเคยฟังเรื่องของเหล่าจื่อมาจากหานเจวี๋ย รู้จักหน้าตาของเขา คนผู้นี้คือผู้ทรงพลังชั้นแนวหน้า
เหล่าจื่อรับรู้ได้ถึงสายตาของนาง ผงกหัวให้นางเล็กน้อยนับว่าเป็นการทักทายแล้ว
หานหลิงคำนับก่อนเตรียมตัวจากไป
“สหายน้อยหานหลิง ข้ามีวาจาหนึ่งไม่รู้ว่าจะกล่าวดีหรือไม่”
จู่ๆ เสียงของเหล่าจื่อก็แว่วเข้าสู่หูหานหลิง