ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 1090 บ่วงกรรมมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่
บทที่ 1090 บ่วงกรรมมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่
“เห็นทีว่าจิตใจข้าจะยังหนักแน่นไม่พอ มีเพียงตบะมหาศาลทว่าไร้ซึ่งมรรคจิต”
หานฮวงพึมพำกับตัวเอง ทุกครั้งที่เขาสับสนล้วนจะนึกถึงบิดาของตนขึ้นมา
ตามความเข้าใจของเขา บิดาเขาไม่เคยสูญเสียการควบคุมเลยและมิเคยมีโทสะขุ่นแค้น ไม่ว่าโลกภายนอกจะมีสีสันและวุ่นวายมากเพียงใด ท่านพ่อก็จมจ่อมอยู่กับการปิดด่านฝึกบำเพ็ญของตนตลอดมา
เขาก็อยากเป็นเช่นนี้ด้วย ดังนั้นช่วงที่ผ่านมาจึงไม่ออกไปก่อคลื่นลมเลย แต่เวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้วในใจเขากลับเกิดกระแสคับข้องโกรธาขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุมได้
หานฮวงรู้สึกว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปจะเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเขา
หากสูญเสียการควบคุมไปจะส่งผลร้ายต่อตัวเขาและเหล่าสรรพสิ่ง
รู้สึกหว่าเว้ จากนั้นก่อกำเนิดจิตสังหาร เขาในตอนนี้ก็รู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน
แต่ความคิดที่ต้องการทำลายล้างสรรพสิ่งเพิ่มพูนขึ้นภายในใจเขาอย่างไม่อาจระงับไว้ได้ เขาสยบลงไปได้ยากนัก
หานฮวงลุกขึ้นแล้วเคลื่อนย้ายไปยังวังสวรรค์
ภายในโลกวังสวรรค์ ณ อุทยานหลวง
หานฮวงร่ำสุราเซียนอยู่กับจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายสำเร็จเป็นยอดมหามรรคแล้ว ท่วงท่ากริยาน่าเกรงขามขึ้นมาก เทียบกับราศีที่เกิดจากการสั่งสมอำนาจก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้กลับดูสง่างามมั่นใจเนื่องจากพลังอย่างแท้จริง
หานฮวงบอกเล่าถึงความกลัดกลุ้มของตน
พอได้ยินว่าหานฮวงมีจิตสังหารเช่นนี้ จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายขมวดคิ้วขึ้นมา
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยอย่างใช้ความคิด “ดูเหมือนเทพมารอนธการจะน่ากลัวกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ ไม่แปลกเลยที่เทพมารอนธการถือกำเนิดขึ้นก่อนฟ้าบุพกาล ฮวงเอ๋อร์ เมื่อเจ้าเป็นเทพมารอนธการ บิดาเจ้าก็คงไม่มีทางเป็นเทพมารฟ้าบุพกาลไปได้ เขาสะกดจิตสังหารของตนไว้ได้ แล้วเหตุใดเจ้าถึงทำไม่ได้เล่า”
หานฮวงเอ่ยด้วยรอยยิ้มขมขื่น “ฟ้าบุพกาลรองรับเทพมารอนธการได้เพียงตนเดียว ท่านพ่อถ่ายทอดสายเลือดให้ข้า ข้าถึงกำเนิดออกมาได้”
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ไม่แปลกเลยที่เจ้าจะอยู่ในครรภ์นานถึงเพียงนั้น”
“ข้ากลัวว่าจะทำผิดต่อความคาดหวังของท่านพ่อ ดังนั้นจึงไม่กล้าปลดปล่อยนิสัยออกมา”
หานฮวงเอ่ยอย่างกังวลพะวักพะวง ไม่มีความหยิ่งผยองเช่นแต่ก่อนแล้ว
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายหรี่ตาเอ่ยไปว่า “เป็นไปได้หรือไม่ว่าสถานการณ์ที่เจ้าเผชิญอยู่ในตอนนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับสายเลือด แต่เป็นเพราะมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่จำเป็นต้องขับเคลื่อนโดยเทพมารอนธการ ในมุมมองของเราน่าจะไม่ได้ง่ายดายตามที่ลือกันอยู่แน่นอน น่าจะมีความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างเทพมารอนธการและมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่”
หานฮวงเผยสีหน้าตกตะลึง
หากเป็นเช่นนี้ก็แปลว่าปัญหาไม่ได้เกิดจากเขาเช่นนั้นหรือ
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยอย่างจริงใจห่วงใย “ฮวงเอ๋อร์ เจ้าควรจะไปหาบิดาของเจ้า เราไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใดที่ทำให้เจ้าไม่อยากไปรบกวนบิดาของเจ้า ไม่ใช่แค่เจ้าเท่านั้น ทั่วเอ๋อร์ก็เช่นกัน หากว่ากันในมุมของผู้เป็นบิดาแล้ว บิดาของพวกเจ้าคงไม่ได้รู้สึกดีเลย”
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายนึกถึงโอรสเหล่านั้นของตน คิดๆ แล้วก็ได้แต่กัดฟันกรอด หากไม่อกตัญญูต่อเขาก็คิดจะล้มล้างเขาทั้งสิ้น
โดยเฉพาะหลงเฮ่า โชคดีที่ตอนนั้นเขาฝากฝังหลงเฮ่าให้หานเจวี๋ยอบรม
หลงเฮ่าเคารพนับถือหานเจวี๋ยมากกว่าเขามากนัก คาดว่าถึงแม้หานเจวี๋ยจะสั่งให้หลงเฮ่าไปตาย เด็กคนนั้นก็คงยินดีทำ
พอหานฮวงได้ฟังก็เงียบไป
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายยกจอกสุราขึ้นมา ไม่รบกวนความคิดของเขาเช่นกัน
“แต่ท่านพ่อหวั่นเกรงปัญหายุ่งยากยิ่งนัก ปกติจะยุ่งอยู่กับการปิดด่าน…” หานฮวงขมวดคิ้ว
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายเอ่ยยิ้มๆ “นั่นมันเมื่อก่อนตอนที่เขายังไม่แข็งแกร่งมากพอย่อมเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้าคิดว่ายังจะมีผู้ใดต่อกรกับบิดาเจ้าได้อีกหรือ”
หานฮวงรู้แจ้งเบิกปัญญาในทันใด
ใช่แล้ว
นั่นคือเมื่อก่อน!
ดีร้ายอย่างไรหานฮวงก็ท่องอยู่ในฟ้าบุพกาลมาเนิ่นนาน เมื่อลองคิดดูก็นึกไม่ออกเลยว่าจะมีผู้ใดที่ต่อกรกับหานเจวี๋ยได้ เขาตะลึงงันไป
แม้แต่ผู้ครองพ้นนิวรณ์ก็เคยกล่าวไว้ว่าในหมู่ผู้ครองโลกมหามรรคไม่มีผู้ใดสู้บิดาเขาได้
ส่วนเจ้านวฟ้าบุพกาล หานฮวงยังไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน
สำหรับเขาและจักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้าย เจ้านวฟ้าบุพกาลคือตัวตนที่ไม่รู้จัก ไม่เคยได้ยินแม้แต่ตำนานเล่าขาน
หลังจากหานฮวงคิดได้ก็ลุกขึ้นจากไปทันที
จักรพรรดิสวรรค์ผู้ชั่วร้ายส่ายหน้าเอ่ยไปว่า “เจ้าตัวแสบ รีบร้อนเสียจริง คงต้องเอาสุราไปดื่มกับพี่ใหญ่ของเขาเสียแล้ว”
“จะว่าไป ยามใดถึงจะได้ไปดื่มกับบิดาของเขากันนะ”
….
สิบล้านปีผ่านไป
หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น เขารับรู้ได้ว่าหานฮวงรออยู่ด้านนอก เฝ้ารอมาหลายล้านปีแล้ว
เขาเรียกหานฮวงเข้ามาก จากนั้นก็เริ่มตรวจดูกล่องจดหมาย
[หานจงเต้าเชื้อสายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[หานฝานเชื้อสายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
[หลงหมิงกู่เชื้อสายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังลึกลับ]
….
[หานหลิงบุตรีของท่านได้รับการเข้าฝันจากตัวตนเหนือชั้น พลังมรรคเพิ่มมหาศาลฉับพลัน]
[เต้าจื้อจุนศิษย์ของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญพิสุทธิ์] x40982182
[ศิษย์ของท่าน…]
….
[หวงจุนเทียนสหายของท่านสรรค์สร้างพลังวิเศษอนธการขึ้น พลังมรรคเพิ่มมหาศาลฉับพลัน]
[หานทั่วบุตรชายของท่านเข้าสู่แม่น้ำดวงชะตา]
….
จดหมายแต่ละฉบับช่างคึกคักโดยแท้ หานเจวี๋ยอ่านอย่างได้อรรถรส
หานฮวงเดินเข้ามาตรงหน้าหานเจวี๋ย คำนับอย่างนอบน้อม เอ่ยขึ้นว่า “ท่านพ่อ ลูกมาหาท่านด้วยต้องการความช่วยเหลือจากท่านพ่อขอรับ”
“ว่ามาเถิด”
“ระยะนี้ลูกเกิดจิตสังหารขึ้นภายในใจ มักจะคิดอยู่เสมอ…”
หานฮวงเล่าถึงปัญหาของตนทำให้หานเจวี๋ยนึกสนใจขึ้นมา
จะว่าไปแล้ว ถึงแม้จะเป็นเทพมารอนธการเหมือนกัน แต่หานเจวี๋ยเป็นเทพมารอนธการที่ผ่านการวิวัฒนาการแล้ว แต่หานฮวงกลับแตกต่างออกไป เขาเป็นเทพมารอนธการแต่กำเนิด หากว่าวิเคราะห์จากอีกแง่มุมหนึ่งแล้วหานเจวี๋ยและเขาต่างมีแนวทางและตรรกะที่แตกต่างกัน
มังกรแม้จะถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ธรรมดาแต่ก็ไม่มีทางผสานเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์อย่างสมบูรณ์ได้ นี่คือความห่างชั้นทางสายเลือด
หานเจวี๋ยจำเป็นต้องใช้ความสามารถวิวัฒนาการ
‘เหตุใดหานฮวงจึงต้องการทำลายล้างสรรพสิ่งฟ้าบุพกาล’
[จำเป็นต้องหักอายุขัยห้าแสนล้านปี จะดำเนินการต่อหรือไม่]
ดำเนินการต่อ!
[เป็นผลกระทบจากบ่วงกรรมมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ เชื่อมโยงกับกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติของดินแดนเวิ้งว้าง]
ดินแดนเวิ้งว้างก็มีกฎเกณฑ์เหนือธรรมชาติเช่นนั้นหรือ
ก็ถูกแล้ว
ทุกสิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นมาสุดท้ายล้วนต้องมีต้นกำเนิด ฟ้าบุพกาลถือกำเนิดจากอนธการ อนธการกำเนิดจากความเวิ้งว้าง ส่วนความเวิ้งว้างจะเป็นการดำรงอยู่เช่นไร นี่คือปัญหาที่หานเจวี๋ยยังไม่เข้าใจในขณะนี้
เมื่อเป็นเช่นนี้ดูเหมือนมหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่จะต้องการให้หานฮวงออกอาละวาด ก่อให้เกิดสงครามวุ่นวายกับเหล่าสรรพสิ่ง ทำลายฟ้าบุพกาลให้แตกแยก ยุคสมัยไร้สิ้นสุดถึงจะมาเยือน
แต่จู่ๆ หานฮวงก็นึกอยากทำลายล้างฟ้าบุพกาลขึ้นมา ดูไม่สมเหตุสมผลเลย
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่มีทางเลือกแล้ว
หานเจวี๋ยเอ่ยอย่างมีนัยลุ่มลึกว่า “ในเมื่อควบคุมไม่ได้ เช่นนั้นก็ปล่อยไปตามใจเถิด”
หานฮวงตะลึงงัน นึกว่าตนฟังผิดไป
หานเจวี๋ยเอ่ยว่า “ในเส้นทางแห่งการบำเพ็ญ ผู้ใดบ้างที่ปราศจากแรงกรรม จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์เพื่อความเป็นระเบียบ เพื่อความเป็นระเบียบจำต้องมีการกวาดล้างสังหาร เจ้าอาจจะต้องทำผิดต่อเหล่าสรรพสิ่ง แต่เจ้าจะกลายเป็นผู้มีคุณูปการอันดับหนึ่งที่นำพายุคสมัยไร้สิ้นสุดมาสู่สรรพสิ่งรุ่นหลัง ในยุคสมัยไร้สิ้นสุดจะมีเผ่าพันธุ์ใหม่ปรากฏขึ้นแน่นอน เพื่อให้กำเนิดโลกใหม่จำเป็นต้องมีการทำลายล้างสังหาร เดิมทีก็เป็นวิถีหนึ่งในกฎเกณฑ์อยู่แล้ว
“ดำเนินการสังหารเพราะกฎเกณฑ์เป็นเรื่องที่สรรพสิ่งสามารถยอมรับได้ สรรพสิ่งทนรับไม่ได้เพียงการถูกสังหารโดยสรรพสิ่งด้วยกันเท่านั้น แต่หากฝ่าด่านนี้ไปได้ เจ้าจะอยู่เหนือสรรพสิ่ง”
หานฮวงขมวดคิ้วแน่น เจตนาสังหารในแววตาเริ่มแผ่ซ่านออกมา
พอได้รับการสนับสนุนจากหานเจวี๋ย เขาย่อมไม่ควบคุมเจตนาสังหารอีกต่อไป
อันที่จริงเหตุที่เขาไม่กล้าลงมือกับสรรพสิ่งก็เพราะกลัวหานเจวี๋ยจะผิดหวัง ยามนี้พอหานเจวี๋ยสนับสนุนเขา เช่นนั้นเขาจะมีเรื่องใดที่คิดไม่ตกอีกเล่า
“มหาเคราะห์มรรคายิ่งใหญ่ก็เป็นเช่นนี้ เจ้าต้องต่อสู้กับสรรพสิ่ง สังหารทำลายฟ้าบุพกาลให้พินาศ พินาศเพื่อสร้างขึ้นใหม่!”
หานเจวี๋ยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม แม้วาจาจะไร้เมตตาแต่นี่คือความเป็นจริง
หานฮวงเอ่ยถาม “เช่นนั้นพอยุคสมัยไร้สิ้นสุดมาเยือนลูกจะเป็นอย่างไร จะไม่ต้องสูญเสียสิ่งใดเพื่อแลกเปลี่ยนเลยจริงๆ น่ะหรือ”
เขาไม่ได้โง่ เขาเคยได้ยินตำนานเล่าขานของมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตในมรรคาสวรรค์มามากมาย เรื่องของบรรพชนมาร บรรพชนจอมเวท จักรพรรดิปีศาจและจักรพรรดินีปีศาจ ถึงแม้จะเป็นผู้ขับเคลื่อนมหาเคราะห์แต่ทั้งหมดล้วนไม่มีจุดจบที่ดีเลย ผู้ที่ได้ผลประโยชน์มีเพียงตัวตนที่ชักใยบงการทุกอย่างอยู่เบื้องหลัง
หานเจวี๋ยตอบว่า “แน่นอนว่าย่อมมีคนที่อ้างความชอบธรรมเพื่อมาสังหารเจ้า เพื่อให้ได้รับมหาโชคอันยิ่งใหญ่”