ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ - บทที่ 308 กินจักรพรรดิเซียนแปดวัฏสดๆ
การปรากฏตัวของเซวี่ยหมิงเหอทำให้หานเจวี๋ยประหม่ามาก เพราะกลัวว่าฝ่ายตรงข้ามจะบุกมาฆ่าแบบปุบปับ
เขาถ่ายทอดเสียงไปหาทุกคนทันที ให้ทุกคนกลั้นหายใจรวบรวมสมาธิและห้ามส่งเสียง
อันที่จริงเขาทำเช่นนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์ อาณาเขตเต๋าสามารถปิดกั้นสถานการณ์ภายในได้ รวมถึงพลังจิตและเสียงด้วย แต่การทำเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ศิษย์ทุกคนรวมทั้งจอมปีศาจคุกรัตติกาลและต้วนหงเฉินตกใจกลัว สามารถทำให้หานเจวี๋ยระมัดระวังตัวเช่นนี้ได้ แสดงว่ามีผู้แข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวกำลังมาเยือนจริงๆ!
แม่น้ำปรโลกโหมซัดอย่างต่อเนื่อง ราวกับว่ามีสัตว์ยักษ์อะไรสักอย่างกำลังจะพุ่งผ่านผิวน้ำขึ้นมา
เวลานี้เอง
เสียงแหวกอากาศดังขึ้นมาสายแล้วสายเล่า เงาร่างที่แผ่กลิ่นอายน่ากลัวหลายร่างบินโฉบเข้ามา หนึ่งในนั้นก็มีพระกษิติครรภ์ด้วย
คนที่สะดุดตาที่สุดคือบุรุษในชุดคลุมมังกรสีดำ สวมมงกุฎหรูหราบนศีรษะ หนวดเคราเต็มใบหน้า นัยน์ตาน่าเกรงขาม กลิ่นอายที่แผ่ซ่านออกมากดดันอย่างถึงที่สุด
ครั้นหานเจวี๋ยมองเห็นเขา ก็ตรวจหาคนที่แข็งแกร่งที่สุดรอบๆ อาณาเขตเต๋าใหม่ทันที
[พญายม: ไม่ทราบตบะ เจ้าแห่งเมืองนรก]
ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดเปลี่ยนจากเซวี่ยหมิงเหอเป็นพญายม หานเจวี๋ยถอนหายใจโล่งอกเบาๆ
อย่างน้อยพญายมก็เป็นเจ้าแห่งด้านสว่างของยมโลก ค่อนข้างเที่ยงตรง น่าจะไม่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์โดยไม่มีเหตุผล
ถ้าเซวี่ยหมิงเหอไม่สามารถเอาชนะเขาได้จะต้องหลบหนีเป็นแน่
หานเจวี๋ยเฝ้ารออย่างเงียบๆ
พญายมนำกลุ่มผู้แข็งแกร่งจากยมโลกมาถึงบนแม่น้ำปรโลก มองลงไปที่คลื่นพายุโหมกระหน่ำเบื้องล่าง
“เซวี่ยหมิงเหอ หากเจ้าเล่นไม่ซื่อ อย่าโทษว่าข้าคนนี้ไม่เกรงใจ!”
พญายมกล่าวด้วยน้ำเสียงเจือโทสะ
เพิ่งสิ้นเสียงคลื่นพายุโหมกระหน่ำก็หยุดลง ระหว่างฟ้าดินเต็มไปด้วยพลานุภาพสะกด
หานเจวี๋ยเฝ้ารออย่างหวั่นวิตก
หลังจากนั้นสักครู่ เสียงของเซวี่ยหมิงเหอก็ดังขึ้นว่า “พญายม มหาเคราะห์มาแล้ว หรือว่ายมโลกไม่อยากผงาดขึ้นมา?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พญายมพูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึกว่า “อย่าบอกนะว่าคนน่าเวทนาของแดนชำระบาปเก้าขุมอย่างเจ้าช่วยข้าได้ เจ้าเป็นผู้แพ้ในมหาเคราะห์ไร้ขอบเขตนานแล้ว แค่อยู่รอดไปวันๆ ในขุมนรกเท่านั้นเอง”
เซวี่ยหมิงเหอกล่าวเย้ยหยัน “อย่างน้อยข้าก็กล้าที่จะต่อสู้ แล้วเจ้าล่ะ”
พญายมนิ่งเงียบไป
ซู้ม!
ลำแสงสีเลือดสายหนึ่งพุ่งออกมาจากกลางแม่น้ำปรโลก ชั่วพริบตาก็ลับขอบฟ้าหายไป
พญายมรวมถึงผู้แข็งแกร่งจากยมโลกไล่ตามไปในทันที
แม้แต่ระดับต้าหลัวก็ยังไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของอาณาเขตเต๋า เว้นเสียแต่ว่าเกาะสำนักซ่อนเร้นจะเป็นฝ่ายเผยตัวเอง
หานเจวี๋ยถอนใจด้วยความโล่งอก
ดูเหมือนว่าการยกระดับระบบยังคงสำคัญมาก
ถ้าไม่เคยยกระดับมาก่อน ครั้งนี้จะต้องถูกเจอตัวแน่
หานเจวี๋ยอยู่ในสภาวะตื่นตัว ตรวจสอบผู้แข็งแกร่งที่สุดรอบๆ เกาะสำนักซ่อนเร้นอีกครั้ง
[มังกรเก้าขุมนรก: จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ นักโทษของแดนชำระบาปเก้าขุม]
จักรพรรดิเซียนแปดวัฏ!
หานเจวี๋ยตกใจ รีบใช้แบบจำลองการทดสอบอย่างรวดเร็ว
หนึ่งอึดใจต่อมาเขาก็ลืมตาขึ้น
อันตรายนัก
โชคดีที่สามารถปลิดชีพในฉับพลันได้
เขาตรวจหาต่อไป หลังจากยืนยันว่าไม่มีผู้แข็งแกร่งคนอื่นอยู่รอบๆ จึงค่อยวางใจ
‘หวังว่าแมลงตัวนี้จะไม่มาหาเรื่องอีก ไม่อย่างนั้น…’
หานเจวี๋ยครุ่นคิดเงียบๆ ในดวงตาแฝงเจตนาสังหาร
ใต้ต้นฝูซัง
ลี่เหยาถามอย่างหวาดหวั่นว่า “พวกเขาไปแล้วหรือ”
ต้วนหงเฉินพยักหน้า
จอมปีศาจคุกรัตติกาลเพ่งสายตาพลางกล่าวว่า “ยังมีอีกคนอยู่ใต้เกาะของพวกเรานี่เอง แข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งกว่าข้ามากเชียวล่ะ!”
เมื่อทุกคนได้ยินก็พากันตื่นตกใจ
ทะเลรอบเกาะสำนักซ่อนเร้นโหมซัดอีกครั้ง เกาะสำนักซ่อนเร้นก็สั่นสะเทือนรุนแรงตามไปด้วย
หานเจวี๋ยถอดพลังจิตไปสอดส่องดูใต้เกาะ ก่อนที่เขาจะเห็นสัตว์มหึมาตัวหนึ่ง
ลำพังแค่ดวงตาก็มีเส้นผ่านศูนย์กลางหลายสิบลี้ น่ากลัวสุดขีด
มังกรเก้าขุมนรก!
เจ้านี่จ้องเล่นงานเกาะสำนักซ่อนเร้น และกำลังคืบคลานเข้ามาใกล้อย่างเงียบๆ
หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว เขารีบใช้พลังจิตปกคลุมเกาะเล็กของสำนักซ่อนเร้นซึ่งดูเหมือนหินโสโครกแหลมๆ นี้ไว้
เขาใช้พลังจิตผลักเกาะสำนักซ่อนเร้นออกไปอย่างรวดเร็ว
มังกรเก้าขุมนรกไล่ตามมาทันที
ไม่ผิดคาด! เจ้าหมอนี่กำลังจ้องเล่นงานเกาะสำนักซ่อนเร้นจริงๆ
หานเจวี๋ยถ่ายทอดเสียงไปหา “นี่ท่านกำลังจะทำอะไร”
“จะทำอะไรหรือ แน่นอนว่าจะกินพวกเจ้าน่ะสิ!”
เสียงหัวเราะของมังกรเก้าขุมนรกทั้งเหิมเกริมและโหดเหี้ยม ราวกับว่าจะกินเกาะสำนักซ่อนเร้นได้แน่แล้ว
“เอาจริงหรือ”
“พูดพล่ามไร้สาระ!”
เมื่อหานเจวี๋ยได้ยินก็หายไปจากถ้ำเทวาทันใด
ตูม!
ศิษย์สำนักซ่อนเร้นทั้งหมดได้ยินเสียงระเบิดดังสะเทือนแก้วหู ทั้งเกาะสำนักซ่อนเร้นถูกยกลอยขึ้นไปในอากาศ
ทุกคนตกใจยกใหญ่ นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น
เวลานี้เกาะสำนักซ่อนเร้นร่วงลงบนแม่น้ำปรโลกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็แอบหนีไปด้วยความเร็วสูง ออกห่างไปหลายพันลี้เพียงชั่วอึดใจ
จอมปีศาจคุกรัตติกาลพูดด้วยความประหลาดใจ “กลิ่นอายของเจ้านั่นหายไปแล้ว!”
เสียงของหานเจวี๋ยดังมา “มันตายแล้ว”
จอมปีศาจคุกรัตติกาลตกตะลึงในใจ
ต้วนหงเฉินก็ตกใจเช่นกัน
ศิษย์คนอื่นๆ กลับถอนหายใจโล่งอก ไม่ได้ตื่นตระหนกกันสักเท่าใด
เมื่ออยู่ต่อหน้าหานเจวี๋ย ไม่ว่าศัตรูคนใดก็ถูกปลิดชีพในฉับพลันได้
เกาะสำนักซ่อนเร้นยังคงเดินหน้าต่อไป
ผ่านไปครึ่งชั่วยามเต็ม หานเจวี๋ยจึงค่อยให้เกาะสำนักซ่อนเร้นหยุดลง
เขาเดินออกมาจากถ้ำเทวาฟ้าประทานแล้วกล่าวว่า “หงส์คุกรัตติกาล สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น อีกาทอง ราชามังกรสามหัว มานี่ให้หมด!”
เขามาที่ระหว่างภูเขาและแม่น้ำ โบกมือขวาคราหนึ่งเพื่อปล่อยศพของมังกรเก้าขุมนรกออกมา
มังกรเก้าขุมนรกเป็นมังกรดำ เกล็ดมังกรค่อนข้างยาว ราวกับว่าทั่วร่างกายถูกปกคลุมด้วยหนามแหลม ทั้งดุร้ายและน่ากลัว
ทุกคนในสำนักซ่อนเร้นต่างบินเข้ามา เมื่อเห็นซากศพขนาดใหญ่ของมังกรเก้าขุมนรกก็อดตะลึงไม่ได้
“นี่คือมังกรอะไรกัน”
“ผู้แข็งแกร่งลึกลับที่จอมปีศาจคุกรัตติกาลเพิ่งพูดถึงหรือ”
“มังกรตัวนี้ดูชั่วร้ายมาก”
“อาจารย์ปู่จะให้พวกเขากินหรือ”
“แน่นอนอยู่แล้ว ไก่คุกรัตติกาลพุ่งเข้าไปเร็วที่สุดเลย!”
ทุกคนต่างพูดชมไม่ขาดปาก ไม่จำเป็นต้องให้หานเจวี๋ยพูดมากความ คนเหล่านั้นที่เขาขานชื่อก็กระโจนไปที่ศพของมังกรเก้าขุมนรกแล้ว จากนั้นก็เริ่มฉีกกินสดๆ
ร่างของมังกรเก้าขุมนรกถูกหานเจวี๋ยย่อขนาดลงแล้ว ไม่เช่นนั้นเกาะสำนักซ่อนเร้นก็ไม่อาจจุมันได้
หานเจวี๋ยมองภาพฉากที่โหดร้ายทารุณเบื้องหน้า แต่ว่าไม่รู้สึกอึดอัดเลยสักนิด ตรงข้ามกลับตั้งตาคอยมาก
กายเนื้อของจักรพรรดิเซียนแปดวัฏจะทำให้เจ้าพวกนี้แข็งแกร่งขึ้นได้หรือไม่
คนอื่นๆ ก็อยากรู้เช่นกัน
ถูหลิงเอ๋อร์มองไปทางอู้เต้าเจี้ยน ทำเสียงจิ๊ๆ อย่างแปลกใจ “เจ้าพวกนี้ดูว่าง่ายในยามปกติ คิดไม่ถึงว่าจะโหดร้ายกันขนาดนี้”
อู้เต้าเจี้ยนพยักหน้า พูดด้วยอาการตกใจกลัวไม่หาย “ใช่น่ะสิ ต่อไปต้องระวังพวกเขาไว้หน่อย”
ไม่นานหลังจากนั้น ราชามังกรสามหัวก็ล้มลงกับพื้น ร่างกายกระตุกเกร็ง มีเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ด
เขาแบกรับเลือดเนื้อของจักรพรรดิเซียนแปดวัฏไม่ไหว
หานเจวี๋ยปรากฏตัวข้างๆ ราชามังกรสามหัวทันใด ก่อนจะใช้พลังเวทของตัวเองรักษาให้
สถานการณ์ของคนที่เหลือยังดีอยู่ สายเลือดของพวกเขาล้วนไม่ธรรมดา ไม่ได้อ่อนแอเหมือนอย่างราชามังกรสามหัว
ราชามังกรสามหัวฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แล้วจึงกินเนื้อของมังกรเก้าขุมนรกต่อไป
งานเลี้ยงที่แสนตะกละตะกลามนี้กินเวลานานหลายชั่วยาม หงส์คุกรัตติกาลเจ็ดตัว ไก่คุกรัตติกาล สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้น เจ้าใหญ่ เจ้ารอง และราชามังกรสามหัวต่างได้รับประโยชน์มากมาย สายเลือดก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
หลังจากหานเจวี๋ยแน่ใจว่าพวกเขาไม่เป็นไร ก็กลับไปยังถ้ำเทวาฟ้าประทานเพื่อฝึกบำเพ็ญต่อ
‘ยมโลกก็ไม่ค่อยสงบสุขนัก’
หานเจวี๋ยคิดอย่างกลัดกลุ้ม ต้องเลือกสถานที่อื่นอีกหรือไม่
เขาลังเลอยู่นานก็ตัดสินใจปล่อยผ่านไป
หากเปลี่ยนสถานที่อีกก็หาที่ไปไม่ได้ ไม่สู้รออีกสักหน่อยดีกว่า
รอให้ยมโลกโกลาหลจริงๆ ก่อน เขาค่อยเคลื่อนไหวอีกครั้ง
……
โพ้นทะเลแดนเซียน เกาะปูทอง
ภายในอารามเต๋า
หวงจุนเทียนคุกเข่าลงบนพื้น ยกสองมือขึ้นรับม้วนหนังสือที่อยู่ในปากของกระเรียนขาวมา
กระเรียนขาวกล่าวอย่างมีนัยแฝงว่า “งานชุมนุมคุณสมบัติเซียนครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดี เจ้าอย่าทำให้ข้าผิดหวัง”
ภายนอกหวงจุนเทียนดูตื่นเต้นมาก แต่ในใจกลับขมขื่น
เหตุใดถึงมีเรื่องยุ่งยากอีกแล้ว!
หวงจุนเทียนช้อนสายตามองขึ้นแล้วถามว่า “นิกายเจี๋ยกับนิกายฉ่าน ความสัมพันธ์เป็นอย่างไรหรือ”
กระเรียนขาวเอ่ย “สิ่งที่ไม่ควรถามก็อย่าถาม งานชุมนุมคุณสมบัติเซียนครั้งนี้เป็นไปได้สูงว่าจะชี้ขาดแนวโน้มของมหาเคราะห์ หากเจ้าคว้าโชคโอกาสดีๆ มาไม่ได้ ตำแหน่งเจ้าเกาะของเจ้าก็ควรเปลี่ยนเช่นกัน ศิษย์หลายคนกำลังไม่พอใจเจ้าอยู่พอดี”
………………………………………….