ระบบเจ้าสำนัก - ตอนที่ 1724 : จ้าวแห่งโกลาหล
จ้าววิหารมองไปที่จางหยู “ เมื่อเจ้าไม่คิดจะเข้าร่วมกับเรา ข้าก็จะไม่บังคับเจ้า” เขาเงียบไปชั่วครู่และพูดขึ้น “ เรื่องที่สามคือ…สมบัติของราชาตะวันออก”
จางหยูขมวดคิ้ว “ เจ้าหมายถึงอะไร ?”
“ สมบัติของราชาตะวันออกอยู่ในมือเจ้าไม่ใช่รึ ? สบายใจได้เราไม่ได้สนใจสมบัติเหล่านั้น ข้าแค่อยากรู้เนื้อหาในคัมภีร์” จ้าววิหารพูดขึ้น
ในด้านของสมบัติแล้ว มีอะไรบ้างที่วิหารอวี๋ฮุ่นสนใจ ?
สมบัติที่สั่งสมมาไม่รู้กี่ยุคนั้นไม่ใช่เรื่องตลก !
“ คัมภีร์รึ ?” จางหยูมองไปที่จ้าววิหารด้วยความสับสน “เจ้ารู้ได้ยังไงว่ามีคัมภีร์อยู่ ?”
“ ตอนที่ราชาตะวันออกออกมาจากสุสานสวรรค์ เขาถือคัมภีร์ออกมาด้วย เรื่องนี้หลายคนในตอนนั้นก็รู้ เป็นธรรมดาที่วิหารอวี๋ฮุ่นจะรู้เรื่องนี้ แต่ราชาตะวันออกไม่ได้เปิดเผยเนื้อหากับเรา วิหารของเราไม่อาจจะทำอะไรได้ เราได้แต่บันทึกข้อมูลนี้ไว้และรอให้คนเปิดเผยความจริง” เขามองไปที่จางหยูแล้วพูดขึ้น “ ข้าไม่รู้ว่ามีอะไรในคัมภีร์ ทำไมราชาตะวันออกถึงได้ปิดบังมัน ราชาตะวันออกเจออะไรในสุสานสวรรค์กัน ?”
จางหยูพูดขึ้น “ ข้าบอกเนื้อหากับเจ้าได้แต่แลกเปลี่ยนกันเจ้าต้องบอกสิ่งที่เจ้ารู้เกี่ยวกับสุสานสวรรค์ แบบนี้ฟังดูเป็นยังไง ?”
ชัดแล้วว่าไม่ใช่แค่เขาที่ตรวจสอบสุสานสวรรค์ วิหารอวี๋ฮุ่นเองก็ทำการสำรวจสุสานสวรรค์เช่นกัน ไม่ต้องเดาเลยว่าตลอดหลายปีมานี้พวกเขาคงมีข้อมูลจำนวนมาก
มันคิดได้ว่าวิหารอวี๋ฮุ่นต้องมีข้อมูลที่เขายังไม่รู้ !
ไม่ต้องเดาว่ามันต้องเป็นเรื่องดีสำหรับจางหยู บางทีข้อมูลที่ได้จากวิหารอาจจะเปิดเผยความจริงของสุสานสวรรค์ !
“ ข้าต้องบอกว่าเจ้าใจกล้าไม่ใช่น้อย” จ้าววิหารมองไปที่จางหยู “ เจ้าถึงกับกล้าต่อรองกับวิหารอวี๋ฮุ่น”
จางหยูพูดขึ้น “ มันก็ต้องมีอะไรตอบแทน ในเมื่อเจ้าอยากจะรู้ เจ้าก็ต้องจ่าย ความจริงเรื่องนี้เจ้าคงเข้าใจสินะ ?”
จ้าววิหารหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “ ตกลง เจ้าอยากรู้อะไรก็ถามมา ตราบใดที่ข้ารู้ ข้าก็จะยอมบอก” เขาไม่กลัวว่าจางหยูจะกลับคำพูด ไม่มีใครกล้าหลอกลวงวิหารอวี๋ฮุ่น ใครกล้าหาเรื่องวิหารก็ต้องหายไปจากโกลาหล แม้ว่าจะมีคนไม่พอใจวิหารแต่ก็ทำแค่ได้แค่นินทาลับหลังไม่กล้าหาเรื่องวิหารโดยตรง
“ ข้าอยากรู้ว่าจิตสุสานสวรรค์คืออะไร ?” จางหยูถามคำถามที่ทำให้เขาสับสนมากที่สุดและเป็นคำถามที่เขาอยากรู้ที่สุดด้วย
จิตสุสานนั้นต้องเป็นตัวตนที่น่ากลัวที่สุด แม้แต่คนที่ไร้เทียมทานอย่างราชาตะวันออกก็ต้องตาย
หากไม่ใช่เพราะสหายของราชาตะวันออกที่ซื้อเวลาให้กับเขาแล้ว นี่ไม่ต้องพูดถึงการหนีออกมาเลย เกรงว่าเขาคงจะตายที่นั่น
ดังนั้นจิตสุสานสวรรค์จึงน่ากลัวที่สุด !
“ จิตสุสานนั้นเป็นตัวตนพิเศษ ” จ้าววิหารพูดขึ้นมาและมองไปที่เสี่ยวเสียที่อยู่บนไหล่ของจางหยู “ ตามบันทึกโบราณของวิหารแล้ว จิตสุสานนั้นคล้ายกับจิตปฐมบทโกลาหล มันไม่ได้มีร่างกายไม่มีคุณสมบัติของผู้ควบคุม มันมีแค่ความแข็งแกร่งของจิต”
จ้าววิหารพูดต่อ “ จิตสุสานสวรรค์นั้นไม่อาจจะใช้พลังการสร้างได้ มันไม่รู้วิธีใช้จิตผู้สร้างเลยด้วยซ้ำ แต่มันมีความสามารถพิเศษคือการควบคุมปราณสุสาน ปราณสุสานนั้นอันตรายอย่างมาก เมื่ออยู่ในการใช้งานของมันแล้วก็ทำให้ปราณนั้นยิ่งน่ากลัวกว่าเดิม…”
เมื่อพูดถึงจิตสุสาน สีหน้าของจ้าววิหารก็ดูเคร่งเครียดขึ้นมา แม้แต่สายตาของเขาก็ยังแฝงไปด้วยความกลัว
ต่อหน้าจิตสุสานแล้ว เขาไม่อาจจะต้านทานได้เลย !
“ มันคล้ายกับจิตปฐมบทโกลาหลรึ ?” จางหยูขมวดคิ้ว จิตสุสานนั้นพิเศษกว่าที่เขาคิดเอาไว้ เขาไม่มีทางจัดการกับตัวตนแบบนั้นได้ “ ควบคุมปราณสุสาน…ความสามารถแบบนี้ช่างประหลาดจริงๆ”
“ บอกได้ว่าจิตสุสานเป็นภัยร้ายแรงที่สุดต่อคนในโกลาหล ตราบใดที่คนตายไปก็จะเกิดสุสานขึ้นมา ยิ่งเป็นสุสานขนาดใหญ่ ก็ยิ่งมีปราณสุสานอยู่ภายใน ปราณสุสานมีอยู่ทั่วทุกที่ มันจะคงอยู่ต่อไปเรื่อยๆ”
ปราณสุสานคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดในสุสานทุกแห่ง แม้ว่าจะทำอะไรพวกเขาไม่ได้แต่ก็เป็นภัยอย่างมาก ยิ่งเข้าใกล้เขตหลักมากเท่าไหร่ ปราณสุสานก็ยิ่งทรงพลังมากเท่านั้น แม้แต่ผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ก็ยากจะต้านทานได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วจิตสุสานที่ควบคุมปราณสุสานได้ทั้งหมดและทำให้มันมีพลังมากกว่าเดิมนั้นใครกันจะต้านทานได้ ?
“ เจ้าอยากรู้อะไรอีก ถามมาสิ” จ้าววิหารพูดขึ้น
“ สุสานนี้เป็นของใครกัน ?” จางหยูถามคำถามที่สองออกมา
“ ข้าไม่รู้ เรื่องนี้เรากำลังตรวจสอบอยู่” จ้าววิหารตอบกลับ
“ วิหารด้านในสุสานคืออะไรกัน ?”
“ มันต่างจากคำถามเมื่อตะกี้ยังไงกัน ?” จ้าววิหารส่ายหน้า “ หากข้ารู้ ข้าคงไม่ถามถึงเนื้อหาในคัมภีร์หรอก”
“ งั้นรึ” จางหยูยักไหล่ แม้ว่าวิหารอวี๋ฮุ่นจะไม่ได้หยุดตรวจสอบเรื่องนี้แต่ความเข้าใจเกี่ยวกับสุสานก็ยังมีจำกัด “ ข้าไม่รู้ว่าจะถามอะไรต่อ ตอนนี้เจ้าก็ถามมาสิ”
จ้าววิหารเริ่มร้อนใจและพูดขึ้น “ ความลับของสุสานสวรรค์นั้นไม่มีใครรู้ ข้ารู้ข้อมูลไม่มาก แต่มันมีข้อมูลหนึ่งที่เจ้าอาจจะสนใจก็ได้”
“ อะไร?” จางหยูเริ่มคาดหวัง
“ พลังสร้างในสุสานสวรรค์นั้นอยู่ระดับสูง ข้าหมายถึงระดับที่สูงมาก” จ้าววิหารพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ มันเหนือกว่าพลังสร้างของผู้ควบคุมขั้นที่ 9 ที่แน่ๆคือจ้าวแห่งสุสานสวรรค์นั้นจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่ขั้นที่ 9 เขาได้ทิ้งสุสานที่มีพลังการสร้างระดับสูงแบบนี้เอาไว้ ตราบใดที่เจ้าได้เรียนรู้วิธีการใช้พลังสร้างเหล่านั้น เจ้าก็จะทะลวงผ่านเหนือขอบเขตของตัวเองได้”
คำพูดของจ้าววิหารทำให้จางหยูนึกถึงตงมู่หลิน
คำสาปของตงมู่หลินนั้นเหมือนจะเรียนรู้มาจากสุสานสวรรค์ พลังของมันใช่ว่าจะมองข้ามได้
“ แต่ข้าอยากแนะนำเจ้าไว้ก่อนล่วงหน้า มันไม่อาจจะเรียนรู้ได้ง่ายๆ หากไม่มีพรสวรรค์มากพอและพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่การเข้าไปในสุสานสวรรค์และใช้เวลาในการสำรวจวิหารนั้นก็อาจจะทำให้เรียนรู้การใช้พลังสร้างได้บ้างแล้ว” หลังจากที่เงียบไปชั่วครู่ จ้าววิหารก็พูดขึ้นต่อ “ นอกจากนี้แล้วมันไม่มีทางอื่นที่จะเรียนรู้วิธีการสร้างระดับสูงและการใช้งานมันได้เลย แม้ว่าจะมีคนที่เรียนรู้มันมาได้แต่ก็ไม่มีทางส่งต่อให้กับคนอื่น การไปดูที่รูปปั้นที่นั่นเป็นเพียงทางเดียวเท่านั้น”
จางหยูยักคิ้ว “ ดูยังไง ?”
“ ข้าเคยมีบรรพชนที่เข้าไปในสุสานสวรรค์ เขาได้เรียนรู้การใช้พลังสร้างระดับสูงมาแต่เมื่อเขาออกมาจากสุสานและต้องการจะสั่งสอนคนอื่นนั้นก็ไม่สามารถทำได้…” จ้าววิหารพูดขึ้น “ ไม่ใช่แค่บรรพชนของข้า ก่อนหน้านี้ก็มีคนอื่นที่โชคดีได้เรียนรู้ทักษะระดับสูงมา แต่ทุกคนก็ไม่อาจจะนำมันไปสอนใครได้ พวกเขาได้แต่เก็บมันใช้งานเอง”
จางหยูอยากจะค้าน เขาได้เรียนรู้วิธีการใช้คำสาปจากโลกตันเถียนแต่สุดท้ายจางหยูก็ไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ยังไงซะสถานการณ์ของเขาก็พิเศษ คนอื่นๆไม่อาจจะทำตามได้
“ การใช้งานระดับสูงนั้นเป็นข้อมูลที่มีค่าที่สุดที่เรารู้เกี่ยวกับวิหาร แต่นอกจากนี้แล้วเป็นข้อมูลที่เจ้าไม่น่าจะสนใจ ข้าคงไม่พูด ตอนนี้เจ้าบอกเนื้อหาในคัมภีร์ได้รึยัง ?” จ้าววิหารพูดขึ้น
จางหยูยังไม่ทันได้พูด จ้าววิหารก็พูดขึ้นต่อ “ ลืมไป เจ้าต้องเอาคัมภีร์ออกมาให้ข้าดูด้วย”
เขาเชื่อจางหยู แต่นี่คือเรื่องสำคัญ เขาต้องได้เห็นเนื้อหากับตาตัวเองเพื่อความสบายใจ
“ ได้ รับนี่ไป” จางหยูเอาคัมภีร์ออกมาแล้วส่งให้กับอีกฝ่าย “ แต่ข้าอยากแนะนำเจ้าว่าข้อมูลที่บันทึกเอาไว้ไม่ใช่เรื่องดี ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่รู้สึกเสียใจหลังจากที่ได้เห็นมัน”
เนื้อหาด้านในนั้นน่าตกใจมาก เขาไม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายจะรับไหวรึไม่
จ้าววิหารยักคิ้ว เขาไม่คิดใส่ใจและทำการอ่านคัมภีร์ทันที
ไม่นานสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป สายตาของเขาแสดงความกลัวออกมา
โกลาหลจะตายรึ ?
เขาเข้าใจเหมือนกับจางหยู แต่ท่าทีของเขานั้นดูกลัวกว่าตอนที่จางหยูเห็นเนื้อหาด้านใน
“ สวรรค์พังทลาย…สวรรค์พังทลาย…” เสียงของจ้าววิหารสั่นเครือ “ สวรรค์คืออะไร ?”
“ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเคยสงสัยรึไม่ แต่ในเมื่อโลกขั้นที่ 9 ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ควบคุม งั้นความโกลาหลอันกว้างใหญ่นี้ก็อาจจะถูกสร้างขึ้นโดยใครบางคนเช่นกัน?” จางหยูพูดขึ้นมา “ สิ่งที่เรียกว่า “สวรรค์” นั้น ไม่แน่ว่าอาจจะหมายถึงคนที่สร้างโกลาหลขึ้นมา…จ้าวโกลาหล”
“ จ้าวโกลาหล !” หัวใจของจ้าววิหารพลันสั่นไหว อันที่จริงเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องแปลกต่อทั้งโกลาหลเลย แต่ไม่มีใครเคยเห็นอีกฝ่ายมาก่อน มันไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอีกฝ่ายมีตัวตนอยู่จริง ดังนั้นนี่จึงเป็นแค่ตำนาน หากเนื้อหาในคัมภีร์เป็นความจริง งั้นจ้าวโกลาหลก็น่าจะมีตัวตนอยู่ มันมีโอกาสสูงที่สุสานแห่งนั้นจะเป็นของจ้าวโกลาหล
จ้าววิหารแสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา “ มันมีจ้าวโกลาหลอยู่จริงๆรึ ?”
หากสวรรค์ที่ว่าหมายถึงจ้าวโกลาหล งั้นสุสานสวรรค์ก็มีไว้เพื่อฟื้นคืนชีพจ้าวโกลาหลรึ ?
หากจ้าวโกลาหลฟื้นคืนชีพขึ้นมา วิหารอวี๋ฮุ่นก็คงกลายเป็นเรื่องตลก พวกเขาจะเสียอำนาจที่เคยมีไป
แต่ถ้าจ้าวโกลาหลไม่ฟื้นคืนชีพกลับมาได้ มันไม่ได้หมายความว่าโกลาหลจะพังพินาศรึไง ?