รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 117 พี่ชายกลัวว่าจะไปเตะประตูปลุกพี่สะใภ้เหรอ
- Home
- รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า
- บทที่ 117 พี่ชายกลัวว่าจะไปเตะประตูปลุกพี่สะใภ้เหรอ
ญาณินอ้าปากพูดในเวลาที่เหมาะสมอย่างตอนที่ทั้งสองคนกำลังมีเรื่องกัน
ช่างเถอะ วินคะ……ในเมื่อเรื่องทุกอย่างก็ผ่านไปแล้ว คุณไม่ต้องไปบังคับให้เธอขอโทษหรอก
เธอยืนอยู่ไม่ไกลพร้อมกับน้ำตาคลอหน่วย ท่าทางดูเศร้าโศกเสียใจมากจริงๆ
ราวกับว่าทารกในครรภ์ที่ต้องสูญเสียไปนั้นสร้างความเจ็บปวดให้กับร่างกายและจิตใจของเธออย่างมาก
ธิชาดวงตาและเรียวคิ้วลดต่ำ ใบหน้าไร้อารมณ์ ไม่ร้องไห้หรือโวยวาย และไม่แสดงท่าทีว่าจะเอ่ยปากขอโทษ
เธอแค่ยื่นมือไปลูบน่องตัวเองเงียบๆ โชคดีที่ชายหนุ่มสวมรองเท้าแตะที่อ่อนนุ่ม ไม่อย่างนั้นการเตะมาแบบนี้ผิวต้องแตกแน่
ธิชาใช้มือนวดน่องที่เจ็บปวด แต่บนใบหน้ากลับไม่มีร่องรอยความเจ็บปวดแม้แต่น้อย
แม้ธาวินจะเก็บมือไปแล้ว แต่ยังคงสีหน้าเหยียด ธิชา ฉันขอเตือนเธอ ถ้าไม่รู้ว่าการทำตัวให้เหมาะสมสงบเสงี่ยมหมายความว่าอะไร คราวหน้า……ฉันจะสอนเธอด้วยตัวเอง
เขากระทืบพื้นเสียงดัง ในคำพูดแฝงความนัยเหี้ยมโหด
ธิชาไม่ได้ตอบอะไร แต่ญาณินที่เห็นธิชาถูกธาวินด่าอย่างรุนแรง ก็รู้สึกดีขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ
ญาณินค่อยๆ เดินเข้าไปหาธาวิน ดึงแขนเขาเบาๆ ช่างเถอะค่ะๆ ยังไงลูกของเราก็ไม่สามารถกลับมามีชีวิตได้อีกแล้ว แต่……ก็นับว่ายังมีหวัง อีกไม่นานเราก็จะมีลูกกันอีก ถูกไหม
น้ำเสียงที่เธอพูดกับธาวินนั้นอ่อนโยนมาก เหมือนเป็นภรรยาที่มีคุณธรรมและสติปัญญา ไร้ซึ่งความเย่อหยิ่งร้ายกาจต่อหน้าธิชา
ธาวินตบหลังมือของเธอ อืม อาจจะมี
ญาณินจับมือใหญ่ของเขาโดยจิตใต้สำนึก มองเขาด้วยความหวัง
เขาพูดแล้ว……
วินของเธอเป็นคนเอ่ยปากว่าอาจจะมี
คำพูดของธิชาไม่มีน้ำหนักเพียงพอสักนิด
บางทีเธออาจจะแค่ไปได้ยินข่าวลือจากที่ไหนมา แล้วมาแสร้งทำเป็นมีลับลมคมในต่อหน้าตน
เด็กคนแรกไร้โอกาสรอด คนที่สองจะต้องเป็นไปได้
ทุกอย่างล้วนเป็นโชคชะตากำหนด มีแค่การยอมรับอย่างสงบถึงจะเดินต่อไปได้อีกยาวไกล
เมื่อครู่นางคนช้ำต่ำนี่จงใจพูดบางอย่าง เห็นได้ชัดว่ากำลังยุแยงตะแคงรั่วระหว่างสามีภรรยาของตนกับธาวิน
ยังดีที่ไม่หลงกล……
……
ธิชาพยุงตัวเองลุกขึ้นจากพื้น ออกจากห้องอาหารไปด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ ขึ้นชั้นบนกลับไปที่ห้อง
เวลานี้ยังเช้าอยู่ เธอสามารถพักผ่อนได้ยี่สิบนาทีก่อนไปสถานศึกษา
เช้าที่ดีดีแบบนี้……ต้องมาถูกสองคนที่ชั้นล่างทำเสียอารมณ์
ธิชาขมขื่นในใจ แต่ก็ขมขื่นอย่างสงบ
อาจจะเป็นที่นิสัยล่ะมั้ง เธอเพียงนั่งกอดเข่าอยู่บนกรอบหน้าต่าง
……
ธาวินทานอาหารเช้ากับญาณินเสร็จเรียบร้อย เพราะตระกูลมงคลวัชรกุลมีเรื่องบางอย่าง หลังอาหารเช้าคนขับรถจึงไปส่งญาณิน
ใกล้ถึงเวลาแล้ว ธิชาที่สงบสติอารมณ์อยู่ในห้องชั้นบนเตรียมสวมเสื้อคลุมออกจากห้อง
เธอเพิ่งสวมเสื้อได้แขนเดียว ประตูกลับมีเสียงดัง คลิก เปิดออก
เธอสะดุ้งตกใจ หันไปมองโดยอัตโนมัติ ปะทะเข้ากับใบหน้าหล่อเหลาของธาวิน
ธิชาเม้มริมฝีปาก หายใจเข้าลึก สวมเสื้อต่อให้เรียบร้อย พยายามทำเป็นไม่เห็นเขา
แต่ธาวินกลับไม่ให้โอกาสเธอได้ทำเป็นไม่เห็นเขา เขาก้าวสองสามก้าวไปถึงตรงหน้าเธอ ถามด้วยสีหน้าเรียบเฉยและน้ำเสียงแข็งกระด้าง เมื่อคืนล็อคประตูทำไม ป้องกันจากฉันงั้นเหรอ ระแวงว่าฉันจะเข้ามาทำอะไรเธอกลางดึกหรือไง
เธอเหลือบมองเขาด้วยสายตาเฉยเมย ทำตัวให้สงบนิ่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แค่เคยมือ การระแวงคุณคงไม่จำเป็นหรอกมั้ง ตราบใดที่พี่ชายต้องการ จะเข้าห้องฉันเวลาไหนก็ได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ
ธาวินขมวดคิ้วเล็กน้อย มองสีหน้าไม่ออกว่าชอบใจหรือไม่พอใจ
ร่างสูงใหญ่ของเขาขวางทางธิชาโดยสมบูรณ์ ผ่านไปนานจนกระทั่งเขาหัวเราะเยาะเสียงต่ำ ถ้าเรียนรู้ที่จะฉลาดแล้ว ต่อไปก็อย่าล็อคประตูอีก ไม่อย่างนั้นจะโดนจัดการ
ธิชามองเขาเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนว่าฉากในห้องอาหารเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาของเธอเอง
ในใจเธอรู้สึกว่ามันช่างน่าขำไร้สาระสิ้นดี พูดอย่างอดกลั้นว่า พี่ชายคงกลัวว่าการพังที่ล็อคประตูหรือการถีบประตูให้เปิดจะเสียงดังมากเกินไปจะไปปลุกพี่สะใภ้ให้ตื่น จนพากันอับอายกันไปหมดสินะคะ?
เธอไม่ได้รอคำตอบจากธาวิน ยังคงพูดเองเออเองต่อไป ที่จริงเวลาพี่ชายเล่นละครยังสามารถจริงจังขึ้นได้อีกนะ เหมือนเมื่อครู่ในห้องอาหาร ทำไมคุณเตะทีเดียวก็พอแล้ว ฝ่ามือนั้นมันควรจะฟาดลงมาให้จบ ถ้าคุณไม่ทำการแสดงให้สมบูรณ์ พี่สะใภ้ไม่ใช่คนไร้เดียงสาไม่มีตาแล การที่คุณทำให้มันแค่ผ่านๆ ไป เดี๋ยวเธอไปคิดทบทวนเองได้ขึ้นมา ก็จะรู้โดยจิตใต้สำนึกว่ามันไม่ถูกต้อง ต่อไปต้องจริงจังหน่อยนะคะพี่ชาย
ธิชาจงใจยั่วโมโหเขา ซึ่งนับว่าเป็นการระบายความรู้สึกหดหู่ของตัวเอง
เธอเตรียมทำสงครามประสาทกับเขาอย่างเต็มที่
แต่หลังจากพูดจบแล้วรออยู่นาน ธาวินกลับไม่โมโหใส่เธอไม่ด่าเธอ แต่จู่ๆ ก็อุ้มเธอขึ้นโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย แล้วทิ้งลงบนโซฟาเล็กข้างห้องแต่งตัว
ธิชาถูกเขาจับขาข้างหนึ่ง น้ำเสียงกดต่ำโดยจิตใต้สำนึก
อย่า……อย่ามาทำอะไรแต่เช้าได้ไหม! ฉันต้องไปเรียนแล้ว ถ้ายังไม่ไปตอนนี้ต้องสายแน่!
ฝ่ามืออุ่นของธาวินจับน่องของเธอเอาไว้แน่น เลิกคิ้วพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย ใครจะทำอะไร เมื่อคืนเธอยังไม่อิ่มเหรอ ถึงได้คิดถึงเรื่องพรรค์นี้แต่เช้า ยากมากจริงๆ ที่จะจินตนาการได้ว่าเธอคิดอะไรเวลาอยู่ในชั้นเรียน คิดว่าฉันทำเธอด้วยท่าทางไหนบ้าง เข้าไปในตัวเธอลึกแค่ไหน……