รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 32 ตรวจด้วยมือตัวเอง
คำพูดของดนัยกฤตยังไม่จบ ธิชาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่ามือของธาวินที่กอดไหล่เธอนั้นเกร็งขึ้นเล็กน้อย
เธอเงยหน้าขึ้นสูงมองไปทางธาวิน เห็นเพียงเค้าโครงใบหน้าของเขาเกร็งแน่นอย่างขีดสุด คอที่ซ่อนอยู่ในปลอกคอเสื้อดูเหมือนเส้นเลือดเกร็งขึ้นมาหลายเส้น
ธิชาหัวใจเต้นอย่างรุนแรง ยื่นมือกอดเอวของเขา น้ำเสียงทั้งต่ำทั้งนุ่ม พวกเรากลับบ้าน
แขนเรียวเล็กของหญิงสาวเหมือนพยายามห้ามปรามไม่ให้เขาหันกลับไปทำเรื่องที่ไม่สามารถแก้ไขได้
ธาวินลดสายตาลง มองดูหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความขอร้อง
สุดท้ายไม่ได้พูดอะไรสักคำ กอดไหล่เธอไว้แน่นเดินไปข้างนอกต่อ
……..
ก่อนขึ้นรถ ธิชาถูกเขาดึงผ้าห่มบางทิ้ง กดไหล่ของเธอดันเธอเข้าไปในรถเบนท์ลี่ย์สีดำที่คุ้นเคย คนขับรถได้รับคำสั่งก็รีบคับรถออกไปทันที
เธอก็ดูออกถึงความเร่งรีบในนั้น ในใจเข้าใจว่าธาวินคงไม่อยากสอบถามเธอที่ประตูสโมสรของดนัยกฤต
พอที่จะเตรียมใจไว้แล้ว ตอนที่ธิชาถูกเขาบีบคอไว้ในฝ่ามือยังคงเหงื่อไหลตลอด
แววตาของธาวินเกินขอบเขตความโกรธเคืองปกติไปแล้ว
ความจริงถึงแม้เขาจะไม่ฟังคำแก้ตัวของเธอแม้แต่คำเดียว ยิงเธอโดยตรงเลย เธอก็ไม่รู้สึกแปลกใจ
ส่วนความหวาดกลัวในเบื้องลึกของหัวใจเธอมันไม่ใช่ความตาย
ธาวินมีวิธีลงโทษร้อยพันวิธีที่ทำให้เธออยู่ก็ไม่เป็นตายไม่ได้
นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอเหงื่อไหลไม่หยุดที่แท้จริง
เธอกับเขา……ทำแล้ว?
ธิชาลำคอขาดออกซิเจน อดกลั้นจนหน้าแดง ตัวสั่นไปทั้งร่าง และไม่กล้าขัดขืนเลย
เธอรีบบีบคำพูดออกมาจากลำคอด้วยความลำบาก เปล่า
ธาวินเหล่มองสภาพเสื้อผ้าขาดลุ่ยที่น่าอนาถของเธอ ความโค้งของมุมปากเย็นชาโหดเหี้ยมจนเธอยากที่จะบรรยายแล้ว
เปล่าเหรอ แล้วเธอจะอธิบายยังไงว่าตัวเองเสื้อผ้ายุ่งเหยิงหลบอยู่ในห้องกับเขา ชายหนึ่งหญิงหนึ่งปิดประตูแล้วไม่ขึ้นเตียง หรือว่าพวกเธอปิดประตูคุยความในใจกัน?
ธิชาอ้าปาก แต่ยากที่จะพูดออกเสียงแล้ว
ถึงแม้ว่าธาวินยังไม่ถึงขั้นบีบคอเธอตาย แต่ว่าเธอใกล้จะสลบเพราะขาดออกซิเจนแล้ว
ในใจเธอรู้ดีว่าวันนี้ดนัยกฤตทำเรื่องอะไรกับเธอ ถึงแม้จะไม่ได้ล้ำเส้นสำคัญที่สุดระหว่างชายหญิงนั้น แต่ก็เกินขอบเขตที่เธอเองจะทนรับได้ไปไกลมากแล้ว
แต่ถ้าหากให้ธาวินรู้ยิ่งไม่สามารถให้อภัยแน่นอน
ธาวินไม่ได้ดูเธอสลบไปเพราะอาการขาดออกซิเจนไปอย่างนั้น แต่ว่าดึงมือกลับทันเวลา จ้องเธออย่างเย็นชา พูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนหน้านี้เธอก็อธิบายมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งครั้งแล้ว ขอร้องให้ฉันเชื่อเธอ ขอร้องฉันเชื่อเธอจะไม่หักหลังฉัน ฉันเคยให้โอกาสเธอแล้ว ธิชา
ในที่สุดธิชาก็ฟื้นฟูการหายใจ ตอนนี้ถูกคำพูดของเขาที่เหมือนการยื่นคำขาดทำให้ตกใจ ไอขึ้นมาอย่างรุนแรง
ฉันไม่ได้ทำ ธาวินฉันไม่ได้ทำจริงๆ ถ้าหากคุณไม่ยอมเชื่อ สามารถส่งฉันไปตรวจที่โรงพยาบาลได้
คำพูดขอธาวินประโยคนั้นก็เหมือนตัดสินโทษตายให้เธอ การเอาตัวรอดในสมองเธอก็พุ่งขึ้นมาทันที
เธอยังตายไม่ได้ อย่างน้อยจะตายอย่างไม่ได้รับความยุติธรรมอย่างนี้ไม่ได้
เมื่อเธอตายแล้วก็จะไม่มีคนสามารถควบคุมธาวินได้ ใครจะไปรู้ว่าเพื่ออำนาจและตำแหน่งแล้วเขาจะทำเรื่องน่ากลัวอะไรออกมาอีก
เธอต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของณิชานาฎและลุงรัณ เธอจะตายอย่างไม่ได้รับความยุติธรรมง่ายๆแบบนี้ไม่ได้
แต่รู้จักกันสิบเอ็ดปี ความรู้จักและการอยู่ร่วมกันมาสิบกันทำให้ในใจเธอมีความเชื่อใจในธาวินอยู่บ้าง
เชื่อใจนั้นเพียงแค่โอกาสที่ธาวินจะฆ่าเธอโดยตรงนั้นต่ำมาก
ผลลัพธ์ของการตัดสินโทษเธอก็เหมือนดั่งที่เขาตักเตือนมาก่อนแบบนั้น…….
และนั้นถึงจะเป็นนรกที่น่ากลัวยิ่งกว่า
…….
ธิชาจับมือของเขาไว้ข้างหนึ่งขอร้องด้วยสีหนีที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว น้ำเสียงแหบต่ำและเต็มไปด้วยการอ้อนวอน ฉันเข้าใจว่าคุณรอบคอบคิดมาก หลังจากที่ดนัยกฤตช่วยฉันก็พาฉันไปที่ถิ่นของเขา มีเพียงเขากับฉันอยู่ในห้อง ฉันไม่มีอะไรจะเถียง แต่ว่าคุณส่งฉันไปโรงพยาบาล หมอพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของฉันได้
น้ำเสียงอันหนักแน่นของเธอดูเหมือนทำให้ธาวินมีความหวั่นไหวเล็กน้อย
เขาสลับมือไปจับมือของธิชา จับไว้อย่างไม่หนักไม่เบา
ธิชาไม่กล้ามองเขา แต่ถึงแม้ว่าจะก้มหน้าก็สามารถรู้สึกถึงความเย็นชาในสายตาของเขาได้
ธาวินเชื่อว่าเธอไม่กล้าโกหกกับเรื่องนี้
ในเมื่อเธอพูดเสนอเองว่าไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็เป็นไปไม่ได้ที่ดนัยกฤตจะทิ้งของไว้ในร่างกายเธอ
จู่ๆเขายื่นมือไปจับคางของเธอ
แรงจนทำให้เธอรู้สึกเจ็บมาก
เขาใส่ถุงแล้วใช่ไหม?
ธิชาเบิกตากว้างอย่างตกใจ แทบจะพังทลายจนร้องไห้ออกมา
เธอส่ายหัวสุดชีวิต ส่ายหัวอย่างแรง ไม่ใช่ ไม่ใช่อย่างนั้น ดนัยกฤตไม่ได้แตะต้องฉัน ฉันกับเขาไม่ได้เกิดอะไรขึ้นเลย
แต่ว่าแม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกว่าการโต้แย้งปากเปล่าแบบนี้มันดูว่างเปล่ามาก
เธอกัดริมฝีปากทนอยู่นานมาก
เวลาเดียวกันที่เธอบังคับให้ตัวเองสงบสติก็คิดออกว่าอาจจะมีความหวังอยู่บ้างที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง
ฉันไม่ได้หักหลังจริงๆ ฉันไม่มีสิทธิ์เลือกว่าใครมาช่วยฉันในตอนที่เกือบโดนพวกโจรลักพาตัวรุมข่มขืน อยู่ดีๆดนัยกฤตก็ปรากฏตัวมาช่วยฉันไป ฉันทำได้แค่ขึ้นรถ เขาจะพาฉันไปไหนฉันก็ไม่มีทางเลือก เขาพาฉันกลับไปสโมสรส่วนตัว เสนอให้ฉันอยู่กับเขาจริง ฉันปฏิเสธแล้ว นอกเหนือจากนี้ ฉันกับเขาไม่มีอะไรจริงๆ…….
คนขับรถยังนั่งขับรถอยู่ข้างหน้าอย่างเงียบ ราวกับกลัวตายพยายามทำให้การแสดงตนดูน้อยที่สุด
ธิชาไม่สนใจว่าอะไรคือความอับอายแล้ว เธอยื่นมือกอดคอของธาวินอย่างระมัดระวัง
ริมฝีปากแนบอยู่ที่ข้างหูเขาพูดด้วยน้ำเสียงเบามากที่ได้ยินแค่เขาเท่านั้น พี่ ฉันไม่ได้หักหลังพี่ ถ้าแม้แต่ผลตรวจจากหมอพี่ก็ไม่เชื่อ พี่สามารถตรวจเองก็ได้ เป็นแค่เรื่องที่เกิดขึ้นในครึ่งชั่วโมงเท่านั้น หรือว่าแม้แต่พี่ลงมือเองก็ตรวจไม่เจอเหรอ?
ธาวินหรี่ตามองเธอ ในที่สุดแววสังหารในดวงตาเขาก็ลดลงไปบ้าง
มุมปากของเขาโค้งขึ้นอย่างอันตราย ดังนั้นก็ไม่ได้ลังเลแม้แต่น้อย สอดมือเข้าไปข้างล่างทันที
ธิชาเกร็งร่างกายไว้ กัดริมฝีปากล่างไว้ด้วยความอับอาย
ไม่ใช่ว่าธาวินไม่เคยเอากับเธอบนรถ แต่ก่อนทำต้องไล่คนขับลงรถก่อน
เธอเชื่อว่าสถานการณ์ตอนนี้คนขับไม่กล้าแอบมองกระจกมองหลังรถแน่นอน
แต่ความอับอายที่เต็มไปด้วยข้อห้ามทำให้เธอไม่สามารถสงบเรียบเฉยได้
………
ตอนที่ธาวินดึงมือกลับมาสีหน้าก็คลี่คลายลงไปเยอะแล้ว
ธิชาโล่งใจไปที รู้ว่าตัวเองน่าจะโชคดีไปอย่างไม่คาดคิด
เธอกับดนัยกฤตเผชิญหน้ากันอย่างเปลือยเปล่าแล้วจริง แต่เขาแค่ใช้มือ
ตอนที่เธอใส่เสื้อได้จัดการเช็ดไปอย่างระวังแล้ว แน่ใจว่าไม่เหลือหลักฐานอะไรไว้แล้ว
เพราะฉะนั้นวิธีตรวจสอบแบบนี้ของธาวินก็ยากที่จะสงสัยได้อีกแล้ว
แต่ว่าเธอเพิ่งโล่งอกไป ก็ได้ยินน้ำเสียงอันเย็นชาของธาวินถามว่า เขาไม่ได้เอากับเธอ นอกเหนือจากนี้ล่ะ จับเธอหรือเปล่า หรือว่าเธอช่วยเขาอมแล้ว?
ธิชารู้สึกว่าตัวเองใกล้จะถูกบรรยากาศการสอบถามซ้ำๆที่น่ากลัวแบบนี้ทำให้ตกใจจนสลบไปแล้ว
เธอกัดริมฝีปากปฏิเสธ ไม่มี
สีหน้าของธาวินทำให้เธอคาดการณ์ไม่ได้
ชั้นนี้เธอไม่มีวิธีโต้แย้งแล้วจริงๆ สิ่งสุดท้ายที่คุณสามารถทำได้คือเดิมพันว่าธาวินจะคิดถึงความรู้สึกเก่าที่มีกับเธอหรือไม่
เธอค่อยๆลดสายตาลง หยดน้ำตาออกมา…….
ดนัยกฤตบังคับจูบฉัน นอกจากนี้ไม่มีอย่างอื่นแล้ว ถ้าหากคุณไม่เชื่อ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว อาจจะเป็นเพราะความสนใจที่เขามีต่อฉันไม่เพียงพอที่เขาจะฝืนปล้ำผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งเจออันตราย หรืออาจจะเพราะคุณมาทันเวลา…….
น้ำตาของเธอเอ่อล้น ส่ายหน้า ฉันไม่มีอะไรจะเปิดเผยอีกแล้ว