รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 71 แมวน้อยที่ท่านดนัยเก็บกลับมา
ตอนที่ธิชาลากสังขารที่หนักอึ้งและเย็นเยียบของเธอเดินออกจากประตูบ้านตระกูลมงคลวัชรกุลทีละก้าว ตรงหน้าประตูมีคนขับรถที่หน้าคุ้นกำลังจอดรออยู่
พอคนขับเห็นเธอเดินออกมา เขาก็รีบพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า ผู้ช่วยพงศ์พนาสั่งไว้ครับ ให้คุณธิดาออกมาแล้วเชิญขึ้นรถเลย ผมจะรับหน้าที่พาคุณกลับบ้านครับ
ธิชาพยายามยกเปลือกตาที่หนักขึ้น แล้วมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
แววตาของเธอเหมือนน้ำแข็งที่เพิ่งออกมาจากถ้ำน้ำแข็ง แล้วกวาดตามองไปที่ใบหน้าของคนขับรถ จนทำให้อีกฝ่ายตัวสั่น
เขาไม่ค่อยกล้าสบตากับเธอโดยตรง จึงก้มหน้าหลบสายตา
ธิชาพ่นเสียงหึออกมาทางจมูกเบา ๆ แล้วถามเขากลับทีละคำ: คุณไม่รู้หรือไงว่าธาวินไม่ต้องการฉันแล้ว ฉันคือตัวหมากที่ถูกเขาทิ้งแล้ว เขาส่งฉันออกมาก็เพื่อรอวันตาย แล้วคุณยังจะส่งฉันกลับไป กลับไปที่ไหนคะ กลับไปในนรกอีกครั้งหรือไง?
สีหน้าของคนขับดูเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ถูกเธอทำให้ตกใจจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
คนขับคนนี้ไม่ได้รู้จักกับธิชามากมาย แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กสาวที่มีหน้าตาสวยงามและอ่อนโยนจะดูมีความน่ายำเกรงมากขนาดนี้มันมากจนทำให้เขาที่อยู่ในวัยกลางคนไม่กล้าตอบโต้
แต่พอใจเย็นลง คนขับรถถึงได้เข้าใจว่าความขัดแย้งระหว่างบรรดาเจ้านายไม่ใช่เรื่องที่คนขับรถอย่างเขาจะเข้าไปยุ่งด้วยได้
ธิชาเดินไปข้างหน้าด้วยสองขาที่ทั้งหนักอึ้งและเปียกชุ่ม คนขับเดินตามเธอไป เขาไม่กล้าใช้กำลังลากเธอขึ้นไปนั่งในรถ แต่เขาก็ไม่กล้าปล่อยให้เธอเดินจากไปทั้งแบบนั้น
ตอนนี้จึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ตอนที่คนขับรถกำลังคิดว่าจะโทรไปถามผู้ช่วยพงศ์พนาเพื่อขอความช่วยเหลือดีหรือไม่
ธิชาก็หันกลับมา แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและดุร้ายมาก
ริมฝีปากสีซีดเซียวไร้สีสันของเธออ้าปาก แล้วพูดออกมาทีละคำ กลับไปบอกธาวิน ครั้งนี้ฉันอุตส่าห์รักษาครึ่งชีวิตของฉันไว้ได้ ต้องถือว่าฉันโชคดีมาก คนที่ชื่อธิชาตายไปแล้ว ร่างกายที่ยังมีชีวิตร่างนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาแล้ว จากนี้เป็นต้นไป ฉันกับคนแช่ธนาภูวนัตถ์ตัดขาดกันแล้ว คุณไม่ต้องตามฉันมาอีก เว้นแต่ว่าคุณอยากจะรับผิดแทนคนที่ตายไปแล้วคนนี้
คนขับรถอ้าปากค้าง อ้าปากแล้วปิดลงอีกครั้ง
ถึงแม้เขาจะสับสนเกี่ยวกับสถานการณ์ในตอนนี้เล็กน้อย แต่เขาก็ตกใจกับความดุร้ายของธิชาจริงๆ
เขามีชีวิตอยู่ดีๆ ยังไม่อยากตาย จึงไม่กล้าตามไป จึงรีบกลับไปที่รถแล้วกดโทรหาผู้ช่วยพงศ์พนาเพื่อรายงานให้เขารับรู้
…………
ธิชาเดินมือเปล่าไปตามถนน เธอเดินมาจากข้างถนนที่ว่างเปล่าของบ้านตระกูลมงคลวัชรกุลไปยังย่านใจกลางเมืองที่มีคนเดินพลุกพล่าน
ท้องฟ้าเริ่มมืดแล้ว ใบหน้าซีดเซียวของเธอเดินอยู่บนถนนในยามกลางคืนดูน่าสงสารมาก
ผู้คนที่สัญจรไปมาเห็นคราบเลือดขนาดกว้างบนกางเกงของเธอ จึงอดที่จะอุทานออกมาไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไรไป… หน้าของเธอซีดจนน่ากลัว ช่วงขาของเธอยังเต็มไปด้วยเลือด! พระเจ้า นี่เธอคงไม่ได้แท้งใช่ไหม
ธิชาเหมือนจะไม่ได้ยินอะไรเลย เธอยังคงเดินไปข้างหน้าอย่างเฉยชา
ตอนนี้มีเพียงความคิดเดียวในใจเธอ
คือไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปหาณิชานาฎ
เธอต้องการถามให้ชัดเจนด้วยตัวเอง ถึงแม้เธอจะเคยถามณิชานาฎไปนับครั้งไม่ถ้วนมาแล้ว แต่ณิชานาฎกลับไม่ยอมตอบแม้แต่นิดเดียว
แต่ในเวลานี้เธอทนที่จะโดนปิดบังเรื่องราวไว้อีกต่อไปแล้ว
ถึงจะต้องตายก็ต้องถามให้รู้เรื่อง
ณิชานาฎทำอะไรลงไป ติดหนี้อะไรกับตระกูลธนาภูวนัตถ์ไว้กันแน่
ธาวินถึงได้ทำลายความเมตตาและความบริสุทธิ์ของเธอ ทำลายร่างกายที่แข็งแรงของเธอ ทำลายจิตวิญญาณของเธอ อีกทั้งยังทำลายชีวิตของเธอออกเป็นชิ้นๆ
เธอต้องถามให้ชัดเจน และจะต้องถามให้ชัดเจนด้วย
……
ในความฝันของธิชาในที่สุดเธอก็เดินมาถึงโรงพยาบาลที่ณิชานาฎ
เธอร้องไห้แล้วถามณิชานาฎว่าติดหนี้อะไรตระกูลธนาภูวนัตถ์
ณิชานาฎกอดเธอแล้วร้องไห้พร้อมกัน แล้วพึมพำอะไรบางอย่างข้างหูของเธอ
แต่ดูเหมือนหูของเธอจะมีปัญหา เธอฟังไม่ชัดเลยสักคำ
ได้ยินแต่เสียงร้องไห้ของทั้งสองคนเท่านั้น
หลังจากเธอร้องไห้จนเหนื่อย เธอก็ผล็อยหลับไป
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมา รอบตัวของเธอก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น
ร่างกายส่วนล่างก็ไม่รู้สึกเหนอะหนะของเลือดแล้วเช่นกัน
แต่กลับกัน เธอรู้สึกว่าเธอกำลังสวมชุดนอนที่สะอาดและนุ่มลื่น และกำลังนอนอยู่บนเตียงที่นุ่มสบาย
ธิชาลืมตาขึ้นมา แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้ากลับเต็มไปด้วยสีชมพูอ่อน
เธอรู้สึกเวียนหัว และเหมือนจะเป็นลมไปอีกครั้ง
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เป็นลมไป เธอจึงอดที่จะเอื้อมมือไปขยี้ตาไม่ได้
สายตามองไปรอบๆ ห้อง เพื่อยืนยันว่าเขายังอยู่ในความฝันหรือเปล่า
จนกระทั่งเสียงทุ้มต่ำมีเสน่ห์ดังเข้ามาในหูของเธอ—
คุณตื่นแล้วเหรอครับ
เสียงที่คุ้นเคย ราวกับฝันร้ายที่ประทับอยู่ในใจของเธอ ซึ่งทำยังไงก็ลืมไม่ลง
เธอมองไปที่แหล่งที่มาของเสียงด้วยความตกใจ แล้วสบตาเข้ากับใบหน้าอันสง่างามของดนัยกฤต
ดนัยกฤตนั่งอยู่บนขอบเตียง ใช้หลังมืออังบนหน้าผากของเธอ แล้วพูดพึมพำเบาๆ อืม ไข้ลดลงแล้ว
ธิชาคว้าผ้าห่มข้างหน้าตัวเองไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว
จากนั้นก็แอบมองเข้าไปในผ้าห่ม
พอยืนยันว่าเสื้อผ้าบนตัวของเธอไม่บุบสลาย สวมชุดนอนยาว เนื้อผ้านุ่มลื่นและสะอาด
ตรงหน้าตกแต่งไปด้วยสีชมพูอ่อนๆ ราวกับห้องนอนส่วนตัวของสาวน้อย
เธอมองไปที่ดนัยกฤตอย่างเหนื่อยใจ แล้วถามอย่างสงสัย ทำไมฉันถึงมาอยู่ที่นี่คะ?
ดนัยกฤตยกมือจับผมของเธอ แล้วลูบไปมาเบาๆ
ริมฝีปากบางของเขาพูดช้าๆ เสียงของเขาน่าฟังราวกับเสียงเชลโล
นี่คือห้องของคุณ
… เห็นได้ชัดว่าธิชาไม่เข้าใจ จึงถามต่อ ทำไมฉันถึงได้มาอยู่กับคุณได้?
ชายหนุ่มพูดหยอกล้อ เมื่อคืนผมพาสุนัขออกไปเดินเล่น ก็เลยเก็บแมวตัวน้อยที่เสียเลือดมากเกินไปหมดสติอยู่ข้างถนนก็เลยพากลับมาด้วย