รักลิมิเต็ดของคุณชายเลอค่า - บทที่ 85 ฉันชื่ออี๊ฟ ตอนนี้ท่านดนัยเมาแล้ว
ใบหน้าของธิชานั้นร้อนจนเหมือนมันกำลังจะไหม้ เธอเม้มปากไม่พูดอะไรสักคำ
ดีที่ดนัยกฤตไม่ได้พูดต่อ แค่ลงจากรถราวกับไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้น แล้วเดินเข้าในร้านอาหารส่วนตัวไปพร้อมกับเธอ
ตอนนี้ธิชายังอยู่ในช่วงที่พักฟื้นกระเพาะ จึงเหมาะที่จะกินอาหารที่มีรสจืดเท่านั้น
โจ๊กของร้านอาหารใต้ดินแห่งนี้ขึ้นชื่อมาก ถึงมันจะจืดชืด แต่มันก็เรียกน้ำย่อยได้ดี
……
ช่วงบ่ายธิชาก็กลับไปนอนกลางวัน ช่วงเย็น ดนัยกฤตก็บอกว่ากลางคืนนัดออกไปกินข้าวข้างนอก ให้เธอไปเป็นเพื่อนเขาด้วย
ในใจของธิชานั้นรู้สึกว่าไม่อยากไป เมื่อก่อนธาวินนั้นไม่ค่อยพาเธอไปออกงานเลยไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ก็ตาม เพราะเขาต้องมีผู้หญิงที่คู่ควรกับเขาอยู่แล้ว
และตอนนี้ชื่อเสียงของเธอในแวดวงคนดังของเมืองJนั้นถูกลือจนเละเทะไปหมดแล้ว ถ้าแค่ได้ยินแต่ไม่ได้เห็นกับตาก็ช่างมัน เธอก็จะคิดซะว่าไม่ได้ยินมัน
แต่ถ้าจะให้เธอควงแขนของดนัยกฤตไปออกงานของคนดังที่มาจากทั่วสารทิศ มีคนเท่าไหร่ในเมืองJ ที่เห็นเธอมาตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะจำไม่ได้เลยเหรอว่าเธอคือลูกเลี้ยงของตระกูลธนาภูวนัตถ์ เป็นพี่น้องต่างของธาวิน
ยิ่งคลิปงานหมั้นของธาวินเมื่อก่อนหน้านี้ที่เป็นกระแสใหญ่โตของธาวินอีก……
แขกทุกคนที่ไปร่วมงานในวันนั้น ถ้าไม่ผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ก็ไม่มีทางลืมหน้าของเธอไปได้หรอก
เธอนั้นไม่อยากทำเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องรู้สึกแย่เลยจริงๆ จึงบอกว่าตนนั้นเหนื่อยล้าจากการตากแดดเมื่อเช้าแล้ว คืนนี้เลยไม่อยากออกไปข้างนอก
ดนัยกฤตไม่ได้บังคับเธอ แต่สีหน้าก็ดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่……
กลางคืนที่เขาออกไปสังสรรค์ ธิชาก็ได้นั่งกินข้าวอยู่ในห้องอาหารเพียงลำพัง
จากนั้นจนถึงกลางดึก เขาก็ยังไม่กลับมา
ธิชานั่งรออยู่บนโซฟาไปพักหนึ่ง แต่เขาก็ยังไม่กลับมา เธอจึงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ในช่วงสิบวันที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ เหมือนชายหนุ่มจะยังรู้สึกสดใหม่กับเธออยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าทุกๆ เย็นเขาตั้งใจกลับบ้านมาอย่างตรงเวลา ต่อให้มีงานสังสรรค์ต้องไป เขาก็ยังต้องนั่งกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนเธอก่อนค่อยออกไป
ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่ได้เห็นหน้าเขา ธิชาก็ยังไม่คุ้นเคยกับพี่เลี้ยงและคนรับใช้ในบ้าน ในใจจึงรู้สึกเคว้งคว้างน่าดู
เธอรออย่างโง่ๆ ไปพักหนึ่ง พอรอจนเหนื่อย ก็มีความคิดที่เยาะเย้ยตัวเองขึ้นมา
ดนัยกฤตนั้นเป็นผู้ชายแบบไหน เธอรู้มาตั้งนานแล้ว การที่เขาไปร่วมงานเลี้ยงจนไม่กลับบ้านทั้งคืน มันก็เป็นเรื่องที่ปกติจนไม่รู้ว่าจะปกติยังไงแล้ว
เมื่อก่อนธาวินเองก็ไม่ค่อยกลับบ้าน หรือไม่ก็กลับมาพร้อมกับกลิ่นเหล้าที่เหม็นฟุ้งในตอนเช้า ไม่เพียงอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของสาวสวย ที่คอเสื้อยังเต็มไปด้วยรอยลิปสติก
ตอนนั้นเธอก็ไม่กล้าถามอะไรธาวินเลย แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้มานั่งรอดนัยกฤตอย่างโง่แล้วล่ะ
ธิชารู้สึกว่าตัวเองนั้นน่าขัน จึงปิดทีวีแล้วกลับเข้าห้องไป
……
คืนนี้เธอนอนไม่ค่อยหลับเลย พลิกไปพลิกมาและตื่นมากลางดึกหลายรอบ
ครั้งที่สามที่ตื่นขึ้นมานั้นคือตอนตีสาม เธอมองไปที่นาฬิกา และตอนที่กำลังจะนอนต่อนั้น ก็เหมือนจะได้ยินเสียงคนเดินและพูดคุยดังขึ้นมาจากข้างล่าง
ดึกขนาดนี้แล้ว ถ้าดนัยกฤตสังสรรค์จนดึกขนาดนี้ แปดสิบเปอร์เซ็นต์นั้นเขาต้องเมาแล้วแน่นอน
เมื่อก่อนถ้าธาวินเมากลับมา ก็ต้องให้คนรับใช้มากมายค่อยบริการเขา วุ่นวายจนดึกดื่นก็ยังไม่เสร็จ
บางครั้งที่เมาหนักๆ ก็มีอ้วกบ้าง
ถึงแม้ธิชาจะรู้สึกลังเลอยู่บ้าง แต่เธอก็คิด ตอนนี้พี่เลี้ยงกับพวกคนใช้ก็หลับไปหมดแล้ว ข้างล่างก็ไม่น่าจะมีใครคอยรับใช้เขาแล้ว อย่างมากก็แค่คนขับรถ……แล้วคนขับรถจัดไปจัดการกับผู้ชายที่เมาแอ๋ได้ยังไงล่ะ?
เธอคิดว่าดนัยกฤตก็ทำดีกับเธอมาก เธอเองก็ควรมีจิตใจที่รู้จักทดแทนบุญคุณด้วยถึงจะถูก
ว่าแล้วเธอก็เอาเสื้อคลุมของชุดนอนมาใส่ สวมรองเท้าแตะแล้วเดินลงไปข้างล่าง
แต่พอเธอเพิ่งก้าวลงบันได ตอนที่เธอยืนอยู่ตรงหน้าบันได เธอก็ต้องตะลึงกับภาพที่เห็น
ชายหนุ่มที่กำลังเมานั้นไม่ได้อยู่เพียงลำพังโดยที่ไม่มีใครคอยดูแลเลย……
สีหน้าของเขาค่อนข้างแดง เสื้อที่ใส่ก็ยุ่งเหยิง เห็นได้ชัดว่าเขานั้นเมามาก
เขานั่งแผ่อยู่บนโซฟา ตรงหน้าก็มีหญิงสาวอ่อนวัยที่หน้าตาสะสวยนั่งคุกเข่าอยู่
ธิชามองเห็นใบหน้าด้านข้างของเธอ แต่งหน้าได้อย่างงดงาม ผิวพรรณขาวใสราวกับหิมะ เห็นแล้วก็รู้เลยว่าอายุยังน้อยมาก
หุ่นก็ดีมาก……สวมชุดราตรีสีแดงเข้ม ตรงอกเสื้อค่อนข้างต่ำ วัตถุทรงกลมสีขาวครึ่งหนึ่งนั้นอยู่ในระดับสายตาของชายหนุ่ม
หญิงสาวกำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเพื่อรินชาแก้เมาให้กับเขา
ขาที่ก้าวเดินของธิชานั้นแข็งเกร็ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าฐานะของเธอตอนนี้ควรที่จะเดินต่อไป หรือควรที่จะรีบกลับขึ้นไปแล้วแสร้งทำเหมือนไม่เห็นอะไร
และในวินาทีที่เธอกำลังสับสนอยู่นั้นเอง หญิงสาวที่งดงามคนนั้นก็มองเห็นเธอเข้า แววตาค่อนข้างตกใจ แต่เหมือนจะตั้งสติได้ในทันที รีบลุกขึ้นยืน และพูดทักทายกับเธอก่อน
คาดว่าคุณก็คือคุณธิชาใช่มั้ยคะ ฉันชื่ออี๊ฟ คืนนี้ท่านดนัยได้ทำการค้าขายอันใหญ่ไปอันหนึ่ง เขาดื่มเยอะไปหน่อยตอนนี้น่าจะกำลังเมาอยู่ เป็นเพราะข้างล่างเสียงดังเกินไปจนไปรบกวนการพักผ่อนของคุณธิชาเข้าใช่มั้ยคะ?
ถึงหญิสาวคนนี้ดูแล้วจะยังเด็กมาก แต่ก็ค่อนข้างรู้จักพูด รู้จักวางตัวให้เหมาะสม ดูแล้วน่าจะมีไหวพริบและประสบการณ์มากทีเดียว ซึ่งไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีแต่ประจบประแจงตามงานต่างๆ แน่นอน
แต่ตอนที่เธอแนะนำตัวเองนั้นไม่ได้พูดถึงฐานะของตัวเองเลย ธิชารู้สึกใจสั่นเล็กน้อย ในใจคิด ……คาดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงที่คอยบริการให้ดนัยกฤตบ่อยๆ ในเมื่อไม่บอก ก็ต้องมีเหตุผลที่จะไม่บอกอยู่แล้ว
ธิชายิ้มออกมาอย่างสุภาพ ไม่เลย ฉันตื่นมาแล้วได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างล่างพอดี คิดว่าเขาก็น่าจะดื่มเยอะแล้ว จึงได้ลงมาดู ในเมื่อมีคุณอยู่ด้วย งั้นก็ต้องรบกวนคุณแล้วนะคะ ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ขอกลับห้องก่อนนะคะ
เธอพยายามทำหน้าให้เป็นปกติที่สุด แต่ฝ่ามือนั้นกลับกำลังเหงื่อตก เธอรู้ว่าตัวเองนั้นเสียมารยาท