รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 20-2 เธอก็ลองร้อนใจซะบ้าง / บทที่ 21-1 ช่วงเวลาที่ผู้หญิงกับแมวสบตากัน
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 20-2 เธอก็ลองร้อนใจซะบ้าง / บทที่ 21-1 ช่วงเวลาที่ผู้หญิงกับแมวสบตากัน
บทที่ 20-2 เธอก็ลองร้อนใจซะบ้าง / บทที่ 21-1 ช่วงเวลาที่ผู้หญิงกับแมวสบตากัน
Xiaobei
บทที่ 20-2 เธอก็ลองร้อนใจซะบ้าง
[เหตุผลที่ควรเป็นที่ปรึกษาให้โกคึมกัง]
1. ข้อดีระยะสั้น
1.1 ความสามารถในการทำงานและประสิทธิผล: ★★★★
5 เดือน / 10 ล้านวอน ® decent hourly wage(ค่าจ้างรายชั่วโมงที่ดีเยี่ยม)!
1.2 ผลกำไร: ★★★★★
ในฐานะที่ปรึกษา สามารถอ่านผลงานใหม่ของโกคึมกังได้ก่อนใคร ® !!ESSESNTIAL(สำคัญที่สุด)!!
1.3 การดูแลตนเอง: ★★★☆
ได้พักผ่อนระหว่างหยุดงานชั่วคราว, ได้ติดต่อกันต่อเนื่อง อาจช่วยให้เขาผ่อนปรนกับตัวเองได้
2. ข้อดีระยะยาว
2.1 ประวัติการทำงาน: ★★☆
หลังจากจบจากเป็นที่ปรึกษา มีความเป็นไปได้ที่จะได้ดูแลทรัพย์สินส่วนตัวให้นักเขียนโกคึมกัง (estimated assets(สินทรัพย์โดยประมาณ) = น่าจะประมาณ 2 ร้อยล้านวอน+???)
2.2 เน็ตเวิร์คกิ้ง: ★★★☆
Extended social capital(ต้นทุนทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้น) / strength of weak tie(จุดแข็งในการที่เกี่ยวข้องกัน)? มีโอกาสการแลกเปลี่ยนกับคนในอาชีพที่แตกต่าง
2.3 ผลการศึกษาต่อเนื่อง: ★★★☆
ต้องศึกษาเกี่ยวกับการเตรียมพื้นฐานของที่ปรึกษา Self development(การพัฒนาตนเอง)
เขียนมาถึงตรงนี้จีฮวันก็บ่นพึมพำอย่างเหนือความคาดหมาย
“เอ๊ะ? มีข้อดีเยอะกว่าที่คิดเหรอเนี่ย ไหนมาดูข้อเสียบ้างสิ”
แล้วจีฮวันก็ลงมือหาข้อเสีย
[เหตุผลที่ไม่ควรเป็นที่ปรึกษาให้โกคึมกัง]
1. ความเสียหายทางการเงิน
Sunken cost(ต้นทุนจม) : เงินที่ต้องเสียไปเพราะโกตึมกัง ทั้งโถ, สูท, รองเท้า! ต่อไปก็ไม่รู้ต้องเสียอีกเท่าไหร่ แต่การคิดถึงต้นทุนจมที่จ่ายไปแล้ว ไม่เป็นเหตุเป็นผลในทางเศรษฐกิจ
2. ความเครียดทางจิตใจ : ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรอีกเมื่อไหร่ มีความตื่นเต้นว่าไม่รู้โกคึมกังจะไปทางไหน ได้แต่หวาดผวาอยู่ในใจ
3. ความเป็นไปได้ในการขัดขวางการหางานทำ : แต่ก็มีโอกาสได้มีประวัติการทำงานใหม่ๆ?
จีฮวันถือปากกาคร่ำเคร่งอยู่หน้าไวท์บอร์ดที่ข้อความทั้งสองฝั่งไม่สมดุลกัน ไม่มีอะไรจะใส่ในช่องข้อเสียแล้ว สุดท้ายก็วางปากกาลง ใครดูก็รู้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องผลกำไรเท่านั้น แต่นี่เป็นสัญญาที่มีข้อดีสำหรับจีฮวันในหลายๆ แง่มุม
“เมี้ยววว!”
จีองที่นอนคว่ำอยู่บนโต๊ะหนังสือร้องขึ้นราวกับถามว่ากลุ้มใจอะไรไร้สาระอยู่ได้
“ช่วยไม่ได้ การรับข้อเสนอเป็นที่ปรึกษาเป็นการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลมากที่สุดแล้ว ใช่ไหมจีอง การปฏิเสธความคิดที่มีเหตุผลคงจะเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่ทำงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศเกาหลีเนอะ”
จีฮวันส่งข้อความหาอึนคังด้วยสีหน้าพ่ายแพ้
[พรุ่งนี้บ่ายสาม เจอกันที่คาเฟ่ที่นัดเจอกันวันนี้ พอจะมีเวลาไหมครับ]
ไม่ถึงสามสิบวินาทีข้อความตอบก็ถูกส่งมาอย่างรีบร้อน
[ได้ค่ะ!]
“เร็วจริงๆ คนห้อง 1503 นี่เขารีบร้อนจริงๆ เลยนะ จีอง”
จีฮวันอุ้มจีองขึ้นมากอดพลางแอบยิ้ม อึนคังจะต้องกระวนกระวายไปจนถึงพรุ่งนี้บ่ายสามโมงบ้าง ความจริงอารมณ์จีฮวันดีขึ้นไม่น้อย ช่วยไม่ได้ เทียบกับหายนะที่จีฮวันเจอ ก็ต้องเจอประมาณนี้แหละนะ
บทที่ 21-1 ช่วงเวลาที่ผู้หญิงกับแมวสบตากัน
นักเขียนเว็บนิยายโรแมนซ์ออนไลน์สิบเก้าบวก โกคึมกัง ถูกจับได้ว่าคือ ‘ยัยอึ’ ที่ไปอึบ้านจีฮวันแล้วหนีนั่นเอง แถมวันต่อมาหมาที่เธอเลี้ยงยังไปฉี่ใส่เขาอีก
อีกห้านาทีบ่ายสามโมง จีฮวันในชุดกางเกงยีนส์สีดำสูงโปร่งกับเทรนช์โค้ตยาวสีเบจเข้ากับยามบ่ายในฤดูใบไม้ร่วงมาถึงสถานที่นัดก่อนเวลาห้านาที วันนี้ค่อนข้างสบายๆ หน่อย ต่างกับเมื่อวานที่นัดเจอกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก แต่ก็ไม่ได้สบายจนเกินไปนัก ด้วยการแต่งกายที่เหมือนจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ใส่ใจ
จีฮวันที่คิดว่าอึนคังยังมาไม่ถึงตรงไปหน้าเคาน์เตอร์ทันทีที่เข้ามาในคาเฟ่ คิดว่าตัวเองจะเลี้ยง และรีบสั่งก่อนที่จะโดนอึนคังตีมืออีก
แต่กลับมีเสียง ‘ตึง ตึง ตึง’ เหมือนอะไรสักอย่างโขกอย่างแรงดังแทรกเพลงบัลลาดที่กำลังบรรเลงอย่างสงบ จีฮวันหันหน้าไปยังที่มาของเสียงโดยไม่ได้ตั้งใจ
เฮือก! จีฮวันสะดุ้งตกใจรีบหันขวับกลับมาทันที แต่พนักงานร้านที่คุ้นหน้าทำสีหน้าละล้าละลัง ค่อยๆ ชี้ไปยังมุมคาเฟ่ที่มีเสียงตึงๆ
“มาด้วยกันใช่ไหมคะ”
เฮ้อ ท่าจะบ้าไปแล้ว จีฮวันถอนหายแล้วหันกลับไปมองอีกครั้ง ผู้หญิงประหลาดที่ใส่ฮู้ดดำและกำลังเอาหน้าผากโขกโต๊ะตึงๆ เหมือนตุ๊กตาล้มลุกนั่นก็คือ โกอึนคัง
เรื่องปวดหัวตอนนี้รวมกับเมื่อวาน จีฮวันอยากทำเป็นไม่รู้จักแล้วหนีไปซะ เขาหยิบเครดิตการ์ดออกมายื่นให้พลางเสียใจกับจิตสำนึกและความซื่อตรงของตัวเองที่ทำแบบนั้นไม่ได้
“ขอชาส้ม แล้วก็กาแฟของวันนี้…กับชีสเค้กแล้วก็ทีรามิสุอย่างละชิ้นครับ”
“ค่ะ จะเอาไปเสิร์ฟให้นะคะ”
จีฮวันที่สั่งเสร็จกำลังเดินไปยังโต๊ะของอึนคัง ก็ได้ยินเสียงซุบซิบของผู้คนลอยมาเข้าหู
“เป็นอะไรน่ะ”
“อกหักล่ะมั้ง”
เสียงซุบซิบพลางเหลือบมองอึนคัง ทำเอาจีฮวันค้านสุดตัว ทำเป็นไม่รู้ว่าตัวเองก็โดนมองและซุบซิบถึงด้วย ความโมโหพุ่งปรี๊ดใส่หญิงสาวที่กำลังเอาหัวโขกโต๊ะตึงๆ อยู่ ทำอะไรน่ะ ลิงในสวนสัตว์ก็ไม่ใช่ คนมองกันหมดแล้ว จิ๊!
อึนคังกำลังจะเอาหน้าผากโขกโต๊ะอีก แต่จีฮวันเอามือไปคั่นไว้ระหว่างหน้าผากเธอกับโต๊ะ
โอ๊ย! โขกซะแรง แรงที่โขกลงมาบนหลังมือแรงไม่ใช่น้อย จีฮวันกัดฟันทนเจ็บด้วยความหงุดหงิด
อึนคังตกใจหันขวับไปมองจีฮวันตาลอย แค่วันเดียวเองนะเนี่ย ใบหน้าทุกข์ใจ ท่าทางคงไม่ได้นอนทั้งคืน
“เฮือก! คุ คุณพีบี เป็นอะไรไหมคะ”
“เป็นครับ เหมือนกระดูกหลังมือจะหัก”
“จริงเหรอคะ”
อึนคังลุกพรวดมาคว้ามือเขา
“อ้า ทำไงดี ตรงไหนคะ ตรงนี้เหรอ ทำไมยื่นมาแทรก…”
การกระทำของอึนคังที่ลูบและพลิกมือเขาไปมา ทำเอาจีฮวันตกใจรีบดึงมือออก
“ละ ล้อเล่นครับ ผมล้อเล่น! มือผมไม่เป็นไร กลัวโต๊ะหักเถอะ มันเป็นทรัพย์สินของคาเฟ่ จะโขกอะไรขนาดนั้นครับ แล้วเสียงตึงๆ มันก็รบกวนแขกคนอื่นในคาเฟ่ด้วยไหมครับ”
อึนคังมีสีหน้าตกใจจากใจจริง ถ้าเป็นคนปกติ จีฮวันคงตำหนิต่อหน้าว่า ‘หยุดทำเสียงบ้าๆ นั่นสักที’ ไปแล้ว การเอาหัวโขกโต๊ะในที่สาธารณะ เป็นการก่อความรำคาญให้แก่คนอื่น มันเป็นสามัญสำนึกที่รู้โดยไม่ต้องบอก
แต่นี่เป็นอึนคัง คิดว่าสามัญสำนึกแบบนั้นคงจะไม่มี ขนาดอึบ้านคนอื่นแล้วหนีไปได้ สามัญสำนึกปกติพวกนี้คงเกินเยียวยา
“ไม่ต้องขอโทษผมครับ ควรขอโทษลูกค้าคนอื่นๆ กับเจ้าของคาเฟ่”
โธ่เอ๊ย! อึนคังลุกพรวดขึ้นทันทีที่จีฮวันพูดจบ
“ขอโทษนะคะ! ฉันทำเสียงหนวกหูใช่ไหมคะ ขอโทษด้วยนะคะ!”
จีฮวันยืนเอามือปิดหน้าอยู่ด้านหลังของอึนคังที่หมุนตัวร้อยแปดสิบองศา โค้งขอโทษสามรอบ จะบ้าไปแล้ว
อึนคังนั่งลงพลางมองจีฮวันตาเป็นประกาย สีหน้าภูมิใจเหมือนจะบอกว่า ‘ฉันทำดีแล้วใช่ไหม’
“โอ๊ย ทำอะไรของคุณ…”
ทำอะไรน่ะ ดูไม่เห็นเป็นพวกนอนเซนส์เลยนี่นา อายจะตายอยู่แล้ว คำพูดติดอยู่ในคอเต็มไปหมด แต่จีฮวันทำเพียงหุบปากลงเฉยๆ
“ฉันทำอะไรผิดอีกแล้วเหรอคะ”
“ช่างมันเถอะครับ”
อึนคังมองด้วยความสงสัยแล้วก็พอจะอ่านท่าทางของเขาออก จึงค่อยๆ พูดอย่างระมัดระวัง
“เมื่อวานตอนคุยโทรศัพท์กับคุณพีบี ฉันรู้ว่าอยู่เฉยๆ คงไม่ได้ เลยจะไปหา”
“ไม่มาแหละดีแล้วครับ เมื่อวานผมบอกแล้วว่าอย่ามา ถ้าดึงดันมา ผมคงโกรธมาก ไม่ว่าชายหรือหญิง ถ้าปฏิเสธว่าไม่เอา แต่ยังดึงดันเอาแต่ความรู้สึกตัวเองยัดเยียดให้คนอื่น พฤติกรรมแบบนั้นมันน่ารังเกียจ คนที่ได้รับการขอโทษ ควรจะได้มันในเวลาที่ต้องการด้วย”
“ค่ะ…”
ท่าทางเยือกเย็นและเฉียบขาดของจีฮวัน ทำเอาอึนคังถอนหายใจเบาๆ
เฮ้อ เสียเขาไปแล้วสิเนี่ย แล้วจะไปหาที่ปรึกษาทางการเงินคนอื่นจากที่ไหน คงต้องลองไปที่ศูนย์วีไอพีของธนาคารเอง แล้วเขาจะยอมเป็นที่ปรึกษาให้หรือเปล่า ถ้าโดนไล่กลับมาจะทำอย่างไร แล้วต้องซื้อพวกกระเป๋าหรือสร้อยอะไรแบบนี้ให้ด้วยไหมนะ จากู เจ้าตัวแสบ! ก่อเรื่องแท้ๆ อ้า จากูผิดอะไร มันก็ไม่ได้ไปอึในบ้านเขาเสียหน่อย
“คุณนักเขียน!”
เสียงเรียกเจือหงุดหงิดของจีฮวันดึงสติของอึนคังกลับมา
“ค่ะ ค่ะ!”
“ไม่เปิดดูเหรอครับ”
จีฮวันผายมือไปทางเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะ ในที่สุดก็มาแล้วสินะ ใบเสร็จค่าเสียหาย! รวมค่าเสื้อผ้ากับโถที่จากูกับเราทำพัง จะเกินล้านวอนไหม อึนคังเปิดซองด้วยใจระทึก
“เอ๋?”
ภายในซองเป็นสัญญาที่ปรึกษาไม่ใช่ใบเสร็จชดใช้ค่าเสียหายอย่างที่เธอคิด
“สัญญา?”
“ผมลองทำสรุปสัญญาตามข้อมูลเวลากับค่าจ้างที่คุณนักเขียนเสนอ ลองดูนะครับ ถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็เซ็นชื่อได้เลยครับ”
“กรี๊ด! ขอบคุณค่ะ! ขอบคุณจริงๆ! คุณพีบีใจดีสุดยอดเลย!”