รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - บทที่ 70-2 ของของฉัน, ผู้ชายที่อยากได้คืน / บทที่ 71-1
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- บทที่ 70-2 ของของฉัน, ผู้ชายที่อยากได้คืน / บทที่ 71-1
บทที่ 70-2 ของของฉัน, ผู้ชายที่อยากได้คืน
“พวกเรามุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จผ่านมูลนิธิ และเชิดชูภาพลักษณ์ของบูกยองกรุ๊ป จุดมุ่งหมายในการก่อตั้งมูลนิธิบูกยองปันรักขึ้นมาก็เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ที่เสียชื่อจากสถานการณ์น่าอับอายต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องไปในทิศทางที่ดีที่สุด ตลอดจนแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท โดยการบริจาค แบ่งปันและดูแลบริการ”
หลังกินอาหารเย็นเสร็จ การสัมภาษณ์สดก็เริ่มต้นขึ้น ขณะที่ฟังราฮีอธิบาย จีฮวันก็รู้สึกว่าตัวเองคงคาดผิดไปเกี่ยวกับข่าวของเธอ น้ำเสียงมั่นคงดังเข้ามาในหู จังหวะความเร็วสูงต่ำฟังเพราะ สีหน้าสงบเยือกเย็นและมั่นใจในตัวเองเหมือนปกติ
หรือไม่ก็ใน ‘สถานการณ์เลวร้ายต่อเนื่อง’ ทั้งการก่อสร้างอะพาร์ตเมนต์ให้เช่าที่ไม่จริงใจที่ปรากฏในข่าวช่วงนี้ รวมถึงคดีความรุนแรงในร้ายเหล้าของสามีที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อหลายวันก่อน เธออาจจะเป็นภรรยาที่พยายามกลบเกลื่อนความผิดของสามีก็ได้
“คุณรยูจีฮวัน ดื่มไปด้วย ถามไปด้วยก็ได้นะครับ ถ้ามีอะไรสงสัย”
ผู้จัดการฮวังรินวิสกี้ใส่แก้วของจีฮวัน
“อย่าคิดว่าเป็นการสัมภาษณ์อะไรเลย คิดซะว่าเป็นการมานัดดูตัวกันสบายๆ ของหนุ่มสาว”
หลังจากจีฮวันหันไปยกแก้วแตะปากเบาๆ ก็วางลง
“บอกนัดดูตัวน่าจะยิ่งเครียดกว่านะครับ ผู้จัดการ”
“อ้าว! งั้นเหรอ ฮ่าๆ ฉันเปรียบเทียบผิดไปสินะ นั่นสิๆ จะมีเรื่องอะไรตื่นเต้นกว่าการเจอกันครั้งแรกของหนุ่มๆ สาวๆ อีก”
ผู้จัดการฮวังตบไหล่จีฮวันปุๆ พร้อมกับยิ้มกว้าง ราวกับถูกใจคำพูดของจีฮวัน
“ว่าแต่คุณรยูจีฮวันเครียดกับการดูตัวด้วยเหรอครับ สาวๆ น่าจะรอเข้าคิวกันมากกว่า ยังโสด แต่มีผู้หญิงที่คบหาอยู่ใช่ไหม”
ขณะที่จีฮวันกำลังจะตอบ ราฮีก็แทรกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ผู้จัดการคะ ถามเรื่องส่วนตัวเกินไป มันเสียมารยาทนะคะ”
ราฮีวกกลับเข้าเรื่องงาน ไม่อยากได้ยินเรื่องของผู้หญิงคนอื่นจากปากของจีฮวัน กลัวว่าเขาจะพูดถึงผู้หญิงที่กำลังจะแต่งงานด้วยอีก
“อ้า นั่นสิๆ พอแก่แล้วก็ทำตัวไม่เหมาะสมเอาซะเลย ขอโทษทีนะ มาดื่มกันอีกสักแก้ว ไม่ต้องเกรงใจ ดื่มเหล้าได้ใช่ไหม”
“เอ่อ ครับ”
จริงๆ เขาไม่ควรดื่ม เพราะต้องขับรถไปหาอึนคัง แต่ก็พ่ายแพ้แก่การคะยั้นคะยอของผู้จัดการฮวัง ในหัวของจีฮวันคำนวนค่าจ้างคนขับรถไปถึงชองพยองสลับกับเรื่องที่ทำไมอึนคังไม่ตอบข้อความให้วุ่นวาย
จีฮวันหวังจะให้สถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้จบลงเร็วๆ ด้วยถึงจะสัมภาษณ์ผ่าน เขาก็ไม่คิดจะไปเผชิญหน้าและทำงานกับราฮีอยู่แล้ว
“ถึงแม้คุณจะไม่มีประสบการณ์ด้านที่ปรึกษามูลนิธิ แต่ก็อยากจะทราบว่าคิดอย่างไรเกี่ยวกับมูลนิธิการกุศลคะ”
ราฮีถามจีฮวัน
“ผมคิดว่าเพื่อความสำเร็จในการเชิดชูภาพลักษณ์บริษัทแล้ว ความต่อเนื่องของมูลนิธิเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งเป็นการยากที่จะบรรลุความมุ่งหมายที่คาดหวังในระยะเวลาอันสั้นเพียงไม่กี่งาน เพราะภาพลักษณ์ของบริษัทไม่ได้สร้างขึ้นมาได้ในชั่วอึดใจ ถ้าให้ยกตัวอย่าง โครงการโฮปคาร์ของบริษัทเอช ก็เห็นมาสิบปีแล้ว ต่างกับที่คาดคะเนว่าจะทำครั้งสองครั้ง ชีวิตของคนที่ได้รับความช่วยเหลือเปลี่ยนไปจริงๆ ฟีดแบ็กในแง่ดีก็ค่อยๆ กลับมา อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสิบปี อาจจะเสียมารยาท แต่ถ้าคิดจะย่นเวลาทำแค่ปีสองปี ผมว่าไม่ควรเริ่มตั้งแต่แรกจะดีกว่าครับ เพราะมีความเป็นไปได้ว่าผลที่ได้จะไม่คุ้ม สิ้นเปลืองเงินเปล่าๆ”
ผู้จัดการฮวัง หัวหน้าแผนกคิม ตัวแทนจัดหางาน ทุกคนตั้งใจฟังที่จีฮวันพูดพลางพยักหน้า ราฮีไม่ลดละพยายามสงบใจ ความจริงที่ว่าผู้ชายที่ดีขนาดนี้เป็นรักแรก และความจริงที่ว่าเธอก็ยังรักเขา ทำเอาน้ำตาไหลท่วมอก
บทที่ 71-1 เวลาที่มักจะคลาดกัน
จีฮวันรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ปิดประตูนั่งลงบนฝาโถหายใจลึก
“เฮ้อ ดื่มมากไปแล้ว”
ตัดสินใจว่าจะดื่มแค่แก้วเดียว แต่เจอรุกทั้งจากกรรมการผู้จัดการฮวังและหัวหน้าแผนกคิมจนเลี่ยงไม่ได้ ปากบอกให้ดื่มช้าๆ แต่รินเหล้าไม่หยุด สมกับเป็นธุรกิจสายก่อสร้าง ธรรมเนียมของคนผู้ใช้แรงงาน กล่าวว่าต้องให้กินเหล้าเสียก่อน ถึงจะรู้ตัวตนที่แท้จริงของคน
ระหว่างที่ดื่มวิสกี้เข้าไปกว่าสิบแก้ว จีฮวันก็ตอบคำถามที่ทั้งสามโยนมาให้ไปด้วย เรียกว่าต้องแสดงความอดทนเหนือมนุษย์กันเลยทีเดียว
เขาออกมาข้างนอกโดยใช้ห้องน้ำเป็นข้ออ้าง พยายามประคองตัวให้เดินตรงทาง ทันทีที่มาถึงห้องน้ำ ตั้งแต่หัวจรดเท้าแทบหมดแรง
หลังจากกุมหัวตั้งสติอยู่สักพัก จีฮวันก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ไม่ทันรู้ตัวก็สามทุ่มกว่าแล้ว แต่ยังติดต่ออึนคังไม่ได้
“มัวทำอะไรอยู่…”
จีฮวันโทรออก แต่ก็มีเพียงสัญญาณที่บ่งบอกว่าไม่มีคนรับ
“เฮ้อ อยากจะบ้า คุณโกอึนคัง ตอนนี้ทำอะไรอยู่ที่ไหน ทำไมไม่ติดต่อมา บอกให้ผมตามไปไม่ใช่เหรอ แล้วไม่สงสัยหรือไงว่าผมออกเดินทางแล้วหรือยัง ไปถึงไหนแล้ว ควรโกรธดีไหม หรือจะงอนดี”
จีฮวันโทรศัพท์อีกครั้ง รู้สึกปวดฉี่เลยยืนขึ้น โดยเอามือถือหนีบไว้ระหว่างหูกับไหล่ มือทั้งสองข้างรูดซิปกางเกง ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ทิ้งดิ่งลงโถส้วมดังจ๋อม
จีฮวันอึ้งมองโทรศัพท์มือถือในโถ เพราะเหล้าทำให้ไม่เข้าใจสถานการณ์และตัดสินใจช้าลง ไอ้สีดำๆ นั่นมันโทรศัพท์เรา ทำไมถึงไปอยู่ใน…
“เฮ้ย!”
จีฮวันที่ไม่ทันได้พับแขนเสื้อรีบเก็บโทรศัพท์ขึ้นมา ทั้งแขนเสื้อเชิ้ตและแจ็คเก็ตเปียกหมด แต่เขาไม่มีเวลาได้สนใจ
กดปุ่มเปิดโทรศัพท์ที่ดับไป แต่มันได้เสียไปเสียแล้ว แม้จะพยายามกดเท่าไหร่ก็เป็นเช่นเดิม
“อ้า แบบนี้ เฮ้อ คงจะเสียแล้วสินะ”
จีฮวันถือโทรศัพท์รีบเดินออกมาจากห้องน้ำ เจอเข้ากับราฮีที่ออกมาจากห้องอาหาร
ราฮีที่เช็คดูแล้วว่าทางเดินตรงนั้นไม่มีใครกระซิบถาม ในขณะที่สายตายังคงสอดส่ายไปรอบๆ
“เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ไม่มีอะไร”
จีฮวันเลือกใช้คำสุภาพ ราฮีเองเลยเปลี่ยนเช่นกัน
“ฉันไม่รู้จริงๆ นะคะ ว่าคุณจีฮวันจะมาสัมภาษณ์ด้วย เพิ่งมารู้เมื่อกี้””
“ช่างเถอะครับ เพราะยังไงผมก็ไม่คิดจะทำงานนี้”
สีหน้าของราฮีหวั่นไหวเล็กน้อย
“เพราะฉันงั้นเหรอคะ อย่าทิ้งโอกาสดีๆ ที่ตั้งใจเพราะฉันเลยค่ะ ถึงจะเป็นสัญญาช่วงสั้นๆ แค่สามเดือน แต่ค่าตอบแทนไม่น้อย….”
จีฮวันแสยะยิ้ม
“ไม่ตลกเหรอครับ”
“อะไรนะคะ”
“ไม่อยากเจอข่าวลือ เลยไม่แม้แต่จะสบตากับผม แล้วอย่างนี้จะทำงานได้เหรอครับ บริษัทก็ของบ้านสามี พนักงานทั้งหมดก็เป็นคนของบ้านสามี มันก็เหมือนกัน จะไม่สนใจงั้นเหรอครับ กลัวเรื่องฉาวไม่ใช่หรือไงครับ”
ราฮีสบตาจีฮวันตรงๆ
“การต้องเก็บตัวจากข่าวฉาวเพื่อรักษาภาพลักษณ์ของบูกยองกรุ๊ป ฉันก็ไม่ได้รู้สึกดีนักหรอกนะคะ ต้องทำตัวเป็นสะใภ้เศรษฐีมีการศึกษา ไม่ได้มีเวลามากมาย อย่าคิดง่ายๆ แบบนั้นเลยค่ะ”
รู้สึกได้ถึงความโกรธเคืองจากราฮี และแค่ไม่กี่คำก็รู้สึกได้ถึงความสับสนและความลำบากใจที่ต้องเผชิญมา
“ผมหุนหันพลันแล่นไปหน่อย ขอโทษด้วยนะครับ และถ้าจะเลือกผม ผมเองก็จะลองคิดดูอย่างจริงจัง”
“ขอบคุณค่ะ”
จีฮวันกลับเข้ามาในห้องอาหาร สักครู่ราฮีก็ตามเข้ามา เหลือตัวแทนจัดหางานอยู่คนเดียว
“ผู้จัดการกับหัวหน้าแผนก…”
“ออกไปสูบบุหรี่น่ะครับ บ่นว่าชอบสมัยที่สามารถสูบบุหรี่ในเครื่องบินหรือร้านอาหารได้ตามใจ”
“แต่สำหรับคนไม่สูบบุหรี่อย่างพวกเรา เรียกว่าตอนนี้คือสังคมที่มีอารยธรรม”
ตัวแทนจัดหางานหัวเราะพลางสนับสนุนคำพูดของราฮี
“จริงครับ เป็นสังคมที่มีอารยธรรมจริงๆ เฮ้อ แต่ก่อนในละครนี่สูบบุหรี่กันเป็นว่าเล่น เวลาเห็นบุหรี่ที่ถูกเบลอในฉากละครสมัยก่อน รู้สึกต่างยุคกันมาก”
“ขอใช้โทรศัพท์หน่อยได้ไหมครับ พอดีโทรศัพท์ของผมน็อคไปแล้ว”
“เชิญตามสบายเลยครับ”
ตัวแทนจัดหางานยื่นโทรศัพท์มือถือให้จีฮวัน
“มันต้องใส่รหัสด้วยนี่ครับ”
“เออใช่ สติสตังผมนี่นะ”
ตัวแทนจัดหางานรับโทรศัพท์มือถือคืนมาเปิดหน้าจอหลังปลดล็อกรหัส
“บอกเบอร์มาสิครับ”
“ศูนย์หนึ่งศูนย์ แปดห้าสามเจ็ด…”
ตัวแทนจัดหางานกดเบอร์โทรออกแล้วส่งให้จีฮวัน
“สายไม่ว่าง”
“ไม่เป็นไรครับ ใช้ตามสบายเลย”
โทรสองรอบ สามรอบแต่ก็เหมือนเดิม เฮ้อ ผู้หญิงคนนี้ใช้สายอะไรนักหนา กลางดึกแบบนี้มัวคุยกับใคร หรือกำลังโทรหาเรา ก็น่าจะเป็นไปได้มาก นี่คุณโกอึนคัง โทรศัพท์ผมเสีย ขอร้องหยุดโทรแล้วรับสายที
โทรศัพท์ของอึนคังยังคงสายไม่ว่าง ไม่ได้รู้ถึงความร้อนใจ ถึงจะบอกให้ใช้ได้ตามสบาย แต่ก็เกรงใจที่เอาโทรศัพท์คนอื่นมาโทรตลอด ในที่สุดจีฮวันก็คืนโทรศัพท์ให้
“ใช้เสร็จแล้วครับ”
“สายไม่ว่างไม่ใช่เหรอครับ โทรอีกก็ได้นะครับ”
“ไม่เป็นไรนะครับ ไว้ผมไปโทรที่ล็อบบี้ก็ได้”
จีฮวันล้มเลิกที่จะโทรศัพท์ ส่วนราฮีกดปุ่มโทรออกจากโทรศัพท์มือถือที่ถือเอาไว้ใต้โต๊ะพลางมองเขาดื่มน้ำใส่น้ำแข็ง
ขณะที่ฟังจีฮวันบอกเบอร์ ชื่อของอึนคังก็แวบผ่านเข้ามาในสมอง ราฮีชิงโทรหาอึนคังขัดขวางการโทรของจีฮวัน และก็สำเร็จ
จีฮวันโทรเท่าไหร่ ก็ได้ยินแต่ ‘สายไม่ว่าง’ ที่ราฮีเป็นคนโทรชนไม่หยุด
หัวใจราฮีเต้นแรง มือที่กำมือถือเต็มไปด้วยเหงื่อ เห็นราฮีถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตัวแทนจัดหางานก็ถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณราฮี ไม่เป็นไรนะครับ”
“อ๋อ ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ เมานิดหน่อย เพราะผู้จัดการคะยั้นคะยอไม่หยุดเลย… ทั้งสองคนก็คงลำบากแย่เลยนะคะ เขาเป็นพวกคนโบราณ เวลามีมีตติ้งสำคัญก็คิดว่าจะขาดเหล้าไปไม่ได้เด็ดขาด วันนี้ก่อนมาก็ขอร้องมาก่อนแล้วว่าเอาให้พอเหมาะ แต่ก็ยังไม่แคล้วอยู่ดี ขอโทษด้วยนะคะ”
“อ๋า มันก็ประมาณนี้แหละครับ ให้ผมไปซื้อยาแก้เมาให้ไหมครับ”
“ไม่ต้องค่ะ ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เมาขนาดนั้น แค่ดื่มน้ำสักหน่อย…”
จีฮวันยื่นขวดน้ำไปตรงหน้าราฮีโดยไม่พูดอะไร
“ขอบคุณค่ะ”
ราฮีดื่มน้ำด้วยมืออันสั่นเทา ไม่สามารถสบตากับจีฮวันได้ ได้ดื่มน้ำเย็นๆ หัวใจที่เคยเต้นรัวก็กลับสู่ภาวะปกติ
ยังไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตัวเองทำ ว่าจะทำเรื่องแบบนี้ไปได้ ตอนที่จีฮวันบอกเบอร์ของอึนคัง หัวใจเหมือนถูกบีบ หายใจไม่ออก ความรู้สึกที่ความอิจฉาพลุ่งพล่านไปทั้งตัวนั้นเจ็บปวดมาก
ไม่มีเวลาให้ตัดสินใจว่าจะทำอย่างไร มือจับมือถือ โชคดีที่ชื่อคุณ ‘โก’ ที่บันทึกไว้อยู่ชื่อแรกสุด เลยโทรออกได้เร็วกว่าจีฮวัน
ไม่ได้คิดเลยว่าอึนคังอาจจะรับสาย คิดแต่เพียงว่าต้องขัดขวางสายของจีฮวันกับผู้หญิงคนนั้น
บ้าไปแล้วชเวราฮี บ้าไปแล้วจริงๆ
และที่บอกว่าไม่รู้ว่าจีฮวันจะมาสัมภาษณ์ด้วยก็โกหก ผู้จัดการฮวังและหัวหน้าแผนกคิมก็แค่เป็นตัวช่วย การตัดสินใจทั้งหมดของมูลนิธิ คัดเลือกผู้สมัครในหกเจ็ดคนรวมจีฮวัน และเลือกเอาสามคน คือราฮี
ไม่ได้คิดจะอะไรกับจีฮวัน แค่อยากให้เขามาอยู่ข้างๆ แค่มีจีฮวันอยู่ข้างๆ ก็ดูเหมือนจะอดทนผ่านสถานการณ์ตอนนี้ไปได้
เพื่อการมีชีวิตอยู่ของราฮี จำเป็นต้องมีจีฮวัน ตอนนี้สิ่งที่เธอเผชิญมันสาหัสมากเหลือเกิน
* * *