รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 2
บทที่ 2 หนึ่งคืน(2)
นิ้วที่เรียวยาวของเขาจุดบุหรี่ เสร็จแล้วสูบเข้าไปทีหนึ่ง หลังจากนั้นพ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นวงแหวน มองดูการเคลื่อนไหวของเธอที่ช่างไร้เดียงสา
“ฉันสัมผัสมาหมดแล้ว ตอนนี้ปิดไปก็ไม่มีประโยชน์แล้ว“
ดูเหมือนว่าจะมีกลิ่นอายของบรรยากาศเมื่อคืน บนพื้นยังมีเสื้อผ้าที่ถูกฉีกขาดด้วยความบ้าคลั่ง
“แกมันไร้ยางอาย”
เธอตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย หัวของเธอก็ค่อยๆนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ดวงตาของเธอยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ทำไม? จำไม่ได้หรอ? หรือว่าให้ฉันแสดงให้ดูอีกที เธอจะได้จำขึ้นมาได้ ดีไหม?” ฉุ่เฉินซี
ขยี้บุหรี่ด้วยความสนใจ แล้วลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเธอ
“หยุด! อย่าเข้ามานะ!”
เธอเบิกตาจ้องมองแล้วกอดผ้าห่มเข้ามาแน่นขึ้น ห่อมัดตัวแน่นราวกับบ๊ะจ่าง แววตาเต็มไปด้วยความระแวดระวังมองไปที่เขา ผู้ชายแปลกหน้าที่เธอไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย
เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีเทา ที่เปิดให้เห็นหน้าอก พร้อมกับดวงตาที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์
เขามองมาอย่างหลงใหลที่เธอ ในขณะที่เธอมองเขาอย่างระแวดระวัง เม้มริมฝีปากแน่น ผมยาวตรงของเธอยาวลงไปอยู่บนบ่าของเธอ หน้าผากแสดงถึงความตื่นตระหนก ราวกับลูกแมวตัวหนึ่งที่ดื้อรั้นไปทั้งตัว
“คนชั่ว! ฉันจะฟ้องคุณ! ”
หลินเวยมี่
เธอนึกขึ้นได้ว่าถูกพรากของที่มีค่าที่สุดไปโดยผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ เธอก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ นอกจากนี้ใครจะไปรู้ว่าเขาเป็นใคร อาจจะมีโรคร้ายแรงก็ได้
ฉู่เฉินซี
ทำเหมือนได้ยินเรื่องตลก มุมปากของเขาค่อยๆยกสูงขึ้น ทำตัวสบายๆ ราวกับสัตว์ร้ายกึ่งหลับกึ่งตื่น
“สาวน้อย ในเมื่อเธอตัดสินใจจะฟ้องฉัน งั้นถ้าฉันไม่ทำอีกสักสองสามที ก็เสียเปรียบสิ?”
เขายิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วค่อยตั้งใจเดินเข้าไปหาเธออย่างช้าๆ
หลินเวยมี่
ดวงตาของเธอหรี่ลง ใบหน้าน้อยๆตอนนี้ถูกทำให้หวาดกลัวจนซีดเผือด เธอทำเป็นไม่กลัวแล้วตะโกนด่าไป “คนชั่ว! ไอ้สัตว์ร้าย! “
ฉู่เฉินซี
หรี่ตาลง แล้วใช้มือเย็นเฉียบจับที่คางของเธอแล้วยกขึ้นมา
“สาวน้อย ด่าต่อสิ ฉันอยากจะดูว่าเธอจะด่าไปได้นานแค่ไหน หรือว่าฉันจะทำได้นานกว่า”
เขาพูดจบก็กระชากผ้าห่มขึ้น เธอกรีดร้องขึ้นเสียงดัง จับแก้มของเขาโดยไม่ตั้งใจ แล้วใช้สามนิ้วข่วนเข้าไปที่หน้าของเขา
มีความโกรธที่ในดวงตาของเขา แต่ทันใดนั้นโทรศัพท์ภายในห้องก็ดังขึ้นมา
เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วปล่อยเธอลง รีบเดินก้าวยาวๆไปที่โทรศัพท์
หลินเวยมี่เปรียบเสมือนนักโทษ ไม่กล้าที่จะพูดกับเขา เพราะคนที่เสียเปรียบก็มีแต่เธอ
เธอจ้องมองไปที่เศษผ้าที่กระจายเต็มพื้น คิ้วที่สวยงามของเธอขมวดเข้ามากัน หยิบเสื้อสูทที่กองอยู่ที่พื้นขึ้นมาสวม แล้วรีบหนีออกไป
หลังจากจบการสนทนาทางโทรศัพท์ ฉุ๋เฉินซี เดินกลับมาที่ห้อง เธอได้หนีออกไปแล้ว เขาขมวดคิ้ว พร้อมกับแววตาสงสัย
เมื่อสักครู่เห้าหมิงโทรศัพท์บอกเขาว่าผู้หญิงที่จัดหาให้เมื่อคืนไม่ได้มา ถ้าอย่างนั้นแมวน้อยที่อยู่กับเขาเมื่อคืนคือใครกัน?
ขณะที่กำลังครุ่นคิด โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เบอร์โทรศัพท์ของคนแปลกหน้าปรากฏขึ้นมา เขาขมวดคิ้ว แต่ก็กดรับสายนั้น
“เซอร์ไพรส์ที่เตรียมให้เมื่อคืนเป็นอย่างไรบ้าง? คงจะพอใจมากเลยสิ?”
“แต่ว่ามีเรื่องให้เซอร์ไพรส์กว่านั้นอีก อย่าพึ่งใจร้อนไป”
ฉู่เฉินซียิ้มขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันที “กู้จุนเฟิง น่าสนใจไหม”
เขายิ้มอย่างสนุกสนาน และไม่ได้พูดอะไรเพิ่มสักประโยคเดียว ก็กดวางสายไป
ฉู่เฉินซีกดโทรศัพท์อีกครั้งหนึ่ง “มาที่ห้องของฉัน”
ไม่เพียงกี่นาที ก็มีผู้ชายแต่งชุดดำหน้าตาดุดันเข้ามาภายในห้อง มองไปที่ฉู่เฉินซีด้วยความเคารพ “คุณชาย มีอะไรสั่งการครับ”
“ไปหาภาพวงจรปิดของโรงแรมมา”
ในไม่ช้าเขาก็เห็นผู้หญิงคนนึ่งสวมเสื้อผ้าของเขา พร้อมกับสองมือปิดหน้าอกไว้ ก้มหน้า เดินอย่างลำบากออกจากโรงแรม
เสื้อสูทของเขาบนร่างของเธอ ดูหลวมมาก ขาขาวนวลของเธอถูกเปิดออกมาด้านนอก แม้แต่รองเท้าก็ไม่ได้สวมใส่ ผมยังรุงรังอยู่บนบ่า แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์น่าหลงใหลที่พิเศษ
“ฉันต้องการข้อมูลของเธอ” น้ำเสียงไม่แยแสดังขึ้นมา พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา บนหน้าจอแสดงรูปของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงใหล
ผมยาวเต็มเตียงใหญ่ ปกคลุมหน้าของเธอไปครึ่งหนึ่ง มองเห็นเพียงแค่ริมฝีปากสีแดงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมกับบริเวณไหปลาร้าของผู้หญิงคนนี้มีรอยสักรูปผีเสื้ออย่างชัดเจน จนมองเห็นแม้กระทั่งรอยฟันที่ประทับอยู่ด้านบน
มุมปากของเขากว้างขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม ผู้หญิงที่เขาชอบ อยากจะวิ่งหนีก็วิ่งหนีได้หรอ? ต้องดุว่าเขาให้สิทธิ์์นั้นไหม!
นอกจากนี้ เธอยังเป็นของขวัญที่คนๆนั้นมอบให้ เขายังสนุกไม่พอเลย เขาจะปล่อยเธอไปง่ายๆได้อย่างไร?