รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 23
บทที่ 23 เมื่อก่อนเธอชอบแบบนี้เป็นพิเศษ(1)
”เธอ เอาเสื้อผ้ามาใส่ให้ดีๆ เธอคิดอยากคบใครมั้ย” ฉู่เฉินซีคิดไปถึงตอนที่เฉินเห้าหมิงใช้สายตามองเธอ สีหน้าของเขามีบางสิ่งแอบแฝงอยู่
หลินเวยมี่กลุ้มใจมองหาเสื้อผ้า ชัดแจ้งว่าเมื่อตอนที่เธอเพิ่งตื่นนอนไม่มีเวลาหาเสื้อผ้ามาใส่ได้ทัน พลันน้องชายของเขาผู้ซึ่งไม่ค่อยเข้าใจเรื่องมารยาท ก็เดินพุ่งเข้ามาทั้งอย่างนั้น สุดท้ายก็กลับกลายเป็นความผิดของเธอ
“คุณออกไป” หลินเวยมี่เอ่ยด้วยความรู้สึกหดหู่ เหยียดมือออกไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา เขาตระเตรียมไว้ทุกอย่าง แม้แต่ชุดชั้นในก็เตรียมไว้ให้
“ใส่ต่อหน้าฉัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ท่าทางเงียบขรึมทำให้มองไม่ออกว่ามาอารมณ์ไหน
“ใส่ต่อหน้าคุณ? คุณเป็นคนหลงกับอะไรแบบนี้สินะ” หลินเวยมี่มองเขาอย่างหยามเหยียด พูดด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่าร่างกายไม่ขยับ ถึงแม้ว่าเธอไม่ใช่คนประพฤติตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีอะไรขนาดนั้น แต่การให้ใส่เสื้อผ้าต่อหน้าคนแปลกหน้า เธอก็ยังไม่ได้รู้สึกสบายใจ
“ทำอย่างกับฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เธอจะกลัวอะไร?” มุมปากชั่วกระตุก ใบหน้ายิ้มชั่วร้าย “ไหนบอกซิ ตรงไหนของเธอที่ฉันยังไม่เคยเห็นบ้าง”
“ประสาท!” เธอขมวดคิ้ว ดูจากสายตาของเขา จะสงบสติเพื่อใส่เสื้อผ้าได้อย่างไร
“ให้ฉันช่วยไหม?” เขาถามพลางยิ้มอ่อน ใช้มือดึงผ้าห่มออก หลินเวยมี่ตกใจร้องเสียงดัง รีบใช้มือปกปิดกาย
“คุณมันไร้ยางอาย!” ดวงตาของเธอคล้ายจะพ่นไฟได้ ด่าด้วยความโกรธ รีบดึงผ้าห่มข้างตัวเข้ามา
บนร่างหนักอึ้ง ปะทะเข้ากับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัว เขาถาโถมเข้าหาเธอ ด้วยความโมโห
หลินเวยมี่กลั้นจนหน้าแดง จนกระทั่งเขาปล่อยเธอออก ดวงตาเธอเบิกกว้าง สูดหายใจลึก ไม่เข้าใจว่าเขาโมโหด้วยเรื่องอะไร
รู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของเขา แก้มของเธอก็ยิ่งแดง ไอ้ผู้ชายสมองคิดแต่เรื่องอย่างว่าคนนี้ เมื่อวานก็ทรมานไปแล้วครึ่งคืน ไม่คาดคิดว่าตอนนี้ก็ยังจะ……..
“ปล่อยฉัน” เธอขัดขืนดิ้นรนจนหน้าแดง อยากจะหนีไปจากเขา
“อย่าดิ้น” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง เหมือนกับพยายามควบคุมอะไรบางอย่างไว้ “ถ้าเธอยังดิ้นอีก ฉันเอาเธอตอนนี้อีกรอบแน่”
ด้วยความกลัวหลินเวยมี่จึงไม่กล้าดิ้นอีก สายตาเสาะค้นไปยังเขา ดวงตากระหายความอยากดิ้นรนขัดขืน แต่ทว่าร่างกายกลับไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย
เมื่อเห็นทีท่าเช่นนั้นของเธอทำให้ลำคอของฉู่เฉินซีตีบแน่น คิดไม่ถึง ว่าเขาควบคุมตัวเองแต่อดไม่ได้ที่จะจูบเธอเล็กน้อย พลันคิดแผนการอะไรบางอย่างได้ขึ้นมา
เขาย่นคิ้วลึก สาวเท้าไปยังห้องอาบน้ำ อย่างเร็ว เปิดน้ำให้ได้ยินเสียงของน้ำไหล
หลินเวยมี่เมื่อได้ยินเสียงน้ำไหลก็รีบหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวม ลนลานรีบใส่จนแล้วเสร็จ จนกระทั่งใส่เสร็จเรียบร้อย เธอก็ถอนหายใจโล่งเฮือกหนึ่ง
อย่างเร็ว ฉู่เฉินซีเดินออกมาพร้อมผ้าเช็ดตัวพันกาย เผยให้เห็นหน้าอกกำยำแข็งแรงของเขา หลินเวยมี่เห็นเต็มสองตา ปะทะเข้ากับสายตาเย้ายวนคู่นั้น ครั้งนี้เธอลู่ศีรษะลง
“ฉันหิวแล้ว” เขาเอ่ยเสียงเรียบ
หลินเวยมี่ยังคงลู่ศีรษะลงอยู่ หิวแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอ? เธอหิวด้วยมั้ย! โรงแรมนี้ควรมีอาหารเช้านี่
“ไปถนนหย่งคางซื้อนมถั่วเหลืองกลับมา 1 กล่อง ไม่ใส่น้ำตาลนะ” ฉู่เฉินซีขมวดคิ้ว ยังคงพูดต่อ
หลินเวยมี่เอานิ้วชี้ไปที่จมูกตนเองอย่างงงงวย ”คุณใช้ฉันไป?”
“ทีนี่มีแค่พวกเราสองคน ฉันพูดกับอากาศหรือยังไงล่ะ?”
ผู้ชายคนนี้สมควรตาย! ถนนหย่งคางห่างไกลจากที่นี่ถึงสองเส้นถนน เธอไปตอนนี้ใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงถึงจะกลับมา ให้เขาหิวตายไปเถอะ!
คิดได้แบบนั้น อารมณ์โกรธของเธอก็เบาลงไปมาก จึงรีบเดินออกไปข้างนอก ตอนที่ปิดประตู เหลือบไปเห็นเขากำลังคุยโทรศัพท์พอดี โบกไม้โบกมือด้วยท่าทางเหยียดหยามใส่เขา ยังไม่ทันจะได้เก็บมือกลับไป ก็ปะทะเข้ากับสายตาเยือกเย็นของเขาพอดี เธอตกใจเดินโซเซ รีบร้อนวิ่งออกไป
เดินมาถึงด้านนอก เธอถอนใจโล่งออกมาเฮือกหนึ่ง ใช้มือลูบไปมาที่หน้าอก ตาคนนี้มีตาหลังหรือยังไงนะ?
ด้านข้างของโรงแรมห้าดาวนี้ มีรถสีดำล้วนคันหนึ่งจอดอยู่ข้างๆ คนที่อยู่ภายในรถมองหลินเวยมี่บนรถจักรยานด้วยสายตาเย็นเยียบ แววตาแสดงออกถึงความโกรธ กัดฟันแน่นพลางพูด
“พี่ใหญ่ นี่คือผู้หญิงคนนั้น ที่ทำฉันเสียเรื่อง!”
ผู้ชายที่นั่งข้างๆเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เอ่ยเสียงเรียบ ”ในเมื่อเป็นผู้หญิงของฉู่เฉินซี ถ้าอย่างนั้นจะทำอะไรก็ต้องระวังหน่อย ฉันเตรียมการให้เอง”
สิ้นคำพูดของฝ่ายชาย ภายในดวงตาที่ลุกเป็นไฟริษยาของฝ่ายหญิงก็พลันเบาบางลงไปไม่น้อย คนทั้งหมดสงบลง ยิ้มเย็นที่มุมปาก
“ถ้าอย่างนั้นต้องขอความกรุณาจากพี่ใหญ่ให้ช่วยแล้วล่ะ”
ผู้ชายมองไปที่ผู้หญิง ดวงตาเป็นประกาย มือถูเบาๆไปมาที่ขาของเธอ “เรื่องเล็กมาก พี่ใหญ่ก็อาจจะแค่เหนื่อยนิดหน่อย ไปบ้านพี่ใหญ่นั่งพักกันสักนิดไหม?”
.ใบหน้าของหญิงสาวแสดงออกถึงความเหลือทน แต่เพียงชั่วครู่ก็หายวับไป เธอรู้ดีว่าถ้าขอให้ใครช่วยอะไรเราก็ต้องตอบแทน เธอยิ้มแห้งขึ้นมาหนึ่งที กระพริบตาปริบๆ “ค่ะ”
หลินเวยมี่เร่งไปจนถึงถนนหย่งคาง ลงรถแบบไม่กระตือรือร้นจะรีบไปซื้ออาหารเช้าของฉู่เฉินซี แต่กลับไปที่ร้านค้าเล็กๆสั่งซุปถั่วแดงมาถ้วยหนึ่ง
เธอนั่งริมหน้าต่าง มองดูผู้คนด้านนอกอย่างเงียบๆ ท่าทางสบายใจ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น หน้าเธอเหลือทน เป็นโทรศัพท์จากตาจิ้งจอกนั่นจริงๆ เธอมองเบอร์โทรที่ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ ไม่มีความอยากจะรับ ตอนนี้เธอวิ่งออกมาพ้นสายตาเขาแล้ว ดูเขาทำไมยังต้องตามมาคุกคามเธอด้วย!