รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 25
บทที่ 25 ผู้หญิงชุดกระต่าย(1)
ที่ไม่ไกลออกไป รถสปอร์ตสีแดงคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนน สายตาดุเดือดมองคนสองคนที่ขึ้นรถไปด้วยกัน ยิ้มเย็นที่มุมปาก
ผู้หญิงคนนี้ กล้าดีมาก! ไม่เพียงแต่กล้าวางสายใส่เขาเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะกล้าปิดโทรศัพท์ และแอบออกมาพบกู้จุนเฟิงลับหลังเขาอีกด้วย!
ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้น้อยไปจริงๆ! นัยน์ตาเหยี่ยวของฉู่เฉินซีเพ่งมองรถที่กำลังแล่นออกไปคันนั้น มุมปากยิ้มเยาะออกอาการนิ่งเงียบ เขาขยับรถ ขับแล่นออกไปอีกทางหนึ่ง
ตลอดทางไม่มีใครพูดอะไร หลินเวยมี่ก้มหัวมองดูที่เสื้อผ้าของตน รู้สึกร้อนที่ใบหู บรรยากาศแบบนี้ช่างน่าอึดอัดเสียจริง
สายตากู้จุนเฟิงมองไปข้างนอกคล้ายกับว่ามีอะไร จากนั้นเขาเอารถจอดไว้ที่ถนนข้างหนึ่ง หันกลับมามองที่เธอแล้วพูดว่า “เธอรอฉันอยู่ที่นี่นะ”
หลินเวยมี่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็ลงจากรถไปแล้ว รีบวิ่งไปที่ร้านข้างๆเพื่อซื้อเสื้อผ้า ใจของเธอรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาแวบหนึ่ง แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว ก้มหน้าลงไปเล่นนิ้วตัวเอง
ฉับพลันนั้นเกิดเสียงกระแทกขึ้น ทำให้เธอต้องหันหน้าไป เป็นแค่เสียงกระทบกระแทก แต่ไม่รุนแรง
เธอดึงสติกลับมา หันหน้าไปมองด้านนอก กลับพบว่ารถถูกล้อมรอบไปด้วยคนชุดดำกลุ่มหนึ่ง ทั้งหมดล้วนมองมาที่เธอ
เธออ้าปากค้าง คนพวกนี้จะมาปล้นหรอ? เธอรีบหันกลับไปมองที่ร้านค้า กู้จุนเฟิงยังไม่ออกมาเลย เสียงกระแทกเมื่อสักครู่นี้เขาคงไม่ได้ยินสินะ?
ในที่สุด คนชุดดำก็เปิดวงล้อมออก ผู้ชายคนที่สวมชุดคลุมดำยาวทั้งร่างคนหนึ่ง สีหน้าเหี้ยมโหดปรากฏต่อสายตาเธอ
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วย่น เธอรู้จักผู้ชายคนนี้ เขาคือลูกน้องของฉู่เฉินซี
เคาะที่หน้าต่างรถ 3 ทีเหมือนเป็นกฎ เธอแหงนหน้ามองดูคนที่อยู่ด้านนอก เดาออกแล้ว นี่ต้องเป็นคนของฉู่เฉินซีส่งมาแน่ แต่เขารู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่?
เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย เสียงเคาะที่หน้าต่างกลับมาอีกแล้ว เขาเคร่งครัดมาก และเงียบขรึมมากทุกครั้งเคาะสามที ไม่ช้าไม่เร็วไป หลินเวยมี่เปิดกระจกหน้าต่างลง ถามเสียงเรียบ
“มีธุระอะไรหรอ?”
“เจ้านายสั่งให้คุณลงมา” หยิ่งตอบกลับเสียงเย็น ในน้ำเสียง ฟังไม่ออกว่าอยู่ในอารมณ์เช่นไร
“ฉันไม่รู้จักเจ้านายของพวกนายหรอก” สีหน้าของหลินเวยมี่เคร่งขรึม ตอบอย่างเด็ดขาด
หยิ่งไม่ได้สนใจ ล้วงโทรศัพท์มาโทรออก หลังจากนั้นก็นำโทรศัพท์มาวางไว้ตรงหน้าเธอ
“โทรศัพท์จากเจ้านาย”
“ฉันบอกไปแล้วไงว่าฉันไม่รู้จักเจ้านายไหนทั้งนั้น!” หลินเวยมี่เริ่มโมโหเล็กน้อย ผลักโทรศัพท์ไปยังอีกด้านหนึ่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“พวกนายเป็นใครกัน?” เสียงเย็นชาดังขึ้น กู้จุนเฟิงเดินมาพร้อมกับใบหน้าเยือกเย็น ในมือยังคงถือถุงอยู่สองถุง กวาดสายตาเย็นชาไปยังหยิ่ง เอ่ยเสียงเรียบ “บอกเขา ให้ดีที่สุดอย่ามามีเรื่องกับฉัน”
“เจ้านาย….” หยิ่งมองหยั่งลึกไปที่กู้จุนเฟิง หันตัวเล็กน้อยกลับไปกระซิบอะไรบางอย่าง วางสายตาไปที่หลินเวยมี่อยู่พักหนึ่ง
“เจ้านายบอกว่า ยังไม่ครบกำหนดสามวัน ให้คุณหนูหลินท่านพิจารณาดูและทำตามที่เธอเห็นสมควร” หยิ่งสาธยายคำต่อคำ
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย คำพูดของฉู่เฉินซีไม่ใช่จะขู่เธอหรอกหรือ? ความนัยจากเสียงนั้น ก็คือถ้าเธอไม่กลับไปล่ะก็ เรื่องของเย่หนิงก็ถือว่าเป็นอันจบกัน
ผู้ชายคนนี้สมควรตาย ! เธอบีบมือแน่น ใบหน้ายุ่งเหยิง
กู้จุนเฟิงเห็นเธอออกอาการอย่างชัดเจน ไม่นานหลังจากนั้น มีคนสวมชุดตำรวจเดินเข้ามามองไปที่กลุ่มคนของหยิ่งอย่างระแวดระวัง ทันใดนั้นก็รีบก้มหัวทำความเคารพกู้จุนเฟิงทันที
“ท่านนายกเทศมนตรีกู้ มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่าครับ”
หลินเวยมี่มองค้างไปที่กู้จุนเฟิง คิดไม่ถึงจริงๆว่าเขากลายเป็นนายกเทศมนตรีไปแล้ว
กู้จุนเฟิงปะทะสายตาเข้ากับเธอ แววตาสืบค้น “หลินเวยมี่ ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่”
สีหน้าเธอยุ่งเหยิง ถอนหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ผลักประตูรถเปิดลงไป มองไปที่หยิ่ง “ฉันจะไปกับพวกนาย”
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เธอไม่สามารถทิ้งเย่หนิงได้
เธอเดินไปข้างตัวกู้จุนเฟิง มือถูกเขาคว้าเอาไว้ เธอหันหน้ากลับไปมองกู้จุนเฟิง แววตาของเขาดูเหมือนรั้งเธออยู่ในที สักพักจึงเอ่ยปาก “มีอะไรให้โทรหาฉันนะ”
หลินเวยมี่ฝืนใจดึงหน้ายิ้ม พยักหน้า เดินไปหาหยิ่ง
ภายในรถตู้ หลินเวยมี่หันหน้าออกไปมองวิวด้านนอกอย่างระทมทุกข์ กำมือแน่น ไม่รู้ว่าฉู่เฉินซีจะจัดการลงโทษเธออย่างไร
“เจ้านายโกรธมาก แต่ถ้าคุณหนูหลินใส่เสื้อผ้าพวกนี้ บางทีเจ้านายอาจจะอารมณ์ดีขึ้นหน่อยหนึ่ง” หยิ่งยื่นถุงเสื้อผ้าส่งให้เธอ
หลินเวยมี่มองหยิ่งอย่างไม่สบายใจ เปิดเสื้อผ้าด้านในออกมาดูทันที หน้าแดงไปพักหนึ่ง ไม่คิดว่าด้านในจะเป็นชุดกระต่าย สีชมพูของชุดแต่งแต้มความรู้สึกคลุมเครือ
เธอโยนเสื้อผ้านั้นกลับไปที่ตัวหยิ่งอย่างไม่ลังเล “เขาบอกให้ฉันใส่หรอ?”
“เจ้านายบอกว่าถ้าคุณหนูหลินไม่ใส่ เจ้านายจะโกรธมาก แล้วจะลงโทษเรื่องวันนี้ด้วย” หยิ่งพูดต่อไป
เธอมองหยิ่งอย่างโกรธเคือง สีหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ใดๆ เหมือนกับตรงหน้าเธอจริงๆแล้วไม่ใช่คน แต่เป็นศพซะอย่างนั้น
“นายเป็นเครื่องพูดซ้ำของฉู่เฉินซีรึไง?” ฉู่เฉินซีพูดอะไรเขาก็ถอดคำพูดออกมาตามนั้น เขาหาลูกน้องได้ไม่เลวเลย ล้วนมีความสามารถแม้แต่การพูดซ้ำ
“ผมถ่ายทอดคำพูดของเจ้านายให้คุณหนูหลินฟังหมดแล้ว คุณหนูหลินไม่ทำตามผมก็ทำอะไรไม่ได้” หยิ่งเอ่ยเสียงเรียบ ค่อยๆปิดตางีบหลับไป