รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 33
บทที่ 33 ดูให้ดี เธอเอนอยู่บนตัวของใคร(1)
เย่เซียงถงมองไปยังฉู่เฉินซีที่เดินออกไปไกล ในใจไม่ยอมแพ้ ทำไมฉู่เฉินซีต้องปกป้องแม่นั่นด้วย? เขาไม่ยอมให้หาเรื่องแม่นั่น เธอต้องจงใจหาเรื่องแน่!
ภายในคฤหาสน์ หลินเวยมี่ยืนขมวดคิ้วย่นอยู่ในห้องน้ำ มองไปที่แหวนดอกไม้บนนิ้ว อยากจะบ้าตาย ทำไมแหวนวงนี้ถึงถอดไม่ออกสักทีนะ?
วิธีอะไรก็ใช้มาหมดแล้ว ยังไงก็ถอดไม่ออก เธอหมดแรงยืนพิงอ่างล้างหน้า ถอนหายใจยาวเฮือกใหญ่ มองไปที่คนในกระจก เธอในกระจกช่างเหมือนกับดอกลิลลี่ ขาวสะอาดบริสุทธิ์
ทันใดนั้น ร่างชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นมาบนกระจก เธอร้องเสียงต่ำด้วยความตกใจกลัว รีบถอยออกมา
แต่กลับไปชนเข้ากับอกของชายหนุ่ม เสียงแหบทุ้มดังขึ้นที่ข้างหูเธอ “อะไรกัน? ฉันเพิ่งกลับมา เธอก็รีบทิ้งตัวหาอ้อมอกฉันแล้วหรอ?”
หลินเวยมี่ยังไม่หายจากอาการหวาดกลัว จนได้ยินเสียงของเขา เธอจึงถอนหายใจโล่งเฮือกหนึ่ง ลูบเบาๆไปยังหัวใจที่เต้นรัว
“คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าแหวนวงนี้จะมาอยู่บนนิ้วผู้หญิงของฉัน” ฉู่เฉินซีใช้น้ำเสียงเย้ยหยันเล็กน้อยพลางดึงมือเธอขึ้นมา พิจารณาแหวนบนนิ้วเธออย่างละเอียด
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้ามีบางอย่างที่ไม่ชอบใจ ต้องการที่จะดึงมือกลับมา กลับถูกแรงดึงมหาศาลของเขาดึงกลับไป “เธอรู้ไหมว่าแหวนวงนี้มันมีความหมายว่ายังไง?”
“ฉันจะไปรู้ได้อย่างไร?” หลินเวยมี่พูดอย่างไม่เต็มใจ เธอจะไปรู้ได้อย่างไรว่าโจ่วชิงช๋วนเกิดป่วยอะไรขึ้นมาอยู่ดีๆก็เอาแหวนมาใส่ที่นิ้วเธอ แม้แต่จะถอดก็ถอดไม่ออก
“มันหมายความว่าเธอเป็นลูกสะใภ้ที่ได้รับการยอมรับจากตระกูลโจ่ว” พูดถึงตรงนี้ ฉู่เฉินซีก็หน้าเสียไปหน่อยหนึ่ง จับมือเธอแน่น “เธอกับโจ่วชิงช๋วนแท้จริงแล้วมีความสัมพันธ์อะไรกันแน่?”
หลินเวยมี่สะบัดมือออก เอ่ยปากอย่างกลัดกลุ้ม “ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ไม่ว่ากับใครก็ไม่มี ฉู่เฉินซี พ้นวันนี้ไป พวกเราก็ไม่มีอะไรข้องเกี่ยวกันแล้ว คุณก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉันอีก!”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นทันใด เดินเข้าไปประชิดหลินเวยมี่อย่างช้าๆ “อ้อ? ความหมายของเธอคือต้องการให้ฉันใช้เวลาอันมีค่าตรงนี้เพื่อดูแลเธออย่างดีใช่ไหม?
“คุณจะทำอะไร?” หลินเวยมี่มองเขาด้วยความตื่นตระหนก ตาคนนี้คงไม่ได้กำลังคิดถึงเรื่อง…..
“เธอพูดเองไม่ใช่หรอ?” เขารังแกกดเธอลงไปที่อ่างล้างหน้า ลมหายใจอุ่นร้อนรดหน้าเธอ “ที่รัก พวกเราเหลือเวลาอีกแค่วันเดียวแล้ว แน่นอนว่าต้องทำเรื่องที่เราอยากทำกันน่ะสิ”
“ฉู่เฉินซี!” นัยน์ตาดำของเธอฉายแววไม่พอใจ ตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยความโกรธ!
“หื้ม? รอให้ฉันสนองความต้องการเธอไม่ไหวแล้วหรือ?” เขาใกล้ชิดเธอ นัยน์ตาฉายทีท่าอึมครึม
“ไม่ต้อง….” หลินเวยมี่หันหน้าไปอีกด้านหนึ่ง ย่นคิ้วพลางต้านทานเขาเอาไว้ ตอนนี้ทั้งตัวเธอถูกเขายันไว้กับอ่างล้างหน้า ไม่มีแม้แต่ช่องว่าง
“ไม่ต้องการอะไรหรอ? ไม่ต้องการให้หยุดใช่ไหม?” เขาตวัดสายตาเล็กน้อย จับจ้องอยู่ที่ผิวเนื้อขาวเนียน ก้มหัวลง จูบไปที่บริเวณคอของเธอ
เธอรีบขัดขืนเพื่อผลักเขาออก ลมหายใจอุ่นร้อนรดลงบนผิวของเธอ ความรู้สึกคันทำให้เธอหลบหลีกเขา
ดูเหมือนฉู่เฉินซีจับจังหวะของเธอได้ เดิมทีจังหวะอันอ่อนโยนก็เปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้นมา เขาไม่หยุดฝากรอยกัดไว้บนผิวของเธอ แฝงไปด้วยนัยยะแห่งการลงโทษ
“โอ้…” หลินเวยมี่ขบฟันแน่นไปถึงราก แต่ความเจ็บปวดที่คอกลับทำให้เธอไม่สามารถมองข้ามไปได้ เป็นเพียงแค่ความรู้สึกมองข้ามไม่ลงแฝงอยู่ในนั้น ช่างน่าประหลาดมาก
เป็นเพราะเสียงร้องนั้นของเธอ ทำให้เลือดในกายของเขาพลุ่งพล่าน นัยน์ตาลุ่มลึกปะทะเข้ากับดวงตาอันพร่าเลือน หัวเราะขึ้นมาอย่างเข้าใจได้ ก้มหัวลงไปจูบอย่างอ้อยอิ่งอยู่ที่ริมฝีปากแดง ดูเหมือนยังไงก็ลิ้มรสของเธอได้ไม่มากพอ อย่างลึกซึ้ง
เสียงของทั้งสองคนดังขึ้นระหว่างกัน หลินเวยมี่แก้มแดงไปจนถึงก้านคอ ไม่มีแรงตอบกลับเขา
ความรู้สึกอัศจรรย์ยิ่งเข้าถาโถมเธอ ไม่ได้รู้สึกเร่าร้อน รู้สึกถึงลมหายใจอุ่นที่นำพาความอุ่นร้อนมา ความรู้สึกนี้ที่ทำให้เธอรู้สึกเร่าร้อน
มือใหญ่ล้วงลึกเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ ก้มหัวลงต่ำ นัยน์ตาของเธอนั้นเริ่มพร่ามัว ปากเล็กก็ค่อยๆเผยอออก
“ฉู่เฉินซี…” มือเล็กของเธอผลักเขาเบาๆ แรงอ่อนยวบยาบ เสียงเรียกที่มุมปาก กลับกลายเป็นเสียงที่ละมุนละไมไพเราะน่าฟังมาก
“หญิงโฉด ดูให้เต็มตา คนที่ต้องการเธอคือใคร เธออยู่ใต้ร่างของใคร!” สายตาฉู่เฉินซีฉายแววอึมครึม
“ปล่อยฉันออกไป!” เป็นเพราะคำพูดอันเกรี้ยวกราดของเขา หลินเวยมี่ก็มีสติขึ้นมา เธอตกอยู่ในเงื้อมมือของเขาได้อย่างไรกัน!
“โอ้ย…. ฉู่เฉินซี คุณมันเลว ปล่อย ปล่อยฉัน” หลินเวยมี่ผลักเขาออก กับรู้สึกว่ายิ่งผลักยิ่งไม่มีแรง ความรู้สึกร้อนรุ่มถาโถม เต็มไปด้วยความต้องการอย่างแรงกล้า
“ชุ่มหมดแล้ว ยังจะพูดอะไรฝืนใจอยู่อีก ” เขาจับหัวเธอขึ้นมา งับติ่งหูเธอ หายใจริน เหมือนกับกำลังลิ้มรสอาหารที่รสเลิศที่สุดก็มิปาน
ใบหน้าของหลินเวยมี่ดูคล้ายกับถูกไฟเผา เผ็ดร้อนดั่งไฟ เธอขบฟันแน่นลึกถึงราก กลับไม่สามารถห้ามความต้องการทางกาย เธอเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้