รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 37
บทที่ 37 คุณทำให้ผมโกรธ(1)
หลินเวยมี่แสยะยิ้ม เธอไปสนิทกับฉู่เฉินซีตั้งแต่เมื่อไหร่ อีกอย่างพวกเค้าก็ไม่มีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวข้องกันแล้วไม่ใช่หรอ จะมาพัวพันเธออีกทำไม
“คุณจะมายุ่งกับฉันทำไม” หลินเวยมี่พูดด้วยความรำคาญและเสียงก็ค่อยๆเบาลงและมองไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงระเบียงด้วยความระมัดระวัง
“ทำดีมากเลยหนู ผมแค่ออกไปแค่หนึ่งวัน คุณก็ออกไปมั่วกับผู้ชายคนอื่นแล้วหรอ” ฉู่เฉินซีโวยวายเสียงดังและมีเสียงทำลายข้าวของดังตามมาเรื่อยๆ
หลินเวยมี่ห่อไหลหดตัว พอคิดถึงฉู่เฉินซีตอนกำลังโมโห ก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว
“ให้เวลาคุณสามวินาที บอกที่อยู่ของคุณอย่างละเอียดมา ”
“หนึ่งสองสาม ฉันไม่บอกคุณหรอก” หลินเวยมี่รีบตัดสายไป เธอถอนหายใจออกมายาวๆ ความรู้สึกที่ถูกกดดันได้หายไปพร้อมกับตอนวางสายโทรศัพท์
“หิวรึยัง ผมจะโทรไปสั่งอาหาร” กู้จุนเฟิงยิ้มมองไปที่เธอและพูดขึ้น มันเป็นเพียงใบหน้าที่กลัดกลุ้มใจที่ไม่เคยแสดงออกมาเลย และดูเหมือนว่ามันจะหนักขึ้นหลังจากที่สายนี้โทรเข้ามา
หลินเวยมี่พยักหน้าอย่างน่าเอ็นดู จนกระทั่งหลังจากที่เขาออกไปโทรศัพท์ เธอถึงจะลงมาจากเตียง และเดินไปที่ห้องอาบน้ำอย่างเงียบๆ
เธอก้มลงมองเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของเธอ และเธอก็เริ่มขมวดคิ้วเอื้อมมือไปเปิดฝักบัว น้ำจากฝักบัวไหลผ่านร่างกายของเธอ ตรงหน้าของเธอมีกระจกอยู่หนึ่งบานมันส่องเธอได้ทั้งตัวอย่างพอดี
ใบหน้าก็เธอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีซีด จู่ๆในหัวของเธอก็คิดไปถึง ภาพร่างกายของฉู่เฉินซี เธอรีบหลับตาลง และพยายามขับไล่เรื่องพวกนี้ออกไปจากหัว
โครม
เสียงดังขึ้นมา หลินเวยมี่สีหน้าก็เปลี่ยน ทำไมเหมือนได้ยินเสียงมาจากห้องนี้เลยนะ
ข้างนอกห้องอาบน้ำ กู้จุนเฟิงยืนถือแก้วกาแฟด้วยความเข้มขรึม ไม่มีอาการตกใจเลยซักนิด
แต่อีกฝั่งนึงนั้น ประตูถูกเปิดออก ข้างนอกประตูมีชายชุดดำประมาณยี่สิบกว่าคนยืนล้อมอยู่ที่หน้าประตู และจ้องมองคนข้างในด้วยสายตาที่ดุร้าย
“ของขวัญที่ประธานฉู่มอบให้ผม ทำให้ผมตะลึงจริงๆ” กู้จุนเฟิงแสยะยิ้ม และพูดด้วยความเย็นชา
บอดี้การ์ด ฉู่เฉินซีค่อยๆเดินเข้ามาหาเขา ด้วยอารมณ์ที่ยากจะคาดเดา ตอนที่เอามือลูบไปที่ชุดนอนกู้จุนเฟิง ตอนแรกก็กำหมัดแน่นแต่ในทันใดนั้นก็คลายมือออก
“นายกเทศมนตรีกู้ คุณทำให้คนประหลาดใจได้ตลอดเลยนะ” ฉู่เฉินซียืนอยู่ที่ประตูด้วยสีหน้าที่เยอะเย้ยเบาๆ และเหลือบตามองเข้าไปในห้องหนึ่งรอบอย่างรวดเร็วแต่กลับไม่พบแม้แต่เงาของเธอ
“นายวางมาดซะใหญ่โตหมายความว่ายังไง ดึกดื่นครึ่งคืนมางัดประตูห้องคนอื่น อย่าลืมว่ายังไงนายก็เป็นข้าราชการ จุดนี้นายต้องคิดให้ดีๆ” กู้จุนเฟิงดื่มกาแฟไปหนึ่งคำ ในสายตาของเขาเต็มไปด้วยความคุกคาม
ฉู่เฉินซีเริ่มแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย และมองไปที่เขาด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม “ผมแค่มาหาผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นหรือตายก็เท่านั้นเอง ถ้าหากว่ามันรบกวนนายกเทศมนตรีกู้ละก็ ผมก็ขอโทษตรงนี้ด้วย”
“ที่ที่ฉันอยู่ไม่มีผู้หญิงอะไรทั้งนั้น” กู้จุนเฟิงพูดออกไปด้วยท่าทางเด็ดเดี่ยว และสีหน้าที่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่
ฉู่เฉินซีไม่ได้ใส่ใจกับสีหน้าของเขา เดินเข้าไปในห้องอย่างไม่แคร์ และพูดเบาๆว่า “ถ้าหากข่าวที่ว่ามีผู้หญิงมาอยู่ในห้องของนายกเทศมนตรีกู้กลางดึกกลางดื่นรั่วออกไป เกรงว่ามันจะกระทบกับอนาคตของนายกเทศมนตรีกู้ แน่นอนว่าดีที่สุดคืออย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้น คุณว่าผมพูดถูกมั้ย”
กู้จุนเฟิงเงียบพูดอะไรไม่ออก แต่สายตาที่จ้องมองกลับเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ ความรู้สึกที่ไร้อำนาจก็จู่โจมเข้ามา
ฉู่เฉินซีกวาดสายตาไปที่ห้องอาบน้ำ และยิ้มมุมปากเบาๆ เขาเดินตรงไปที่ห้องอาบน้ำ จะดีมากถ้าเธอไม่ปรากฏตัวที่นี่
หลังจากเสียงถีบประตูดังก็มีเสียงผู้หญิงร้องดังออกมา
ฉู่เฉินซีมองดูผู้หญิงที่อยู่ในห้องอาบน้ำด้วยสายตาที่เจ็บปวดและผิดหวังและยิ้มอย่างเยือกเย็นก่อนที่จะจับมือของเธอและดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขน
“ดีมาก ดีมาก คุณทำให้ผมโกรธ”
หลินเวยมี่ได้ยินเสียงของฉู่เฉินซีก็รู้สึกหนาวไปทั้งตัว จากที่ตอนแรกหยดน้ำตาของเธอก็เย็นมากพออยู่แล้วตอนนี้ยิ่งรู้สึกหนาวขึ้นไปอีก
“ฉู่เฉินซี คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” หลินเวยมี่ปากสั่น จิตใต้สำนึกของเธอต้องการหนีจากอ้อมกอดของเขา
“แน่นอนว่าคุณไม่อยากให้ผมอยู่ตรงนี้” ฉู่เฉินซีกัดฟันพูดออกมา ท่าทางที่มองไปที่กู้จุนเฟิงเหมือนกับว่าคิดอะไรได้บางอย่าง ตอนนี้เอาดูเหมือนระเบิดที่อยู่ตามตะเข็บชายแดนเขาแทบอยากจะฆ่าผู้หญิงคนนี้ในตอนนี้
“ปล่อยฉันนะ” หลินเวยมี่ดิ้น ใบหน้าเล็กๆของเธอเหมือนไฟที่กำลังลุกโชน
“ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้นะ” เสียงฝีเท้าของกู้จุนเฟิงดังเข้ามา
ฉู่เฉินซีไม่อยากให้ใครเห็นผู้หญิงของเขาจึงรีบหยิบผ้าเช็ดตัวข้างๆมาคลุมตัวเธอไว้ และโอบกอดตัวเธอไว้มิดชิด ไม่ให้กู้จุนเฟิงมองเห็นแม้แต่เส้นผม
ผู้หญิงของเขา ไม่ใช่คนที่ผู้ชายทุกคนที่จะสามารถมองเห็นได้
มือหลินเวยมี่ไม่หยุดที่จะทุบไปที่หน้าอกของเขา หน้าของเธอแดงแจ๋ แต่แขนของเขาแข็งแรงเหมือนเสาเหล็กจะผลักยังไงก็ผลักไม่ออก
“เสี่ยวจื๋อ”