รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 5
บทที่ 5 ขอร้อง
ในโรงแรมห้าดาว เขาเหวี่ยงมือของเธอออกไป ไม่ทันที่เธอจะได้โต้ตอบ เขาก็เข้ามาวางมือไว้ที่สองข้างของเธอ พร้อมกับมองเธออย่างสนุกขบขัน
หลินเวยมี่
ไม่กล้าที่แสดงความขุ่นเคืองใจออกมา ได้แต่อยู่นิ่งๆมองไปที่เขา ในระยะใกล้ๆ เธอพบว่าเขาเป็นคนหล่อเหลาเอาการเลยทีเดียว เขามีใบหน้าที่งดงามได้รูป ถ้าเกิดว่าเธอไม่รู้จักเขา ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนอย่างไร เธอจะต้องรู้สึกประทับใจเขาแน่เลย
แต่ว่าตอนนี้ เธอเกลียดเขามากจริงๆ! เป็นผู้ชายที่ทั้งอวดดี หยิ่งยโส และชอบใช้อำนาจ
ฉู่เฉินซี
ดวงตาของเขาที่เป็นสีน้ำตาลเข้มจนมองไม่เห็นภายในนั้น ตอนนี้ราวกับว่าจะกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายกลืนกินเธอไปทั้งตัว
เขามองเธออย่างสับสน พร้อมกับแสดงอารมณ์ขุ่นเคืองแล้วสักพักก็ยิ้มออกมา
หลินเวยมี่อยู่นิ่งสักครู่หนึ่ง มองเห็นเขาอยู่ๆก็ยิ้มขึ้นมา ขนเธอก็ลุกขึ้นอย่างฉับพลันด้วยความหวาดกลัว
เธอไม่รู้เลยว่า ใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาของเธอที่ปราศจากเครื่องสำอาง ทำให้เขารู้สึกหลงใหลมากขนาดไหน ช่างบริสุทธิ์เหลือเกิน
“เฮ้ คุณต้องการอะไรกันแน่ถึงจะยอมลบรูปภาพนั้นให้?” ใบหน้าของเธอแสดงออกถึงความตระหนก มือเล็กๆของเธอวางบนอกของเขา ดวงตาสีดำและสีขาวของเธอแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความเกลียดชังที่มีต่อเขา
“ฉันไม่ได้เรียกเฮ้” เขาหรี่ตาลง ทำให้เธอต้องหลบแววตาที่โกรธเคืองของเธอลงไป
“งั้นคุณต้องการอะไร? ไอ้คนเลว!” เธอตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธเคือง และพยายามใช้มือน้อยๆของเธอผลักเขาออกไป
“ด่าได้ดีจริงๆ” เขาจ้องไปที่ดวงตาทั้งคู่ของเธอที่เต็มไปด้วยความโกรธเคือง พร้อมกับใช้มือกดไปที่หัวไหล่ เมื่อไม่ให้เธอเคลื่อนไหวขึ้นมาอีก
มีกลิ่นหอมเข้ามาที่ใบหน้าของเธอ เธอมองไปที่ดวงตาคู่สีน้ำตาลเข้มจนมองไปไม่ถึงด้านใน แต่กลับดูเหมือนแววตาของเสือที่วางแผนที่จะขย้ำเธอมานาน ไม่มีใครรู้ได้ว่า ในอีกหนึ่งวินาทีเสือร้ายตัวนี้อาจจะตรงเข้ามาหาเธอเลยหรือเปล่า
ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายที่หัวไหล่ แรงที่กดไหล่ของเธอไว้ก่อนหน้านี้ได้หายไปหมดแล้ว แต่ในไม่กี่นาทีถัดมาดวงตาขอเธอก็เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง
ไอ้ผู้ชายบ้าคนนี้ เอามือทำอะไรน่ะ?
หลินเวยมี่
ตอนนี้ดวงตาของเธอหรี่ลง เอามือของเธอไปหยุดมือของผู้ชายที่พยายามทำอะไรสักอย่างกับเธออยู่ พร้อมกับพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “อย่ามาแตะตัวฉัน!”
“ลูกแมวน้อย นี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรจะเข้ามาเล่นด้วยนะ” เขายังคงหัวเราะ แต่รอยยิ้มของเขากับไม่เข้ากับแววตาของเขาที่ทำให้เธอรู้สึกเย็นยะเยือกไปจนถึงกระดูก
ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเข้าไปอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง แต่เธอก็ยังคงพยายามที่จะเอามือของเขาออก แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ
เขาไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่น้อย เขาได้ปัดมือเล็กๆ ของเธอออก เขายังคงชอบเห็นเวลาที่เธอตื่นตระหนก รู้สึกราวกับกระต่ายน้อยที่ถูกเสือวิ่งไล่
เห็นได้ชัดว่าตอนแรกยังมีระยะห่างอยู่ระหว่างเธอกับเขา และเธอก็รู้อยู่แล้วว่ายังไงก็ต้องยอมให้เขาในสักทางหนึ่ง แต่เธอก็ยังเลือกที่จะดื้อด้านกับเขา
เขาใช้มือหนักขึ้น ตอนนี้สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในไม่กี่วินาทีเธอก็ต้องยอมให้กับเขา
“เธอคิดว่าวิธีนี้จะได้ผลหรอ”
“ฉันรู้ว่ามันไร้ประโยชน์”
แววตาของเธอแสดงถึงความเจ้าเล่ห์ออกมาชั่วครู่หนึ่ง ตอนที่เขากำลังจะโต้ตอบ ก็มีมีดสั้นแหลมคมอันนึงมาจี้อยู่ที่เอวเขาแล้ว
“อย่าขยับ!” เธอเม้มริมฝีปากไว้แน่น หน้าผากเธอตอนนี้เต็มไปด้วยเหงื่อ มือที่กำมีดสั้นไว้ตอนนี้ก็เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ
“ผู้หญิงที่เล่นมีดแบบนี้ไม่น่ารักเลย” เขาพูดด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย ราวกับว่าไม่ได้ตระหนกกับมีดที่จี้อยู่ที่เอวเขาเลย
“อยู่นิ่งๆ! อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าแทงลงไปนะ!” หลินเวยมี่
ดวงตาของเธอแฝงด้วยความดุดัน แต่ในใจของเธอนั้นกลับหวาดกลัว เธอพยายามควบคุมตัวเองอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ตื่นตระหนกออกมา
จริงๆแล้วสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ทำกับเธอไว้ ถึงเธอจะแทงเข้าไปจริงๆ ก็ไม่ได้มีอะไร
“เธอรับได้หรอ?” ใบหน้าของเขาแสดงถึงรอยยิ้มที่แฝงไว้ด้วยความชั่วร้าย เขาดูผ่อนคลายมาก ไม่ได้ดูตื่นตระหนกอะไรเลย
“อยู่นิ่งๆ! เอาโทรศัพท์ของคุณออกมา!”
“เธอเข้ามาเอาเองสิ” ดวงตาของเขาแสดงถึงความสนุกสนานไปที่เธอ พร้อมกับยกมุมปากขึ้น “นี่ อยู่ในกระเป๋ากางเกงของฉัน”
หลินเวยมี่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดของเขา ทั้งตัวเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก แต่ก็เอามือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของเขา
เธอพึ่งจะเอามือล้วงเข้าไป เขาก็เอามือจับแขนของเธอไว้แล้ว หลินเวยมี่
เบิกตากว้างขึ้น พร้อมกับเขามีดแทงเข้าไปที่เขา เขารีบเอามือมาปัดมีดออก ทำให้เจ็บข้อมือ พร้อมกับมีดที่ร่วงลงไปอยู่บนพื้นแล้ว
ในขณะเดียวกันหลินเวยมี่
เธอก็ถูกเขาดึงตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของเขาแล้ว โดยจมูกของเธอไปอยู่ติดกับหน้าอกของเขาที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ฉันไม่ชอบผู้หญิงที่เล่นมีด” เขาพูดพร้อมกับพ่นลมหายใจไปที่ด้านข้างของใบหน้าเธอ พร้อมกับกัดไปเบาๆที่ติ่งหูของเธอ
หลังจากนั้นไม่กี่วินาทีเขาก็จับเธอยกขึ้นมากอดไว้แล้วปล่อยเธอลงไป
หลินเวยมี่ที่ถูกปล่อยตกลงมารู้สึกมึนงง แต่เมื่อรู้สึกตัวขึ้นได้ก็รีบลุกขึ้นมาทันที
ฉู่เฉินซี
เขารีบกดเธอไว้ ใช้หัวเข่าวางลงไปบนขาของเธอ แล้วจ้องมองเธอด้วยสายตาลึกเข้า พร้อมกับถามว่า “บนตัวเธอยังมีอาวุธอะไรอีก”
“คนชั่ว ไร้ยางอาย! เอามือสกปรกของแกออกไป!”
หลินเวยมี่
ดุด่าเขา พร้อมกับใบหน้าที่หวาดกลัวจนสีหน้าซีดเผือด เธอเกลียดเขามากจนอยากที่จะหยิบมีดขึ้นมาตัดมือของเขา
“ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่เข้าใจอะไรเลย” เขาดึงเสื้อคลุมของเธอออกอย่างไม่เกรงใจ พร้อมกับใช้มือของเขาลูกไล้ไปทั่วบนตัวเธอ
“คนเลว! เศษสวะ! ฉันจะตัดมือแก!” เธอพยายามดิ้นรนพร้อมกับดุด่า แต่ก็รู้สึกว่าบริเวณที่ถูกเขาสัมผัสนั้น เรากับถูกงูเลื้อยผ่าน
ความรู้สึกเย็นชาออกมาจากกระดูก พร้อมกับความรู้สึกรังเกียจจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ผู้หญิงคนนี้! ฉันเตือนเลยนะ! ฉันไม่ชอบให้ใครมาด่าฉัน”
เขากดคางของเธอลงอย่างรุนแรง มือของเขามีพลังมากเหลือเกิน รู้สึกราวกับว่าคางจะถูกบดขยี้ให้แตกออกด้วยมือของเขา ตอนนี้ดวงตาของเธอปริ่มไปด้วยน้ำตา
แต่เธอก็ยังคงมองเห็นสีหน้าที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของเขาอย่างชัดเจน พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ราวกับกษัตริย์ที่ไม่ชอบให้ถูกใครซักถาม แรงกดของเขามากจนเธอไม่สามารถอ้าปากออกได้
ความแข็งแกร่งของเธอแล้วเขาแตกต่างกันมา หลินเวยมี่
ยังไงเธอก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา และเขายังมีของที่สามารถควบคุมเธอได้ ในตอนนี้ถึงเธอจะสู้จนตัวตายก็ยังไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย
หลินเวยมี่
เธอมองเขาอย่างเคียดแค้น พร้อมกับสูดหายใจลึกๆ เพื่อระงับความเจ็บปวดในใจของเธอเอาไว้ แล้วก็พูดด้วยเสียงอ่อนโยนกับเขา “คุณผู้ชาย ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะไม่ฟ้องคุณแล้ว และคุณก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรด้วย”
“หืม? รับผิดชอบ? เธอคิดว่าฉันต้องรับผิดชอบคุณอย่างไร?” เขาถามเธอด้วยความสนใจ พร้อมกับปล่อยมือที่กดคางของเธอไว้
หลินเวยมี่
เธอส่ายหัวอย่างรวดเร็ว หัวของเธอส่ายไปมาราวกับกลองของเล่น พร้อมกับแววตาที่ตื่นตระหนก “ฉันไม่ต้องการให้คุณรับผิดชอบอะไร ขอแค่คุณลบรูปภาพนั้นทิ้งไป เราสองคนก็หายกัน หลังจากนี้เจอกันก็ทำเหมือนเจอคนแปลกหน้า”
“หายกัน? คนแปลกหน้า?” ฉู่เฉินซี
เขาค่อยๆคิดถึงประโยคที่เธอพูดมาอย่างละเอียด พร้อมกับสายตาที่ไม่พอใจ เกมนี้ยังไม่ถึงตอนจบเลย นางเอกจะลงจากเวทีก่อนได้อย่างไร?
“หายกัน? เป็นไปไม่ได้ ฉันยังเล่นกับเธอไม่พอใจเลย”
“แก…” หลินเวยมี่โกรธจนต้องกัดฟันตัวเองเอาไว้ แต่เมื่อนึกถึงสถานะของตัวเอง ก็คิดได้ว่าเธอไม่มีอะไรไปสู้กับเขาได้เลย
“แล้วคุณต้องการอะไร?”
“ขอร้องฉันสิ ไม่แน่ว่าถ้าฉันอารมณ์ดี อาจจะลบภาพให้” เขาพูดจบก็ลงไปนอนข้างๆ เธอพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนใจอย่างสนุกสนาน
หลินเวยมี่
เธอกัดฟันแน่นขึ้น เธอเกลียดเขามากจนอยากจะเตะเขา หลังจากพยายามหายใจเข้าออกลึกๆหลายรอบ เธอก็หันไปหาเขาด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย พร้อมกับเอนกายไปอย่างช้าๆ
ในสายตาของเธอแฝงไปด้วยความอัปยศอดสู พร้อมกับก้มลงไปจูบเขา แต่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นควรจะทำอะไรดี ทำให้แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสับสน
ฉู่เฉินซี
แววตาของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา เขาไม่ได้มีความตั้งใจที่จะช่วยเธอเลย จึงได้แต่มองเธออย่างเฉยเมย และไม่ได้แสดงออกให้เธอเห็นว่าเขาจะทำอะไรต่อ
หลินเวยมี่
เมื่อเธอเห็นเขาไม่ได้ตอบสนองอะไร จึงรู้สึกโกรธเล็กน้อย ดวงตาดำของเธออัดแน่นด้วยความสงสัย และกัดเขาอย่างไม่ตั้งใจ แต่ก็ไม่กล้าใช้แรง เธอทำเพียงแค่เพราะเธอไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไร
“เฮ้ คุณยังทำได้หรือทำไม่ได้” หลินเวยมี่เปล่งเสียงดังขึ้น
เธอพูดออกมาได้ไม่นาน เขาก็ดึงเธอเข้าไปพร้อมกับจ้องมองเธอไปลึกๆในตา พร้อมกับพูดว่า “ผู้ชาย กลัวที่สุดคือผู้หญิงบอกปฏิเสธ!”