รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 52
บทที่ 52 ผู้หญิงใจร้าย(2)
หยิ่งถอนหายใจอีกรอบ เขาพบหยดเลือดบนพื้นโดยบังเอิญ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที
“เจ้านาย”
ฉู่เฉินซีที่เดินไปถึงหน้าประตูแล้วก็ขมวดคิ้ว และหันกลับมาด้วยความรำคาญ “ว่ามา”
“คุณยังเลือดไหลอยู่ ผมแนะนำว่าทำแผลก่อนเถอะ”
ฉู่เฉินซีขมวดคิ้ว ก้มหน้าดูเลือดที่อยู่บนพื้น สีหน้าของเขาเปลี่ยน และรีบยกมือของหลินเวยมี่ขึ้นมาดู
ระหว่างนิ้วมือของเธอมีเลือดไหล และดูเหมือนว่าเธอก็พึ่งจะสังเกตเห็น สีหน้าของเธอแสดงออกถึงอาการตกใจ
“แบมือออกมา” เขาขมวดคิ้วและสั่ง
เธอค่อยๆแบมือออก มือที่ถูกแทงทำให้เธอเจ็บจนขมวดคิ้วเข้ามาชิดกัน คิดไม่ถึงว่าเมื่อกี้เธอจะไม่เจ็บเลยซีกนิด
“คุณโง่รึเปล่า” เขาขมวดคิ้ว มองไปที่ฝ่ามือที่กำลังมีเลือดไหลของเธอ ใบมีดฝังลึกอยู่ในมือของเธอ
“เมื่อกี้ไม่เจ็บ” เธอตอบกลับเบาๆ แต่ว่าตอนนี้เจ็บมากๆ โดยเฉพาะหลังจากที่เห็นแผล
“เอากล่องปฐมพยาบาลมา”
หยิ่งรีบเดินไปที่ห้องและหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา วางไปบนเครื่องชงชา
“น้ำอุ่น” เขาสั่งต่อไป
หยิ่งไม่กล้าที่จะเชื่องช้าแม้แต่น้อย เขารีบเรียกคนมา
“โง่จริงๆเลย ทำให้ตัวเองเจ็บตัวได้”
หลินเวยมี่สีหน้าเต็มไปด้วยความรำคาญเธอมองดูฉู่เฉินซีทำแผลให้เธออย่างระมัดระวัง และเถียงด้วยความโมโหว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะหมาคุณทำให้ฉันตกใจฉันจะบาดเจ็บหรอ”
จะพูดยังไงมันก็เป็นความผิดของเขา ตอนที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา เธอเจ็บจนสูดหายใจเข้าลึกๆ เกือบจะเป็นลม
“ผมดึงใบมีดออกมาแล้ว” เสียงหนักของเขาดังขึ้นในหูของเธอ
หลินเวยมี่หายใจเข้าลึกๆซักพัก น้ำตาของความเจ็บก็ไหลออกมา ผ่านไปซักพักเธอถึงจะมีแรงถาม “ทำไมไม่ให้หมอมาฉีดยาชาให้ฉัน”
ฉู่เฉินซีอึ้งไปซักพัก เขาเงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอที่น้ำตาอาบแก้ม และพูดอย่างงงงวยว่า “ผมลืม”
“ฉีดตอนนี้ยังทันมั้ย ให้ตายสิ ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าต้องทำยังไง” เขาพูดอย่างหงุดหงิดและเตะถังน้ำข้างๆเขาล้ม
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วแน่น และลุกขึ้นยื่น เอาผ้าพันแผลมาพันอย่างลวกๆ และรีบเดินออกไปนอกประตู
“จะไปไหน”
เธอถูกดึงแขนไว้ หลินเวยมี่หันกลับมาด้วยท่าทางที่รำคาญ “กลับบ้าน”
ฉู่เฉินซีจับแขนเธอไว้แน่น สีหน้าของเขาดูเศร้า เขาแสดงออกชัดเจนว่าเป็นห่วงเธอ ดังนั้นก็เลยรีบช่วยเธอดึงเอาใบมีดออกมา ทำไมมันถึงกลายเป็นความผิดของเขาได้
สีหน้าของหลินเวยมี่ดูเจ็บปวดมาก หน้าผากของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ และพูดอย่างเย็นชาว่า “ปล่อยฉัน”
ฉู่เฉินซีปล่อยมือ สายตาของเขาดูเศร้าสร้อย มองดูหลินเวยมี่เดินออกไปจนไม่เหลือแม้แต่เงา
เขากำหมัดแน่น ความโกรธพลุ่งพล่านไปทั่วตัวเขา เอาโยนกล่องปฐมพยาบาลไปที่หน้าประตูอย่างโหดเหี้ยม
ยาในกล่องปฐมพยาบาลกระจายออกมา คนรับใช้ข้างๆตกใจจนไม่กล้าร้องตะโกนออกมา ผ่านไปซักพักหยิ่งถึงจะเดินมาหาเขา
“เจ้านาย”
“อย่าพึ่งมากวนใจฉัน” เขาตะโกนออกมา เหมือนกับเสือที่กำลังโกรธ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
หยิ่งเงียบไปซักพัก แต่เขาก็ตัดสินใจพูด “กู้จุนเฟิงได้ลงมือกับตระกูลหลินแล้ว”
ลูกตาของฉู่เฉินซีนิ่งไปซักพัก เขายักคิ้ว และเหอะเบาๆ “รู้แล้ว”
แววตาของเขาดูเย็นชา ตอนนี้เขาหวังแค่ให้กู้จุนเฟิงรีบลงมือ
หลินเวยมี่กัดฟันแน่น จนเดินออกมาข้างนอกหมู่บ้าน แถวนี้เรียกรถยากซะด้วย เธอเดินไปตามทาง
“ไฮ” เสียงเบรกรถดังขึ้น รถสีเดาคันนึงจอดอยู่ตรงหน้าเธอ
เปิดกระจกรถ ผู้ชายใส่แว่นตาดำยิ้มมุมปากให้เธอ “ดูเหมือนว่าเธอต้องการความช่วยเหลือนะ เอ้อ ชุดที่เธอใส่มันดูพิเศษจังเลยนะ”
หลินเวยมี่ก้มมองดูชุดตัวเอง ชุดแบบนี้ออกมาเดินข้างถนนมันก็ดูแปลกจริงๆ
“จะไปส่งฉันกลับบ้านหรอ”เธอถาม
“แน่นอน เป็นสุภาพบุรุษก็ต้องไปส่งคุณผู้หญิงกลับบ้าน” เขายิ้มกว้างขึ้นและถอดแว่นตาดำออก “คุณคงไม่ใช่จำผมไม่ได้หรอกใช่มั้ย”
หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว แววตาเต็มไปด้วยความงงงวย ผู้ชายคนนี้เธอจำได้ว่าเป็นเพื่อนของฉู้เฉินซี
“จำได้สิ” เธอขึ้นรถ สีหน้าของเธอดูเย็นชา “ไปส่งฉันที่ช๊อปปิ้งมอลได้มั้ย”
เฉินเห้าหมิงหันหน้ามามองผู้หญิงข้างๆ “แน่นอน”
“ขอบคุณ” เธอรู้สึกโล่งใจ แต่มือของเธอยังคงเจ็บอยู่ เมื่อกี้ตอนออกมารีบไปหน่อยเลยไม่ทันได้ใส่ยา
“ฉันพึ่งรู้ว่าฉู่เฉินซีชอบสไตล์แบบนี้”แววตาของเขาเต็มไปด้วยความตลก