รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 86
บทที่ 86 ผู้หญิง ให้ความสนใจหน่อย(2)
หลินเวยมี่กอดตัวเองไว้อย่างแน่น ดวงตามีน้ำตา ทำยังไงถึงจะหนีจากเขาได้? โดนทรมานแบบนี้ มีสักวันเธอจะเป็นบ้า
ประตูห้องโดนเปิดอีกครั้ง มีหมอผู้หญิงเข้ามากับฉู่เฉินซี
“หลินเวยมี่ ให้เขาช่วยดูให้เธอหน่อยน่ะ” ฉู่เฉินซีเกือบไม่เคยพูดเบา ๆ กับเธอ น้ำเสียงปนด้วยการขอร้อง
หลินเวยมี่แค่อึ้งไปสักพัก และไม่นานสายตาของเธอก็มีความรู้สึกน่ารังเกียจขึ้นมาอีกครั้ง หันหน้าไปอีกทาง
ฉู่เฉินซีใบหน้ารู้สึกทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ไอแห้ง ๆ แล้วเดินออกจากประตู
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป หมอผู้หญิงเดินออกมา
“เธอเป็นยังไงบ้าง?มีแล้วหรือเปล่า?” เสียงของฉู่เฉินซีจะแหบนิดหน่อย ฟังไม่ออกดีใจหรือกังวล
หมอผู้หญิงใส่หัว มองฉู่เฉินซีด้วยสายตาแปลก ๆ “ก็แค่ทำรุนแรงไปหน่อย มีอักเสบนิดหน่อย แนะนำว่างเว้นสักระยะหนึ่ง”
ฉู่เฉินซีถอนหายใจ เหมือนมีอะไรออกจากอก และถามต่อไป “ประมาณนานแค่ไหน?”
หมอผู้หญิงโดนเขาถามจนหน้าแดง สักพักใหญ่ถึงตอบ “ภายใน 7 วัน”
“เจ้านาย!” หยิ่งเรียกฉู่เฉินซีอยู่ข้างหลัง
“แผลต้องเปลี่ยนยาแล้ว และแผลที่มือ……”
“อื่ม ” ไม่รอหยิ่งพูดจบ เขาตอบเสียงเบา ๆ ไปกับหยิ่งลงชั้นล่างไป
หลินเวยมี่นั่งอย่างสงบ สายตามองไปที่หน้าต่าง ดูไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่
เคาะ ๆ — เสียงเคาะประตูดังขึ้น เธอขมวดคิ้วและถาม
“มีอะไรหรือ?”
“พี่สาว ฉันเอง” เสียงของหลินซินหยานออกมาจากประตู
หลินเวยมี่รู้สึกโล่งใจ “เข้ามา”
ประตูเปิด หลินซินหยานยกผลไม้เข้ามา ใบหน้าที่น่ารักออกชมพูนิดหน่อย เอาผลไม้ไว้ที่หน้าเธอ “พี่สาว กินผลไม้”
หลินเวยมี่ขมวดคิ้วและใส่หัว ตอนนี้เธอไม่มีอารมณ์กิน “ยังไม่อยากกิน”
หลินซิงหยานพยักหน้าเหมือนชินกับอารมณ์ของเธอแล้ว ก็เลยหยิบขึ้นมากินเองเลย สักพักใหญ่พูดว่า “แม่หาสุสานของพ่อได้แล้ว จะฝังในวันพรุ่งนี้”
ดวงตาของหลินเวยมี่เต็มไปด้วยความเย็นชาและพูดว่า “ไม่ต้องให้เธอมายุ่ง”
“พี่สาว เธอทะเลาะกับแม่อีกแล้ว” หลินซินหยานทำท่าไม่รู้จะเอาไงดี ถอนหายใจ “ที่จริงแล้วแม่ก็เครียดน่ะ ตระกูลฉู่ให้แม่ออกมาโดยที่ไม่สนใจอะไรเลย เธอไม่มีทางออกแล้วถึงจะไปยืมเงิน”
“จริงหรือ?” หลินเวยมี่พูดอย่างดูถูก ยกคิ้วขึ้น เธอจำไม่ผิดวันที่เธอออกจากบ้านบังเอิญไปเจอน้าหราน เธอกำลังนั่งอยู่บนรถของชายคนหนึ่ง ปล่อยให้ชายคนนั้นจับต้อง
“ฉันจะไม่ใช้เงินของเธอแน่นอน”
หลินซินหยานหยิบแอปเปิ้ลขึ้นมา และยัดเข้าที่ปากเธอ “พี่สาว หวานมากเลย”
หลินเวยมี่อึ้งไปสักพักยังไม่รู้สึกตัว แต่ก็กินลงไป รสหวานของแอปเปิ้ลกระจายที่ปากของเธอ ทำให้รสขมที่ปากจางไปหน่อย
หลินซินหยานเหมือนคิดอยู่ตั้งนาน ถึงได้ลองถาม “พี่สาว เธอกับน้า…….”
ทันใดนั้นใบหน้าของหลินเวยมี่กลายเป็นไร้สีเลือด เธอจ้องไปที่หลินซินหรานอย่างเย็นชา
หลินซินหยานตกใจและไม่ได้พูดอะไรต่อ มองเธออย่างงง ทำท่าน่าสงสาร
“เธอได้ยินอะไร?หรือเธอเห็นอะไร?” หลินเวยมี่ถามอย่างเย็นชา
หลินซินหยานกัดริมฝีปากและค่อย ๆ พูด “ฉันเห็นน้าออกมาจากห้องพี่ แล้วยังได้ยินเสียงพวกเธอทะเลาะกัน”
หลินเวยมี่พูด “หลินซินหยาน ฉันไม่อยากจะพูดอะไรมากน่ะ”
“ฉันเข้าใจ น้าออำไปแล้ว” หลินซินหยานก้มไปหยิบแตงโมชิ้นหนึ่งยื่นที่ปากหลินเวยมี่ หลินเวยมี่ใส่หัวปฏิเสธ
ในใจรู้สึกอะไรหายไป ในที่สุดเขาก็ไปแล้ว เธอต้องรู้สึกมีความสุขน่ะ?
“พี่ค่ะ ก่อนพ่อจะเสียได้พูดอะไรกบพี่ไหม?” หลินซินหยานถามด้วยน้ำเสียงเบา ๆ
หลินเวยมี่ไม่ได้สนใจสีหน้าเธอ แต่มือไปรูดกุญแจที่แขวงบนคนของเธอ และยิ้ม “พ่อแค่บอกว่าอย่าไปเกลียดใครเลย”
หลินซินหยานขมวดคิ้ว ถามต่อ “แล้ว……ไม่มีอะไรฝากไว้หรือ? เธอรู้อยู่ว่า ที่บ้านถูกรื้อไปหมดแล้ว ฉันกลัวว่ามีอะไรที่สำคัญถูกทำลายไป”
“ไม่มีแล้ว ถ้ามี น้าหรานน่าจะรู้” หลินเวยมี่ตอบอย่างปกติ สายตามองไปที่หน้าต่าง ไม่รู้ทำไม เธอไม่อยากจะเอาเรื่องกุญแจเหล่าให้หลินซินหยานฟัง
ยังไงก็แล้วแต่ นี่เป็นความลับระหว่างเธอกับพ่อ และเป็นความลับสุดท้าย
ใบหน้าของหลินซินหยานเต็มไปด้วยความปวดหัว แต่ไม่นานก็ได้ปิดปังไป และหาข้ออ้างออกไปแล้ว
มือของหลินเวยมี่รูดกุญแจที่แขวงอยู่ที่คอไม่หยุด สายตาเต็มไปด้วยความหวัง อยากรู้จังเลย กุญแจนั้นมีความลับอะไรอยู่
ความลับนี้จะมีอะไรเกี่ยวกับกู้จุนเฟิวไหม? เธอไม่เชื่อว่ากู้จุนเฟิงทำลายหลิงจ่านหงโดยไม่มีเหตุผล