รักหมดใจ ยัยหน้ารักของฉัน - ตอนที่ 88
บทที่ 88 ออกไป(2)
“ฉันไม่อยากพูด” เขาก้มตา ขนตาที่ยาว ๆ ของเขาเต็มไปด้วยน้ำฝน
หลินเวยมี่ถึงรู้ว่า เสื้อทั้งสองเปียกไปหมดแล้ว เธอทำท่าไอหนึ่งครั้ง ทำหน้าตายแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนี้ ฉันยังคงไม่สามารถเชื่อเธอได้ ขอบคุณที่เธอมาส่งพ่อฉันวันนี้น่ะ”
เมื่อเธอพูดจบ ผลักเขาออกไปแล้วเดินออกไป
หลินซินหยานมองไปที่หลินเวยมี่อย่างลึกซึ้ง สุดท้ายสายตามองไปที่คนที่ยืนอยู่ไม่ไกล มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย และทันใดนั้นสายตาของเธอกลับมาเหมือนคนไม่รู้เรื่องราว
“พี่……” หลินซินหยานเดินมาที่ข้างเธอ เรียกเสียงเบา ๆ
หลินเวยมี่สีหน้าไม่เปลี่ยน และไม่ได้ตอบ สีหน้ามองไปที่คนที่ในสุสานอย่างเคร่งขรึม
“ทำไมเขาถึงมาได้?” หลินซินหยามถามต่อ “เขาไม่ใช่คนที่ทำลายพ่อหรือ?”
สายตาของหลินเวยมี่มองไปที่สีหน้าของเธอ เห็นเธอทำท่าไม่รู้อะไรเลยก็ได้แต่ถอนหายใจ “อย่าถามแล้ว รอกลับบ้านค่อยว่ากัน”
หลินซินหยานพยักหน้า สายตามองไปที่กู้จุนเฟิงยืนอีกครั้ง ถึงรู้ว่าเขาไปนานแล้ว
ทันใดนั้นที่หันหัว หางตาเธอไปเห็นคนที่ยืนอยู่ใต้ต้นไม้ ทันใดนั้นมุมปากยกขึ้นมาทันที สายตามองที่ใบหน้าหลินเวยมี่ที่ไร้ความรู้สึกอีกครั้ง
รู้สึกได้ว่าชีวิตเธอจะยุ่งอีกแล้ว
ทุกคนทยอยออกจากสุสาน แต่หลินเวยมี่เป็นคนสุดท้ายที่ออกมา ทั้งตัวเปียกไปหมดจนเย็นชาไปแล้ว
เดินลงบันไดทีละขั้น สายตาไม่ต้องใจมองเห็นข้างนอกมีรถสีดำจอดอยู่
ใจเริ่มเต้น สายตาเต็มไปด้วยความรำคาญ สุดท้ายก็ได้เดินไปทางรถคันนั้น
เคาะหน้าต่างเบา ๆ พูดอย่างเย็นชา “เธอมาหาฉันหรือ?”
ไม่นาน หน้าต่างลงมา เห็นแต่ใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม และต่างกับบรรยากาศรอบข้างอย่างมาก ทำให้หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว
“ใช่ ฉันมาหาเธอ” เฉินเห้าหมิงยิ้มไปด้วยพูดไปด้วย
“เธอมีดีใจมากเลยหรือ?”หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว ถามอย่างเย็นชา ไม่ได้เห็นฉู่เฉินซี เธอรู้สึกใจโล่ง
“มีความสุขแน่นอน ได้เห็นคุณหลิน ฉันรู้สึกดีใจมากน่ะ”
ใบหน้าของหลินเวยมี่แข็งสักพักและพูดว่า “แต่ฉันไม่ดีใจเลย”
“ไม่เป็นไร พวกเราไปดูหนังกันไหม หรือไปดินเนอร์ใต้แสงเทียนไหม?” เฉินเห้าหมิงพูดอย่างน่าสนใจ
“น่าเบื่อ!” หลินเวยมี่มองเขาแล้วก้าวขาออกไป ไม่ใช่ฉู่เฉิน่ซีก็ดีแล้ว
“คุณหลิน คือนายฉันให้ฉันมาหาเธอน่ะ” เฉินเห้าหมิงพูดอย่างเสียงดัง
หลินเวยมี่ได้หยุดเดิน พูดถึงฉู่เฉินซี ตั้งแต่เมื่อวานที่ไปแล้วก็ยังไม่ได้ติดต่อเธอเลย ในเวลาที่เธอกำลังดีใจคิดว่าเขาไปแล้ว ช่วงเวลานี้จะได้กลับมา ไม่คิดว่าตอนนี้มีเฉินเห้าหมิงโผล่ออกมาอีก
“เขา…… ไม่อยู่เมือง A?” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสงสัยและความตื่นเต้น
“ไม่อยู่แน่นอน”
เมื่อหลินเวยมี่ได้ยินอย่างนี้รู้สึกโล่งอก อย่างไรก็ตามเขาไม่อยู่ก็ดีแล้ว
“แล้วเธอมาหาฉันทำอะไร?”
“นายให้ฉันมาหา” เฉินเห้าหมิงพูดจบก็ได้เปิดประตูรถออกมา “เชิญ คุณหลิน มีเซอร์ไพรส์น่ะ”
หลินเวยมี่ขยับมุมปาก เดินไปที่ข้างรถอย่างสีหน้าแข็ง ๆ นั่งอยู่หลังรถ
รถวิ่งอย่างเร็ว ดนตรีภายในรถเสียงดังมาก
เธอขมวดคิ้ว ความชอบของเฉินเห้าหมิงไม่ธรรมดาจริง ๆ เหมือนตัวเขาเลย แปลก ๆ
“คุณหลิน ระวังน่ะ”
เขาพูดเพิ่งจบ ทันใดนั้นรถขับเร็วอย่างกะทันหัน แล้วตัวเธอไปข้างหน้า หัวได้ชนกับที่นั่งข้างหน้า
จนถึงใจกลางเมือง เจอไฟแดงถึงจะหยุด หลินเวยมี่สีหน้าซีดไปหมดเลย สูดลมหายใจลึก ๆ ถึงรู้เลยว่า เฉินเห้าหมิงเป็นคนนี้เหนือยิ่งกว่าคำว่าแปลกประหลาดแล้ว เขาเป็นคนบ้าแน่ ๆ
“ให้ตายซะ เวลามากว่าที่ฉันคิดไว้เกินมา 1 นาที!” เฉินเห้าหมิงขมวดคิ้วพูดเสียงต่ำ
แต่หลินเวยมี่ที่นั่งอยู่หลังรถเหมือนขาดความสามารถในการสื่อสารแล้ว ได้แค่ดูเขาอย่างน่ารังเกียจ
ทั้งคู่มาถึงวิลล่าหนึ่งหลัง หลินเวยมี่ขมวดคิ้ว เธอจำที่นี่ได้ นี่คือบ้านของฉู่เฉินซี
“เขาให้ฉันมาที่นี่ทำอะไร?” เธอขมวดคิ้ว ทำหน้าไม่เข้าใจ
“ที่ฉันรู้มาคือ ประมาณตอนเที่ยงคืนเขาจะกลับมา เขาน่าจะอยากจะเจอเธอน่ะ”
เฉินเห้าหมิงขมวดคิ้วพูด
หลินเวยมี่สีหน้าเปลี่ยนไป เธอไม่อยากเจอเขาจริง ๆ วิลล่านี้สำหรับเธอเหมือนอยู่ในกรงไม่มีอะไรต่างเลย?
ทันใดนี้น เฉินเห้าหมิงหันหัวมาหาเธอแล้วยิ้มมองเธอ
ทันใดนั้นหลินเวยมี่รู้สึกเย็นถึงกระดูกเลย หายใจเริ่มเร็วรู้สึกตื่นเต้น
“ถ้าเขาจะกลับมาตอนกลางคืน แล้วช่วงเวลาที่ว่างอย่างนี้ เราออกไปเที่ยวดีไหม?สนุกมากเลย” ออกไป…… หลินเวยมี่รู้สึกตามไม่ทัน ทำท่างง ๆ มองไปที่เฉินเห้าหมิง เหมือนสิ่งที่เขาพูดก็ถูก
“เวยมี่ เธอไม่ได้ฟังผิด ฉันบอกว่า เราจะออกไปเที่ยวกันเป็นไง!” เขาทำท่าพูดอย่างมั่นใจ
“ออกไป……” หลินเวยมี่ขยับปาก พูดตามเขา