รักหวานอมเปรี้ยว - บทที่ 59 ขอโทษหน้าประตู
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากที่ขาวซีดลง แล้วพูดว่า ฉันล้มเอง แต่ฉันรู้สึกว่าสาเหตุที่ฉันล้มมันไม่ธรรมดาเลย
มิ้นท์เธอกำลังสงสัยอะไรบางอย่างใช่ไหม? ลาเต้เฝ้ามองดูเธอ
มายมิ้นท์พยักหน้า ฉันล้ม เป็นเพราะตอนที่ฉันออกมาจากห้องอาบน้ำ ฉันไปเหยียบอะไรลื่นๆเข้า แล้วตอนที่ล้มลงไปนั้น ฉันได้กลิ่นหอมๆกลิ่นหนึ่งด้วย น่าจะเป็นพวกครีมอาบน้ำนี่แหล่ะ
ทำไมถึงมีครีมอาบน้ำอยู่หน้าห้องอาบน้ำของเธอได้ล่ะ? ลาเต้เบิกตาโพลงโตด้วยความประหลาดใจ
ฉันก็ไม่แน่ใจ
หรือว่า จะมีใครบางคนไม่ระวังทำครีมอาบน้ำหก ดังนั้นมันก็เลยสาดกระจายอยู่หน้าห้องอาบน้ำของเธอ แล้วเธอก็บังเอิญไปเหยียบมันเข้าพอดีอย่างนั้นเหรอ? ลาเต้ลูบคางคาดเดา
มายมิ้นท์หรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดว่า ก็มีความเป็นไปได้ แต่ความเป็นไปได้มันต่ำเกินไป
จะว่ายังไงดีล่ะ?
มายมิ้นท์เอียงศีรษะไปมองเขาเล็กน้อย เพราะว่าตอนที่ฉันอาบน้ำอยู่ ฉันไม่ได้ยินว่ามีเสียงอะไรตกลงบนพื้นเลยนะ
กล่าวได้ว่า มีคนจงใจแอบเทครีมอาบน้ำลงตรงหน้าห้องอาบน้ำของเธออย่างเงียบๆนั่นเอง
ลาเต้ลุกขึ้นทันที ต้องเป็นส้มเปรี้ยวแน่ๆ ในรีสอร์ทแห่งนี้ ศัตรูของเรามีแค่เธอกับเปปเปอร์สองคนเท่านั้น เปปเปอร์เข้าไปในบ่อแช่น้ำร้อนหญิงไม่ได้ ดังนั้นก็มีแต่ส้มเปรี้ยวเท่านั้น
เป็นเธอ ตอนที่นายโทรมาหาฉันเมื่อคืนวาน เธอก็อยู่ตรงนั้นพอดี และเธอน่าจะได้ยินว่าฉันจะไปอาบน้ำที่ห้องอาบน้ำ ดังนั้นเธอก็เลยตามฉันไป มายมิ้นท์ยกมือที่อยู่บนผ้าห่มขึ้นมา
หน้าอกของลาเต้ยกตัวขึ้นๆลงๆอย่างรุนแรงด้วยความโกรธ ผู้หญิงคนนั้นเป็นงูพิษโดยแท้ แจ้งตำรวจเลย เราจะต้องแจ้งตำรวจ เรื่องนี้จะเลิกแล้วต่อกันอย่างนี้ไม่ได้เด็ดขาดนะ!
เขาหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋า
มายมิ้นท์ห้ามเขาเอาไว้ ไม่ต้องหรอก ในห้องอาบน้ำไม่มีกล้องวงจรปิด ก็เลยพิสูจน์ไม่ได้เลยว่านั้นเป็นครีมอาบน้ำที่เธอเท ถึงแม้จะตรวจได้ว่าครีมอาบน้ำที่อยู่บนพื้นเป็นครีมอาบน้ำที่เหมือนกับครีมอาบน้ำของเธอก็ตาม เธอก็สามารถโกหกได้ว่าเธอไม่ระวังเลยทำหก เราจึงไม่สามารถเอาผิดเธอได้เลย
ลาเต้ขมวดคิ้วแน่น นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ งั้นเราควรจะทำยังไงกันดี?
มายมิ้นท์ครุ่นคิดสักครู่ แล้วจึงพูดว่า เว้นแต่ว่า เราจะได้บันทึกเสียงที่เธอยอมรับว่าจงใจทำร้ายฉันมา ไม่อย่างนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็จะต้องเป็นอันยกเลิกกันไปเท่านั้น
นี่มันไม่ง่ายเลยนะ ลาเต้ยิ้มอย่างชั่วร้าย แล้วจึงพูดว่า งั้นฉันจะหาใครสักคนไปขู่เธอและเอาอุปกรณ์อัดเสียงไปด้วย เธอจะต้องสารภาพอย่างแน่นอน
ดวงตาของมายมิ้นท์เปล่งประกายขึ้นมาในชั่วพริบตา ในขณะที่เธอกำลังจะตอบรับ กลิ่งที่อยู่หน้าประตูก็ดังขึ้น
ใครอ่ะ? ลาเต้เดินไปที่ประตู
พอประตูเปิดออก ก็เห็นเปปเปอร์กับส้มเปรี้ยวกำลังยืนอยู่หน้าประตูสองคน
คุณลาเต้คะ ส้มเปรี้ยวยิ้มให้ลาเต้เล็กน้อย
สีหน้าของลาเต้ก็ทลายลง ณ จุดนั้น แล้วดขาก็พูโด้วยน้ำเสียงที่ไม่เกรงอกเกรงใจเลยแม้แต่น้อยว่า พวกคุณมาทำไม?
พวกเรามาหามายมิ้นท์ เธออยู่ข้างในไหม? สายตาของ เปปเปอร์จ้องมองไปที่ตัวเขา
เสื้อผ้าชุดนี้ของเขาเหมือนกับชุดที่เขาใส่เมื่อคืนไม่มีผิด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาได้พักค้างคืนที่ห้องของมายมิ้นท์เมื่อคืนนี้
เมื่อคิดถึงมายมิ้นท์กับลาเต้อยู่ในห้องเดียวกันสองต่อสอง ดวงตาของเปปเปอร์ก็มืดลง และภายในหัวใจของเขาก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่สามารถอธิบายได้
ลาเต้ ใครมาอ่ะ? มายมิ้นท์ถามด้วยเสียงที่อ่อนแอเล็กน้อยดังออกมาจากในห้อง
ลาเต้ก็ไม่ได้ปิดบังเธอ ในขณะที่กำลังมองชายหญิงที่อยู่ข้างหน้า เขาก็ตอบเสียงดังกลับไปว่า ประธานเปปเปอร์กับคุณส้มเปรี้ยวบอกว่ามาหาเธอน่ะ
ภายในห้องเงียบสงัดไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงของมายมิ้นท์จะดังขึ้นมาใหม่อีกรอบว่า ให้พวกเขาเข้ามาสิ
ลาเต้เอียงตัวไปด้านข้างอย่างไม่เต็มใจเล็กน้อย
ขอบคุณค่ะ ส้มเปรี้ยวพยักหน้าให้เขาด้วยรอยยิ้ม ในขณะที่กำลังจูงเปปเปอร์เข้าไปข้างใน
ลาเต้กลอกตามองบน แล้วก็ปิดประตูและเดินตามหลังพวกเขาไป
มายมิ้นท์นั่งพิงหลังหัวเตียง ซึ่งเธอกำลังสวมใส่ชุดนอนหลวมๆ มีผ้าพันแผลที่ศีรษะ สีหน้าขาวซีด และร่างกายดูบอบบางเป็นอย่างมาก
ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อมองดูท่าทางเช่นนี้ของเธอ เปปเปอร์จึงรู้สึกเจ็บปวดใจขึ้นมาเล็กน้อย เขาจึงถามขึ้นมาในทันทีอย่างไม่รู้ตัวด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลว่า คุณเป็นยังไงบ้าง?
มายมิ้นท์มองเขาด้วยความประหลาดใจ และยิ้มออกมาด้วยความสนอกสนใจ นี่ประธานเปปเปอร์เป็นห่วงฉันเหรอคะ?
ส้มเปรี้ยวกระชับแขนของเปปเปอร์ให้แน่นในทันที
ซึ่งมันเป็นเหมือนการเตือนสติอย่างหนึ่ง เปปเปอร์จึงตระหนักได้ว่าท่าทางที่เขามีต่อมายมิ้นท์นั้นผิดปกติไปแล้วเล็กน้อย เขาก็เลยเม้มริมฝีปากบางๆลง แล้วพูดด้วยเสียงที่เย็นชาและเฉยเมยเหมือนเดิมว่า การที่มาเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเข้ามาถามไถ่อย่างเหมาะสม มันก็เป็นการกระทำที่ควรจะทำเป็นปกติอยู่แล้ว และก็เป็นมรรยาทด้วย
ความหมายในคำพูดนั้นก็คือ เขาเพียงแค่ถามไปตามมรรยาท และไม่มีความหมายว่าเขาเป็นห่วงอะไรเธอเลย
ในที่สุดส้มเปรี้ยวก็พอใจแล้ว จึงปล่อยแขนของเปปเปอร์อย่างช้าๆ แล้วเหลือบไปมองมายมิ้นท์ ด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง
มายมิ้นท์ยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา ลาเต้ก็สาวเท้าก้าวไปขวางอยู่ข้างหน้าเธอแล้ว แล้วทำท่าทางแคะนั่นแคะนี่ไปมาและพูดกับส้มเปรี้ยวว่า ขืนคุณมองมิ้นท์ของเราด้วยสายตาที่น่าขยะแขยงแบบนี้อีกล่ะก็ เชื่อหรือเปล่าว่าผมจะควักลูกตาทั้งสองข้างของคุณออกมา
นายกล้าเหรอ! ส้มเปรี้ยวกัดริมฝีปาก
ลาเต้หัวเราะแหะๆ แล้วพูดว่า เธอคอยดูสิว่าฉันจะกล้าไหม!
ในขณะที่พูดอยู่ เขาก็จะไปตามส้มเปรี้ยว
ส้มเปรี้ยวตกใจจนหน้าซีด จึงรีบหลบอยู่หลังเปปเปอร์ แล้วจับชายเสื้อของเขาเอาไว้ และพูดเสียงสั่นว่า เปปเปอร์ช่วยฉันด้วย!
เปปเปอร์ใช้มือข้างหนึ่งโอบไปข้างหลังเพื่อกอดส้มเปรี้ยว และใช้มืออีกข้างหนึ่งขวางกั้นลาเต้ แล้วพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชาจนน่ากลัวว่า ลาเต้ อย่าทำเกินกว่าเหตุนะ คุณเห็นแต่สิ่งที่ผมทำกับผู้หญิงของคุณ
ลาเต้หัวเราะเยาะขึ้นมาราวกับว่าเขาได้ยินเรื่องตลก แล้วพูดว่า ประธานเปปเปอร์ งั้นผมก็ขอบอกคุณสักหนึ่งประโยค คุณอย่าเป็นคนสองมาตรฐานเกินไป คุณเห็นแต่สิ่งที่ผมทำกับผู้หญิงของคุณ แต่กลับไม่เห็น สิ่งที่ผู้หญิงของคุณทำกับมิ้นท์ของเรา ตาบอดแบบนี้ ไม่สู้บริจาคออกไปตั้งแต่เนิ่นๆจะดีกว่านะ
มายมิ้นท์ที่กำลังดูละครอยู่บนเตียงก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มและยกนิ้วโป้งให้เขา
เปปเปอร์เห็นการกระทำนี้ของเธอ ก็ขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขึ้น และรู้สึกไม่สบายใจ
เธอหมายความว่ายังไง คิดว่าเขาตาบอดเหมือนกันเหรอ?
พอได้แล้ว นี่คือห้องของฉัน และฉันยังเป็นคนเจ็บด้วย พวกคุณมาหาฉันมีธุระอะไรกันแน่ รีบๆพูดมา พูดจบแล้วก็กรุณาออกไปด้วย ฉันยังต้องพักผ่อน มายมิ้นท์เอามือป้องปากแล้วหาวหนึ่งครั้ง และพูดด้วยน้ำเสียงที่หมดความอดทนขึ้นมา
เปปเปอร์เม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า พวกเรามาขอโทษคุณ
ขอโทษเหรอ?
มายมิ้นท์กับลาเต้มองหน้ากัน
เปปเปอร์ลากส้มเปรี้ยวออกมาจากข้างหลัง แล้วพูดว่า ที่คุณล้มเมื่อวาน เป็นเพราะส้มเปรี้ยวไม่ระวังเลยทำครีมอาบน้ำหกลงบนพื้นน่ะ
คุณมายมิ้นท์ ฉันต้องขอโทษจริงๆนะคะ ส้มเปรี้ยวโค้งคำนับให้มายมิ้นท์ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
มายมิ้นท์เฝ้ามองดูเธออย่างเงียบๆ ด้วยสีหน้าที่เมินเฉย เป็นเพราะไม่ระวังจริงๆหรอ?
ส้มเปรี้ยวยืนตัวตรง ทันใดนั้นก็สบตากับเธอด้วยสายตาที่ราวกับจะสามารถมองทะลุใจคนได้ แต่ภายในใจของเธอกลับหวาดกลัว จึงรีบหลับตาลง แล้วกัดฟันตอบกลับไปว่า จริงค่ะ
ลาเต้หัวเราะเยาะ แล้วพูดว่า จริงอะไรกัน เห็นชัดๆว่าครีมอาบน้ำนั่นก็คือครีมอาบน้ำที่คุณตั้งใจทำเท!
ฉันเปล่านะ คุณมายมิ้นท์คุณเชื่อฉันนะ ฉันไม่ได้ทำจริงๆ! ส้มเปรี้ยวเบ้าตาแดง
พอเถอะ พวกเราเชื่อผีแต่ไม่เชื่อคุณ ลาเต้มองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจ แล้วก็ผมอยากรู้ว่า เมื่อวานตอนเย็นตอนที่พูดรอหามิ้นท์เจอ ทำไมคุณถึงไม่บอกว่าการล้มของมิ้นท์เกี่ยวข้องกับคุณ แต่ตอนนี้กลับยอมรับซะแล้วหรอ?
แววตาของส้มเปรี้ยวแวววาวเล็กน้อย แล้วก้มหน้าลงเพื่ออธิบาย เพราะว่าเมื่อวานฉันไม่รู้ว่าสาเหตุที่ทำให้คุณมายมิ้นท์ล้มคือฉันเอง จนกระทั่งหลังจากที่คุณอุ้มคุณมายมิ้นท์เดินจากไปแล้ว ฉันก็เห็นว่ามีครีมอาบน้ำอยู่ตรงที่คุณมายมิ้นท์จึงนึกขึ้นมาได้ ดังนั้นก็เลยรีบมาขอโทษคุณ
คุณจำเป็นต้องรีบมาขอโทษ ไม่งั้นคุณก็กลัวว่ามันจะสายเกินไปแล้วจะจบไม่สวยล่ะสิ มายมิ้นท์ยิ้มอย่างเย็นชา
การแสดงออกทางสีหน้าของส้มเปรี้ยวชะงักงันลงทันที คำพูดนี้ของคุณมายมิ้นท์หมายความว่าอะไรคะ?
เปปเปอร์กับลาเต้ก็จ้องมองเธอเช่นเดียวกัน
เธอเหลือบมองไปที่ใบหน้าที่ค่อยๆกระวนกระวายใจขึ้นมาเล็กน้อยของส้มเปรี้ยว แล้วพูดเยาะเย้ยว่า หมายความว่าอะไรคุณก็รู้อยู่แก่ใจไม่ใช่เหรอ? คุณเดาว่าหลังจากที่ฉันตื่นขึ้นมาจะสงสัยคุณคนเป็นคนแรก และคุณกลัวว่าฉันจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แล้วมันเลยเถิดจนควบคุมไม่ได้ ดังนั้นก็เลยอยากใช้ความประมาทเป็นข้ออ้างในเปิดเผยเรื่องนี้ออกไปยังไงล่ะ
ที่แท้ที่พวกคุณมาที่นี่ก็เพื่อจุดประสงค์นี้เองหรอ? ลาเต้ทั้งโกรธทั้งหัวเราะ อยากจะเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป ผมขอบอกพวกคุณเอาไว้เลยนะว่าไม่มีทางซะหรอก!
เปปเปอร์ที่ไม่ได้พูดอะไรและรู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่ายมาโดยตลอด ก็ก้าวไปข้างหน้าและมองไปที่มายมิ้นท์ แล้วถามด้วยเสียงที่เคร่งขรึมว่า แล้วพวกคุณต้องการอะไร?