รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 133
พอรูปถ่ายที่หลินหว่านกับเซียวจิ่งสือกลับถึงบ้านด้วยกันในตอนกลางคืนถูกเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต ก็สร้างความฮือฮาได้ไม่น้อย ชาวเน็ตพากันพูดถึงอย่างสนใจ จากนั้นมือโพสต์ที่ตากล้องว่าจ้างมาก็เข้าปั่นกระแส ไม่นานนักชาวเน็ตก็เริ่มมีกระแสขับไล่หลินหว่านให้ออกไปจากวงการบันเทิง
[หลินหว่านนัดพบกับเซียวจิ่งสือตอนกลางคืน? เซียวจิ่งสือกำลังจะแต่งกับอันซิงไม่ใช่หรือไง? ทำไมอยู่กับหลินหว่านได้ล่ะ? คงไม่ใช่เพราะหลินหว่านอิจฉาอันซิง เลยแทรกเข้ามาเป็นมือที่สามล่ะซิ]
[คิดไม่ถึงเลยว่าหลินหว่านจะเป็นผู้หญิงแบบนี้! สวยสู้อันซิงของพวกเราไม่ได้ แล้วยังจะมาแย่งสามีในอนาคตของอันซิงอีก! คนไร้ยางอายแบบนี้หาดูได้ยากจริงๆ ไสหัวออกไปจากวงการเสียทีเถอะ!]
[เที่ยวกลางคืนกับหนุ่มไฮโซ หว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายที่มีคู่หมายแล้ว หลินหว่านไสหัวไปจากวงการซะ!]
[ใช่! หลินหว่านไสหัวไปจากวงการบันเทิง!]
……
เพียงค่ำคืนเดียว ชาวเน็ตทั้งหลายพากันออกมาแสดงความคิดเห็นให้หลินหว่านไสหัวไปจากวงการบันเทิง แฮชแทคบนเวยปั๋วหัวข้อ ‘หลินหว่านไสหัวไปจากวงการบันเทิง’ ถึงกับติดคำค้นหายอดนิยมอยู่นานจนเอาไม่ลง
หลินหว่านเห็นข้อความที่กลับดำเป็นขาวในเวยปั๋วของชาวเน็ต ถึงกับไล่ให้เธอไสหัวไปจากวงการบันเทิง เธอรู้สึกสะเทือนใจสุดๆ
แต่ยังดีที่เซียวจิ่งสือคอยปลอบโยนอยู่เคียงข้างเธอ เกาะติดอยู่ข้างกายเธอ หันเหความสนใจของเธอ ไม่ให้หลินหว่านใส่ใจกับข้อความพวกนี้
อันที่จริงตอนที่เซียวจิ่งสือเห็นข้อความบนอินเทอร์เน็ตให้หลินหว่านไสหัวไปจากวงการบันเทิงนั้น เขารู้สึกโกรธสุดๆ เขาไม่อยากคิดเลยว่าแรงกดดันขนาดไหนที่หลินหว่านต้องรองรับไว้ ดังนั้นเขาตัดสินใจว่าจะสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนคอยชักใยอยู่เบื้องหลังกันแน่
วันนี้ หลังจากเซียวจิ่งสือออกไปข้างนอกคนเดียว ที่บ้านจึงเหลือเพียงหลินหว่าน เกือบเที่ยงแล้วเซียวจิ่งสือก็ยังไม่กลับมา หลินหว่านจึงตัดสินใจไปซูเปอร์มาร์เก็ตซื้อกับข้าวเพียงลำพัง จากนั้นกลับมาทำกับข้าวเอง
เพิ่งออกจากบ้าน หลินหว่านก็พบกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
“คุณหลิน สวัสดีครับ นายท่านของผมอยากจะคุยกับคุณสักหน่อยครับ” พ่อบ้านตระกูลเซียวพูดพลางมองสำรวจหลินหว่าน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับหลินหว่านตัวจริง เธอให้ความรู้สึกกับเขาไม่เหมือนกับในภาพถ่ายสักเท่าไหร่
“คุณคือ…” หลินหว่านถามคนตรงหน้าอย่างสงสัย แต่ก็ดูเหมือนจะคาดเดาความเป็นมาของอีกฝ่ายได้
“คุณหลินครับ ถ้าคุณอยากทราบ ขอเชิญขึ้นรถผมได้เลยครับ” พูดจบ พ่อบ้านก็ดึงประตูรถที่นั่งด้านหลังเปิดออก แล้วพูดอีกว่า “วางใจได้ครับ เราจะไม่ทำร้ายคุณแน่”
ท่าทางแบบนี้ ต่อให้หลินหว่านไม่อยากไปก็คงไม่ได้ คิดดูแล้ว หลินหว่านก็ขึ้นนั่งบนรถ พร้อมกับครุ่นคิดไปพลาง ว่าจะรับมือกับสถานการณ์ต่อไปนี้อย่างไร
พ่อบ้านปิดประตูรถให้หลินหว่าน แล้วเดินมาที่นั่งคนขับ ขับรถพาหลินหว่านมาพบเซียวเฉียง
นี่เป็นร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พอหลินหว่านเข้าประตูมา ก็พบว่าร้านกาแฟว่างเปล่ามีเพียงชายกลางคนท่าทางภูมิฐานอยู่คนหนึ่ง หลินหว่านมองสำรวจเขาอย่างละเอียด ดูท่าว่าคนที่ต้องการจะคุยกับเธอน่าจะเป็นเขาแล้ว
“คุณหลิน มานั่งสิ” เซียวเฉียงเห็นหลินหว่านเข้ามา ก็มองเธออย่างสำรวจพลางพูดขึ้น
หลินหว่านนั่งลงตรงหน้าเซียวเฉียง เธอมองสบตาเขา แล้วเอ่ยปากถามไปตรงๆ ว่า “สวัสดีค่ะ คุณเซียว อยากทราบว่าคุณให้ฉันมานี่ ด้วยเรื่องอะไรเหรอคะ”
เซียวเฉียงเจอเข้ากับความตรงของหลินหว่าน ก็นิ่งอึ้งอย่างผิดคาดอยู่บ้าง แต่สีหน้ายังเป็นปกติเมื่อพูดว่า “หึหึ คุณหลิน พูดกันตรงๆ นะ วันนี้ที่เชิญคุณมา ก็เพราะมีเรื่องสำคัญจะพูดน่ะ”
“คุณหลินอาจไม่รู้ว่า เจ้าเซียวจิ่งสือนี่ ปกติแล้วตอนอยู่ที่บ้าน จะพยศดื้อรั้นไม่เคยเชื่อฟังเอาเลย ฉันให้มันทำอะไรมันก็จะไม่ทำ ฉันไม่ให้มันทำอะไร มันก็กลับต้องทำซะให้ได้ มันก็เหมือนกับที่ฉันจะให้มันแต่งงานกับคุณหนูบ้านตระกูลอันนั่นไง มันไม่ยอมทำตามที่ฉันจัดการให้ ฉันไม่ให้มันคบหากับพวกเต้นกินรำกินในวงการบันเทิง มันก็โมโหจนหนีออกจากบ้านไป แต่ว่าคุณหลินก็รู้ดีอยู่แล้ว เจ้านี่มันเป็นทายาทผู้สืบทอดกิจการของบ้านตระกูลเซียว…”
หลินหว่านฟังคำพูดทั้งหมดทั้งมวลของเซียวเฉียงไปรอบหนึ่ง รู้สึกได้ว่าเขาดูถูกเธอ หลินหว่านสะกดกลั้นความโกรธที่ประทุขึ้นมา ถามเสียงเย็นว่า “คุณเซียว คุณพูดมาตรงๆ เลยเถอะค่ะ! มีเรื่องสำคัญอะไรกันแน่”
“คุณหลิน ในเมื่อคุณถามอย่างนี้แล้ว งั้นผมจะพูดตรงๆ แล้วกัน” เซียวเฉียงมองหลินหว่านอย่างดูแคลน “อยู่ให้ห่างจากเซียวจิ่งสือ ยิ่งไกลก็ยิ่งดี แล้วก็…ต่อไปห้ามโผล่มาให้เขาเห็นหน้าอีก!”
เป็นอย่างที่คาดจริงๆ
ตอนที่เห็นพ่อบ้าน หลินหว่านก็รู้สึกว่า คนที่มาหาเธอในตอนนี้ก็คงมีแต่คนของบ้านตระกูลเซียวเท่านั้น พอเข้าร้านกาแฟมาแล้ว หลินหว่านก็ยิ่งแน่ใจ เนื่องจากเธอเคยเห็นรูปของพ่อเซียวจิ่งสือบนอินเทอร์เน็ตมาก่อน
ขณะที่เซียวเฉียงกำลังพูดถึงจุดมุ่งหมายในการมาพบเธอในวันนี้ ทุกอย่างก็เป็นไปตามความคาดหมายของหลินหว่านทุกประการ
“คุณเซียวคะ ความต้องการของคุณ เกรงว่าฉันคงทำไม่ได้” หลินหว่านพูดเสียงเรียบหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง
เซียวเฉียงฟังแล้วโมโหมาก ถลึงมองหลินหว่านด้วยสายตากราดเกรี้ยว “คุณหลิน ผมขอให้คุณพิจารณาดูให้ดีอีกครั้ง มิฉะนั้น การบอยคอตดาราสักคนสองคนในวงการบันเทิง สำหรับบ้านตระกูลเซียวแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากลำบากเลยสักนิด!”
นี่เข้าข่ายข่มขู่หลินหว่านซึ่งหน้าโดยไม่กลัวเกรงอะไรเลย เมื่อครู่หลังจากคำพูดเหยียดหยามดูแคลนหลินหว่านแล้ว ยังใช้การบอยคอตในวงการบันเทิงมาข่มขู่หลินหว่านอีก พูดได้ว่าเซียวเฉียงได้จุดประกายความโกรธของหลินหว่านให้ลุกโพลงขึ้นจริงๆ โดยไม่ตั้งใจ
เดิมที เซียวเฉียงเข้าใจว่าหลังจากหลินหว่านได้ฟังคำข่มขู่จากเขาแล้วจะยอมเชื่อฟังและรับปากเขาไปจากเซียวจิ่งสือแต่โดยดี แต่คิดไม่ถึงว่า หลินหว่านยิ้มเล็กน้อย สบตาเขาแล้วพูดว่า “คุณเซียวคะ ฉันบอกแล้วว่าความต้องการของคุณนั้นฉันทำไม่ได้ เนื่องจากการที่เซียวจิ่งสือออกจากบ้านตระกูลเซียว ไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะควบคุมบังคับได้ อีกทั้งเซียวจิ่งสือก็โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาจะทำอะไร อย่าว่าแต่ฉันเลยค่ะ แม้แต่คุณก็ยังบังคับไม่ได้ ไม่ใช่เหรอคะ อันที่จริง ฉันก็อยากจะอยู่ให้ห่างเซียวจิ่งสือเหมือนกัน แต่เขากลับเป็นฝ่ายมาหาฉันเองเสียนี่ แล้วก็คุณเซียวคะ ก่อนจะพูดคำพูดเมื่อครู่ ฉันคิดว่าคุณน่าจะอบรมสั่งสอนลูกชายที่ ‘ไม่เชื่อฟัง’ ของคุณให้ดีเสียก่อนเถอะค่ะ”
ใบหน้าของหลินหว่านแม้จะมีรอยยิ้ม แต่เซียวเฉียงกลับมองเห็นแววเยาะหยันในดวงตาของเธอ
“คุณเซียวคะ ถ้าหากคุณไม่มีเรื่องอะไรอื่นอีก ฉันก็ขอตัวกลับก่อนค่ะ” พูดจบ หลินหว่านก็ลุกขึ้นยืน ก้าวยาวๆ ออกจากร้านกาแฟ
เซียวเฉียงมองตามเงาหลังที่จากไปของหลินหว่าน เขารู้สึกเหมือนน้ำโหจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เดิมทีเขาเข้าใจว่าหลินหว่านเป็นพวกหัวอ่อน คิดไม่ถึงว่าเธอจะกล้าขัดคำสั่งเขา
แต่ว่า…ในเมื่อหลินหว่านไม่รู้จักการทำตัวให้ว่าง่าย อย่างนั้นก็อย่าหาว่าเขาไร้น้ำใจ!
เซียวเฉียงกลับถึงบริษัท สิ่งแรกที่ทำคือเรียกตัวผู้จัดการของหลินหว่านมาที่ห้องทำงานเขา
“เธอคงเป็นผู้จัดการของหลินหว่าน” เซียวเฉียงสั่งอวิ๋นซีว่า “ตั้งแต่นี้ไป ยกเลิกงานทุกอย่างของหลินหว่านทั้งหมด ยังมีอีก ต่อไปห้ามไม่ให้เธอรับงานอะไรอื่นอีก เข้าใจไหม”
“ทร…ทราบแล้วค่ะ…” อวิ๋นซีมาถึงห้องทำงาน คิดไม่ถึงว่าจะเจอกับคำสั่งบอยคอตหลินหว่านของเซียวเฉียง เธอตอบรับอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรได้ พร้อมกับคิดในใจว่ากลับไปจะต้องตักเตือนหลินหว่านเสียแล้ว