รักเล่ห์เร้นใจ - ตอนที่ 308 ความจริงเปิดเผย
อันจี๋ถิงต่อว่าเซียวจิ่งสืออย่างโมโห ส่วนเซียวจิ่งสือที่ปลายสายอีกด้านก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีก นี่มันอะไรกันเนี่ย? แต่จากคำพูดของอันจี๋ถิง เขาจับใจความสำคัญได้อย่างหนึ่ง หลินหว่าน…หลินหว่านทำไมเหรอ?
“ขอโทษครับ คุณป้า ผมไม่เข้าใจคำพูดของคุณป้าเมื่อครู่ว่าหมายความอย่างไร ไม่ทราบว่าจะอธิบายให้ผมเข้าใจบ้างได้ไหมครับ? หลินหว่านเกิดเรื่องอะไรหรือครับ? ขอโทษด้วยครับ พักนี้ผมยุ่งมาก ไม่มีเวลาดูแลหลินหว่าน เป็นความผิดของผมเอง” ไม่ว่าอย่างไร ยอมรับผิดไว้ก่อนเป็นดี
“หลินหว่านเป็นยังไง? คุณยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอ? หา?”
“ครับๆๆ ขอโทษครับคุณป้า เป็นความผิดของผมเอง แต่ว่าคุณป้าช่วยบอกผมหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ครับ?” ไม่ว่าน้ำเสียงของอันจี๋ถิงจะฉุนเฉียวกราดเกรี้ยวอย่างไร แต่ยังไงเธอก็เป็นแม่ของหลินหว่าน ซึ่งก็คือผู้ใหญ่ของเขาด้วยเช่นกัน
ดังนั้น เซียวจิ่งสือจึงให้เกียรติเธออย่างดีเช่นกัน เขาไม่รู้สึกขัดเคืองต่อคำตำหนิของอันจี๋ถิงแม้แต่น้อย กลับถามไถ่อย่างใจเย็น
ท่าทีแบบนี้ทำเอาเลขาที่กำลังรายงานอยู่ด้านข้างถึงกับนิ่งอึ้งตะลึงไปเลย เขาไม่เคยเห็นท่านประธานแบบว่า…อืม…ท่าทางนอบน้อมเอาใจคนแบบนี้ ทำให้เขาอดที่จะอยากรู้ไม่ได้ว่าคนที่โทรหาเขาสายนี้เป็นใครกันแน่
พอรู้สึกได้ถึงความประหลาดใจของเลขา เซียวจิ่งสือก็ตวัดสายตาฉับเข้าให้ ทำเอาเลขาสะดุ้งเฮือกอย่างไม่รู้จะทำยังไงดี
“คือว่า…ท่านประธาน…คงมีธุระยุ่ง ผมขอตัวก่อนครับ” พอเห็นว่าเซียวจิ่งสือไม่ได้ปฏิเสธ เลขาก็รีบเผ่นโดยเร็ว
ส่วนอันจี๋ถิงที่ปลายสายอีกด้านเห็นแก่ท่าทียอมรับผิดแต่โดยดีของเซียวจิ่งสือ ทำให้เธอหายโมโหไปกว่าครึ่ง
ถึงอย่างไรก็ตาม เซียวจิ่งสือก็เป็นคนที่ลูกสาวของเธอเลือกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเธอใจร้อนเกินไป ก็คงไม่เอ่ยปากตำหนิเขาขนาดนี้
นอกจากนั้นเซียวจิ่งสือยังยอมรับผิดแต่โดยดีไม่มีอิดเอื้อนบ่ายเบี่ยง ถ้าเธอยังจะต่อว่าไม่จบไม่สิ้นก็จะดูเหมือนหาเรื่องโวยวายโดยไร้เหตุผลอยู่บ้าง
อีกทั้งอันจี๋ถิงก็ไม่ใช่คนประเภทที่คอยจับผิดคนจิกกัดไม่ปล่อย ในเมื่อเขารู้ตัวว่าผิดแล้วก็แล้วกัน เธอยังรู้ตัวอยู่ว่าควรจะรามือตอนไหน
“อัยย่ะ ฉันก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เข้าใจนะ เอาอย่างนี้ คุณเข้าเวยปั๋วไปดูเองว่านายฉินฮ่วนนั่นเพิ่งจะโพสต์อะไรไปบ้างก็รู้เอง เรื่องนี้คุณต้องจัดการให้เรียบร้อยนะ จะให้ลูกสาวฉันลำบากไม่ได้เด็ดขาด”
หือม์? เวยปั๋ว? เขาจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าเมื่อหลายปีก่อนเคยเปิดบัญชีเวยปั๋วไว้ แต่หลังจากนั้นก็ดูเหมือนไม่เคยเข้าไปอีกเลย?
เขาไม่เคยเข้าเวยปั๋วเลย มิน่าเล่าจึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
แล้วยังฉินฮ่วนอีก? เขาเป็นใครกัน ดูเหมือนไม่เคยได้ยินหลินหว่านพูดถึงเขามาก่อนเลยนี่นะ ทำไมถึงได้กลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นได้ขนาดนี้ เซียวจิ่งสือกระตุกผมตัวเองอย่างหงุดหงิด
เซียวจิ่งสือรีบเข้าเวยปั๋วที่เขาไม่ได้เข้ามาหลายปี พอเปิดเข้าไปได้ ก็ถูกประเด็นฮอตดึงดูดสายตาไป
พอคลิ้กเข้าไปดูก็พบว่าในนั้นล้วนแต่เป็นคำพูดมั่วซั่วไร้สาระเกี่ยวกับหลินหว่าน เซียวจิ่งสืออดทนอ่านข้อความทั้งหมดอย่างละเอียด คราวนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อครู่อันจี๋ถิงจึงโมโหนัก
อันที่จริงเรื่องนี้เขาก็มีส่วนผิด หลินหว่านเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้เขากลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่ได้ออกมาช่วยพูดให้เธอทันทีในตอนที่ถูกรังแก คำพูดที่แม่ของหลินหว่านต่อว่าเขานั้นยังเบาไปด้วยซ้ำ ตัวเขาเองยังไม่อยากให้อภัยตัวเองเลย
แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมากล่าวโทษตัวเอง ตอนนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือต้องรีบคลี่คลายปัญหาโดยเร็วที่สุด
เมื่อครู่ฟังจากคำพูดของอันจี๋ถิงแล้ว ดูเหมือนเธอจะสืบได้ความอะไรมาบ้างแล้ว? ว่าแล้วเซียวจิ่งสือก็รีบโทรกลับไปหาแม่ของหลินหว่าน ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาคำนึงถึงหน้าตากันอีก ต่อให้อันจี๋ถิงคิดจะด่าเขาก็ต้องยอมทนรับฟังไปเท่านั้น
ส่วนทางด้านอันจี๋ถิง อันที่จริงก็หายโมโหไปบ้างแล้ว เธอก็รู้อยู่ว่าเรื่องนี้อันที่จริงจะโทษว่าเซียวจิ่งสือทั้งหมดก็ไม่ได้ ไม่ว่าใครก็มีเวลาเผลอได้ทั้งนั้น อีกทั้งจากท่าทีเขาแล้วดูเหมือนจะไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน
พออันจี๋ถิงเห็นโทรศัพท์จากเซียวจิ่งสือ ก็พยายามข่มอารมณ์ให้เป็นปกติ แล้วจึงรับสาย
“คุณป้าครับ ขอโทษจริงๆ เรื่องนี้จากที่ผมเพิ่งจะทำความเข้าใจมา ผมต้องแก้ปัญหานี่ได้แน่ ขอให้คุณป้าวางใจได้”
“เอาเถอะ คุณก็ไปสืบมาให้ละเอียดล่ะ ฝั่งฉันก็จะสืบดูเหมือนกัน”
หลังจากคุยกันสั้นๆ เพียงสองประโยคทั้งสองก็วางสายไป แทนที่จะมัวเสียเวลากับการพูดคุยทางโทรศัพท์ สู้เอาเวลามาจัดการปัญหาซะดีกว่า พวกเขาต่างก็มีจุดเริ่มเดียวกันนั่นก็คือ หลินหว่าน
อันจี๋ถิงเจาะจงไปสืบเรื่องที่เกิดกับหลินหว่านในกองถ่ายระยะนี้ อันจี๋ถิงรู้สึกว่าลูกสาวของเธอคนนี้ ยามปกติแล้วนอกจากทำงานก็อยู่บ้าน ดังนั้นต้นเหตุของเรื่องต้องมาจากในกองถ่ายแน่
เธอให้เซียวจิ่งสือส่งสัญญาณให้ผู้กำกับรู้ด้วย
พวกเขาค้นหาภาพจากกล้องวงจรปิดในหลายวันมานี้แล้วก็พบว่า เริ่มแรกหลินหว่านเห็นไป๋เจี๋ยถูกอี้อวิ๋นฉังรังแก จากนั้นยื่นมือเข้าช่วย
ไป๋เจี๋ยนี่ดูเหมือนจะรู้สึกขอบคุณหลินหว่าน ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอต่อมาเซียวจิ่งสือมาเยี่ยมหลินหว่าน ไป๋เจี๋ยก็โผล่หางจิ้งจอกออกมา เธอทำทีว่าเข้ามากระแซะเซียวจิ่งสืออยู่ตลอด
ยังดีที่เซียวจิ่งสือไม่ได้สนใจเธอ แผนของไป๋เจี๋ยจึงไม่เกิดผลอะไร ภายหลังไป๋เจี๋ยแอบลงมือกับหลินหว่าน จนถูกไล่ออกจากกองถ่าย
แต่ตอนหลังกลับมาโดยไม่รู้สาเหตุ ต่อมาทราบว่าเธอกลายเป็นเมียเก็บไปแล้ว และคนที่หนุนเธอก็คือฉินฮ่วน
จนถึงตอนนี้แล้วยังมีอะไรไม่เข้าใจอีก? ไป๋เจี๋ยนี่ หลินหว่านช่วยเธอแต่ไม่เพียงไม่สำนึกบุญคุณ ยังหันมาแว้งกัดเข้าอีก
เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทำร้ายหลินหว่านครั้งแล้วครั้งเล่า อันจี๋ถิงในตอนนี้อยากจะฆ่าเธอนัก
ถ้าหากฆ่าคนไม่ผิดกฎหมายละก็ ไป๋เจี๋ยคงตายไปไม่รู้กี่หนแล้ว ยังจะปล่อยให้เธอกระโดดโลดเต้นอยู่อย่างนี้ได้ยังไงกัน?
เซียวจิ่งสือยังสืบค้นหลักฐานที่ไป๋เจี๋ยทิ้งไว้ได้อีกมากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือหลักฐานที่ไป๋เจี๋ยกับฉินฮ่วนร่วมกันวางแผนรวบหัวรวบหางหลินหว่าน
ดังนั้นเซียวจิ่งสือจึงโพสต์คลิปภาพนี้ขึ้นบนเน็ต
นั่นทำให้ผู้คนทั้งหมดทั้งมวลพากันก่นด่าไป๋เจี๋ยกันระงม
[เชอะ ไม่รู้จักดูว่าตัวเองเป็นตัวอะไร แม้แต่เซียวจิ่งสือก็คิดจะอ่อยกันได้ง่ายๆ รึไง?]
[เสียแรงที่หลินหว่านช่วยเธอเอาไว้ เนรคุณ ไม่รู้คุณคน]
[คนแบบเธอนี่ ก็เป็นได้แค่เมียเก็บหรือไม่ก็พวกนั่งชั่วโมงเท่านั้นแหละ!]
[ข้างบนนั่น คุณพูดแบบนี้ไม่ได้นะ คุณยังประเมินเธอสูงไป ไปนั่งเชียร์เบียร์ยังไม่แน่ว่าจะมีแขกรึเปล่าเลยด้วยซ้ำ!]
หลังจากอันจี๋ถิงกับเซียวจิ่งสือโพสต์หลักฐานขึ้นเน็ต ความนิยมของไป๋เจี๋ยก็ตกวูบดิ่งเหวในพริบตา