ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 111.1
ตอนที่ 111: ถึงตาผมแล้วสินะ
ชายจากบริษัทเหว่ยเนชั่นพลันกล่าวคําพูด “อ่า ก็จริงอยู่ที่ผมเชี่ยวชาญในเรื่องลูกเต๋ แต่การเอาชนะคุณด้วยสิ่งที่ตัวเองถนัดคงฟังดูไม่ค่อยยุติธรรมเท่าไหร่ อีกอย่าง ผู้คนก็กําลังเดินพลุกพล่านกันอยู่เลยด้วย ยังไงก็เถอะ ถ้าเราไม่คิดจะใช้เงินในการเล่นพนัน งั้นก็คงเหลือแค่การโชว์ความสามารถแล้วใช่ไหมล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นักทันทีที่ได้ยินชายตรงหน้าพูด ดังนั้น เสี่ยวเฉิงจึงพูดแทรกขึ้นมาทันที “เอ่อ คุณเฉียนเย่ครับ พูดให้น้อยลงนิดนึง แล้วก็ช่วยอย่าพูดอ้อมไปอ้อมมาได้ไหมครับ? ว่าแต่คุณอยากเล่นอะไรล่ะ? ถ้าไม่ใช้เงินเดิมพัน มันจะไปมีเกมพนันอะไรอีกล่ะ?”
เฉียนเย่พลันหัวเราะและกล่าวคําพูด “ถ้าอย่างนั้น เรามาเล่นเกมแข่งเขย่าลูกเต๋กันดีกว่า กฎคือคนแพ้ต้องออกไปจากที่นี่เสี่ย นับจากหนึ่งถึงหก คุณอยากใช้ลูกเต๋ากี่ลูกล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันหัวเราะและถามขึ้น “แค่หกลูกพอเหรอ? ทําไมไม่เล่นสักสิบลูกไปเลยล่ะครับ?”
ทว่า เฉียนเย่เองก็หัวเราะออกมาทันทีเช่นกัน “ล้อกันเล่นหรือเปล่าเนี่ย? อันที่จริง ถ้าคุณไม่รู้วิธีเล่น แค่หกลูกก็เยอะมากแล้วนะ ยิ่งมีลูกเต๋มาเพิ่ม ความยากก็จะเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณไปอีก ไม่ต้องพูดถึงหกลูกเลยด้วย แค่สี่ลูกก็ยากจะรับมือแล้ว”
เสี่ยวเฉิงพลันตอบกลับ “ผมไม่ได้ล้อเล่นสักหน่อย มาสิ สิบลูกไปเลย!”
ทันใดนั้น นายน้อยฉันก็พลันเดินเข้ามากระซิบข้างหูเฉียนเย่ “มันจะมีปัญหาอะไรตามมาไหมครับ?”
เฉียนเย่พลินพ่นลมหายใจ “ถ้าเขาอยากขายหน้า ผมก็จะจัดให้ตามปรารถนาเลย”
ระหว่างนั้น เฉียนเย่ก็พลันชี้นิ้วไปทางเสี่ยวเฉิง ทั้งสองพลันเดินตรงไปยังโต๊ะเกมพนันลูกเต๋า ไม่นานนัก พนักงานก็นําลูกเต๋และถ้วยมาวางไว้
ผู้คนพลันเดินมาที่โต๊ะอีกครั้งเพื่อเฝ้าชม สําหรับวันนี้ นอกจากการพนันแล้ว แขกเหล่านี้ยังต้องการเห็นฝีมืออันยอดเยี่ยมของนักพนันคนอื่นอีกด้วย เช่นเดียวกับกีฬาฟุตบอลหรือบาสเก็ตบอล การดูอะไรแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่สนุกและน่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อย นอกจากนี้ มันยังจะน่าตื่นเต้นกว่าเดิมด้วยถ้าพวกเขาได้เห็นนักพนันตรงหน้า โชว์ทักษะอันน่าตกตะลึงออกมา
โต๊ะพนันสี่เหลี่ยมพลันตั้งอยู่ตรงหน้า ส่วนเฉียนเย่และเสี่ยวเฉิงก็นั่งตรงข้ามกัน
เฉียนเย่พลันมองแขกรอบตัวและก้มหัวเคารพด้วยท่าทีสุภาพบุรุษ หลังจากนั้น เขาก็มองไปทางเสี่ยวเฉิง และถามขึ้น “สูงหรือต่ําล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงพลันคิดอยู่ครู่หนึ่ง อันที่จริง เขาไม่เก่งเรื่องลูกเต๋สักเท่าไหร่นัก แต่ระหว่างที่กําลังคิดถึงวิธีในการเอาชนะผู้ชายตรงหน้า เขาพลันกล่าวคําพูดอย่างใจเย็นออกมา “ให้เลือกสูงต่ําเนี่ยนะ? ไม่เห็นรู้สึกท้าทายตรงไหนเลย”
คําพูดยั่วยุของเสี่ยวเฉิงพลันจุดประกายเปลวไฟในสายตาของฝูงชนแทบจะทันที
เฉียนเย่พลันขมวดคิ้ว “ไม่รู้สึกท้าท้าย? งั้นคุณอยากเล่นแบบไหนกันล่ะ?”
เสี่ยวเฉิงตอบกลับ “ถ้าเราทั้งคู่เก่งเรื่องการเขย่าลูกเต๋อยู่แล้ว มันจะไปวัดอะไรได้ล่ะ? มันจะไปสนุกตรงไหนกัน? สุดท้าย เกมเขย่าลูกเต๋ก็เป็นเกมที่อาศัยเพียงแค่ความสามารถในการได้ยิน แค่นั้นเอง เพราะฉะนั้น ลองมาเล่นอะไรที่ยากกว่านั้นหน่อยไหมล่ะ? ตัวอย่างเช่น ลองเดาตัวเลขที่แต่ละคนเขย่าได้… คุณคิดว่าไงล่ะ?”
เฉียนเย่พลันลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
ในตอนนี้ ฝูงชนเริ่มสัมผัสได้ถึงความรู้สึกสุดตื่นเต้นและเร้าใจสําหรับการเล่นเกมลูกเต๋รูปแบบใหม่
ทันใดนั้น ทุกคนต่างก็ส่งเสียงเชียร์ออกมาทันที “ใช่ ทําไมไม่ลองเดาตัวเลขลูกเต๋ของอีกฝ่ายดูหน่อยล่ะ? นั่นจะถือเป็นการทดสอบฝีมือขั้นสูงเชียวนะ!”
ทันทีที่เห็นเฉียนเย่ขมวดคิ้ว นายน้อยฉันก็พลันเดินเข้ามาใกล้และถามขึ้น “คุณไม่ถนัดเกมแบบนี้เหรอครับ?”
เฉียนเย่ตอบกลับ “ไม่ใช่แบบนั้น แต่เกมนี้เป็นเกมที่ยากมากต่างหากล่ะ อันที่จริง มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ําที่เราจะสามารถเดาลูกเต๋ของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยํา 100% แต่ยังไงก็เถอะ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่
สามารถเขย่าลูกเต๋าให้ออกมาเป็นตัวเลขที่ต้องการได้ ผมจึงสามารถเดาได้ว่าผลของลูกเต๋อีกฝ่ายจะออกมาเป็นยังไง เพราะฉะนั้น ผมต้องเอาชนะเจ้าหน้าที่เสี่ยวเฉิงคนนี้ได้แน่”