ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 70.2
นอกจากนี้ ผู้คนจำนวนมากรอบสนามกีฬาก็พลันคิดไปก่อนแล้วว่าอย่างน้อยปรมาจารย์หยานจะต้องโจมตีโดนเสี่ยวเฉิงภายในห้ากระบวนท่าแรก แต่ทว่า พวกเขาก็ไม่ได้คาดคิดเอาไว้เลยว่าเสี่ยวเฉิงจะหลบการเคลื่อนไหวทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วขนาดนั้น มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจไม่น้อย แม้แต่ปรมาจารย์หยานเองก็ยังต้องหันกลับมามองเสี่ยวเฉิงพร้อมกับอุทาน “ไม่เลวนี่!”
“คุณเพิ่งจะเตือนผมไปว่าอย่าเข่าอ่อนไม่ใช่หรือยังไงกัน? เอาล่ะ มาดูกันหน่อยว่าใครจะล้มก่อนใคร” เสี่ยวเฉิงพลันกล่าวคำพูด เขายืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ได้แสดงท่าทีหรือเจตนาว่าจะโจมตีกลับเลย
หลังจากการเคลื่อนไหวครั้งแรก เสี่ยวเฉิงพลันรู้สึกว่าตนประเมินปรมาจารย์หยานสูงเกินไป อย่างที่เคยมีคนกล่าวเอาไว้ พละกำลังของคนเราย่อมถดถอยไปตามกาลเวลาและช่วงอายุ ถึงแม้ว่าปรมาจารย์หยานจะห่างชั้นกับเขา แต่เสี่ยวเฉิงก็ไม่ได้คิดจะออมมือให้ชายชราตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย
หลังจากถูกเสี่ยวเฉิงยั่วโมโห ดวงตาของปรมาจารย์หยานก็พลันลุกโชนไปด้วยความเดือดดาล เสี่ยวเฉิงพูดถูก ชายคนนี้คงจะไม่เคยสัมผัสถึงความสงบในส่วนลึกของจิตใจตัวเองเลย เขาไม่อยากสูญเสียมรดกตกทอดของตนเองด้วยซ้ำ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้ปรมาจารย์หยานจะกลัวว่าในอนาคตจะมีใครสักคนที่ต้องการแก้แค้นตน เขาก็จะทำทุกวิถีทางให้แก๊งเต่าดำได้คงอยู่ต่อไปเช่นเดิม อันที่จริง ถ้าปรมาจารย์หยานสามารถวางมือจากอำนาจบางส่วนและปล่อยให้เหล่าคนที่อายุน้อยกว่าจัดการทุกอย่างแทน บางที… แก๊งเต่าดำก็อาจจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ก็ได้ ถึงอย่างไร ทั้งหมดก็เพราะความหัวดื้อหัวรั้นของเขาเองทั้งนั้น เขาไม่เคยเปิดรับผู้คนหรือใครก็ตามที่เข้ามาใหม่เลย นั่นเป็นเหตุผลที่ปรมาจารย์หยานมีผู้ที่เต็มใจจะติดตามน้อยลงทุกที ส่วนคนที่เต็มใจจะติดตามเขาก็ไม่ต่างอะไรกับลูกสมุนที่เก่งแต่เรื่องใช้กำลัง ถึงกระนั้น นี่ก็เป็นสาเหตุที่ปรมาจารย์หยานมีอำนาจที่เด็ดขาดในแก๊งเต่าดำ
ทว่า ในตอนนี้ ความเร็วและกระบวนท่าอันเกรี้ยวกราดของปรมาจารย์หยานนั้นรวดเร็วและดุดันกว่าเมื่อครู่มาก เห็นได้ชัดว่าปรมาจารย์หยานไม่ต้องการที่จะแสดงท่าทียืดเยื้ออีกต่อไปแล้ว เขาต้องการปลิดชีพเสี่ยวเฉิงโดยเร็วที่สุด เขาต้องการให้เสี่ยวเฉิงชดใช้ในสิ่งที่เพิ่งจะพูดออกมาเมื่อครู่
ทว่า เสี่ยวเฉิงเองก็สู้ไม่ถอยเช่นกัน ด้วยการประมวลผลในสมอง เสี่ยวเฉิงสามารถวิเคราะห์รูปแบบการโจมตีและความเป็นไปได้ในการเคลื่อนไหวของปรมาจารย์หยานได้ เขาสามารถหลบหลีกทุกคอมโบได้อย่างรวดเร็ว
หลี่ต้าจวงพลันขมวดคิ้วระหว่างที่กำลังมองไปยังเวทีการประลอง “หือ? ทำไมฉากตรงหน้ามันคุ้นจังล่ะ?”
ทั้งนี้ เพื่อนของหลี่ต้าจวงเองก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน “มันเหมือนกับตอนที่หมอนั่นสู้กับนายครั้งก่อนเลยนะ ตอนนั้นนายไม่ต่างอะไรกับหมาหอบแดกเลย ฮ่าฮ่าฮ่า อีกอย่าง ตอนนั้นนายก็เอาแต่ใช้แรงในการชกแล้วก็เตะเยอะไปหน่อยด้วย มันเลยทำให้นายเหนื่อยเร็วยังไงล่ะ… แถมพอต่อยพลาด นายก็มารู้สึกขวัญเสียแล้วก็หงุดหงิดอีก”
ดวงตาของหลี่ต้าจวงพลันเบิกกว้างขึ้นมาในทันใด “นายว่าใครเป็นหมาหอบแดกกัน?!”
“ยอมรับความจริงหน่อยสิเพื่อน ตอนนั้นนายหอบจะเป็นจะตายเลยนะ แถมต่อยหมอนั่นไม่โดนสักหมัดเลยด้วย”
หลี่ต้าจวงเผยหน้ามุ่ยและเลือกที่จะไม่ยอมรับความจริง แต่ในระหว่างที่กำลังมองไปยังเสี่ยวเฉิง เขาก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “หมอนั่นกล้าที่จะสู้กับปรมาจารย์หยานได้ยังไงกันนะ? มันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนกัน?”
“อันที่จริง ฉันว่าหมอนั่นฉลาดอยู่นะ คู่ต่อสู้ของเขาเป็นชายวัยหกสิบเศษ นายคิดว่าชายชราคนหนึ่งจะมีพละกำลังมากแค่ไหนกันล่ะ? โอกาสเดียวที่ปรมาจารย์หยานจะเอาชนะเสี่ยวเฉิงได้ก็มีแต่จะต้องปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดของตัวเองออกมาตั้งแต่ช่วงแรกของการประลองเท่านั้นแหละ แต่ยังไงก็เถอะ ดูเหมือนตอนนี้เสี่ยวเฉิงกำลังจะทำให้เขาอ่อนแรงลงอยู่…” หัวหน้าตำรวจคนหนึ่งพลันกล่าวคำพูดออกมา “ผ่านไปตั้งหลายนาทีแล้ว แต่ปรมาจารย์หยานก็ยังไม่ได้แตะตัวเสี่ยวเฉิงเลยด้วยซ้ำ ความว่องไวและการหลบหลีกของเสี่ยวเฉิงนั้นถือว่าสุดยอดมากเลยทีเดียว เขาไม่ใช่คนที่จะเอาแต่ใช้กำลังอย่างป่าเถื่อน สุดยอดมากเลยล่ะ! ตำรวจทุกคนก็คงต้องการที่จะเป็นแบบเขาเหมือนกัน มีทั้งพละกำลังทั้งสมอง!”
ถึงกระนั้น เสี่ยวเฉิงเองก็ยังอายุน้อย การที่เขามีพละกำลังมากและสามารถหลบหลีกการโจมตีได้อย่างว่องไวถือเป็นเรื่องธรรมชาติ อีกทั้ง เสี่ยวเฉิงเองก็ยังไม่ได้ออกแรงอะไรมากมายเลยด้วย แต่ในทางกลับกัน ปรมาจารย์หยานดูจะออกแรงเตะและต่อยมากเกินไปหน่อย และเมื่อการโจมตีหรือชุดคอมโบเหล่านั้นไม่ถูกตัวเสี่ยวเฉิง พละกำลังทางกายภาพของเขาก็ดูจะกำลังลดลงอย่างเห็นได้ชัด
ปรมาจารย์หยานทั้งเคลื่อนไหวและพุ่งโจมตีเสี่ยวเฉิงไปประมาณสามสิบครั้งแล้ว แต่เขาก็พลาดทุกครั้ง ในทางตรงกันข้าม เขากำลังกลายเป็นเหมือนตัวตลกที่เสี่ยวเฉิงกำลังล้อเลียนให้เสียภาพลักษณ์อยู่ ในตอนนี้ ดวงตาของปรมาจารย์หยานพลันแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำราวกับความดันเลือดกำลังจะขึ้น
“เป็นยังไงบ้างล่ะ? อยากเหวี่ยงหมัดมาอีกสักรอบสองรอบหน่อยไหม? คุณยังแตะตัวผมไม่โดนเลยนะ” เสี่ยวเฉิงพลันมองไปยังท่าทีที่ไร้ลมหายใจของชายชรา นอกจากนี้ เสี่ยวเฉิงเองก็พลันจงใจที่จะทำให้ชายแก่ตรงหน้าโกรธในสิ่งที่เคยพูดเอาไว้ในช่วงแรกอีกด้วย “อย่าเข่าอ่อนเกินไปล่ะ!”
…