ราชันย์หน่วยรบมังกร - ตอนที่ 78.2
ราชันย์หน่วยรบมังกร ตอนที่ 78: การสลับโหมด 2
หรานจิงพลันตอบกลับ ”นายก็ต้องมาอยู่กับทีมของฉันเหมือนเดิม แต่ฉันจะยอมเรียกนายว่ากัปตันเสี่ยวเฉิงเลย!”
“ก็น่าสนใจดีนะ” เสี่ยวเฉิงพลันหัวเราะ “งั้นตกลง!”
“ฉันเองก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์หรอกนะ อย่างน้อย นายอยากกินอะไรฉันก็สามารถออกไปซื้อมาให้ได้” ดูเหมือนว่าเซินเหยาอยากจะกระโดดขึ้นไปทับเสี่ยวเฉิงและบีบคอเขาไม่น้อย “นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยนะที่ผู้ชายไม่ต้องการฉันน่ะ ยังไงก็เถอะ ที่ฉันมาช่วยก็เพราะนายทําให้ฉันชนะเดิมพันจนได้เงินยังไงล่ะ!ถ้าไม่ใช่อย่างนั้น ฉันจะอยากอยู่ที่นี่ไปทําไมกันล่ะ? ฮึ!”
“เธอไม่ได้เดิมพันว่าปรมาจารย์จะเป็นฝ่ายชนะหรอกงั้นรึ?” เสี่ยวเฉิงถามขึ้น
“ฉันเป็นถึงลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังเชียวนะ ถ้าเสียพนันครั้งหนึ่ง ฉันต้องเป็นประสาทตายแน่ อีกอย่าง ฉันเองก็อยากจะลองเสี่ยงโชคกับคนที่คาดเดาอะไรไม่ค่อยได้อย่างนายดูบ้างน่ะ” เซินเหยากล่าว ” ครั้งที่แล้วฉันเองก็เสียกับนายไปเยอะอยู่นะ ยังไงเสีย ใครจะไปรู้ล่ะว่าระหว่างการประลองนายจะซ่อนกลอุบายอะไรอยู่เพื่อที่จะเอาชนะปรมาจารย์หยานน่ะ? เพราะแบบนั้นแหละ ฉันก็เลยเดิมพันเงินทั้งหมดกับคนอย่างนายยังไงล่ะ!”
เสี่ยวเฉิงพลันจ้องมองและพยักหน้า “ก็ดี ดูเหมือนว่าเธอจะฉลาดเหมือนกันนี่”
“แต่ยังไงก็เถอะ แค่เดิมพันกับนายไปครั้งเดียว ไม่ใช่ว่าฉันจะเชื่อใจนายหรอกนะ” เซินเหยาพลันเผยหน้ามุ่ย
“เสี่ยวเฉิง… คุณหมอบอกฉันมาว่านายต้องพักผ่อนให้มากและพูดให้น้อยลงหน่อยนะ นี่ก็ห้าทุ่มแล้ว ฉันว่านายควรนอนได้แล้วแหละ หลังจากนี้ ฉันและคนในทีมจะคอยมาเปลี่ยนเวรเพื่อดูแลนายเอง” หลังจากพูดจบ หรานจิงก็พลันเดินเข้ามาจัดโต๊ะ
ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น เสี่ยวเฉิงจึงพยักหน้าและตัดสินใจงีบหลับเพื่อพักผ่อนสักหน่อย แต่ทว่าทันใดนั้นเอง เขาก็ตระหนักได้ถึงความสามารถใหม่ก่อนหน้า เสี่ยวเฉิงพลันคิดว่าตนควรที่จะโฟกัสเรื่องดวงตาของตัวเองดูสักหน่อย การมองเห็นของเสี่ยวเฉิงถูกทําให้กลายพันธุ์หลังจากการต่อสู้งั้นหรือ?
ไม่นานนัก เสี่ยวเฉิงก็หลับตาและลืมตาขึ้นมา ทว่า เขาก็ยังไม่รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย เขาหลับตาและลืมขึ้นอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่ดี
เซินเหยาที่กําลังมองดูเสี่ยวเฉิงกระพริบตาอยู่หลายสิบครั้งก็พลันกล่าวคําถามขึ้น “นายกําลังทําบ้าอะไรอยู่นะ?”
“ไม่มีอะไร ฉันเพิ่งหมดสติและหลับไปตั้งนาน ก็เลยอยากจะเคลียร์สายตาก่อนที่จะกลับไปนอนสักหน่อยน่ะ” เสี่ยวเฉิงอธิบาย
จากนั้น เซินเหยาก็ไม่ได้รบกวนอะไรเสี่ยวเฉิงอีก เสี่ยวเฉิงในตอนนี้ค่อนข้างสับสน ความสามารถก่อนหน้านี้คืออะไรกัน? เขาจะเรียกมันกลับมาได้อย่างไร? และเขาสามารถมองทะลุทุกสิ่งอย่างราวกับมีดวงตาเอ็กซ์เรย์จริงหรือ?
เสี่ยวเฉิงพลันหลับตาและหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เขาพลันปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่สมาธิ หลังจากที่หลับตาและตั้งสมาธิไปกว่าหนึ่งนาที เสี่ยวเฉิงก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทว่า ครั้งนี้เขากลับเห็นหรานจิงและเซินเหยากลายเป็นโครงกระดูกที่เคลื่อนไหวได้ไปแล้ว
เสี่ยวเฉิงพลันสะดุ้งตกใจและรีบหลับตาทันที เขาบอกกับตัวเองให้ใจเย็นและตั้งสติ เขาไม่ได้ฝันไป! ดวงตาของเขาเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ
ทว่า เมื่อเสี่ยวเฉิงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง อาจจะเป็นเพราะระดับการโฟกัสที่ลดลง ฉากที่เสี่ยวเฉิงเห็นตรงหน้าก็แทบจะทําให้เขาเลือดกําเดาไหล!
มันให้ความรู้สึกราวกับว่าเสื้อผ้าของเซินเหยาและหรานจิงโปร่งใสไปเลย…เสี่ยวเฉิงในตอนนี้สามารถมองเห็นทั้งยกทรงและกางเกงในของสาวสวยทั้งสองได้ด้วย!
เรือนร่างที่สวยงาม ผอมเพรียวและสมบูรณ์แบบ รวมถึงหน้าอกที่อวบอิ่มของทั้งสองสาวพลันทําให้เสี่ยวเฉิงรู้สึกตกใจไม่น้อย
ทว่า เพราะความเป็นสุภาพบุรุษ เสี่ยวเฉิงจึงรีบหลับตาลงทันที หัวใจของเขาพลันเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
เสี่ยวเฉิงพลันคร่ำครวญอยู่ในใจ “เกิดอะไรขึ้นกัน? ทําไมครั้งแรกเราถึงมองเห็นได้ลึกไปถึงยันโครงกระดูกเลยล่ะ? แล้วตอนนี้เรากลับมองทะลุได้แค่เสื้อผ้าชั้นนอกเท่านั้นเนี่ยนะ? เราสามารถเปลี่ยนระดับการมองเห็นได้ด้วยงั้นเหรอ?”
ทันทีที่คิดเช่นนั้น เสี่ยวเฉิงก็ตั้งสมาธิและลืมตาขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ ฉากตรงหน้าเขาคือล็อบบี้ของโรงพยาบาล ด้านนอกมีทั้งเตียงและผู้ปวยจํานวนมาก พวกพยาบาลสาวต่างก็กําลังเปลี่ยนยาให้พวกเขาอยู่
เสี่ยวเฉิงพลันหลับตาลงทันที เขาพยายามสงบจิตใจและลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้ ทุกอย่างก็พลิกกลับมาเป็นปกติ
เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่ตนเห็นคือความจริง เสี่ยวเฉิงเองก็อยากจะถามเซินเหยาว่าชุดชั้นในที่เธอสวมอยู่ใช่สีม่วงหรือไม่
แต่แล้ว เสี่ยวเฉิงก็ปิดปากตัวเองเอาไว้ เพราะถ้าถามอะไรแบบนั้นออกไป เขาก็อาจจะถูกเธอวิ่งเข้ามาตบหน้าจนตายได้ หรือเสี่ยวเฉิงควรจะถามเธอดีไหมว่าหน้าอกของเธอใช่ไซส์สามสิบหกหรือเปล่า?
ทว่า ถ้าถามอะไรแบบนั้นไปอีก เขาก็อาจจะตายได้เช่นกัน
เสี่ยวเฉิงจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะหันไปถามหรานจิง “ข้างนอกนี้เป็นห้องสําหรับผู้ป่วยที่ต้องฉีดยาเข้าทางหลอดเลือดดําหรือเปล่า?”
หรานจิงเงียบไปชั่วครู่และถามขึ้น “ใช่ นายรู้ได้ยังไงกัน?”
ในจังหวะนี้ เสี่ยวเฉิงแทบจะควบคุมความตื่นเต้นในใจเอาไว้ไม่อยู่ และในขณะเดียวกัน เขาก็ตกใจกับเรื่องนี้ไม่น้อย เพราะฉากที่เสี่ยวเฉิงเพิ่งเห็นคือห้องที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกําแพง..