ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1876 กระบี่กระดูกขาว
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1876 กระบี่กระดูกขาว
ในเวลานี้ ทุกคนถึงกับต้องกลั้นลมหายใจเอาไว้และจ้องมองดูหลี่ชิเย่เอาไว้ ทุกคนต่างต้องการดูว่าเจ้าบุรุษที่ชั่วร้ายผิดปรกติคนนี้จะมีวิธีการที่สะเทือนฟ้าอย่างไร
ความจริงแล้วนาทีนี้แม้แต่อู่ฟ่งหยิ่งเองก็รอคอยอยู่เหมือนกัน นางเองก็ต้องการดูว่าหลี่ชิเย่มีวิธีการที่สะเทือนฟ้าอย่างไรบ้าง
“ช่าาา ช่าาา ช่าาา…” เสียงกระดูกดังขึ้นเป็นระลอก นาทีนี้เรื่องที่แปลกประหลาดยิ่งได้เกิดขึ้นมาแล้ว
เดิมทีสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่แล้ว ทอดสายตามองออกไปเห็นแต่กองกระดูกเต็มพื้นที่สุดลูกหูลูกตา แต่ว่า นาทีนี้ หลี่ชิเย่พลันบังเกิดความคิดขึ้นมา กระดูกแต่ละชิ้นได้บินออกมาจากโครงกระดูกแต่ละโครง
อีกทั้งได้หยิบเอากระดูกเพียงชิ้นเดียวจากโครงกระดูกแต่ละโครงเท่านั้น ท่ามกลางทะเลกระดูกแห่งนี้ มีทั้งโครงกระดูกของมังกรเจียวหลงที่ยาวนับร้อยลี้ มีโครงกระดูกที่ขนาดใหญ่โตเท่าภูเขาของวานรที่โหดร้าย และมีโครงกระดูกของวิหคที่แปลกประหลาดหาได้ยากยิ่ง แต่ว่า หลี่ชิเย่จะเลือกหยิบกระดูกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นจากโครงกระดูกแต่ละโครง
เป็นต้นว่า หยิบเอาเฉพาะกระดูกสันหลังจากมังกรเจียวหลง หยิบกระดูกหน้าผากจากโครงกระดูกวานรยักษ์ หยิบเอากระดูกส่วนที่เป็นกระดูกกรงเล็บที่คมกริบจากโครงกระดูกวิหคประหลาดหายาก…
ภูเขาและทะเลกระดูกที่อยู่ตรงหน้ามีจำนวนนับไม่ถ้วน อีกทั้งซากกระดูกเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความแข็งแกร่งอย่างยิ่งปราศจากผู้ต่อกรขณะมีชีวิตอยู่ แต่หลังจากผ่านกาลเวลาอันเนิ่นนานมา โครงกระดูกทั้งหมดล้วนแล้วแต่สูญสิ้นจิตวิญญาณไปแล้ว
ผู้คนจำนวนมากต่างไม่รู้ว่า กระดูกขาวแต่ละชิ้นที่หลี่ชิเย่หยิบเอามานั้นล้วนแล้วแต่เป็นแก่นของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ เป็นต้นว่ากระดูกสันหลังจากมังกรเจียวหลง กระดูกหน้าผากจากวานรยักษ์ กระดูกกรงเล็บที่คมกริบจากวิหคหายาก…สิ่งเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นแก่นที่เป็นหนึ่งไม่มีสองของพวกมันในขณะที่ยังคงมีชีวิตอยู่ อีกทั้งพวกมันล้วนแล้วแต่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตในยุคสมัยนี้ มันคือแก่นของพวกมันที่มีอยู่หนึ่งไม่มีสองในยุคสมัยพวกมัน!
เพียงแต่กระดูกส่วนที่เป็นแก่นของพวกมันได้ฝังอยู่ท่ามกลางกาลเวลาที่ยาวนานเกินไป ทำให้พวกมันทั้งหมดได้สูญสิ้นจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันไป เวลานี้เป็นเพียงกระดูกที่ไร้ค่าเท่านั้นเอง
“คร๊ากก คร๊ากก คร๊ากก…” เสียงกระดูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันดังขึ้นเป็นระลอก ในขณะนี้กระดูกขาวแต่ละชิ้นที่เลือกเอามาจากโครงกระดูกถึงกับเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทั้งยังเชื่อมต่อด้วยความเร็วที่สูงมาก
ผู้คนจำนวนมากต่างมองดูด้วยความงุนงง ภาพของท่อนกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันด้วยความเร็วที่ยากจะหาใดเทียม มันเป็นภาพที่แปลกประหลาดมากซึ่งเกิดขึ้นตรงหน้า และช่างน่ากลัวเหลือเกิน กระทั่งมีผู้ที่ถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่กับภาพเช่นนี้
ทุกคนต่างมองดูภาพนี้ด้วยความงุนงง ไม่รู้ว่าหลี่ชิเย่ต้องการทำอะไร
ในที่สุด กระดูกขาวแต่ละชิ้นก็ประกอบเป็นรูปเป็นร่างได้สำเร็จภายในระยะเวลาอันสั้น ในขณะนี้ บนท้องฟ้าปรากฏเป็นกระบี่กระดูกขาวที่ใหญ่โตยากจะหาใดเทียมเล่มหนึ่ง เกรงว่ามันคงเป็นกระบี่กระดูกขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทุกคนได้เคยเห็นในชีวิตนี้ เป็นกระบี่ที่เกิดจากการประกบเข้าด้วยกันจากกระดูกขาวทั้งหมด
“ตูม…” เวลานี้ จากการที่หลี่ชิเย่บังเกิดแนวความคิดขึ้น กระบี่กระดูกเกิดไหม้ไฟขึ้นมาทั้งเล่ม ไฟที่เผาไหม้กระบี่กระดูกขาวคือไฟโลกันตร์ที่ดึกดำบรรพ์มาก ไฟโลกันตร์ต้องการหลอมกลั่นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้
“แกร๊งค์…” หลังจากผ่านการเผาไหม้จากไฟโลกันตร์แล้ว กระบี่กระดูกขาวได้ปรากฎต่อสายตาของทุกคนอีกครั้ง นาทีนี้กระบี่กระดูกขาวมีขนาดเล็กลงมาก อย่างน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับกระบี่ยักษ์เล่นนั้น มันคือฉบับย่อส่วน
แต่ทว่า กระบี่กระดูกขาวในเวลานี้คือกระบี่ยาวที่สมบูรณ์แบบแล้ว ไม่สามารถดูรู้ได้ว่ามันคือกระบี่กระดูกขาวที่เกิดจากกระดูกขาวแต่ละชิ้นเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอีกต่อไป
กระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ไม่ได้สำแดงท่าทีที่สะเทือนฟ้าออกมาในเวลานี้ เพียงเปล่งประกายอ่อนๆ ออกมาเท่านั้นเอง
“ปุ…” ขณะที่กระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เปล่งประกายอ่อนๆ ออกมานั้น คนที่มีทักษะยุทธอ่อนเมื่อได้เห็นประกายนี้แล้ว พลันกระอักเลือดออกมาอย่างแรง เหมือนหนึ่งหัวใจของตนถูกทิ่มแทงจนทะลุอย่างนั้น
“แย่แล้ว นี่เป็นอาวุธอาถรรพ์…” ในเวลานี้ ทุกคนต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป ทยอยกันถอยหลังออกไป ดึงตัวเองให้ออกห่างจากรัศมีที่ห่างไกลเพียงพอ
หลังจากที่ถอยออกห่างจนได้ระยะเพียงพอแล้ว ทุกคนที่มองเห็นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้ว ต่างรู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่ ทุกคนล้วนแล้วแต่เข้าใจได้ว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ยังไม่ได้อาละวาดขึ้นมา เพียงแค่เปล่งประกายอ่อนๆ ออกมาเท่านั้นเอง
แต่ว่า ด้วยประกายอ่อนๆ เช่นนี้แหละ ก็สามารถแทงทะลุหัวใจของผู้คนได้ ผู้มีทักษะยุทธอ่อนพลันได้รับบาดเจ็บสาหัส ยอดฝีมือต่างได้รับบาดเจ็บเบาๆ
ลองนึกภาพดู หากกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้ปะทุพลังออกมาล่ะก็ มันช่างสยองอะไรเช่นใด
“นี่มันอาวุธอะไรกันแน่ หรือว่าจะเป็นตำราและอาวุธสวรรค์รึ?” มีผู้ที่มองดูกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้วขนลุกขนพอง แม้ว่าทุกคนจะได้ถอยออกห่างจนได้ระยะที่ห่างไกลเพียงพอแล้ว ขณะมองเห็นประกายอ่อนๆ ของกระบี่กระดูกขาวแล้ว ยังคงอดที่จะสั่นเทิ้มไม่ได้
แต่ว่า คนที่พูดคำๆ นี้ออกมาแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เห็นๆ กันอยู่ว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เกิดจากการประกอบเข้าด้วยกันของกระดูกขาวแต่ละชิ้น มันจะเป็นตำราและอาวุธสวรรค์ได้อย่างไรกัน!
ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่เข้าใจว่า เพราะอะไรกระบี่กระดูกขาวที่เกิดจากการปะติดปะต่อกันขึ้นมาจากกระดูกขาวที่ไร้ค่าถึงได้น่ากลัวได้ถึงเพียงนี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้!
อู่ฟ่งหยิ่งก็เป็นคนตาถึง นางเคยเห็นศาสตราวุธเต๋าจอมราชันมาก่อน กระทั่งเคยเห็นอาวุธปราบสวรรค์มา เวลาที่นางมองเห็นกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้แล้ว นางเองก็รู้สึกหวาดกลัวจนขนลุกซู่เช่นกัน
อู่ฟ่งหยิ่งมองไม่ออกว่ากระบี่กระดูกขาวเล่มนี้เป็นอาวุธประเภทใด แต่ลางสังหรณ์บอกนางว่า กระบี่เล่มนี้น่ากลัวยิ่งกว่าอาวุธใดๆ ที่นางเคยเห็นมาในชีวิตนี้!
“ฆ่า…” พริบตาเดียวนี้ อู่ฟ่งหยิ่งร้องเสียงแหลมดังออกมา ทวนมังกรพลันปะทุขึ้นมา หนึ่งการโจมตีทำลายดวงดาวจนแหลกลาญ ฉับพลันได้แทงใส่หลี่ชิเย่ทันที ทุกหนึ่งทวนล้วนแล้วแต่เป็นท่าไม้ตาย ได้ยินเสียงดัง “ตูม” เสมือนดั่งเป็นพายุดาวตกที่ตกลงมาจากท้องฟ้า เงาทวนจำนวนนับไม่ถ้วนที่วาดผ่านพร้อมกับประกายทวนที่ลากยาวเป็นหาง ทุกๆ หนึ่งทวนล้วนแล้วแต่ถึงชีวิตทั้งสิ้น ต้องการแทงร่างของหลี่ชิเย่ให้เป็นเหมือนดั่งกระชอน
ฉับพลันนั้น ทวนมังกรได้บ้าคลั่งขึ้นมา ทุกๆ หนึ่งทวนล้วนแล้วแต่แฝงไว้ซึ่งพลังทวนที่ปราศจากผู้ต่อกรยากที่จะต้านทานเอาไว้ได้ ทุกๆ หนึ่งทวนล้วนแล้วแต่สามารถแทงทะลุพื้นดิน ทุกๆ หนึ่งทวนสามารถพลิกกลับทะเลได้
“ตึง…” ทันใดนั้น การโจมตีอย่างบ้าคลั่งเป็นพันทวนนั้นกลับถูกต้านเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย ในขณะนี้ กระบี่กระดูกขาวได้ต้านรับหนึ่งกระบวนท่าของอู่ฟ่งหยิ่งเอาไว้อย่างสบายๆ
ควรจะทราบว่า การที่อู่ฟ่งหยิ่งโจมตีอย่างบ้าคลั่งในพริบตาเดียวเป็นพันทวน แม้แต่ผู้ได้รับการเคารพสูงสุดระดับสวรรค์สัจธรรมเห็นแล้วยังมีสีหน้าที่ขาวซีด ต่อให้มีศาสตราวุธเต๋าจอมราชันในมือก็ไม่กล้าบอกว่าสามารถรับมือกับพันทวนที่บ้าคลั่งนี้เอาไว้ได้ นาทีนี้กลับถูกกระบี่กระดูกขาวต้านรับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
หลี่ชิเย่ในเวลานี้ถือกระบี่กระดูกขาวในมือ ทอดถอนใจทีหนึ่ง กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “อาวุธหนักยุคโบราณ!”
ขาดคำ ได้ยินเสียงดัง “แว้งค์” กระบี่กระดูกขาวในมือสั่นสะเทือนทีหนึ่ง จากนั้นได้ยินเสียงดัง “ปัง” แค่กระบี่กระดูกขาวสั่นสะเทือนนิดหนึ่ง อู่ฟ่งหยิ่งถูกทำให้ต้องปลิวออกไปไกลหลายพันลี้พร้อมกับทวนมังกรทันที
ครั้นอู่ฟ่งหยิ่งสามารถยืนได้อย่างมั่นคง มุมปากของนางปรากฏเลือดสดๆ ไหลออกมา ย่อมไม่เป็นที่กังขา แค่การสั่นสะเทือนเบาๆ ของกระบี่กระดูกขาวก็ทำให้อู่ฟ่งหยิ่งได้รับบาดเจ็บเสียแล้ว!
ทุกคนต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบเมื่อได้เห็นภาพเช่นนี้ ทุกคนต่างคิดในใจว่าตนเองนั้นเมื่อเปรียบกับอู่ฟ่งหยิ่งแล้ว เกรงว่าตนเองคงห่างชั้นอยู่มาก แม้แต่ผู้ได้รับการเคารพสูงสุดระดับสวรรค์สัจธรรมก็ไม่กล้าคุยโตว่าตนเองนั้นเหนือกว่าอู่ฟ่งหยิ่ง!
เวลานี้ กระบี่กระดูกขาวแค่สั่นสะเทือนนิดเดียวก็ทำเอาอู่ฟ่งหยิ่งกระเด็นกระดอนไปและได้รับบาดเจ็บ สิ่งนี้หาใช่หลี่ชิเย่มีความแข็งแกร่งมากมายเช่นใด แต่เป็นเพราะกระบี่กระดูกขาวเล่มนี้น่ากลัวมากเหลือเกิน
“เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าเบาๆ และกล่าวว่า “อย่าว่าแต่แย่งของวิเศษจากข้าเลย เกรงว่าหากกระบี่ข้าฟาดฟันลงมา เจ้าก็ต้องเสียชีวิตแล้ว เวลานี้เจ้าก้มหน้ายอมรับความพ่ายแพ้ยังทัน”
“พูดจาไร้สาระ” อู่ฟ่งหยิ่งไม่ยอมรับ ร้องกล่าวเสียงแหลมออกมาว่า “มีฝีมือก็เข้ามาเลย หากข้ากลัวเจ้าข้าก็คือลูกสุนัข!”
นังหนูผู้นี้ไม่เพียงมุทะลุดุดันและอหังการ อีกทั้งยังหัวแข็งอีกด้วย ถือเป็นประเภทที่ไม่ยอมแพ้ใคร
“อาศัยทักษะของเจ้า พอที่จะฝืนเป็นนังหนูอุ่นเตียงให้กับข้า ผู้หญิงที่ปราศจากความอ่อนโยนแม้แต่น้อย ทำให้ไม่มีอารมณ์” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวด้วยท่าทีเอ้อระเหย
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับอึ้ง อู่ฟ่งหยิ่งคือเจ้าเมืองหลงเฉิน หนึ่งสำนักสี่ราชัน หลี่ชิเย่กลับมองว่านางคือนังหนูอุ่นเตียง ทั้งยังเป็นได้แบบฝืนๆ เสียอีก คำพูดนี้ออกจะโอหังและอหังการเกินไปแล้ว
“เกรงว่าเจ้าจะไม่มีฝีมือเช่นนั้น!” อู่ฟ่งหยิ่งกล่าวด้วยท่าทีอันธพาลว่า “เจ้าเอาชนะข้าได้ ข้าก็จะเป็นนังหนูอุ่นเตียงให้กับเจ้า!”
อู่ฟ่งหยิ่งนับว่ามุทะลุดุดันยิ่งนัก คำพูดลักษณะเช่นนี้ออกจากปากไม่มีท่าทีเอียงอายแม้แต่น้อย! แสดงให้เห็นถึงความถึกของนาง!
พลันที่อู่ฟ่งหยิ่งพูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้หลายคนถึงกับลิ้นจุกปาก ในฐานะที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ความอหังการของนางได้ทำให้ผู้ชายมากมายเท่าไรต้องอับอาย
“ไม่มีอารมณ์” หลี่ชิเย่ส่ายหน้าและกล่าวว่า “แต่ว่า สั่งสอนเจ้าสักครั้งก็เป็นเรื่องที่สมควร ให้เจ้าได้รู้ว่าฟ้าสูงเท่าไร แผ่นดินหนาเท่าไร เพียงแต่ทวนมังกรในมือของเจ้าคงรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว”
“ฆ่า…” อู่ฟ่งหยิ่งร้องเสียงแหลมออกมา ขาดคำ “กรรร” มังกรแท้จริงคำรามเสียงยาวออกมา พริบตาเดียวนี้พลังลมปราณทั้งหมดของนางล้วนแล้วแต่ถูกถ่ายทอดเข้าไปยังทวนมังกรนั้น ร่างของนางหายตัวไป ปรากฏมังกรแท้จริงตัวหนึ่งเหินฟ้าขึ้นไป
นี่คือมังกรแท้จริงโดยแท้ กลิ่นอายมังกรแท้จริงพลันกวาดไปทั่ว ทำให้ภายในใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องสะท้านทีหนึ่ง รู้สึกหวาดกลัวยิ่งในใจ นาทีนี้มังกรที่เหินฟ้าขึ้นไปไม่ใช่มังกรที่เป็นภาพมายา แต่เป็นมังกรจริงๆ
“นี่เป็นการกระตุ้นจิตวิญญาณโดยสิ้นเชิงของทวนมังกรเลยนะเนี่ย การโจมตีด้วยทวนครั้งนี้เสมือนดั่งเป็นที่สุดของการโจมตีโดยศาสตราวุธเต๋าจอมราชัน!” มีผู้เฒ่าบ่นพึมพำออกมาเมื่อรู้จักถึงอานุภาพของกระบวนท่านี้ได้
ในเวลานี้ มังกรแท้จริงเหินฟ้าขึ้นไป โจมตีออกมาหนึ่งกระบวนท่า ได้ยินเสียงดัง “ปัง ปัง ปัง” ท้องฟ้าแหลกละเอียด มีเพียงจักรวาลเท่านั้นที่กว้างขวางเพียงพอที่จะให้มังกรแท้จริงได้ทะยานโลดแล่น ยามที่มันเหินฟ้าขึ้นไปในพริบตาเดียวกันนั้น ได้ทำลายดวงดาวและพุ่งเข้าโจมตีหลี่ชิเย่ด้วยกระบวนท่าเดียว ในหนึ่งกระบวนท่านี้ ท่ามกลางการรุกแต่ก็มีรับ และในขณะที่รับก็มีการรุกอยู่ในตัว เรียกได้ว่าเป็นกระบวนท่าที่สมบูรณ์แบบ ทั้งรุกและรับยากจะหาจุดอ่อนได้
อย่างไรก็ตาม กระบวนท่าที่ขึ้นชื่อว่าสมบูรณ์แบบนี้ หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้ไปค้นหาจุดอ่อนของมัน เพียงแค่อาศัยกระบี่กระดูกขาวในมือสะบัดไปตามอารมณ์
“ตึง…” หนึ่งกระบี่ที่สะบัดไปตามอารมณ์ ทำลายล้างหมื่นยุคจนสิ้น ภายใต้หนึ่งกระบี่แม้แต่สายน้ำแห่งกาลเวลาก็กลายเป็นเถ้าธุลีไปในพริบตาเดียว
ภายใต้หนึ่งกระบี่ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านรับเอาไว้ได้ ไม่มีสิ่งใดสามารถคงอยู่ หนึ่งกระบี่ที่ทำลายสวรรค์และโลกา กระบี่นี้ไม่มีการแปรเปลี่ยนของกระบวนท่าใดๆ เป็นเพียงพลังของตัวกระบี่กระดูกขาวเองเท่านั้น!
เสียง “ตูม…” ดังสนั่น หนึ่งกระบี่ที่ฟาดฟันใส่มังกรแท้จริง ทุกสิ่งแหลกละเอียด ประกายที่เกิดขึ้นขณะแหลกละเอียดนั้นเจิดจรัสยิ่งนัก แรงกระแทกทำลายช่องว่างไปในฉับพลัน เพียงพริบตาเดียวความแวววับแตกสลาย กลายเป็นเถ้าธุลีไปโดยพลัน
ตามมาด้วยเสียงร้องคำรามเศร้ารันทดของมังกรแท้จริง ตัวของมังกรแท้จริงแหลกละเอียดไปโดยพลัน เสียงร้องคำรามด้วยความเศร้ารันทดของมังกรดังก้องไปทั่วฟ้าดิน