ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1905 หนึ่งความนึกคิดเกิดจากใจ
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1905 หนึ่งความนึกคิดเกิดจากใจ
บรรยากาศกลายเป็นตึงเครียดมาก ผู้ที่จ้องมองหลี่ชิเย่ด้วยความโกรธเมื่อครู่ต่างพูดอะไรไม่ออก พวกเขาต่างมองดูภาพเหตุการณ์ตรงหน้า กระทั่งเรียกได้ว่าหลายคนได้คลายความโกรธลงมาไม่น้อยเลยทีเดียว
ทุกคนดูจะใจเย็นลงไม่น้อย หลายคนได้สติกลับมาแล้วจ้องมองตากันและกัน ในขณะนี้พวกเขาได้นึกดูอย่างละเอียด เรื่องนี้ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว
“พี่หลี่ ในเมื่ออุดมการณ์ของพวกเรามันต่างกันก็อย่าคบหากันอีกเลย” ทารกมังกรหลวงแสดงคารวะแบบจีน และกล่าวว่า “พวกเราพี่น้องมาด้วยความจริงใจเต็มเปี่ยมเพื่อรับใช้พี่หลี่ด้วยความภักดี ยินดีติดตามพี่หลี่สร้างอาณาจักรขึ้นมา พี่หลี่กลับมองพวกเราเฉกเช่นสุนัขรับใช้ นับว่าสร้างความผิดหวังยิ่งเหลือเกิน”
“พวกเจ้าออกจะยกย่องตัวเองมากเกินไปแล้ว อาศัยพวกเจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอเป็นสุนัขรับใช้ให้กับข้ารึ?” หลี่ชิเย่กล่าวเรียบๆ ว่า “ด้วยมาตรฐานอย่างพวกเจ้า มารองพื้นรองเท้าให้ข้ายังฝืนๆ อยู่ ฉะนั้นแล้ว อย่ามาเกะกะตาข้าอยู่ตรงนี้ ทั้งหมดกระโดดลงแม่น้ำเหิงเหอฆ่าตัวตายเสีย”
“ข่มเหงกันเกินไปแล้ว!” ศิษย์บางคนของอัศวินมังกรหลวงน้อยอดที่จะคำรามเสียงดังออกมาด้วยความโกรธ อัศวินมังกรหลวงน้อยของพวกเขาเคยทำใหผู้คนจำนวนเท่าไรต้องหัวหดเมื่อได้ยินชื่อของพวกเขา พวกเขาต่างเป็นโจรที่มีความห้าวหาญและโหดร้ายทารุณทุกคน ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ขาทั้งสองข้างสั่นเทาเมื่อเห็นพวกเขา เวลานี้กลับถูกคนเขาเหยียดหยามเช่นนี้ แล้วจะให้อัศวินมังกรหลวงน้อยทนความอัปยศเช่นนี้ได้อย่างไรเล่า
หากไม่เป็นเพราะทารกมังกรหลวงขวางเอาไว้ เกรงว่าศิษย์ของอัศวินมังกรหลวงน้อยล้วนแล้วแต่ลุยเข้าไปแลกชีวิตกับหลี่ชิเย่แล้ว เพราะเป็นการข่มเหงกันมากเกินไปแล้ว ยากที่พวกเขาจะกล้ำกลืนความอัปยศเช่นนี้เอาไว้ได้
“พี่หลี่ เมื่ออุดมการณ์แตกต่างกัน คงคบหากันไม่ได้ พวกเราขออำลาแต่เพียงเท่านี้” ทารกมังกรหลวงรู้ว่าละครบทนี้คงแสดงต่อไปไม่ได้อีกแล้ว จึงแสดงคารวะต่อหลี่ชิเย่ พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา จากนั้นหันหลังจากไปทันที
แต่แล้ว ขณะที่ทารกมังกรหลวงนำพาพวกของอัศวินมังกรหลวงน้อยไปจาก ปรากฎหลี่ชิเย่ได้ขวางอยู่ด้านหน้าของพวกเขาเสียแล้ว
“คิดจะไปตอนนี้เกรงว่าคงสายไปเสียแล้ว” หลี่ชิเย่ยืนและยิ้มกล่าวเฉยเมยอยู่ตรงนั้น
“พี่หลี่ ท่านคิดจะทำอะไร?” ทารกมังกรหลวงวางสีหน้าเย็นชากล่าวน้ำเสียงเยือกเย็นขึ้นมา
“ไม่คิดทำอะไร พวกเจ้าฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดลงไปในแม่น้ำเหิงเหอก็พอแล้ว” หลี่ชิเย่กล่าวด้วยท่าทีที่เรียบเฉยยิ่งนัก
“พี่หลี่ ท่านอย่าได้ข่มเหงกันมากเกินไป พวกเราปล้นชิงของวิเศษมากมายให้กับท่าน ต่อให้ไม่มีผลงานก็ทำงานด้วยความเหน็ดเหนื่อย หรือว่าพี่หลี่เป็นคนที่เนรคุณเช่นนี้หรอกหรือ…” ท่าทางของทารกมังกรหลวงดูจะโกรธมากทีเดียว
“ไม่ต้องทำเป็นยกย่องตัวเอง” หลี่ชิเย่ไม่ได้มองของวิเศษที่อยู่บนพื้นสักนิด กล่าวขึ้นมาเรียบๆ ว่า “นี่หรือของวิเศษ แค่เศษเหล็กกองหนึ่งเท่านั้น โยนกับพื้นยังขี้คร้านจะไปเก็บด้วยซ้ำมีเพียงเศษสวะอย่างพวกเจ้าเท่านั้นที่มองเศษเหล็กเศษขยะว่าเป็นของวิเศษ มาตรฐานเท่านี้ยังกล้ามาเรียกหาผลงานต่อหน้าข้า”
“ศิษย์พี่ พวกเราแลกกับมัน!” เมื่อบรรดาศิษย์ของอัศวินมังกรหลวงน้อยได้ยินคำพูดเช่นนี้ถึงกับพูดออกมาด้วยความโกรธ
“พี่หลี่ ท่านทำเกินไปแล้ว!” ทารกมังกรหลวงกล่าวน้ำเสียงเย็นชาว่า “เรื่องที่ผ่านมานี้พวกเราจะไม่ไปถือสาหาความ ได้แต่โทษพวกข้าที่ตาบอดติดตามคนผิด นับแต่เวลานี้เป็นต้นไป พวกเราชัดเจนทั้งสองฝ่าย น้ำบ่อจะไม่ยุ่งกับน้ำคลอง!”
“ที่นี่ไหนเลยให้เจ้าเป็นผู้ออกคำสั่งได้ และไม่ถึงคราวให้เจ้ามาเป็นผู้ปกครองและตัดสินความ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยว่า “ในเมื่อกล้าบอกว่าจะภักดีต่อข้า เช่นนั้นแล้วชีวิตสุนัขของพวกเจ้าก็อยู่ในกำมือของข้า ขัดคำสั่งของข้าจุดจบมีเพียงสถานเดียวเท่านั้น…ฆ่าโดยไม่มีการละเว้น!”
“เจ้าหนู เจ้าข่มเหงกันเกินไปแล้ว หรืออัศวินมังกรหลวงน้อยพวกเราจะกลัวเจ้าอย่างนั้นรึ!” บรรดาศิษย์ของอัศวินมังกรหลวงน้อยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟมานานแล้ว เวลานี้ถูกหลี่ชิเย่ทำให้ต้องอับอายขายหน้าอีก จึงอดกลั้นต่อไปไม่ไหวพลันกรูกันออกมา
เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น อัศวินมังกรหลวงน้อยได้ทำการล้อมหลี่ชิเย่เอาไว้ พวกเขาต่างอยู่ในท่าทีที่ตึงเครียด ท่าทางโกรธเคืองยิ่งนัก นาทีนี้พวกเขาแทบอยากจะจับหลี่ชิเย่มาฉีกเป็นชิ้นๆ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
เหตุการณ์กลับตาลปัตรกะทันหันเช่นนี้ ทำให้ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ถึงกับตั้งตัวไม่ทัน ในเวลานี้ บรรดาผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างมองหน้ากันและกัน แน่นอน ผู้คนจำนวนมากยินดีกับภาพเหตุการณ์ที่เห็น สิ่งนี้กล่าวสำหรับพวกเขาแล้วมันคือสุนัขกัดกันเอง
“อาศัยพวกเจ้ารึ?” หลี่ชิเย่ไม่ได้แสดงอาการโกรธขึ้นมา มองดูอัศวินมังกรหลวงน้อยที่ล้อมวงตนเองด้วยท่าทีที่ยิ้มแต้
“เจ้าหนู อัศวินมังกรหลวงน้อยพวกเราจะต้องสับเจ้าเป็นหมื่นๆ ชิ้น!” ในเวลานี้บรรดาศิษย์ของอัศวินมังกรหลวงน้อยต่างไม่สามารถสะกดเพลิงแห่งความแค้นภายในใจเอาไว้ ร้องกล่าวเสียงดังออกมา
“ตึง ตึง ตึง” ฉับพลันนั้นเอง อัศวินมังกรหลวงน้อยทั้งหมดได้ชักอาวุธออกจากฝัก และลงมือล้อมฆ่าหลี่ชิเย่พร้อมกัน
ชื่อความโหดของอัศวินมังกรหลวงน้อยล่ำลือกระฉ่อน พวกเขาห้าวหาญและชำนาญในเรื่องการต่อสู่เสมอมา มีความโหดเหี้ยมทารุณยิ่งนัก ในขณะนี้พวกเขาที่มีอาวุธครบมือพลันทำให้กลิ่นอายการเข่นฆ่าตลบอบอวล ผู้คนสามารถได้กลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้นโชยมาแตะจมูก
“ฆ่าไม่มีละเว้น…” ทันใดนั้นเองหลี่ชิเย่ยิ้มแต้ นาทีนี้นัยน์ตาทั้งสองของเขาปรากฎประกายแวบขึ้นมา จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรหมุนเคลื่อนไป
“ฆ่า…” นาทีนี้ ศิษย์ทั้งหมดของอัศวินมังกรหลวงน้อยต่างร้องคำรามเสียงดัง พวกเขาเหมือนหนึ่งเลือดเข้าตาเสียแล้ว
“อ๊ากก…” เวลานี้เอง เสียงร้องน่าเวทนาดังขึ้น เลือดสาดกระเซ็น ในเวลานี้เห็นหัวแต่ละหัวที่หลุดออกจากบ่าร่วงลงพื้นดิน
ภาพที่สะเทือนขวัญพลันปรากฏแก่สายตาทุกคนอย่างกะทันหันตรงหน้า มองเห็นศิษย์ทั้งหมดของอัศวินมังกรหลวงน้อยถึงกับเข่นฆ่ากันเองขึ้นมา ทันใดนั้น ศิษย์ที่อยู่ด้านหลังใช้ดาบในมือแทงเข้ากลางหลังของศิษย์ที่อยู่ตรงหน้า ขณะที่ศิษย์ที่อยู่ข้างหน้าพลันหันหลังกลับมาฟันฉับเข้าที่ศีรษะของพี่น้องที่อยู่ด้านหลัง
ในเวลานี้ ศิษย์อัศวินมังกรหลวงน้อยทั้งหมดต่างคนต่างฟันฝ่ายหนึ่งจนคอขาด ขณะที่อีกฝ่ายก็ฟันฝ่ายนั้นจนขาดสองท่อน เสียงน่าเวทนาร้องระงม เลือดสดๆ ไหลนองจนเต็มพื้นดิน
“พวกเจ้าบ้าไปแล้วรึ?” ทารกมังกรหลวงร้องเสียงดังออกมาด้วยความหวาดผวา แต่สายเกินไปเสียแล้ว เพียงชั่วพริบตาเดียว ศิษย์ของอัศวินมังกรหลวงน้อยทั้งหมดล้วนตายอนาถ ทั้งหมดตายเพราะเข่นฆ่ากันเอง ศีรษะ แขน และร่างกายที่ไม่สมประกอบเกลื่อนเต็มพื้นไปหมด เห็นเลือดสดๆ ที่หลั่งรินอยู่เงียบๆ จนพื้นดินถูกย้อมเป็นสีแดง
ในเวลานี้ ทั่วทั้งบริเวณเงียบสงัดจนน่ากลัว นัยน์ตาทุกคนต่างเบิกกว้าง ทุกคนถูกทำให้รู้สึกสะเทือนหวั่นไหวจนยากจะเรียกสติกลับมา เป็นภาพที่อยู่เหนือความคาดคิดเหลือเกิน ไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นมาได้
อัศวินมังกรหลวงน้อยที่เสมือนเป็นพี่น้องพลันเข่นฆ่ากันเองอย่างกะทันหัน อย่าว่าแต่บุคคลภายนอกเลย แม้แต่ทารกมังกรหลวงเองก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น มันเกิดขึ้นกะทันหันเหลือเกิน
หนึ่งความนึกคิดเกิดจากใจ คือหนึ่งในหกความนึกคิดจากตำราระลึก หนึ่งความนึกคิดจากใจสามารถทำให้ผู้คนหนึ่งความนึกคิดเป็นพระ หนึ่งความนึกคิดเป็นมาร และสามารถหนึ่งความนึกคิดบ้าคลั่ง ทั้งสามารถหนึ่งความนึกคิดเข่นฆ่า
หนึ่งความนึกคิดเป็นพระในส่วนนี้แตกต่างโดยสิ้นเชิงจากหนึ่งความนึกคิดเป็นพระจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ที่หนึ่งความนึกคิดเป็นพระนั้นคือการทำให้ตนเองนั้นกลายเป็นอริยสงฆ์ ขณะที่หนึ่งความนึกคิดเป็นพระจากตำราระลึกนั้น หลี่ชิเย่สามารถสะกดและควบคุมจิตของฝ่ายตรงข้าม สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามละทิ้งจิตที่คิดเข่นฆ่าและความแค้นได้โดยพลัน
ดังนั้น เมื่อหลี่ชิเย่สำแดงหนึ่งความนึกคิดจากใจขึ้นมา เขาสามารถทำให้บุคคลผู้นั้นคลุ้มคลั่งได้ และทำให้บุคคลผู้นั้นสงบลงได้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังสามารถทำให้บุคคลผู้นั้นกลายเป็นเครื่องมือฆ่าคนได้!
ดังนั้น เมื่อครู่หลี่ชิเย่ได้สำแดง “หนึ่งความนึกคิดจากใจ” ออกมา ทำให้ศิษย์อัศวินมังกรหลวงน้อยทั้งหมดเข่นฆ่ากันเองในทันที
เดิมทีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเหล่าศิษย์อัศวินมังกรหลวงน้อยไม่ได้แข็งแกร่งอะไรอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น แต่เดิมภายในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดร้ายและการฆ่าฟัน ดังนั้น จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของพวกเขาจึงถูกหลี่ชิเย่เข้าควบคุมโดยพลัน ทำให้พวกเขาเข่นฆ่ากันเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ง่ายมาก พวกเขาไม่สามารถต่อต้านปณิธานสูงสุดของหลี่ชิเย่ได้อยู่แล้ว!
“เจ้า เจ้า เจ้ามีวิชามาร!” ไม่ง่ายนักกว่าทารกมังกรหลวงจะได้สติกลับมา พลันมีใบหน้าที่ขาวซีด และถอยไปตั้งหลักไกลมาก ดึงระยะห่างจากหลี่ชิเย่มากพอดู นิ้วที่ชี้ไปยังหลี่ชิเย่ถึงกับสั่นเทา
เดิมทีทารกมังกรหลวงคือคนที่โหดร้ายทารุณคนหนึ่งอยู่แล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยรู้จักคำว่ากลัว แต่นาทีนี้เขาเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาจริงๆ เสียแล้ว เนื่องจากเขาเกรงว่าตนเองนั้นจะเป็นเหมือนดั่งพี่น้องของอัศวินมังกรหลวงน้อยอย่างนั้น ถูกควบคุมจิตและกลายเป็นหุ่นเชิด
นาทีนี้ทุกคนต่างได้สติคืนกลับมา ทุกคนจ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ หลายคนทยอยกันก้าวถอยหลังไปหลายก้าว กระทั่งมีผู้ที่ถอยออกห่างไปไกลมาก พวกเขามีใบหน้าที่ซีดเผือด รู้สึกขนลุกในใจ พวกเขาต้องการพาตัวเองห่างไกลจากหลี่ชิเย่ ต้องการรักษาระยะห่างให้มากพอ
การเข่นฆ่ากันเองของอัศวินมังกรหลวงน้อยเป็นภาพที่ทุกคนได้เห็นมากับตา ขนาดพวกเขาที่เป็นเหมือนดั่งพี่น้องยังถูกควบคุมจนเข่นฆ่ากันเองได้ ถ้าหากหลี่ชิเย่ต้องการควบคุมพวกเขาไปฆ่าคนมิง่ายเหมือนดั่งพลิกฝ่ามือรึ พวกเขามิต้องกลายเป็นเครื่องมือฆ่าคนของหลี่ชิเย่ไปโดยพลัน
ดังนั้น แววตาของทุกคนที่จ้องมองดูหลี่ชิเย่ในเวลานี้พลันแปรเปลี่ยนไป ต่างเผยให้เห็นถึงท่าทีที่แสดงถึงความหวาดกลัว
จะอย่างไรเสีย ความแข็งแกร่งของผู้บำเพ็ญตนนั้นสามารถประเมินกันได้ สามารถต่อต้านกันได้ แต่ เฉกเช่นวิชามารของหลี่ชิเย่นั้นพวกเขาไม่สามารถไปประเมินได้ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าใครก็ตามล้วนแล้วแต่หวาดกลัวว่าตนเองต้องกลายเป็นหุ่นเชิด สุดแล้วแต่ผู้อื่นบงการ
“เวลานี้เจ้ากระโดดลงในแม่น้ำเหิงเหอยังทัน มิฉะนั้นล่ะก็ เจ้าจะต้องตายอย่างสุดแสนอนาถมากๆ” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมยขึ้นมา
ทารกมังกรหลวงถึงกับก้าวถอยหลังไปเรื่อยๆ นิ้วมือที่ชี้ไปยังหลี่ชิเย่ถึงกับสั่นเทา ร้องกล่าวเสียงดังว่า “หลี่ชิเย่ เจ้า เจ้า เจ้าอย่าได้ข่มเหงคนมากเกินไป อา อา อาจารย์ของข้าคือจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง ข้า ข้ามีอาจารย์อาแปดคน ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นระดับจอมเทพ เจ้า เจ้า เจ้ากล้าสังหารข้า อาจารย์และอาจารย์อาของข้าต้องแก้แค้นให้กับข้า เมื่อถึงตอนนั้น ต่อ ต่อให้เจ้ามีสายสำนักราชันเซียนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง อาจารย์และอาจารย์อาของข้าก็ต้องทำลายล้างพวกเจ้า”
คำพูดของทารกมังกรหลวงเรียกได้ว่าแข็งนอกอ่อนใน แม้ว่าฟังดูแล้วเป็นแค่การข่มขู่ แต่สำหรับผู้คนจำนวนมากที่ได้ยินคำพูดเช่นนี้แล้ว ก็ให้รู้สึกขนลุกซู่ในใจ
จอมเทพมังกรหลวงคือระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง ไม่ว่าใครก็ต้องหวั่นเกรงต่อเขา อัศวินมังกรหลวงของจอมเทพมังกรกลวงประกอบด้วยจอมเทพทั้งหมดเก้าคน
ลองนึกภาพดู การเป็นศัตรูกับจอมเทพถึงเก้าคนมันช่างเป็นสภาพที่ทำให้ผู้คนต้องหวาดกลัวเพียงใด และด้วยเหตุนี้เอง สายสำนักราชันเซียนทั่วไปก็ไม่กล้าไปมีเรื่องกับพวกเขาโดยง่ายดาย
สิ่งนี้คือความมั่นใจของทารกมังกรหลวงที่กล้าก่อเรื่องก่อราว เนื่องจากไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม อาจารย์ของพวกเขาก็ต้องคอยคุ้มหัวให้พวกเขาอยู่แล้ว
“จอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวง?” หลี่ชิเย่ถึงกับยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า “มันก็แค่พวกที่มีแต่ชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้นไม่มีค่าคู่ควรจะเอ่ยถึง ถ้าหากพวกเขามาด้วยก็ดี ข้าเองไม่ได้ดื่มเลือดจอมเทพมานานแล้ว จะได้ถือโอกาสดื่มมันสักแก้วแก้กระหายพอดี”
พลันที่หลี่ชิเย่พูดคำๆ นี้ออกมา ทำให้ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต้องอึ้ง ในโลกนี้ยังจะมีใครที่กล้าดูแคลนระดับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงเช่นนี้?
ยามที่จอมราชันเซียนหวังระดับล่างต้องเผชิญหน้ากับจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงก็ต้องระมัดระวังตัวยิ่ง เนื่องจากเคยมีจอมราชันเซียนหวังต้องสิ้นชื่อภายใต้เงื้อมมือของจอมเทพมาก่อน
เวลานี้หลี่ชิเย่ถึงกับบอกว่าจอมเทพที่มีดวงตราสัญลักษณ์สิบเอ็ดดวงเป็นเพียงแค่พวกที่มีชื่อเสียงจอมปลอมเท่านั้น ความอหังการเช่นนี้ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้อยู่แล้ว
ตอนที่ 1905 หนึ่งความนึกคิดเกิดจากใจ