ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 1976 จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรปราศจากผู้ต่อกร
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 1976 จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรปราศจากผู้ต่อกร
ประกายศักดิ์สิทธิ์ยังคงไหลรินอยู่ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลา แม้ว่าประกายศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้หลอมรวมเข้าไปในสายน้ำแห่งกาลเวลา มันไม่ได้ไปบงการสายน้ำแห่งกาลเวลา แต่แสงสว่างจากประกายศักดิ์สิทธิ์กลับมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง นักปราชญ์ได้จุดติดความสว่างสายนั้นลงกลางใจของทุกๆ สรรพสิ่งมีชีวิต
ภายใต้ประกายศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่สัตว์ดุร้ายก็ถูกกล่อมเกลาจนถึงกับหมอบกราบได้
ที่ที่ประกายศักดิ์สิทธิ์มีความร้อนแรงมากที่สุดยังคงเป็นช่วงเวลาที่เป็นยุคสมัยของไกลกันดารยุคนั้น ณ ที่ตรงนั้นประกายศักดิ์สิทธิ์ทำการแผดเผาความมืดอย่างรุนแรง ในยุคสมัยไกลกันดารนี้ มันไม่เพียงทำให้ตลอดยุคสมัยบริสุทธิ์เท่านั้น มันยังเผาผลาญอย่างบ้าคลั่ง มันต้องการเผาไหม้ความมืดจนไม่เหลือซาก
แน่นอนที่สุด ขณะที่ประกายศักดิ์สิทธิ์ลุกไหม้ขึ้นมานั้น มันไม่เผาไหม้ความมืดเท่านั้น แต่เผาไหม้ตัวเองไปด้วย ยามที่ความมืดสลายไปดั่งเมฆหมอก ประกายศักดิ์สิทธิ์เองใช่ว่าจะไม่ได้กลายเป็นเถ้าธุลีไปในขณะเดียวกัน
ช่วงเวลาของยุคสมัยไกลกันดารช่วงนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่ตรงนั้นมีความร้อนแรงยิ่งนัก ขณะเดียวกันที่ตรงนี้ก็เป็นต้นกำเนิดของประกายศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากนักปราชญ์ได้จุดติดตัวเองขึ้นมา
ท่ามกลางที่ที่เป็นต้นกำเนิดของประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ร้อนแรงยากจะหาใดเทียม มีสัจธรรมที่ยึดครองอยู่ที่ตรงนั้น โดยที่สัจธรรมสายนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์อย่างยิ่ง และมีความเจิดจรัสยิ่งนัก อีกทั้งท่ามกลางสัจธรรมสายนี้เสมือนหนึ่งมีเสียงหัวใจเต้นตุ๊บ ตุ๊บ ตุ๊บดังแว่วออกมา คล้ายดั่งมีหัวใจที่ใหญ่โตปราศจากผู้เทียบเทียมดวงหนึ่งที่เต้นอยู่ตรงนั้น
เพราะว่ามีหัวใจลักษณะเช่นนี้ที่เต้นอยู่นั่นเอง มันจึงได้มอบพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ไร้ขอบเขตจำกัดให้กับโลกใบนี้ มีเพียงการขับเคลื่อนภายใต้พลังศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้ จึงจะทำให้ประกายศักดิ์สิทธิ์ยิ่งจะส่องสว่างไปทั่วหล้ามากขึ้น ส่องสว่างทุกชาติอย่างเสมอภาคยิ่งขึ้น
ถูกต้อง หัวใจดวงนั้นที่กำลังเต้นอยู่ท่ามกลางสัจธรรมก็คือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนั้นที่ไม่มีสิ่งใดสามารถสั่นคลอนได้ของนักปราชญ์นั่นเอง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของงมันได้กลับกลายเป็นต้นกำเนิดของประกายศักดิ์สิทธิ์ กลายเป็นต้นกำเนิดของพลังศักดิ์สิทธิ์ และมีเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนี้ของนักปราชญ์ไม่หวั่นไหลดั่งหินผา จึงสามารถทำให้ประกายศักดิ์สิทธิ์เป็นนิรันดร์
ในขณะนี้ วันเวลาของยุคสมัยไกลกันดารก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ความมืดได้หลอมรวมเข้าไปท่ามกลางเวลาของยุคสมัยไกลกันดารอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังสามารถได้ยินเสียงน้ำขึ้นดังช่าาา ช่าาา
เวลานี้ ไม่เพียงแต่ความมืดที่หลอมรวมเข้ากับวันเวลาของยุคสมัยไกลกันดารเท่านั้น อีกทั้งความมืดที่ได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนดังน้ำทะเลขึ้นที่หนุนเนื่องขึ้นมา ทั้งยังยิ่งหนุนยิ่งสูง ความมืดก็เหมือนเช่นทะเลอย่างนั้น ใต้ท้องทะเลมีตาน้ำความมืดมิดที่พวยพุ่งเป็นน้ำทะเลความมืดที่ไม่มีสิ้นสุดออกมา ทำให้น้ำทะเลสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง
เสียงลุกไหม้จี๊ด จี๊ด จี๊ดดังขึ้น แม้ว่าประกายศักดิ์สิทธิ์จะเผาผลาญความมืดอย่างบ้าคลั่ง แต่ทะเลความมืดที่ขึ้นมาตามกระแสน้ำขึ้นกลับเริ่มโอบล้อมประกายศักดิ์สิทธิ์เอาไว้
มองเห็นคลื่นน้ำทะเลความมืดที่ขึ้นสูงเป็นล้านล้านจ้าง เขาโอบล้อมประกายศักดิ์สิทธิ์เอาไว้จากทุกทิศทุกทาง ห่อหุ้มจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนั้นของนักปราชญ์เอาไว้
แม้จะกล่าวว่าประกายศักดิ์สิทธิ์ได้ทำการเผาผลาญกระแสน้ำมืดดำนั้นอย่างบ้าคลั่งและดุดัน แต่ว่า กระแสน้ำดำมืดกลับไม่มีสิ้นสุด ทั่วทั้งไกลกันดารได้กลับกลายเป็นทะเลความมืดที่สยดสยองมากที่สุดในโลก แสงสว่างใดๆ ก็ตามหากตกลงไปในทะเลความมืดนี้ล่ะก็จะไม่สามารถฟื้นคืนได้อีกเลย
จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์นับว่าไม่หวั่นไหวดั่งหินผาอย่างแท้จริง แต่ทว่าในยุคสมัยของไกลกันดารนี้ ธาตุแท้ภายในของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยแข็งแกร่งกว่านักปราชญ์มากโขทีเดียว เรียกได้ว่าความมืดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้แทรกซึมเข้าสู่ทุกวินาทีของวันเวลาของยุคสมัยไกลกันดารไปแล้ว
ดังนั้น จึงเป็นเหมือนดั่งบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้กล่าวเอาไว้ว่า แม้ว่าเขาได้ระเบิดต้นกำเนิดของตนไป แต่เขากลับคงอยู่คู่กับยุคสมัยของไกลกันดาร ไม่ว่าวันเวลาของยุคสมัยไกลกันดารจะเป็นเช่นใด ขอเพียงยังมีวันเวลาเหลืออยู่เพียงน้อยนิด ความมืดก็คงอยู่เป็นนิรันดร์
หลังจากที่บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้หลอมรวมเข้ากับยุคสมัยของไกลกันดารโดยสิ้นเชิงไปแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้น ต่อให้นักปราชญ์มีวิธีการอื่นใดทำให้กำลังของตนเหนือกว่าบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทำลายบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยได้!
จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงลุกไหม้อย่างรุนแรงดังขึ้นเป็นระลอก จากการที่คลื่นทะเลความมืดที่ดันสูงขึ้นอย่างไม่หยุดไม่หย่อน คลื่นทะเลความมืดจึงเข้าล้อมและห่อหุ้มประกายศักดิ์สิทธิ์เอาไว้อย่างบ้าคลั่ง ต่อให้ประกายศักดิ์สิทธิ์เผาผลาญอย่างรุนแรงเช่นใดก็ไม่สามารถเผาไหม้ความมืดให้หมดสิ้นไปได้
จากคลื่นทะเลความมืดที่ดันขึ้นสูงไม่หยุดไม่หย่อน ทำให้ประกายศักดิ์สิทธิ์เริ่มถูกห่อหุ้มเอาไว้แล้ว ไม่ว่าใครก็ตามยืนอยู่บนสายน้ำแห่งกาลเวลาและมองขึ้นไป ก็จะพบว่าประกายศักดิ์สิทธิ์ได้สูญเสียประกายที่มันวาวของมันไปแล้ว เดิมประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไหลรินไปตามสายน้ำแห่งกาลเวลาในขณะนี้สลดและอับแสง ทั้งยังพร้อมที่จะดับลงได้ทุกเวลา
เมื่อยืนอยู่ท่ามกลางสายน้ำแห่งกาลเวลาแล้วมองขึ้นไป จะพบว่าช่วงเวลาของยุคสมัยไกลกันดารมืดดำไปเป็นแถบ อีกทั้งยังเป็นเหมือนดั่งหลุมดำที่น่าสยองขวัญมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะเป็นแสงสว่างเช่นใดก็ตาม เมื่อเข้าใกล้ช่วงเวลานี้แล้วก็จะถูกจับเอาไว้ และตกลงสู่ห้วงความมืดตลอดกาลไม่มีวันฟื้นคืน ไม่ได้เห็นตะวันตลอดไป
ดังนั้น บรรดาจอมราชันเซียนหวังที่มองเห็นภาพนี้แล้วถึงกับใจหาย การที่บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยสามารถกลายเป็นต้นกำเนิดความมืดของยุคสมัยไกลกันดารใช่จะไม่มีเหตุผล
จากการที่คลื่นทะเลความมืดเข้าห่อหุ้มประกายศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ ทำให้ประกายศักดิ์สิทธิ์มีแสงที่สลดลงทุกที ทั่วทั้งยุคสมัยของไกลกันดารจะต้องถูกยึดเอาไป กลายเป็นกาลเวลาที่ปราศจากความสว่างไปตลอดกาล!
ภาพลักษณะเช่นนนี้คล้ายดั่งสรรพสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอแหงนหน้าแล้วมองเห็นดวงตะวันถูกกลืนกินอย่างนั้น ถ้าหากมีสักวันดวงตะวันถูกกลืนกินไปแล้ว กล่าวสำหรับสรรพสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอแล้ว คือจะไม่ได้เห็นตะวันอีกตลอดไป ตกอยู่ในความมืดชั่วนิรันดร์ ลองนึกภาพดู ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้จะมีสรรพสิ่งมีชีวิตจำนวนเท่าไรที่รู้สึกสิ้นหวังและร้องด้วยความเศร้าโศกออกมา
ขณะที่ไกลกันดารหากปราศจากประกายจากนักปราชญ์ที่สาดส่องไปอย่างทั่วถึง ก็ต้องอยู่ในความมืดตลอดกาล เกรงว่าบรรดาวิญญาณที่จมดิ่งอยู่ในความมืดไม่ได้ผุดได้เกิดตลอดไปเหล่านั้น ไม่มีโอกาสแม้แต่จะต้องด้วยความเศร้าโศก พวกเขาจะถูกจองจำอยู่ท่ามกลางความมืดไปชั่วนิรันดร์
เปิด…จังหวะที่ประกายศักดิ์สิทธิรีบหรี่ลงทุกที หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวออกมา ติดตามด้วยเสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา มองเห็นสัจธรรมที่พาดผ่าน จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่พลันเบ่งบานอย่างบ้าคลั่ง ภายในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ความเจิดจรัสจากจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้ส่องสว่างไปทั้งยุค จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรได้กลับกลายเป็นนิรันดร์
พลังของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรทำให้ทุกอย่างไม่สามารถก้าวข้ามมันไปได้ เป็นนิรันดร์ตลอดกาล เป็นสิ่งที่ได้ตกผลึกแล้ว เป็นการสั่งสมอย่างหนึ่ง จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงหนึ่งที่ก้าวเดินอยู่บนสายน้ำแห่งกาลเวลาโดยเปล่าประโยชน์ ผ่านการขัดเกลาจากเรื่องราวบนโลกมนุษย์มานับไม่ถ้วน จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงนี้ได้กลับกลายเป็นหัวใจที่แข็งแรงที่สุดในโลก กลายเป็นหัวใจที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกไปแล้ว
เสียงตูมดังสนั่น นาทีนี้จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่อาศัยปณิธานที่แน่วแน่สูงสุดพุ่งออกไป หอบเอาสัจธรรมสูงสุดทะลุผ่านสายน้ำแห่งกาลเวลา ไล่ตามยุคสมัยไกลกันดารไป
หากยืนอยู่บนสายน้ำแห่งกาลเวลา สามารถมองเห็นปณิธานที่มีท่าทีร้อนแรงมั่นคงปราศจากผู้เทียบเทียมก้าวข้ามตามประกายแสง วิ่งทวนขึ้นไปบนสายน้ำแห่งกาลเวลา เหมือนดั่งเป็นดาวตกดวงหนึ่งที่พุ่งไปยังยุคสมัยของไกลกันดาร
เสียงตูมดังสนั่น จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดวงหนึ่งที่มั่นคงปราศจากผู้เทียบเทียม เสมือนดั่งเป็นอุกาบาตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนับแต่อดีตถึงปัจจุบันพุ่งชนเข้าไปยังยุคสมัยของไกลกันดาร พุ่งชนเข้าไปยังมหาสมุทรส่วนที่ลึกที่สุดที่ดำมืด ด้วยการพุ่งเข้าปะทะอย่างอันธพาลปราศจากผู้เทียบเทียมถึงกับทำให้เกิดเป็นคลื่นยักษ์ที่ดำมืดสูงนับล้านล้านจ้าง
บรรดาจอมราชันเซียนหวังถึงกับหายใจติดขัด เมื่อมองเห็นหลี่ชิเย่อาศัยจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่มั่นคงแข็งแกร่งดวงหนึ่งด้วยท่วงท่าที่ปราศจากผู้เทียบเทียมที่สุดพุ่งเข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดของมหาสมุทรดำมืด
เนื่องจากมหาสมุทรดำมืดส่วนที่ลึกที่สุดคือต้นกำเนิดความมืดมิดที่น่ากลัวที่สุด ลองถามใจกันดูว่า จอมราชันเซียนหวังองค์ไหนบ้างที่คิดว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนเมื่อจมดิ่งลงไปในความมืดส่วนที่ลึกที่สุดแล้ว ยังสามารถรักษาจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของตนเอาไว้ได้
ตูม ตูม ตูมในขณะนี้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ และจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์ได้สอดประสานเสียงด้วยกันทั้งด้านล่างและด้านบน ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
เสียงตูม…ดังสนั่น สร้างความสะเทือนหวั่นไหวให้กับสายน้ำแห่งกาลเวลาทั้งสาย หลังจากที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์ได้รับการประสานเสียงแล้ว คล้ายดั่งเป็นภูเขาไฟที่อยู่ในภาวะคับขันพลันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาอย่างนั้น ประกายศักดิ์สิทธิ์พลันระเบิดขึ้น จัดการระเบิดคลื่นทะเลความมืดที่ห่อหุ้มมันเอาไว้จนแหลกเป็นจุณ เผาผลาญความมืดจนกลายเป็นเถ้าธุลีในทันที
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง กระทั่งสายน้ำแห่งกาลเวลายังถูกพุ่งเข้าปะทะจนสั่นไหวโคลงเคลงอีกครั้ง ปณิธานสายนี้แข็งแกร่งมากเหลือเกิน หลังจากได้สั่งสมมาพันล้านปีแล้ว มันจึงมีพลังของยุคสมัยอยู่ในครอบครองกว่าค่อนยุคสมัย
มองเห็นเพียงจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่พุ่งขึ้นบนท้องฟ้าจากทะเลดำมืดที่ลึกลงไป ก่อให้เกิดเป็นคลื่นยักษ์ที่ดำมืดขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้ทำใหทะเลความมืดถูกฉีกขาดออกเป็นรอยปริแยกที่ไม่สามารถประสานกลับเข้าไปได้สายหนึ่งขึ้นมา
เสียงแว้งค์ดังขึ้น ขณะที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้ฉีกทะเลความมืดจนขาดนั้น จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์ได้หอบเอาสุดยอดสัจธรรมสูงสุดพุ่งเข้าไปยังทะเลดำมืดส่วนที่ลึกที่สุด
ตึง…เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น นาทีนี้สุดยอดสัจธรรมสูงสุดและจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์พลันพุ่งลงไปยังส่วนที่ลึกที่สุดอันเป็นต้นกำเนิดของความมืดในทะเล เสียงทุ้มต่ำนี้เสมือนหนึ่งเป็นก้อนหินขนาดยักษ์ที่ไปอุดเอาตาน้ำเอาไว้อย่างนั้น
เสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ถูกปล่อยออกมาดังเป็นระลอก จังหวะที่ต้นกำเนิดทะเลดำมืดที่อยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดสุดยอดสัจธรรมสูงสุดและจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง
ขณะที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ที่พุ่งขึ้นไปอยู่บนท้องฟ้าเหนือทะเลความมืดอยู่ก่อนแล้ว ได้พวยพุ่งพลังที่ไม่มีขีดจำกัดออกมาโดยพลัน จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ไม่ได้พวยพุ่งเป็นประกายศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีสิ้นสุดเหมือนเช่นจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่คือประกายวันเวลาที่มีมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเขาเหมือนดั่งได้สั่งสมประกายของสายน้ำแห่งกาลเวลาเอาไว้อย่างนั้น พราวพร่างและเจิดจรัส โลกของมนุษย์ปุถุชนเป็นหมื่นยุคก็ไม่สามารถทำให้มันสูญสลายไปตามกาลเวลาได้
ขณะที่จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ได้พวยพุ่งประกายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมานั้น ปณิธานสูงสุดส่งเสียงดังตูมตามไม่ขาดสาย เปลวเพลิงของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่รุนแรงเสมือนดั่งเป็นพัดขนาดใหญ่ที่ทำหน้าที่โบกพัด โดยที่ปณิธานสูงสุดของหลี่ชิเย่ที่โบกพัดอย่างรุนแรง ไม่เพียงโบกเอาคลื่นทะเลความมืดให้พลิกขึ้นมา ยิ่งกว่านั้นยังโบกพัดจนประกายศักดิ์สิทธิ์โหมไหม้รุนแรงยิ่งขึ้น
ถ้าหากจะกล่าวว่า ความมืดของบรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยคือไม้ฟืน ประกายศักดิ์สิทธิ์ของนักปราชญ์ก็คือเชื้อไฟ เช่นนั้นแล้ว จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ก็คือพัดขนาดใหญ่ที่โบกพัดให้เกิดลม ยามที่มันโบกพัดอย่างรุนแรงนั้นเท่ากับเป็นการโบกพัดให้ประกายศักดิ์สิทธิ์เผาไหม้ความมืดมิดอย่างรุนแรง
จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของนักปราชญ์ส่งเสียงดังตูมตาม เมื่อได้รับการการสนับสนุนจากพลังจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของหลี่ชิเย่ ตูม ตูม ตูมเสียงดังตูมตามดังไม่ขาดสาย ประกายศักดิ์สิทธิ์ได้พวยพุ่งประกายที่ไม่มีสิ้นสุดออกมาจากทะเลดำมืดที่อยู่ลึกลงไป ทำการเผาผลาญความมืดทั้งยุคสมัยอย่างบ้าคลั่ง
จี๊ด จี๊ด จี๊ดเสียงลุกไหม้อย่างรุนแรงดังขึ้น ความมืดถูกเผาไหม้อย่างรุนแรง ในช่วงเริ่มแรกยุคสมัยไกลกันดารมองไปแล้วจะพบว่าเป็นทะเลที่ดำมิดไปทั้งผืน แต่ทว่า เวลานี้สามารถมองเห็นประกายที่ไม่มีสิ้นสุดบานเบ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเลกำลังเผาไหม้ความมืดมิดอยู่ โดยเริ่มจากบริเวณกึ่งกลาง ความสว่างแผ่ขยายออกไปรอบๆ ต้องการส่องสว่างให้ทั่วทั้งยุคสมัย ต้องการเผาผลาญความมืดดำทั้งหมดของยุคสมัยไกลกันดารจนไม่เหลือแม้เพียงน้อยนิด
ภาพเช่นนี้ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังเมื่อมองเห็นแล้วต้องรู้สึกหวั่นไหว เนื่องจากพลังลักษณะเช่นนี้หาใช่เป็นพลังของสัจธรรมอีกแล้ว และไม่ใช่พลังของเคล็ดวิชา แต่เป็นพลังของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่บริสุทธิ์
บรรพบุรุษไกลกันดารหลุนหุยมีหัวใจดวงหนึ่งที่ดำมืดปราศจากผู้เทียบเทียม นักปราชญ์มีหัวใจศักดิ์สิทธิ์ดวงหนึ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ขณะที่หลี่ชิเย่มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรดั่งหินผาที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้ดวงหนึ่ง
………………………………………………………