ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2081 สู้กับเหล่าราชันโดยลำพัง
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2081 สู้กับเหล่าราชันโดยลำพัง
คำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ทำให้พวกราชันเซียนเหรินเสียนต่างมองตากันและกัน โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
“กลับไปเถอะ โลกในอนาคตยังคงต้องการให้พวกเจ้าไปแบกรับ ร้อยชาติพันธุ์ยังคงต้องอาศัยพวกเจ้าเป็นกระดูกสันหลังในอนาคต อนาคตต้องการพวกเจ้ามากกว่า ณ ที่ตรงนี้วันนี้ต้องการข้าคนเดียวก็เพียงพอแล้วหละ” หลี่ชิเย่อมยิ้มและเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
“ในเมื่ออาจารย์พูดเช่นนี้ มู่เทียนขออำลาก่อน” ราชันเซียนมู่เทียนโค้งคำนับทีหนึ่ง แล้วคารวะอีกครั้ง จากนั้นล่องลอยจากไป
“ขอให้ท่านปรมาจารย์ประสบผลสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่ม” ราชันเซียนเหรินเสียนก็คารวะทีหนึ่งแล้วก็จากไป
“รอฟังข่าวดีจากท่านปรมาจารย์สังหารศัตรูทั่วหล้า” ราชันเซียนทุนยื่อหัวเราะเสียงดัง แสดงคารวะแล้วก็จากไป
ในเวลานี้ บรรดาราชันเซียน เซียนหวัง กระทั่งจอมเทพระดับสูงล้วนแล้วแต่ทยอยกันจากไป! เพียงชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็หายไปบนเส้นขอบฟ้า
มาคราวนี้ทุกคนต่างงงงันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นจอมราชันเซียนหวังที่ยืนเป็นผู้ชมด้านช้าง หรือจะเป็นจอมราชันและจอมเทพของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่าที่เข้าร่วมการสู่รบในครั้งนี้ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่งงงันไปสิ้น
เพียงแวบเดียว พวกของราชันเซียนทุนยื่อต่างไปจากจนเกลี้ยง เหลือไว้แต่เพียงหลี่ชิเย่คนเดียวเท่านั้นที่เผชิญหน้ากับจอมราชันและจอมเทพจำนวนหลายสิบคนของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่า!
“นี่ นี่เสียสติไปแล้วรึ?” จอมเทพระดับสูงที่ดูชมอยู่ด้านข้างต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำ ทั้งๆ ที่สามารถครองความได้เปรียบ แต่หลี่ชิเย่ในเวลานี้กลับสั่งให้พวกราชันเซียนทุนยื่อกลับไป ทำการต่อสู้โดยลำพังกับศัตรูทั้งหมด นี้มันบ้าไปแล้วชัดๆ คนๆ เดียวสู้รบกับกองทัพนับล้านของเผ่าเทพ เผ่ามาร เผ่าสวรรค์สามเผ่า มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้อย่างไรกัน
นี่ไม่เพียงมีจอมราชันระดับสูง ยังมีผู้ที่ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรอย่างราชันซื่อตี้อีกด้วย!
“คงไม่ใช่แอบซุ่มโจมตีกระมัง” กระทั่งมีผู้ที่รู้สึกสงสัย แม้แต่พวกของราชันเจี้ยนตี้ก็รู้สึกสงสัยว่าพวกของราชันเซียนทุนยื่อแสร้งทำเป็นไปจาก จากนั้นลอบซุ่มโจมตีพวกเขา
แต่ว่า พวกราชันเจี้ยนตี้เปิดเนตรฟ้าขึ้นมาสอดส่องไปทั่วฟ้าดิน ก็ไม่พบแม้แต่เงาของพวกราชันเซียนทุนยื่อ พวกราชันเซียนทุนยื่อไปจากแล้วจริงๆ
การที่พวกราชันเซียนทุนยื่อจากไปโดยไม่ลังเลย่อมมีเหตุผลอยู่ โดยเฉพาะราชันเซียนทุนยื่อที่เคยติดตามอีกาทมิฬมาก่อนเขาเข้าใจได้ หากอีกาทมิฬให้พวกเขาไปจากไม่เพียงแสดงว่าอีกาทมิฬมีความมั่นใจอย่างเด็ดขาด ยิ่งไปกว่านั้นก็คือจากมีการเข่นฆ่าที่สยองขวัญยิ่งกว่ากำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว! การที่เขาให้พวกเขาจากไปต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน
“อีกาทมิฬ เจ้ามีแผนชั่วอะไรอีกหละ?” เวลานี้ราชันซื่อตี้จ้องเขม็งที่หลี่ชิเย่ ท่าทางหนักแน่นจริงจัง กล่าวขึ้นมาช้าๆ
“ไม่มีแผนชั่วอะไร” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “ข้าแค่ต้องการฆ่าล้างครั้งใหญ่เท่านั้นเอง เมื่อไรที่ข้าเกิดความคิดอยากจะฆ่าคนขึ้นมาแม้แต่ตัวข้าเองก็ยังหวั่นๆ ดังนั้น ส่งพวกเขาไปก่อนก็เป็นการดี เมื่อไรที่ข้าฆ่าคนขึ้นมาแม้แต่คนของตนก็ฆ่าได้”
“วาจาสามหาวมาก เจ้าคิดว่าลำพังอาศัยเพียงคนเดียวสามารถสู้กับพวกเราทุกคนได้อย่างนั้นรึ?” เซียนหวังจุ้งเทียนส่งเสียงฮึแสดงความไม่พอใจออกมา แม้ว่าเขารู้ว่าอีกาทมิฬนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แต่ทว่า เขาไม่เชื่อว่าอาศัยตัวเขาเพียงคนเดียวสามารถเอาชนะพวกเขาทุกคนได้จริง ยิ่งไปกว่านั้นราชันซื่อตี้ก็อยู่ที่ตรงนี้ด้วย!
“จุ้งเทียน เจ้าไม่ต้องทำเป็นไม่ยอมรับ หากข้าตั้งใจแน่วแน่ที่จะฆ่าคนแล้วหละก็ ข้าไม่ได้มองเจ้าที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายอยู่ในสายตาเลยจริงๆ ขณะที่ข้าสังหารจอมราชันชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายนั้น เจ้ายังไม่ไร้เดียงสาไม่รู้อะไรอยู่เลย! ชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายก็แค่ขยะเท่านั้น!” ท่าทีของหลี่ชิเย่เฉยเมย เพียงจ้องมองเซียนหวังจุ้งเทียนด้วยท่าทีเย็นชาทีหนึ่ง
สีหน้าของเซียนหวังจุ้งเทียนพลันแดงก่ำ ตัวเขาที่เป็นถึงเซียนหวังชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยใด ไปอยู่ ณ จุดใดก็สามารถหมางเมินเหล่าผู้กล้า อยู่ในฐานะสามารถทำให้ใครก็ได้ต้องสั่นเทา เวลานี้ออกจากปากของอีกาทมิฬกลับกลายเป็นขยะ!
คำพูดที่อันธพาลยิ่งเช่นนี้ ทำให้บรรดาผู้ชมต่างใจหายใจคว่ำ ผู้ชมทั้งหมดล้วนแล้วแต่หวาดผวายิ่งนัก ดูจะวางอำนาจบาตรใหญ่เกินไป มองเซียนหวังชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายเป็นขยะ
“แน่นอน คำพูดนี้ของข้าไม่ได้เจาะจงเฉพาะตัวเจ้า” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่ มองวนไปรอบๆ ทั้งราชันเจี้ยนตี้ ราชันมารอวี่หลุนที่เป็นจอมราชันและจอมเทพทั้งหลาย อมยิ้มและกล่าวว่า “ข้าหมายถึงทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแล้วแต่เป็นขยะทั้งนั้น!”
ทุกคนพลันมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปมากทีเดียวเมื่อหลี่ชิเย่พูดออกมาเช่นนี้ ในฐานะที่เป็นจอมราชัน แม้ว่าพวกเขาจะมีท่าทีในการวางตัวทางสังคมมากเท่าไร มีความอดทนสูงเท่าไรก็ตาม เมื่อถูกผู้อื่นด่าว่าเป็นขยะซึ่งหน้า พวกเขาก็ไม่สามารถอดกลั่นความอัปยศนี้เอาไว้ได้ พวกเขาอยู่ในฐานะที่กระทืบเท้าทีหนึ่งก็สามารถทำให้ยุคสมัยทั้งยุคต้องสั่นเทา.Aileen-novel.
ในจำนวนพวกเขาทั้งหมดหนึ่งเดียวที่สงบนิ่งก็คือราชันซื่อตี้ แม้ว่าเขาจะมีท่าทีที่เงียบสงบ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภายในใจของเขาระมัดระวังมากและมีจิตใจที่หนักแน่นจริงจัง
เนื่องจากเขากับอีกาทมิฬเป็นศัตรูกันมาทุกยุคทุกสมัย ในโลกนี้คงไม่มีใครที่เข้าใจในตัวอีกาทมิฬมากไปกว่าเขาอีกแล้ว อีกาทมิฬสั่งให้พวกราชันทุนยื่อไปจากที่นี่ นั่นย่อมบ่งบอกว่าในนี้จะต้องมีแผนการร้ายที่น่าสยองขวัญอย่างยิ่ง
ภายในใจของราชันซื่อตี้เข้าใจเป็นอย่างดี อีกาทมิฬหาใช่คนที่มุทะลุ เขาจะไม่ทำสงครามที่ไม่มีความมั่นใจอย่างเด็ดขาด เขากล้าใช้ให้พวกราชันเซียนทุนยื่อไปจากที่นี่ ย่อมบ่งบอกว่าเขาที่ท่าไม้ตายที่น่ากลัวและสยองขวัญยิ่งกว่า กระทั่งเป็นท่าไม้ตายที่ไม่เว้นแม้แต่จอมราชันชะตาฟ้าสิบสองสายเช่นเขา!
“ดี ข้ากลับอยากจะรู้นักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งไปถึงระดับไหนกัน!” เวลานี้คนแรกที่ไม่ยอมรับก็คือราชันเจี้ยนตี้ เขาคำรามเสียงยาวออกมา ตึงกระบี่ยาวในมือออกจากฝัก หนึ่งกระบี่ที่ร่ายรำหมื่นยุค หนึ่งกระบี่พลันปรากฏ หมื่นยุคกลับตาลปัตร สรรพสิ่งมีชีวิตดับสูญ! พริบตาเดียวนั่นเอง หนึ่งกระบี่ที่วาดขวางออกไป เทพมารกลายเป็นเถ้าธุลี
ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้แม้แต่ระดับจอมราชันยังต้องใจหายใจคว่ำ รู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่งในใจ
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น หนึ่งกระบี่นี้ไม่ได้สังหารหลี่ชิเย่อย่างที่ได้จินตนาการเอาไว้ มองเห็นหัตถ์วัชระของหลี่ชิเย่ที่เจิดจ้าขึ้นมา อาศัยนิ้วทั้งสองหนีบกระบี่ของราชันเจี้ยนตี้เอาไว้
ตึง…เสียงกระบี่คำรามดังขึ้นอีกครั้ง เวลานี้กระบี่ยาวของราชันตี้เจี้ยนเสมือนหนึ่งสามารถสับหลีกออกไปได้พริบตาเดียวนั่นเอง ทั้งๆ ที่กระบี่ยาวของเขาถูกหลี่ชิเย่หนีบเอาไว้แล้ว กลับฟันเข้าไปที่ศีรษะของหลี่ชิเย่
“เคล็ดวิชากระบี่เยี่ยม…” หลี่ชิเย่คำรามเสียงยาวทีหนึ่ง ลืมตาทั้งสองขึ้น ปรากฏดวงดาวที่เจิดจ้า ต้นหญ้าต้นเล็กๆ งอกงามขึ้นมา ตามติดด้วยเสียงดังตึง ตึง ตึงแต่ละเสียงที่ดังขึ้นมา กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่มฉับพลันได้ฟันเข้าหาราชันเจี้ยนตี้ กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ทุกเล่มล้วนแล้วแต่พกพาอำนาจสูงสุดมาด้วย! น่ากลัวและปราศจากผู้ต่อกร
“ฟัน…”เมื่อราชันเจี้ยนตี้ต้องเผชิญกับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่มที่ฟันเข้าใส่ เขาคำรามเสียงยาวออกมา กระบี่ของเขาพลันย้อนกลับมาคุ้มครองกายา หนึ่งกระบี่กวาดล้างสิ้นหมื่นอาณาจักร ฉับพลันได้ทำการฟันกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จนขาดเล่มแล้วเล่มเล่า คมประกายกระบี่ใดๆ ยากที่จะเข้าใกล้ตัวเข้าแม้เพียงนิดเดียว!
“ปรมาจารย์ พวกเราจะสังหารท่าน!” เวลานี้ราชันมารหลงเชียง ราชันเทพเจี๋ยเตา พวกราชันมารอวี่หลุนที่เป็นจอมราชันทั้งหกพลันลงมือทันที บุกเข้าสังหารต่อหลี่ชิเย่
สมควรทราบว่าพวกของราชันมารหลงเชียง ราชันเทพเจี๋ยเตานั้น พวกเขาล้วนแล้วแต่เป็นกองกำลังพันธมิตรกับราชันเจี้ยนตี้ พวกเขาจะก้าวไปด้วยกัน!
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้เก้าอี้ที่หลี่ชิเย่นั่งอยู่พลันแตกละเอียด หลี่ชิเย่ลุกขึ้นยืนในทันที ตูมเสียงดังสนั่นขึ้น ชะตาฟ้าปรากฏขึ้นมา ลอยล่องเป็นนิรันดร์ กายเซียนทั้งสี่พลันส่งประกายเจิดจ้า! ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง อาณาจักรหนักอืด อาณาจักรล่มสลายถูกเปิดออก และแผ่ขยายตัวออกไปอย่างบ้าคลั่ง
เสียงปัง ปัง ปังดังกึกก้อง หมัดแต่ละหมัดของหลี่ชิเย่ที่ปล่อยออกไป ทุกๆ หมัดล้วนแล้วแต่เข้าขย่มต่อพวกของราชันมารหลงเชียง ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้นมา หลี่ชิเย่สู้รบกับพวกของราชันมารหลงเชียงที่เป็นจอมราชันทั้งหกภายใต้สองอาณาจักรใหญ่
เสียงตึง ตึง ตึงดังขึ้น พวกของราชันมารหลงเชียงไม่ได้เปรียบอะไรเลยภายใต้สองอาณาจักรใหญ่ ล้วนแล้วแต่ถูกหมัดแต่ละหมัดของหลี่ชิเย่ขย่มเอาไว้
“เปิด…” ในเวลานี้ สีหน้าของพวกราชันมารหลงเชียงพลันเปลี่ยนไป ทั่วทั้งร่างกลับกลายเป็นเจิดจ้าขึ้นมาโดยพลัน เสียงตูม ตูม ตูมดังสนั่นไม่ขาดสาย นาทีนี้ชะตาฟ้าของพวกเขาล้วนแล้วแต่พุ่งทะยานขึ้นมา ราชันมารหลงเชียง ราชันมารอวี่หลุนต่างมีชะตาฟ้าปรากฎขึ้นมาคนละสิบสาย ราชันเทพเจี๋ยเตามีชะตาฟ้าเก้าสาย…
ยามที่ชะตาฟ้าทั้งหมดของจอมราชันทั้งหกปรากฏขึ้นมานั้น ฉับพลันนั้นเอง พลังของชะตาฟ้าได้ตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน พลังอำนาจของชะตาฟ้าหลายสิบสายพลันปรากฏขึ้นมา ไม่มีการเก็บงำใดๆ แต่อย่างใด ไม่มีการซ่อนเร้นแม้แต่น้อยนิด พลังทั้งหมดล้วนแล้วแต่ส่งเสียงดังตูมตามขึ้นในทันที และอาละวาดไปทั่วหล้าอย่างบ้าคลั่ง!
เสียงตูม…ดังสนั่น พริบตาเดียวนั่นเอง ชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายของราชันเจี้ยนตี้พุ่งขึ้นบนท้องฟ้า ตามติดด้วยพลังลมปราณทั่วร่างของเขาที่พวยพุ่งออกมา พลังที่ศักดิ์สิทธิ์สายหนึ่งตลบอบอวลไปทั่วฟ้าดิน
ทันใดนั้นเอง พลังศักดิ์สิทธิ์สายนี้ของราชันเจี้ยนตี้ได้กลับกลายเป็นอาณาจักร พลังอำนาจลักษณะเช่นนี้เสมือนหนึ่งได้รับการประทานมาจากสวรรค์อย่างนั้น มันได้ทะลุผ่านอาณาจักรทั้งสองของหลี่ชิเย่ อาศัยอานุภาพของสวรรค์เข้าสยบต่อหลี่ชิเย่ อานุภาพศักดิ์สิทธิ์สายนี้ไม่เพียงต้องการสยบหลี่ชิเย่เอาไว้ ยังต้องการบั่นทอนพลังลมปราณของหลี่ชิเย่ให้อ่อนลง ลดทอนพลังของหลี่ชิเย่ลงมา
“สายเลือดเซิ่นฉวน…” ผู้คนจำนวนมากที่ดูชมอยู่รอบๆ ต่างมีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไป เมื่อมองเห็นพลังศักดิ์สิทธิ์ลักษณะเช่นนี้ที่กลับกลายเป็นอาณาจักร
สายเลือดเซิ่นฉวนคือหนึ่งในสองสายเลือดโบราณของเผ่าสวรรค์ หนึ่งในแปดสายเลือดโบราณของสิบสามทวีป สายเลือดเทียนฉวนในฐานะที่เป็นสายเลือดเซียนของเผ่าสวรรค์ มันมีสุดยอดพลังอำนาจสูงสุดในการปราบปราม บั่นทอน และสยบเป็นต้น อีกทั้งในฐานะที่เป็นหนึ่งในสองสายเลือดโบราณของเผ่าสวรรค์ สายเลือดเทียนฉวนมีพลังอำนาจบั่นทอน และปราบปรามที่เป็นสองพลังอำนาจสูงสุดในครอบครอง
เมื่อไรที่มีการสำแดงพลังอำนาจของสายเลือดเช่นนี้ออกมา มันสามารถทำการปราบปรามคู่ต่อสู้ได้โดยพลัน ทำการบั่นทอนระดับทักษะและพลังลมปราณของคู่ต่อสู้ให้อ่อนลงโดยพลัน กระทั่งสามารถทำให้ระดับทักษะของคู่ต่อสู้ลดลงหนึ่งระดับ ลองนึกภาพดู การที่สามารถทำให้ทักษะของคนผู้หนึ่งลดระดับลงได้หนึ่งระดับ มันช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด!
ราชันเจี้ยนตี้เป็นจอมราชันที่มีชะตาฟ้าสิบเอ็ดสาย ยามที่สายเลือดเซิ่นฉวนถูกสำแดงออกมาโดยตัวของเขา อานุภาพย่อมไม่ธรรมดา ต่อให้เป็นจอมราชันเซียนหวังที่มีจำนวนชะตาฟ้าสิบเอ็ดสายในครอบครองเท่ากันต่อสู้ชี้ขาดกับเขา ภายใต้สายเลือดเซิ่นฉวนของเขาก็ต้องตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้าย
แว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ลัคนาจตุลักษณ์ของหลี่ชิเย่พลุ่งพล่าน ลัคนาจตุลักษณ์ปรากฏขึ้นมาและลอยล่องอยู่รอบๆ กายของหลี่ชิเย่และทำการปกป้องหลี่ชิเย่เอาไว้ อานุภาพของสายเลือดเซิ่นฉวนไม่สามารถคุกคามต่อหลี่ชิเย่ได้
“ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่าสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ก็ดี หรือสายเลือดเซียนก็ช่าง สายเลือดทั้งหมดของพวกเจ้าล้วนไม่มีผลต่อข้า” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
ปังเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้ลัคนาได้เปิดออก สิบสองเทพมารพุ่งตัวออกมา ได้ยินเสียงดังจี๊ดขึ้นมา เทพมารทั้งสิบสองพลันรวมร่างเข้าด้วยกัน ในเสี้ยววินาทีนั่นเองก็หลอมรวมเข้าเป็นร่างเดียวกันกับหลี่ชิเย่!
พริบตาเดียวนั่นเอง หลี่ชิเย่เสมือนมีสิบสองกายเซียนอยู่ในครอบครองอย่างนั้น พริบตาเดียวนั้นเองพลังที่ปะทุออกมาจากร่างกายของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
เสียงตูม…ดังสนั่นขึ้นมา ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ลัคนาแต่ละหลังของหลี่ชิเย่พลันพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ปรากฏสิบสามลัคนาลอยล่อง! มันได้ทิ้งพลังขมุกขมัวที่ไม่มีสิ้นสุดลงมา ฉับพลันนั้น หลี่ชิเย่เสมือนหนึ่งก้าวข้ามมาจากอดีตกาลอย่างนั้น เขากลับกลายเป็นผู้ดำรงอยู่ในฐานะปราศจากผู้ต่อกรนับแต่อดีตกาล! กลายร่างเป็นผู้ที่ดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ไม่มีวันดับสูญ
พลังขมุกขมัวตลบอบอวลไม่มีสิ้นสุด หลี่ชิเย่ในเวลานี้ก็คือโลกใบนี้ โลกใบนี้ก็คือหลี่ชิเย่ หลี่ชิเย่ได้ก้าวแซงล้ำหน้าทุกสิ่งทุกอย่างภายใต้สิบสามลัคนานี้!