ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2219 หมางเมินเหล่าผู้กล้า
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2219 หมางเมินเหล่าผู้กล้า
เพียงชั่วพริบตาเดียว หลี่ชิเย่ได้เดินไปถึงข้างๆ สระบงกชแล้ว เขาเพียงกวาดสายตามองออกไปยังดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟเท่านั้นเอง สำหรับพวกของคุณชายหุยชุน เขาขี้คร้านจะไปสนใจ
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้ายังกล้ามาที่นี่อีก” เมื่อหวูเลี่ยนได้สติกลับมาจึงร้องตวาดออกไป และรายงานต่อคุณชายหุยชุนทันทีว่า “คุณชาย เขานี่แหละที่พูดจาเหยียดหยามแคว้นว่านโซ่วของพวกเรา”
เวลานี้หวูเลี่ยนไม่เอ่ยถึงเรื่องที่ตนผูกความแค้นกับหลี่ชิเย่ และไม่พูดถึงเรื่องที่หลี่ชิเย่บังคับให้ตนกินดินโคลน แต่พูดถึงเรื่องที่หลี่ชิเย่พูดจาเหยียดหยามแคว้นว่านโซ่วโดยตรง เขาต้องการลากเอาหลี่ชิเย่ถึงขั้นเป็นศัตรูกับแคว้นว่านโซ่วทั้งหมด
คุณชายหุยชุนถึงกับขมวดคิ้วขณะจ้องมองดูหลี่ชิเย่ เอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “การกระทำของท่านออกจะเกินไปแล้วกระมัง ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ผ่านมา วันนี้เหล่าบรรพบุรุษ และผู้กล้าต่างกำลังนั่งบัวบรรลุธรรม ท่านบุกรุกเข้ามาก่อเรื่องโดยพละการ นี่มันเท่ากับไม่เห็นบรรดาบรรพบุรุษผู้ทรงคุณธรรมมีความรู้และชื่อเสียงโด่งดังอยู่ในสายตา!”
คำพูดของคุณชายหุยชุนดูมีระดับมากยิ่งกว่าหวูเลี่ยนเสียอีก เขาไม่เพียงอยู่ในฐานะเป็นตัวแทนของแคว้นว่านโซ่ว ขณะเดียวกันยังได้ลากหลี่ชิเย่เข้าไปเป็นศัตรูกับบรรดาเหล่าบรรพบุรุษที่อยู่ในเหตุการณ์อีกด้วย
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า “สถานที่ตรงนี้ใช่ว่าจะเป็นบ้านของเจ้า ข้าคิดอยากจะมาก็มา คิดอยากจะทำอะไรก็ได้ หากมีใครมาขวางทางข้า ก็จัดการสั่งสอนมันให้สาสมก็แล้วกัน”
คำพูดที่ตรงและอันธพาลเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ง่ายๆ และป่าเถื่อน ทำให้ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนที่อยู่ด้านนอกหุบเขาได้ยินแล้วต่างรุ้สึกสะใจอย่างยิ่ง การที่พวกของคุณชายหุยชุนยึดเอาสระบงกชเอาไว้เฉพาะสำหรับตนเอง โดยไม่ให้ผู้อื่นเข้าไปได้สร้างความไม่สบอารมณ์ให้กับยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนอยู่ในใจเป็นจำนวนมาก เพียงแต่พวกเขาได้แต่โกรธแค้นแต่ไม่กล้าพูดออกมาเท่านั้น
เวลานี้หลี่ชิเย่บุกรุกเข้าไปยังสระบงกชโดยตรง เผยความพาลออกมาฟาดใส่หน้าของคุณชายหุยชุนโดยตรง ทำให้ผู้คนไม่รู้จำนวนเท่าไรที่รู้สึกสบายอกสบายใจ และช่างสะใจอย่างนั้น
คุณชายหุยชุนถึงกับทำหน้าบึ้งตึง เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า “ดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟในสระบงกชมีจำนวนจำกัด บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสจะได้สิทธิ์ชำระกายาบรรลุสัจธรรมก่อน มันคือกฎเกณฑ์ที่มีมาเป็นพันล้านปี…”
“กฎกงกฎเกณฑ์อะไร” หลี่ชิเย่สะบัดมือตัดบทคำพูดของคุณชายหุยชุน หัวเราะและกล่าวว่า “ในสายตาของข้า จะเป็นกฎเกณฑ์อะไรก็ไม่คู่ควรจะกล่าวถึง คำพูดของข้าก็คือกฎเกณฑ์! ดังนั้น วันนี้สระบงกชนี้ข้าเหมาเอาไว้หมดเลย”
ฉับพลันที่หลี่ชิเย่คำพูดนี้ออกมา ทำให้สีหน้าของคุณชายหุยชุนเปลี่ยนไปมากทีเดียว บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสก็มีสีหน้าที่แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน คำพูดเช่นนี้คืออันธพาลและถืออำนาจบาตรใหญ่ ถ้าหากหลี่ชิเย่ยึดครองสระบงกชนี้เอาไว้เพียงคนเดียว ต่อไปพวกเขายังจะทำอะไรได้อีก?
“อวดดีมากเหลือเกิน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร” อัจฉริยะบุคคลของตระกูลขุนนางโบราณอดกลั้นเอาไว้ไม่ได้ จึงออกปากตำหนิหลี่ชิเย่ทันที
“เจ้าคนที่ไม่รู้จักคำว่าตาย อยู่ต่อหน้าบรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสทั้งหลาย ต่อหน้าคุณชายของพวกเรา ถึงกับกล่าววาจาสามหาวไร้ยางอาย!” หวูเลี่ยนร้องตวาดเสียงดังขึ้นมาว่า “วันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างไร้ที่ฝัง!”
เวลานี้ คุณชายหุยชุนก็จ้องเขม็งไปที่หลี่ชิเย่อย่างน่าเกรงขาม และกล่าวขึ้นมาช้าๆ ว่า “หากว่าท่านต้องการยึดครองสระบงกชไว้แต่เพียงผู้เดียวก็ต้องแสดงฝีมือออกมา ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ที่คิดจะใช้ประโยชน์จากดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟต้องเรียงตามลำดับอาวุโส เกรงว่าวันนี้คงยังไม่ถึงทีของเจ้าที่จะมารั้งอยู่ที่ตรงนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าคิดอยากจะยึดครองสระบงกชไว้แต่เพียงผู้เดียว! พูดคำที่ไม่น่าฟังก็คือ ท่านยังไม่มีคุณสมบัติข้อนี้!”
เวลานี้คำพูดของคุณชายหุยชุนก็ไม่อ้อมค้อมแล้ว เขาพูดดันกลับไปทันที ภายใต้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะมันคือถิ่นของแคว้นว่านโซ่วพวกเขา คุณชายหุยชุนที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วหล้าเคยเกรงกลัวใครที่ไหนมาก่อนล่ะ เฉกเช่นหลี่ชิเย่ที่เป็นเพียงผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเขาจึงไม่ใส่ใจ ต่อให้หลี่ชิเย่เป็นยอดฝีมือเขาก็ไม่หวั่น
ในพื้นที่ของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ไม่ว่าจะเป็นยอดฝีมือเช่นใดก็ตาม หาญกล้าเป็นศัตรูกับแคว้นว่านโซ่วของพวกเขาคือการหาเรื่องลำบากใส่ตัว เป็นการรนหาที่ตายเอง!
“อย่างนั้นรึ?” เวลานี้ เสียงที่เย็นชาเสียงหนึ่งดังขึ้น และเอ่ยขึ้นมาช้าๆ ว่า “หากคุณชายหลี่ไม่มีสิทธิ์ แล้วใครล่ะที่มีสิทธิ์ เจ้ารึ?”
เสียงที่หยิ่งและเย็นชานี้ไพเราะน่าฟังยิ่งนัก ต่อให้เป็นคำพูดที่บีบคั้นจิตใจผู้คนก็ตาม ฟังดูแล้วก็มีความไพเราะน่าฟังเป็นอย่างยิ่ง ทุกคนต่างหันมองไปยังต้นเสียง มองเห็นด้านนอกหุบเขามีผู้หญิงที่เยี่ยมยอดยิ่งยืนอยู่คนหนึ่ง ผู้หญิงคนนี้มีบุคลิกลักษณะที่ปราศจากผู้เทียบเทียม รูปโฉมสวยหยาดเยิ้ม ทำให้ผู้พบเห็นต้องเคลิบเคลิ้มหลงใหล
“เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียง” ไม่รู้ว่าใครที่ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจเมื่อได้เห็นผู้หญิงคนนี้แล้ว
“เทพสงครามสตรีมาแล้ว” เวลานี้ทุกคนต่างรู้สึกมีกำลังวังชาขึ้นมา โดยเฉพาะผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ต่างมองดูรูปโฉมที่สวยหยาดเยิ้ม และบุคลิกน่าประทับใจของหวู่ปิงหนิงด้วยความรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง
เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงมีชื่อเสียงที่โด่งดัง ต่อให้เป็นผู้ที่ไม่เคยเห็นหน้าของนางมาก่อนก็รู้จักชื่อของนาง ยิ่งกว่านั้นยังมีจำนวนมากกว่าที่หลงใหลในความงามที่เลิศล้ำปราศจากผู้เทียบเทียมของนาง
“สมดังคำเล่าลือ เทพสงครามสตรีไม่เพียงมีทักษะที่สูงส่ง ทั้งยังมีรูปโฉมงามดั่งเทพธิดา” มีผู้บำเพ็ญตนหนุ่มอดที่จะชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
สำหรับผู้ที่เคยพบเห็นหวู่ปิงหนิงมาก่อน ถึงกับเคลิบเคลิ้มหลงใหลในตัวหวู่ปิงหนิงอย่างลึกซึ้งนานแล้ว และผู้ที่เพิ่งจะพบเห็นหวู่ปิงหนิงเป็นครั้งแรกนั้น มีอยู่จำนวนไม่น้อยถึงกับเหม่อลอย และเคลิบเคลิ้มหลงใหลจนลืมทุกสิ่งที่อยู่รอบข้างไปสิ้น
แม้แต่คุณชายหุยชุนเองก็ต้องรู้สึกเคลิบเคลิ้มหลงใหลขณะหวู่ปิงหนิงปรากฎ เขาไม่ได้พบเห็นหวู่ปิงหนิงเป็นครั้งแรก แต่กับผู้หญิงที่งดงามปราศจากผู้เทียบเทียมตรงหน้าแล้ว ผู้ที่มีความโดดเด่นเช่นเขาก็อดที่จะทุ่มเทความรักให้ตั้งแต่แรกพบ
“เทพสงครามสตรี” แม้แต่บรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้และอาวุโสก็ต้องแสดงความเคารพเมื่อหวู่ปิงหนิงก้าวเดินเข้ามา
สิ่งนี้ไม่เพียงเพราะหวู่ปิงหนิงมีชาติกำเนิดมาจากจูเซียงหวู่ถิง และไม่เพียงเพราะหวู่ปิงหนิงคืออัจฉริยะบุคคลของจูเซียงหวู่ถิง ยิ่งไปกว่านั้นก็คือคราวนี้กองทัพพันธมิตรบุกโจมตีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงนั้น หวู่ปิงหนิงได้ร่วมออกศึกเข้าโจมตีระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิลานกำแหงในฐานะตัวแทนกลุ่มคนรุ่นใหม่อีกด้วย
การรุกล้ำเข้าไปยังระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิของศัตรู อย่าว่าแต่กลุ่มคนรุ่นใหม่เลย ต่อให้เป็นรุ่นอาวุโสจำนวนมากก็ทำได้ยากนัก การที่หวู่ปิงหนิงติดตามกองทัพพันธมิตรไป ลำพังอาศัยข้อนี้ก็ควรค่าแก่การเคารพนับถือของผู้คนแล้ว
ครั้นหวู่ปิงหนิงเดินเข้ามาใกล้ คุณชายหุยชุนรีบเดินเข้าไปต้อนรับ เขาถูกหวู่ปิงหนิงดึงดูดเอาไว้อย่างสิ้นเชิง รีบหัวเราะเสียงดังขึ้นมาและกล่าวว่า “แม่นางปิงมาถึง ไม่ทันได้ต้อนรับด้วยตนเอง ขออภัยด้วย”
เวลานี้คุณชายหุยชุนที่มีรอยยิ้มเต็มใบหน้าได้แสดงท่วงท่าที่ตนเองเข้าใจว่าสง่าผ่าเผยและดูหล่อที่สุดออกมา โดยเฉพาะได้เผยรอยยิ้มที่เขาคิดว่าเป็นรอยยิ้มที่ดึงดูดผู้คนได้ดีที่สุดออกมา
แต่ว่าหวู่ปิงหนิงแค่มองดูเขาด้วยท่าทีเย็นชาทีหนึ่ง แล้วก้าวเดินไปยืนอยู่ข้างกายของหลี่ชิเย่
ท่าทีเช่นนี้ของหวู่ปิงหนิงสร้างความพะอืดพะอมให้กับคุณชายหุยชุน เขารีบกล่าวขึ้นมาว่า “ข้าได้เผื่อราชินีบัวไว้ให้กับแม่นางปิงไว้แล้ว ไฟบัวของมันเหมาะแก่การชำระกายาให้กับแม่นางปิงอย่างยิ่ง”
“ในเมื่อดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟคุณชายหลี่ได้เหมาเอาไว้หมดแล้ว ก็ต้องให้เขาเป็นผู้จัดสรร” หวู่ปิงหนิงเพียงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเมินเฉยขึ้นมา
หวู่ปิงหนิงกล่าวพลางได้คล้องแขนของหลี่ชิเย่ด้วยตนเอง ท่าทางดูสนิทสนมมาก และอ่อนโยนคล้อยตาม ประคองหลี่ชิเย่ก้าวเข้าไปยังสระบงกช ประคองก้าวเดินไปทีละก้าวๆ ขึ้นไปยังราชาบัวต้นนั้น
ครั้นหลี่ชิเย่ก้าวขึ้นไปยังราชาบัวนั่นแล้วก็เพียงแค่ยิ้มตามอารมณ์เท่านั้น ไม่ได้มองดูดอกบัวแห่งดินแดนต้นกำเนิดไฟมากนัก สายตาจ้องไปยังแมกมาที่อยู่ในสระนั่น
ทันใดนั้นเอง ทั่วทั้งสถานที่กลับกลายเป็นเงียบสงัดยิ่งนัก เวลานี้ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจเอาไว้ และทุกคนต่างอยู่ในลักษณะข้ามองดูเจ้า เจ้ามองดูข้า
ทุกคนล้วนแล้วแต่ตะลึงงันไปในทันที เทพสงครามสตรีแห่งจูเซียงคือเทพธิดาในใจของผู้คนนะเนี่ย ผู้คนจำนวนเท่าไรที่เคลิบเคลิ้มหลงใหลในตัวนาง ผู้คนจำนวนเท่าไรที่ทุ่มเทใจให้นางตั้งแต่แรกเห็น และมีอัจฉริยะบุคคลรูปงามจำนวนเท่าไรที่รักใคร่ในตัวของนางยิ่งนัก
แต่ทว่า มาวันนี้เทพสงครามสตรีกับแสดงออกให้เห็นถึงความเคารพและคล้อยตามเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ ช่างนุ่มนวลอะไรเช่นนั้น ทั้งยังประคองให้เขาขึ้นไปยังราชาบัวด้วยตนเอง เหมือนว่านางไม่เพียงเชื่อฟังต่อผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าทุกอย่าง ทั้งยังสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใดก็ตาม เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
นางคือเทพสงครามสตรีนะเนี่ย สตรีผู้สูงส่ง กิ่งทองใบหยกของจูเซียงหวู่ถิง นางหงส์ของเก้าชั้นฟ้า ช่างสูงส่งเพียงใด มีความหยิ่งผยองเย็นชาเช่นใด มาวันนี้กลับจะให้ความโปรดปรานผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อไร้เสียงเช่นนี้ อ่อนโยนและคล้อยตาม อ่อนหวานละมุนละไมให้กับผู้เยาว์ที่ไร้ชื่อไร้เสียงเพียงนี้ ภาพนี้นับว่าทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกรับไม่ได้
เวลานี้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองดูหลี่ชิเย่ด้วยความรู้สึกอิจฉา ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ถือว่าหลี่ชิเย่คือศัตรูโดยพลันอยู่ในใจ
ไม่ง่ายนักกว่าคุณชายหุยชุนจะได้สติคืนกลับมา เวลานี้หน้าของเขาดูจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อครู่เขายังคงมีสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและสมหวัง จินตนาการไปว่าได้ครอบครองสาวงาม เวลานี้ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าหวู่ปิงหนิงจะสนิทสนมกับหลี่ชิเย่ถึงเพียงนี้ หวู่ปิงหนิงถึงกับอ่อนโยนคล้อยตามกับหลี่ชิเย่ขนาดนี้ พลันทำให้เขาบังเกิดเพลิงริษยาที่สุมเต็มอก
เวลานี้คุณชายหุยชุนได้ส่งสายตาให้กับหวูเลี่ยนที่อยู่ข้างกาย
หวูเลี่ยนคือสุนัขรับใช้ข้างกายของคุณชายหุยชุน พลันที่เห็นสายตาของคุณชายหุยชุนก็เข้าใจทันที จึงก้าวเดินออกไปทันทีและตวาดเสียงดังต่อหลี่ชิเย่ว่า “เจ้าเดรัจฉานน้อย ที่นี่คือถิ่นของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอมตะของพวกเรา ไหนเลยปล่อยให้เจ้าทำกำเริบเสิบสานได้…”
“…เจ้าคิดจะยึดครองสระบงกชเอาไว้คนเดียวอย่าฝันไปหน่อยเลย อย่าว่าแต่แคว้นว่านโซ่วพวกเรายอมไม่ได้ แม้แต่บรรดาเหล่าบรรพบุรุษ และสำนักเจ้าลัทธิหรือตระกูลขุนนางโบราณที่อยู่ที่ตรงนี้ก็ยอมไม่ได้! ที่ตรงนี้ไหนเลยปล่อยให้เจ้ามากำเริบเสิบสานได้ ถึงกับดูแคลนต่อเหล่าบรรพบุรุษ เจ้าคงเบื่อที่จะอยู่บนโลกอีกแล้ว…” เมื่อได้รับคำสั่งจากคุณชายหุยชุน หวูเลี่ยนก็ดูจะใจกล้ามากขึ้นกว่าเดิม
ทันใดนั้น ได้ยินเสียงดังจี๊ดขึ้นมา หวูเลี่ยนพูดยังไม่ทันจบคำ หลี่ชิเย่ยื่นมือขนาดใหญ่มาพลันจับตัวหวูเลี่ยนเอาไว้ และกดตัวเขาลงไปในแมกมานั่น
หวูเลี่ยนร้องอ๊ากกขึ้นมาทันทีที่ถูกจับกดลงไปในแมกมาเหลว และแมกมาได้หลอมละลายร่างกายบางส่วนของเขาในทันที มองเห็นควันลอยโขมงขึ้นมา ชิ้นส่วนร่างกายที่ถูกหลอมละลายกลับกลายเป็นเถ้าธุลีไปทันที
“คุณชาย ช่วย ช่วยข้า” ในพริบตาเดียวนั่นเอง หวูเลี่ยนตกใจจนวิญญาณแทบออกจากร่าง เขานึกไม่ถึงว่ามีคุณชายหุยชุนอยู่ด้วย มีบรรดาบรรพบุรุษผู้มีความรู้อยู่ในเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก หลี่ชิเย่ถึงกับกล้าลงมือโดยตรง
“บังอาจ จะรังแกกันเกินไปแล้ว คิดว่าแคว้นว่านโซ่วไม่มีคนรึ?” ในขณะนี้ คุณชายหุยชุนได้ก้าวออกมาและตวาดเสียงดังขึ้นมา
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น เวลานี้กระบี่เทวะในมือของคุณชายหุยชุนชี้ไปยังหลี่ชิเย่ ร้องกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “เจ้าคนแซ่หลี่ อย่าให้ตัวเองต้องเดือดร้อน รีบๆ ปล่อยตัวศิษย์แคว้นว่านโซ่วของข้าเสีย มิฉะนั้นล่ะก็จะถือว่าเจ้าประกาศศึก แคว้นว่านโซ่วของพวกเราจะไม่ขออยู่ร่วมโลกกับเจ้า! ไม่ตายไม่เลิกรา”
“แค่สู้กับแคว้นว่านโซ่วพวกเจ้าเท่านั้นเอง ใยจะต้องหวั่น” หลี่ชิเย่ยังไม่ทันได้พูดอะไรออกมา หวู่ปิงหนิงก็ได้ก้าวเดินออกมาและกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมาว่า “สังหารเจ้าใยต้องให้คุณชายลงมือ หากเจ้าต้องการต่อสู้ ข้าลงมือก็เพียงพอแล้ว!”
พลันที่หวู่ปิงหนิงก้าวออกมา บุคลิกลักษณะอันองอาจห้าวหาญที่อยู่เหนือผู้คนปรากฏ นางที่มีความงดงามยิ่งแสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติประจำตัวที่เหนือผู้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้ผู้คนต้องใจเต้นตูมตามเพราะนาง