ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2250 ลุ้นให้สาวงามเผยรอยยิ้ม
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2250 ลุ้นให้สาวงามเผยรอยยิ้ม
“จะว่านั้นก็ได้” หลี่ชิเย่ยังคงวุ่นวายกับสิ่งที่ทำอยู่ ตอบขึ้นมาคำหนึ่ง
“ขุดไม้เย่ามู่รึ?” ชายหนุ่มบนเรือจำนวนไม่น้อยรู้สึกสนใจเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนี้ กล่าวสำหรับพวกเขาแล้ว ไม้เย่ามู่ก็เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและหาได้ยากยิ่ง
“ถ้าหากเจ้าสามารถขุดไม้เย่ามู่ออกมาได้สักท่อนหนึ่งล่ะก็รวยแน่ๆ เลย พลิกชีวิตกลับมาร่ำรวย ไม่แน่นักอาจสามารถเข้าไปอยู่ในสำนักที่ดีๆ ได้” มีผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่พูดล้อเล่นกับหลี่ชิเย่
แน่นอน พวกเขาล้วนแล้วแต่ไม่เคยพบเห็นหลี่ชิเย่มาก่อน ไม่รู้ว่าผู้ชายที่ธรรมดาคนนี้ก็คือผู้ชายแซ่หลี่ที่พวกเขาพูดถึงเมื่อครู่
“ไม้เย่ามู่ชิ้นหนึ่งเท่านั้นเอง จะมีค่าเท่าไรเชียว” หูชิงหนิวที่หยิ่งยโสและเย็นชาเพียงมองหน้าหลี่ชิเย่แวบหนึ่ง กล่าวดูเคลนว่า “เคยมีเทพแท้จริงคนหนึ่งหอบเอาไม้เย่ามู่มาหีบหนึ่งมาขอให้ข้ารักษาให้ ข้ายังไม่มองเสียด้วยซ้ำ” ครั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้แล้ว แอบเหลือบมองฉินซาวเย่าทีหนึ่ง
เมื่ออยู่ต่อหน้าฉินซาวเย่าที่ปรกติขี้คร้านแม้แต่จะพูดก็อยากจะแสดงตัวอย่างยิ่ง และพูดมากขึ้นมาแล้ว ขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการอวดอ้างตนเองต่อหน้าฉินซาวเย่า ให้ฉินซาวเย่าได้รู้ว่าตนเองนั้นมีความยอดเยี่ยมเพียงใด มีของวิเศษจำนวนเท่าไร และมีฐานะที่สูงส่งเช่นใด
แต่ว่า ฉินซาวเย่าไม่ได้ให้ความสนใจแม้แต่น้อยสำหรับคำพูดที่เย่อหยิ่งของหูชิงหนิว เพียงใจจดใจจ่ออยู่กับการปั้นหลุมโคลนของหลี่ชิเย่เท่านั้น
คำพูดที่อวดดีของหูชิงหนิวทำให้กลุ่มคนรุ่นใหม่บางคนที่อยู่บนเรือรู้สึกไม่สบอารมณ์นัก เหมือนว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่โอ้อวดต่อหน้าเทพธิดาฉินเป็นอย่างนั้น แต่ทว่า แม้ว่าพวกเขาจะไม่สบอารมณ์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หูชิงหนิวมีต้นทุนเพียงพอที่จะอวดดี วิชาแพทย์ของเขานับว่ายอดเยี่ยมจริงๆ ไม่รู้มีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ทุ่มเงินทองมหาศาลขอให้เขาช่วยรักษา เขายังไม่สนอย่างดูแคลน
จางเหยียนถึงกับเอามือแตะที่หน้าผาก รู้สึกว่าพูดอะไรไม่ออกโดยสิ้นเชิง หูชิงหนิวเป็นคนที่พร้อมจะทำให้การสนทนาต้องสิ้นสุดลง ฝีมือในการทำให้กร่อยเช่นนี้คงไม่มีใครอีกแล้ว หากไม่เป็นเพราะเขารู้จักกับหูชิงหนิวมานานแล้วล่ะก็ เขาอยากจะถีบให้ตกลงไปในบึง มันเป็นการทำให้เขาต้องเสียโอกาสในการจีบหมอเทวดาหญิงไป
“คิดจะขุดไม้เย่ามู่จากสถานที่เช่นนี้ไม่ง่ายนัก” จางเหยียนได้แต่ปรับบรรยากาศให้ดีขึ้น ขิ้มกล่าวว่า “ไม้เย่ามู่ส่วนใหญ่แล้วจะจมอยู่ใต้น้ำในลำธารที่ลึก ชายหาดที่เป็นดินโคลนเช่นนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะมีไม้เย่ามู่ เนื่องจากไม้เย่ามู่หนักเหมือนเหล็ก ที่นี่คือบึงโอสถ ต่อให้มีไม้เย่ามู่จริงก็จมลงใต้บึงแล้ว เป็นไปได้อย่างไรที่จะลอยขึ้นมาอยู่บนดินเล่า ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะอยู่ในดินโคลน”
“หมอเทวดามู่ และเทพธิดาฉินที่อยู่ตรงนี้กับพวกเราต่างก็เป็นปรมาจารย์ทางด้านนี้ ถ้าหากสามารถได้รับการชี้แนะจากนางสักคำสองคำ ไม่แน่นักเจ้าอาจจะสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้จริงๆ หมอเทวดามู่เป็นผู้ที่อาศัยไม้เย่ามู่ในการเข้าญาณเป็นประจำ ขอเพียงนางดมกลิ่นนิดหนึ่งก็รู้ว่าบริเวณไหนมีไม้เย่ามู่ อยู่ต่อหน้าพระแท้จริงเช่นนี้ เจ้าสามารถขอให้ช่วยได้”
ในขณะนี้ จางเหยียนกล่าวชมมู่หย่าหลันโดยไม่ทิ้งร่องรอย หวังชนะใจสาวงามให้ได้
แน่นอน จางเหยียนเองก็ไม่ได้ใจดีที่ไปชี้แนะต่อหลี่ชิเย่ แค่ต้องการอาศัยโอกาสนี้ทำให้สาวงามมีความนิยมชมชื่น และเบี่ยงแบนหัวข้อสนทนาออกไป ทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้น มีเพียงทำเช่นนี้จึงจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดสาวงาม มิฉะนั้น หากทุกคนอยู่ในสภาพที่กร่อยแบบนี้ ไม่สามารถทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาได้ ไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดอยู่แล้ว
เพียงแต่ปฏิกิริยาของมู่หย่าหลันยังคงเย็นชาอย่างยิ่ง ยังคงยืนท่าทีเหินห่างอย่างนั้น จ้องมองดูหลี่ชิเย่
“ที่แท้เป็นอย่างนี้นะเนี่ย” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา เงยหน้ามองดูมู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “ดูท่าข้าควรจะขอพระแท้จริงแล้วล่ะ”
“คิดจะได้รับการชี้แนะจากหมอเทวดามู่และเทพธิดาฉิน ก็ไม่ดูว่าตัวเองเป็นใคร” หูชิงหนิวกล่าวเย็นชาว่า “เฉกเช่นเจ้าที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาเหมือนไม้ผุที่ไม่สามารถแกะสลักได้ ต่อให้ชี้แนะเจ้าก็ฟังไม่เข้าใจ”
เป็นการราดน้ำเย็นลงมาอีกตามเคย จางเหยียนถึงกับกุมขมับและร้องครวญครางออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อต้องมาเจอกับเจ้าแห่งความกร่อย ต้องยอมอย่างสิ้นเชิง
“ผู้ที่มีปณิธานเด็ดเดี่ยวย่อมประสบผลสำเร็จ ขอเพียงเจ้าพยายามไม่คลาย ไม่แน่นักอาจสามารถขุดเอาไม้เย่ามู่ได้บ้าง” สุดท้ายจางเหยียนได้แต่พูดเช่นนี้
เวลานี้เขาไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ไม่ง่ายนักทุกครั้งกว่าที่เขาจะดึงหัวข้อสนทนาขึ้นมาได้ แต่แค่คำพูดที่อวดดีอย่างยิ่งประโยคเดียวก็ทำให้บรรยากาศเย็นลงทันที
จางเหยียนอยากจะพูดออกมาว่า พี่ท่าน ต่อให้คิดจะโอ้อวดก็ต้องดูโอกาสดูจังหวะให้ดี ทุกครั้งก็ทำให้การสนทนาต้องชะงักลง แล้วทุกคนยังจะพูดคุยกันได้อย่างมีความสุขรึ? ยังจะทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาได้รึ?
“ทุกเรื่องราวล้วนแล้วแต่มีความเป็นไปได้” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
“ฮึ หากดินโคลนเช่นนี้ยังขุดเอาไม้เย่ามู่ขึ้นมาได้ล่ะก็ มันคือสุดปาฏิหาริย์ในหล้าแล้ว” หูชิงหนิวยิ่งมองหลี่ชิเย่แล้วยิ่งไม่สบอารมณ์
เหตุผลนั้นง่ายมาก ไม่ว่าเขาเอาใจต่อฉินซาวเย่าอย่างไรก็ตาม นางไม่เคยจะมองหน้าตนเองมากกว่าสักครั้ง ขณะที่กับผู้ชายที่ธรรมดากลับสามารถดึงดูดความสนใจของนางได้อย่างง่ายดาย แล้วจะไม่ให้ในใจของหูชิงหนิวดูไม่สบอารมณ์เป็นพิเศษกับผู้ชายธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างไร
“อย่างนั้นรึ?” หลี่ชิเย่เองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพียงตอบรับตามอารมณ์คำหนึ่ง
“ฮึ ถ้าหากสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้คือความมหัศจรรย์ ข้าจะมอบโชคให้กับเจ้า” หูชิงหนิวมีท่าทีดูแคลน และข่มเหงเหนือผู้คน กล่าวเสียงเย็นชาขึ้นมา
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ลองพนันกันดูก็ได้” คำพูดเช่นนี้ของหูชิงหนิวทำให้จางเหยียนเห็นอะไรบางอย่าง พลันมีแนวความคิดที่ดียิ่งกว่า
“พี่หูคืออัจฉริยะบุคคลของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ลงมือต้องไม่ธรรมดาแน่ ถ้าหากเจ้าสามารถเอาชนะเขาได้ จะทำให้เจ้าได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว” จางเหยียนรีบยิ้มกล่าวกับหลี่ชิเย่
หูชิงหนิวส่งเสียงฮึออกมาและกล่าวว่า “พนันก็พนัน ไม่เห็นจะหนักหนาอะไร ข้ามียาครีมสวรรค์เอ็นพยัคฆ์อยู่ขวดหนึ่ง ถ้าหากเจ้าสามารถขุดไม้เย่ามู่ได้ชิ้นหนึ่ง มันก็จะเป็นของเจ้า”
“ยาครีมสวรรค์เอ็นพยัคฆ์ ยาศักดิ์สิทธิ์นะเนี่ย” ครั้นเห็นหูชิงหนิวนำเอายาครีมขวดหนึ่งวางอยู่ตรงนั้นตามอารมณ์ ได้สร้างความฮือฮาขึ้นมาไม่น้อย ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
“ได้ยินมาว่ายาชนิดนี้ของหมอเทวดาหูเคี่ยวโดยใช้เอ็นของพยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถรักษาอาการบาดเจ็บทุกชนิด ยาครีมถึงแผลหาย กระทั่งทำให้กระดูกขาวมีเนื้อฟื้นฟูขึ้นมาเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก” ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่ถึงกับชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
สีหน้าของหูชิงหนิวถึงกับเผยรอยยิ้มที่ลำพองขึ้นมาเมื่อได้รับคำชื่นชมเช่นนี้ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโสเย็นชาว่า “ยาครีมนี้ผลิตโดยตำราลับของข้า เรียกได้ว่าประเมินค่าไม่ได้ เคยมีสำนักเจ้าลัทธิให้ราคาที่สูงลิบลิ่วเพื่อซื้อตำราลับนี้ของข้า แต่ถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง” เมื่อเอ่ยถึงตรงนี้แล้ว เขาแอบเหลือบมองฉินซาวเย่าทีหนึ่ง
“ดูท่าเจ้านี้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ยอดเยี่ยมมากน่ะสิ หยิบออกมาได้หรูหราเหลือเกิน” หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าว
ท่าทางหลี่ชิเย่ที่แกล้งเซ่อแกล้งโง่ ทำให้มู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าต่างรู้สึกขำ นี่เขาจะแกล้งคนอีกแล้ว พวกนางก็ไม่ไปเฉลย
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว” จางเหยียนสังเกตสีหน้าแล้ว หัวเราะและกล่าวว่า “ถ้าหากแม้แต่ชื่อของหมอเทวดาหูเจ้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนล่ะก็ เจ้าคือกบในกะลาแล้วล่ะ ไหนๆ พี่หูก็ลงมือแล้วก็เพิ่มขึ้นอีกหน่อย ให้ทุกคนได้รับรู้ถึงความหรูหราของพี่หู”
เวลานี้ จางเหยียนก็ดูออกว่ามู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าพวกนางต่างเกิดความสนใจขึ้นมาแล้ว ย่อมไม่ต้องสงสัย มู่หย่าหลันและฉินซาวเย่าให้ความสนใจในเกมพนันเกมนี้เสียแล้ว จางเหยียนไหนเลยจะยอมพลาดโอกาสอันดีที่จะได้เอาใจสาวงามได้อย่างไรกันเล่า ดังนั้น จึงยุยงต่อหูชิงหนิวทันที
หูชิงหนิวดูแคลนในตัวของผู้ชายธรรมดาที่อยู่ตรงหน้าอยู่แล้ว กล่าวสำหรับเขาแล้ว การหยิบเอายาครีมสวรรค์พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ขวดนี้ออกมาก็รู้สึกเสียดายแล้ว แต่ทว่า เวลานี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าฉินซาวเย่ามีท่าทีสนใจเกมการพนันเช่นนี้ เขาจึงพลันรู้สึกมีบุคลิกลักษณะอันอาจหาญในทันที
“ข้ามีโสมหลีซานเซิน เรื่องมูลค่าไม่ต้องพูดถึง อายุของโสมอยู่ที่สามแสนปี ถ้าหากเจ้าสามารถขุดไม้เย่ามู่ชิ้นหนึ่งขึ้นมาได้ โสมหลีซานเซินนี้กับยาครีมสวรรค์พยัคฆ์ศักดิ์สิทธิ์ขวดนี้ก็จะเป็นของเจ้า” เวลานี้หูชิงหนิวแสดงความเป็นผู้มีบุคลิกลักษณะอันอาจหาญขึ้นในทันที พลันที่หยิบกล่องไม้ออกมาโดยที่ยังไม่ทันได้เปิดฝา ก็สามารถได้กลิ่นของโสมที่เข้มข้นขึ้นมาแล้ว เมื่อได้สูดดมกลิ่นโสมเช่นนี้แล้วทำให้รู้สึกสบายตัวยิ่งนัก
“โสมหลีซานเซินอายุสามแสนปีนะเนี่ย” ผู้ที่อยู่บนเรือต่างร้องเสียงหลงขึ้นมา เมื่อเห็นหูชิงหนิวใจปล้ำขนาดนี้
หูชิงหนิวเองก็ดูจะลำพองใจเล็กๆ จะอย่างไรเสียเขามีของวิเศษมากมายสามารถโอ้อวดต่อหน้าฉินซาวเย่าได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องราวที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง
“ถ้าเช่นนั้น ข้าก็จะลงเพิ่มอีกนิด” จางเหยียนยิ้มกล่าวว่า “ข้าคงเทียบไม่ได้กับพี่หูแล้ว แต่ว่า ที่ตรงนี้ของข้ามีเหรียญกษาปณ์อยู่ถุงหนึ่ง ถือเป็นการช่วยให้ของเดิมพันของพี่หูที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น”
แม้ว่าสิ่งที่จางเหยียนหยิบออกมานั้นจะไม่ได้ใจปล้ำเท่ากับหูชิงหนิว แต่เกรงว่าเหรียญกษาปณ์ที่หนักอึ้งถุงหนึ่งก็คงมีมูลค่าไม่น้อยทีเดียว
“ข้าก็ขอเพิ่มให้อีกนิด ข้ามีเขากวางอ่อนอยู่กล่องหนึ่ง” มีชายหนุ่มคนหนึ่งหยิบเอากล่องออกมาใบหนึ่ง แล้ววางซ้อนลงไป
“ข้าก็เพิ่มให้นิดหนึ่ง” คนอื่นๆ ก็ทยอยกันสนับสนุน ทำเช่นนี้นอกจากสามารถเอาใจโฉมตรูแล้ว ยังสามารถคบหากับหูชิงหนิว และจางเหยียนได้ ไฉนจึงไม่ทำเล่า?
เวลานี้ ด้านหน้าของหูชิงหนิวกองเต็มไปด้วยทุนเดิมพันเหมือนเป็นภูเขาย่อยๆ ลูกหนึ่ง ทุกคนต่างวางเดิมพันข้างฝ่าหูชิงหนิวว่าหลี่ชิเย่ขุดหาไม้เย่ามู่ไม่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว
“ถ้าหากเจ้าขุดไม่ได้มาล่ะก็ คงไม่สามารถลงได้ง่ายๆ แล้วล่ะ” เวลานี้หูชิงหนิวพูดน่าเกรงขามขึ้นมา
“ขุดไม่ได้แล้วจะเกิดอะไรขึ้น? เอาชีวิตของข้ารึ?” หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา
จางเหยียนกรอกตาทีหนึ่ง ยิ้มกล่าวว่า “คงไม่ถึงขั้นเอาชีวิตของเจ้า ทำเช่นนี้เสียบรรยากาศแย่เลย ถ้าหากเจ้าไม่สามารถขุดหาไม้เย่ามู่ได้แม้แต่ชิ้นเดียว เจ้าก็กินดินโคลนไปทีละคำๆ เจ้าขุดมากี่หลุมก็กินเท่าจำนวนหลุมที่ขุดก็แล้วกัน”
จางเหยียนก็แค่ถือเอาผู้ชายธรรมดาๆ ตรงหน้าเหมือนเป็นลิงตัวหนึ่งที่ถูกแกล้งให้แสดง เพื่อลุ้นทำให้หญิงงามเผยรอยยิ้มออกมาเท่านั้น
“เรื่องนี้ดูจะยากอยู่นะ” หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมยและเอ่ยขึ้นมา
“คิดจะถอยตอนนี้มันสายเกินไปเสียแล้ว” หูชิงหนิวกล่าวน่าเกรงขามขึ้นมา
หลี่ชิเย่เวลานี้ทำท่าบิดขี้เกียจทีหนึ่ง มองดูมู่หย่าหลันและฉินซาวเย่า ทำกะพริบตาทีหนึ่งแล้วยิ้มแต้กล่าวว่า “สาวงามทั้งสอง เจ้าว่าข้าควรจะพนันด้วย หรือไม่พนันดี?”
“บังอาจ…” หูชิงหนิวร้องตวาดออกมาทันที เมื่อเห็นหลี่ชิเย่เกี้ยวพาราสีมู่หย่าหลัน และฉินซาวเย่าเช่นนี้
“ขึ้นอยู่กับท่านว่าสนใจหรือไม่แล้วล่ะ” จังหวะที่หูชิงหนิวตวาดออกมานั้น ฉินซาวเย่าเม้มปากหัวเราะเบาๆ รู้ว่าศิษย์พี่ใหญ่จะแกล้งคนอีกแล้ว
“ของล้ำค่าทำให้จิตใจผู้คนหวั่นไหวนะเนี่ย” หลี่ชิเย่ยิ้มแต้กล่าวว่า “ของวิเศษมากมายเช่นนี้ หากบอกว่าไม่หวั่นไหวนั่นเป็นเรื่องไม่จริง หากข้าเกิดขุดเอาไม้เย่ามู่ขึ้นมาได้จริงๆ ล่ะก็ มิรวยเละเลยรึ”
“ฮึ ออกจะดีใจเร็วเกินไปแล้วกระมัง” หูชิงหนิวกล่าวเย็นชาขึ้นมาว่า “รอให้เจ้าสามารถขุดเอาไม้เย่ามู่ขึ้นมาให้ได้เสียก่อนค่อยว่ากัน มิฉะนั้นล่ะก็ จงแทะกินดินโคลนเสียดีๆ”
หูชิงหนิวอิจฉาจนตาร้อน เมื่อเห็นว่าหลี่ชิเย่ถึงกับหยอกให้ฉินซาวเย่าหัวเราะขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย ขณะที่เขาเอาอกเอาใจสาวงามสารพัน ก็ยังยากที่จะลุ้นให้สาวงามยิ้มสักนิด เวลานี้เจ้าผู้ชายที่ธรรมดาผู้นี้แค่พูดออกมาตามอารมณ์เพียงไม่กี่คำ ก็สามารถทำให้ฉินซาวเย่าหัวเราะออกมา แล้วจะไม่ให้หูชิงหนิวต้องอิจฉาจนตาทั้งสองแดงก่ำได้เล่า
………………….