ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2269 กระบี่ฟ้าพิโรธ
เสียงตูม…ดังสนั่น หลังจากคุณชายหุยชุนได้กลืนกินยาเม็ดอัคคีเทพดุเดือดเข้าไปแล้ว ร่างกายของเขาพวยพุ่งเปลวไฟที่ร้อนแรงขึ้นมาทั่วทั้งร่าง แลดูคล้ายดั่งเป็นเทพอัคคีอย่างนั้น ชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง เปลวเพลิงร้อนแรงบนตัวของเขาได้โหมลุกไหม้พุ่งขึ้นท้องฟ้าอย่างรุนแรงทันที ภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าคล้ายดั่งเป็นภูเขาไฟขนาดยักษ์ลูกหนึ่งที่ปะทุขึ้นมาอย่างนั้น ลักษณะท่าทีที่เปลวเพลิงกลืนกินฟ้าดินคล้ายต้องการทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ได้ยินเสียงแว้งค์ดังขึ้น ปรากฎสิบสองลัคนาลอยขึ้นเหนือศีรษะของคุณชายหุยชุน ร่างทั้งร่างของเขาถูกห่อหุ้มด้วยเปลวเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกไม่ถูก
“คือราชันแท้จริงรึ?” แม้จะกล่าวว่าลัคนาสิบสองหลังที่อยู่เหนือศีรษะของคุณชายหุยชุนนั้น มีเพียงลัคนาของตัวเขาเองที่ถูกจุดติดสว่างไสว ส่วนลัคนาอีกสิบเอ็ดหลังยังคงสลดและดับแสง แต่กลิ่นอายที่แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขากลับแตกต่างจากผู้อื่น
เวลานี้บนตัวของคุณชายหุยชุนได้แผ่กลิ่นอายที่น่าเกรงขามออกมาสายหนึ่ง กลิ่นอายที่น่าเกรงขามสายนี้เหมือนว่าอยู่เหนือเก้าชั้นฟ้าสิบแดนดิน เหมือนได้ควบคุมปกครองจักรวาล คล้ายเป็นราชันแท้จริงองค์หนึ่งอย่างนั้น แต่ทว่ากลิ่นอายสายนี้กลับไม่ถือเป็นกลิ่นอายที่แท้จริงของราชันแท้จริง มันไม่ได้บริสุทธิ์เหมือนดั่งกลิ่นอายของราชันแท้จริง ไม่ได้มีธาตุแท้ภายในของราชันแท้จริงที่แท้จริง แต่มันยังคงมีความศักดิ์สิทธิ์และความแข็งแกร่ง
“นี่หาใช่ราชันแท้จริง แต่มีกำลังความสารมารถระดับนั้นอยู่ในครอบครอง” ระดับบรรพบุรุษที่เคยพบกับราชันแท้จริงมาแล้วกล่าวด้วยความตระหนกว่า “นี่เป็นการผืนบังคับให้ศักยภาพของตนเพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับราชันแท้จริงหนึ่งลัคนา แม้ว่าทักษะยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีพลังของราชันแท้จริงอยู่ในครอบครองจริงๆ”
“ยาเม็ดอัคคีเทพดุเดือดน่ากลัวเหลือเกิน หลังจากรับประทานยาเม็ดนี้เข้าไปก็สามารถเพิ่มพลังของตนขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง มิน่าเล่าถึงได้กลายเป็นสุดยอดยาเม็ดวิเศษสูงสุดของแคว้นว่านโซ่ว” ระดับผู้อาวุโสของตระกูลขุนนางโบราณถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกขนพอง
ยาเม็ดอัคคีเทพดุเดือดคือยาเม็ดสุดวิเศษที่มีเพียงหนึ่งเดียวและเป็นสิ่งภูมิใจมากที่สุดของแคว้นว่านโซ่ว ยาเม็ดชนิดนี้สามารถทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปแล้วมีศักยภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง แม้จะกล่าวว่า หลังจากรับประทานยาเม็ดชนิดนี้แล้วมีผลข้างเคียงในระดับหนึ่ง แต่ทว่ามันมีความพาลมากมาเหลือเกิน สามารถทำให้ผู้ที่รับประทานเข้าไปมีศักยภาพเพิ่มขึ้นหลายระดับในพริบตาเดียว ด้วยเหตุนี้เอง ยาเม็ดวิเศษเช่นนี้จึงเป็นที่กระหายอยากของผู้คนไม่รู้เท่าไร
แต่ว่า กล่าวสำหรับแคว้นว่านโซ่วแล้ว ยาเม็ดชนิดนี้ปรุงกลั่นได้ไม่ง่าย จึงมีความล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง น้อยคนนักที่สามารถครอบครองยาเม็ดวิเศษเช่นนี้ได้
เสียงแว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในขณะนี้กระบี่หุยชุนที่อยู่ในมือของคุณชายหุยชุนได้ปะทุประกายที่แตกต่างออกมา พริบตาเดียวนี้เอง กระบี่หุยชุนได้ปรากฏประกายกระบี่วงแล้ววงเล่าขึ้นมา ประกายกระบี่แต่ละวงเหมือนเป็นการเปิดโลกๆ หนึ่งขึ้นมาอย่างนั้น ท่ามกลางโลกลักษณะเช่นนี้เหมือนมีคนผู้หนึ่งยืนอยู่ เป็นร่างเงาที่สูงใหญ่ยิ่งนักคนหนึ่ง
นั่นคือร่างของราชันแท้จริง มีพลังที่ปราศจากผู้เทียบเทียมในหล้าอยู่ในครอบครอง พลังลักษณะเช่นนี้เหมือนว่าสามารถสยบหมื่นอาณาจักร นี่แหละคือพลังที่แท้จริงของคุณชายหุยชุน มันคือกระบี่ของราชันแท้จริง นาทีนี้พลังที่แข็งแกร่งมากที่สุดก็ได้ปะทุขึ้นมาแล้วในที่สุด ปรกติแล้วคุณชายหุยชุนจะไม่สามารถควบคุมพลังเช่นนี้ได้ แต่ว่าเมื่อศักยภาพของเขาได้เพิ่มสูงขึ้นจนถึงระดับราชันแท้จริงแล้ว ย่อมไม่เหมือนเดิมอย่างสิ้นเชิง
“มารับความตายเสีย!” ในชั่วพริบตาเดียวนั่นเอง ความมั่นใจของคุณชายหุยชุนเพิ่มขึ้นมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขารู้สึกว่าตนเองคือราชันแท้จริงที่มีศักยภาพอยู่เหนือทั่วหล้าในครอบครอง
ตึง ตึง ตึงแต่ละเสียงที่ดังขึ้น ในเวลานี้ มองเห็นประกายกระบี่ของคุณชายหุยชุนเหมือนถูกรวบเข้ามารวมตัวกันอย่างนั้น เหมือนว่าในชั่วพริบตาเดียวนั่นเองได้อาศัยวิถีแห่งกระบี่ฟ้าดินรวมตัวกันกลายเป็นกระบี่สวรรค์เล่มหนึ่ง สุดท้ายได้ยินเสียงตูมดังสนั่นหวั่นไหว กระบี่ยาวทั้งเล่มก็ได้กลับกลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่พวยพุ่งเปลวไฟร้อนแรง เมื่อกระบี่ยักษ์ตั้งตรงชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้านั้น นำมาซึ่งฟ้าแลบและฟ้าร้อง
กระบี่ยักษ์ลักษณะเช่นนี้เหมือนแหย่จนท้องฟ้าเป็นรู เหมือนว่ามันคือกระบี่ลงทัณฑ์เพื่อเป็นการตักเตือนที่ส่งลงมาจากสวรรค์ มันนำมาซึ่งพลังของสวรรค์ สามารถสังหารสิ้นเหล่าภูติผีปีศาจ
“หนึ่งกระบี่สวรรค์พิโรธ! แข็งแกร่งมากเหลือเกิน คุณชายหุยชุนถึงกับสำแดงหนึ่งกระบี่สวรรค์พิโรธออกมา นี่ นี่มันคือกระบวนท่าที่มีเฉพาะแคว้นว่านโซ่วเท่านั้น” ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิถึงกับตระหนก เมื่อเห็นกระบวนท่านี้แล้ว
‘หนึ่งกระบี่สวรรค์พิโรธ’ ไม่รู้ว่ามีผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นเจ้าลัทธิจำนวนเท่าไรที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปมากทีเดียว พวกเขาต่างก็เคยได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของกระบี่กระบวนท่านี้
หนึ่งกระบี่สวรรค์พิโรธคือกระบวนท่าของกระบี่ที่คิดค้นขึ้นโดยราชันแท้จริงองค์หนึ่งของแคว้นว่านโซ่ว กระบี่นี้มีพลังของสวรรค์พิโรธอยู่ในครอบครอง เป็นพลังต้องห้ามอย่างยิ่ง พลังหนึ่งกระบี่นี้สามารถก้าวข้ามระดับสังหารศัตรู
แต่ทว่า กระบวนท่านี้ยากที่จะสำแดงออกมา กระทั่งระดับบรรพบุรุษแต่ละรุ่นของแคว้นว่านโซ่วเห็นว่า กระบี่กระบวนท่านี้มีเพียงระดับราชันแท้จริงเท่านั้นที่มีสิทธิ์สำแดงออกมา เวลานี้กลับสำแดงออกมาได้โดยคุณชายหุยชุน แล้วจะไม่ให้ผู้อื่นต้องหวั่นไหวได้อย่างไร
“พวกนอกรีต ฆ่าไม่มีละเว้น!” คุณชายหุยชุนคำรามเสียงดัง กระบี่ฟ้าพิโรธที่สูงเทียมฟ้าฟาดฟันลงมาตรงๆ มีความดุดันและอันธพาลยิ่งนัก
ได้ยินเสียงตูมดังสนั่น ภายใต้หนึ่งกระบี่นี้ แม้แต่อากาศที่ว่างเปล่ายังแตกละเอียด ที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือได้ทิ้งร่องรอยไหม้เกรียมบนอากาศ แม้แต่ช่องว่างยังถูกเผาผลาญไปในชั่วพริบตา ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าหนึ่งกระบี่นี้มีความน่ากลัว มีความแข็งแกร่งเช่นใดแล้ว
แม้จะมีระดับเทพแท้จริงขั้นขึ้นสู่สวรรค์อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อได้เห็นกระบี่กระบวนท่านี้แล้วก็ต้องมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว แม้แต่ผู้พเนจรหยางหมิงที่ได้เห็นกระบวนท่านี้ถึงกับเพ่งสายตาไปข้างหน้า
เสียงแว้งค์เสียงหนึ่งดังขึ้น หลี่ชิเย่ที่เผชิญกับหนึ่งกระบวนท่าที่พาลเช่นนี้เพียงแค่อาศัยกระบี่เหล็กในมือตวัดช้อนขึ้นไปตามอารมณ์เท่านั้น
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่เหล็กได้ขวางหนึ่งกระบวนท่าที่รุนแรงเช่นนี้เอาไว้ แต่จะอย่างไรเสียมันก็คือกระบี่เหล็กเท่านั้น ต่อให้โจมตีเข้าไปยังจุดตายของกระบวนท่าฟ้าพิโรธก็ไม่ได้ช่วยอะไรได้
“หนึ่งคนมากด้วยพลังสามารถต้านผู้มีทักษะยุทธได้สิบคน” เมื่อระดับบรรพบุรุษมองเห็นกระบี่เหล็กของหลี่ชิเย่ถึงแม้จะโจมตีเข้าจุดตายของกระบวนท่ากระบี่ฟ้าพิโรธได้ แต่ยังคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงมองความนัยออกได้ว่า ภายใต้พลังที่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมปานใดก็ไร้ประโยชน์ และจะต้องถูกสยบโดยพลังที่เด็ดขาดนั่น
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น กระบี่เหล็กย่อมเป็นกระบี่เหล็ก ไม่อาจรองรับพลังของหนึ่งกระบี่ฟ้าพิโรธได้ ทำให้กระบี่เหล็กแตกละเอียดไปทั้งเล่ม กลายเป็นเศษโลหะจำนวนนับไม่ถ้วน
ตูม… เสียงดังสนั่นขึ้นมา หลังจากที่หนึ่งกระบี่ฟ้าพิโรธได้ทำลายกระบี่เหล็กจนแตกละเอียดไปแล้ว พลังกระบี่ไม่หยุดกลับเพิ่ม่ขึ้น หอบเอาพลังที่ทำลายฟ้าดินฟันเข้าใส่หลี่ชิเย่ ขณะที่หนึ่งกระบี่ที่กำแหงและอันธพาลนี้ยังไม่ทันถึงตัวของหลี่ชิเย่ ได้ยินเสียงดังคร๊ากกขึ้นมา ช่องว่างรอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่ก็แตกละเอียดไปแล้ว เหมือนว่าพลังที่กำแหงและอันธพาลของหนึ่งกระบี่ฟ้าพิโรธยังไม่ได้ฟาดฟันลงมาถึงก็สามารถบดขยี้หลี่ชิเย่ให้กลายเป็นเนื้อบดได้แล้ว
“ระวังตัวด้วย…” พวกของมู่หย่าหลันต่างร้องออกมาด้วยความตระหนก เมื่อมองเห็นหนึ่งกระบี่ฟ้าพิโรธที่ฟาดฟันลงมาจนช่องว่างรอบๆ ตัวของหลี่ชิเย่ก็แตกละเอียดไป
แว้งค์…เสียงประกายกระบี่ดังขึ้น จังหวะที่หนึ่งกระบี่กำลังฟาดฟันลงบนตัวของหลี่ชิเย่นั้น มองเห็นฝ่ามือของหลี่ชิเย่กางออก ปรากฏหญ้าต้นเล็กๆ ต้นหนึ่ง หญ้าต้นเล็กต้นนี้พลันพวยพุ่งเป็นเงากระบี่ที่ไม่มีสิ้นสุดขึ้นมาทันที
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง ต้นหญ้าขนาดเล็กต้นนี้ได้กลับกลายเป็นกระบี่ยักษ์ที่สูงทะลุฟ้า กระบี่ยักษ์เล่มนี้ใหญ่โตมโหฬารมากเหลือเกิน ถึงกับยึดครองพื้นที่เอาไว้ทั้งหมด โดยที่กระบี่ยักษ์เล่มนี้มีขนาดใหญ่เท่าๆ กับเขาเก็บสมุนไพร สูงทะลุไปถึงบริเวณส่วนที่ลึกเข้าไปในจักรวาล ยามที่กระบี่ยักษ์เล่มนี้แทงทะลุขึ้นไปยังจักรวาลนั้น ปรากฏสุริยันจันทราที่เข้าออกอยู่ในนั้น และล้อมรอบไปด้วยทางช้างเผือก
จังหวะที่กระบี่ยักษ์ทางช้างเผือกปรากฏขึ้นมา ได้ยินเสียงปังดังขึ้น ลำพังอาศัยพลังภายในที่ส่งผ่านตัวกระบี่ก็สามารถต้านกระบวนท่าหนึ่งกระบี่ฟ้าพิโรธของคุณชายหุยชุนเอาไว้ได้แล้ว
แม้ว่ากระบี่ฟ้าพิโรธของคุณชายหุยชุนจะมีขนาดที่ใหญ่มาก แต่เมื่อเปรียบกับกระบี่ยักษ์ทางช้างเผือกแล้ว กระบี่ฟ้าพิโรธเป็นได้เพียงต้นหญ้าต้นเล็กๆ ที่ขึ้นอยู่บนภูเขาเก็บสมุนไพรเท่านั้น
ในชั่วพริบตาเดียวนั้นเอง กระบี่ยักษ์ทางช้างเผือกในมือของหลี่ชิเย่ตวัดไปตามอารมณ์ ได้ยินเสียงดังปังกระบี่ฟ้าพิโรธพลันแตกละเอียด อัคคีเทพดับลง ได้ยินเสียงใสกังวานดังปัง กระบี่หุยชุนแตกละเอียด
นี่มันกระบี่ของราชันแท้จริงเลยนะ มีความแข็งแกร่งยิ่งนัก แต่ ภายใต้หนึ่งกระบี่ยังคงแตกละเอียดไปทันที
ร่างของคุณชายหุยชุนถูกกระทุ้งจนตัวลอยออกไป ได้ยินเสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น ร่างของเขาได้พุ่งทะลุผ่านภูเขาลูกแล้วลูกเล่า เลือดสดๆ ไหลอาบย้อมภูเขาแต่ละลูกจนแดงฉาน กลิ่นคาวเลือดสีแดงละลานตา
ภูเขาแต่ละลูกที่ถูกพุ่งชนจนทะลุนั้นไม่เพียงถูกอาบไปด้วยเลือดสดๆ สีแดงเท่านั้น ยังมีเศษเนื้อที่ติดอยู่ตามเศษหินอีกด้วย
กระบวนท่าเคล็ดกระบี่ฟางพิฆาตเซียน! กระบวนท่าลักษณะเช่นนี้ หลี่ชิเย่สำแดงออกมาได้ตามอารมณ์และมีอานุภาพที่ไม่สิ้นสุด เข่นฆ่าเทพสังหารราชันได้ คุณชายหุยชุน ไม่สามารถรับได้อยู่แล้วกับกระบวนท่านี้
เวลานี้ฟ้าดินเงียบสงัด ทุกคนต่างมองดูภาพนี้ด้วยความงงงัน และทุกคนไม่สามารถเรียกสติคืนกลับมา ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้นานสองนาน
หลายคนรู้สึกหวั่นไหวในใจ คุณชายหุยชุนคือหนึ่งในสามคุณชาย เป็นสุดยอดอัจฉริยะบุคคลแห่งยุค เวลานี้ได้รับประทาน ‘ยาเม็ดอัคคีเทพดุเดือด’ เข้าไป แต่ยังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่ชิเย่
“บุคคลผู้ได้รับการคัดเลือกเป็นสามคุณชายคนใหม่ถือกำเนิดขึ้นแล้ว” เมื่อมีผู้ที่เรียกสติกลับมาได้ ถึงกับพึมพำขึ้นมา
ในเวลานี้ ทุกคนต่างมองหน้ากันและกัน เมื่อหลี่ชิเย่เอาชนะคุณชายหุยชุนได้ ย่อมไม่ต้องสงสัยว่าเขาย่อมมีสิทธิ์ถูกจัดเข้าไปอยู่ในหนึ่งในสามคุณชายได้
“อ่อนเหลือเกิน” หลี่ชิเย่ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์กษัตริย์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีสบายๆ และเรียบเฉยอย่างยิ่ง
ทุกคนต่างรู้สึกเสียวสันหลังวาบ หาใช่คุณชายหุยชุนอ่อนเกินไป แต่เป็นเพราะหลี่ชิเย่แข็งแกร่งมากเกินไป ในขณะนี้ทุกคนต่างก็รู้ว่า ศิษย์ลำดับที่หนึ่งอย่างหลี่ชิเย่นั้นหาใช่ผู้อ่อนแออย่างแน่นอน และหาใช่เป็นเพราะเขาโชคดีจึงได้กลายเป็นศิษย์ลำดับที่หนึ่งได้ แต่เป็นศักยภาพที่แท้จริง
เมื่อคุณชายหุยชุนถูกหามกลับมานั้น ตัวเขายับเยินมาก เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้าย เวลานี้เขาไม่เพียงกายเนื้อที่สาหัสมาก แม้แต่ชะตาแท้ก็แหลกละเอียด ดูแล้วยากที่จะรอดชีวิตได้ ภายใต้การบาดเจ็บแสนสาหัสเช่นนี้ ต่อให้วิชาแพทย์ของแคว้นว่านโซ่วฝืนลิขิตสวรรค์มากกว่านี้ก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้อีกแล้ว
แม้ว่าอาศัยศักยภาพของแคว้นว่านโซ่วสามารถสร้างกายเนื้อของคุณชายหุยชุนขึ้นมาได้ใหม่ แต่ทว่า ชะตาแท้ที่แตกละเอียดนั้นเป็นสิ่งที่แคว้นว่านโซ่วไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ใหม่ ในโลกนี้ผู้ที่สามารถสร้างชะตาแท้ขึ้นได้ใหม่นั้นมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ต่อให้แคว้นว่านโซ่วทุ่มเทพลังทั้งหมดที่มี และมีฝีมือที่อภินิหารยิ่งสามารถสร้างชะตาแท้ของคุณชายหุยชุนที่แตกละเอียดขึ้นใหม่ แม้ว่าคุณชายหุยชุนถูกช่วยชีวิตขึ้นมาได้ เขายังคงเป็นเพียงคนพิการคนหนึ่งเท่านั้น
เกรงว่าบนโลกนี้คงมีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทำการสร้างชะตาฟ้าที่แตกละเอียดให้กลับคืนสภาพได้อย่างปลอดภัย และหากมีบุคคลเช่นนี้อยู่จริง เกรงว่าคงไม่ได้รั้งอยู่ที่แดนลัทธิพรรษ คงถูกรับตัวไปยังแดนลัทธิเซียนนานแล้ว
“ชุนเอ๋อร์…” กษัตริย์แคว้นว่านโซ่วถึงกับร้องเสียงดังขึ้นมา เมื่อเห็นสภาพที่น่าอนาถของคุณชายหุยชุน
“เจ้าเดรัจฉานน้อย ข้าขอแลกชีวิตกับเจ้า…” เมื่อกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วเห็นว่าคุณชายหุยชุนจะไม่ไหวอยู่แล้ว หวังบุกลุยเข้าไปชี้ขาดความเป็นความตายกับหลี่ชิเย่
แต่เฮ่าจ้านเหล่าจู่พลันขวางเอาไว้ไม่ให้เขาได้ลุยเข้าไป ร้องเสียงทุ้มต่ำขึ้นมาว่า “ฝ่าบาท พระองค์ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”
เทียบกับกษัตริย์แคว้นว่านโซ่วแล้ว สายตาของเฮ่าจ้านเหล่าจู่ดียิ่งกว่า เวลานี้เขาเข้าใจได้ว่า ต่อให้กษัตริย์แคว้นว่านโซ่วลงมือก็แค่ไปรนหาที่ตายเท่านั้น
……………………………………………..