ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2280 พลังทั่วแคว้น
พลันที่ว่านโซ่วเหล่าจวินพูดขาดคำ ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรต้องรู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก คำพูดของระดับอมตะคนหนึ่งใช่เป็นเรื่องล้อเล่น มันเปี่ยมด้วยพลังสยบที่น่ากลัวและเด็ดขาด ดังนั้น ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกหัวใจเต้นกระตุกทีหนึ่ง
เวลานี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่มองไปที่หลี่ชิเย่ ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องการรู้ว่าหลี่ชิเย่สามารถต้านว่านโซ่วเหล่าจวินเอาไว้ได้หรือไม่ ถ้าหากต้านไม่อยู่ ขณะที่หุบเขาอมตะก็ไม่มีระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะนั่งบัญชาการล่ะก็ เช่นนั้นแล้วหุบเขาอมตะคงต้องจบเกมแล้วจริงๆ
“นั่นเป็นเรื่องดี ก็มาเข่นฆ่าสังหารกันสักครั้งก็แล้วกัน” หลี่ชิเย่ก็ไม่ได้โกรธ พูดด้วยท่าทีสบายๆ ว่า “เจ้าจะเข้ามาให้ข้าสังหารเจ้า หรือให้ข้าเข้าไปตัวศีรษะเจ้า”
“สังหารเจ้าเสียก่อน แล้วค่อยทำลายหุบเขาอมตะ” ท่าทางของว่านโซ่วเหล่าจวินเย็นชา ไม่ได้ตอบคำถามของหลี่ชิเย่ กล่าวขึ้นช้าๆ ว่า “เริ่มได้ ขับเคลื่อนพลังยอดเยี่ยมเลยก็แล้วกัน”
พลันที่ว่านโซ่วเหล่าจวินพูดขาดคำ เริ่มต้นด้วยภายในบริเวณพระราชฐานของแคว้นว่านโซ่วได้พวยพุ่งประกายขึ้นมา ได้ยินเสียงแว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ดังขึ้น มองเห็นตำหนักแต่ละหลัง ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แต่ละลูกภายในพระราชฐานต่างพวยพุ่งเป็นประกายขึ้นมา และปรากฏเส้นรุ้งเส้นเวงแต่ละสายลอยขึ้น โดยที่เส้นรุ้งเส้นเวงแต่ละสายเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของราชันแท้จริงและอมตะ ด้วยลักษณะการปลุกเสกเช่นนี้ต้องมาจากระดับราชันแท้จริง หรือระดับอมตะอย่างแน่นอน
เสียงแว้งค์…แต่ละเสียงที่ดังขึ้น ตามติดด้วยบริเวณเขตพระราชฐานของแคว้นว่านโซ่วเป็นศูนย์กลาง ประกายที่ถูกจุดติดขึ้นได้แผ่ขยายไปทั่วทั้งแคว้นว่านโซ่ว ภายในระยะเวลาอันสั้น ผืนแผ่นดินนับพันลี้ของแคว้นว่านโซ่วถึงกับปรากฎประกายที่พวยพุ่งขึ้นมาทุกตารางนิ้ว เส้นรุ้งเส้นเวงที่ยุบยับเต็มพื้นที่ได้ถักทออยู่บนทุกตารางนิ้วของผืนแผ่นดินแคว้นว่านโซ่ว กลายเป็นพลังยิ่งใหญ่ปราศจากผู้เทียบเทียมขึ้นมา
“นี่มันรากฐานของแคว้นว่านโซ่วนะเนี่ย แคว้นว่านโซ่วเอาจริงแล้วแม้แต่รากฐานของตัวเองก็เดิมพันเข้าไปด้วย หากไม่สำเร็จก็ต้องสละชีพ” ยอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนจำนวนมากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะต่างรู้สึกตระหนก ที่ได้เห็นภาพของประกายแต่ละช่อที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
แคว้นว่านโซ่วนั้นตั้งอยู่บนรากฐานของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ ผู้ริเริ่มก่อตั้งแคว้นว่านโซ่วได้อาศัยเคล็ดวิชาที่ตนเองวิวัฒนาขึ้น นำมาเสริมสร้างรากฐานทั้งหมดของผืนแผ่นดินให้แข็งแกร่งขึ้น ผ่านการปลุกเสกและเสริมสร้างจากปรัชญาเมธี และราชันแท้จริงแต่ละรุ่นในยุคต่อๆ มาให้แข็งแกร่งยิ่งๆ ขึ้น ส่งผลให้รากฐานผืนแผ่นดินของแคว้นว่านโซ่วทั้งอาศัยฐานรากของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ แต่ทว่าก็มีฐานรากที่เป็นในส่วนของตนเอง มีพลังยิ่งใหญ่ที่เป็นของตนเอง
เนื่องจากฐานรากของแคว้นว่านโซ่วมีพลังยิ่งใหญ่ที่เป็นของตนเองนั่นเอง ทำให้พวกเขาพึ่งพาอาศัยรากฐานของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะน้อยลงไปมากทีเดียว
เวลานี้แคว้นว่านโซ่วถึงกับเปิดและขับเคลื่อนรากฐานที่เป็นของตนเองซึ่งมีพลังยิ่งใหญ่เป็นเอกเทศของตน ซึ่งสิ่งนี้คือกำลังกายกำลังสมองนับไม่ถ้วนของปรัชญาเมธี และราชันแท้จริงแต่ละรุ่นของแคว้นว่านโซ่ว รากฐานลักษณะเช่นนี้ บรรพชนของแคว้นว่านโซ่วไม่รู้ว่าได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังสมองไปเท่าไร มาวันนี้แคว้นว่านโซ่วกลับนำเอามาเป็นเดิมพัน เป็นการนำเอารากฐานทั้งหมดลงขันเดิมพันไปทั้งหมด
“อมตะในอดีตที่ผ่านมา…” เสียงสวดมนต์ดังขึ้นเป็นระลอก ภายในระยะเวลาอันสั้น ทุกๆ ที่ภายในแคว้นว่านโซ่วล้วนแล้วแต่ปรากฎเสียงสวดมนต์ดังขึ้นมา
เวลานี้นาทีนี้ ศิษย์ทุกๆ คนของแคว้นว่านโซ่วที่ได้ฝึกเคล็ดวิชาของแคว้นว่านโซ่วมา ไม่ว่าจะแข็งแกร่งหรืออ่อนด้อยต่างเริ่มสวดบทคัมภีร์ที่เป็นเฉพาะของแคว้นว่านโซ่วพวกเขา
ขณะที่ศิษย์ทุกคนได้สวดบทคัมภีร์ ร่างกายของพวกเขาปรากฏประกายขึ้นมาเป็นสาย โดยประกายแต่ละสายเหล่านี้พลันรวมตัวเข้ากับประกายที่เปล่งกระจายออกมาจากรากฐานของแคว้นว่านโซ่ว ทันใดนั้นเอง ศิษย์จำนวนนับสิบล้านเสมือนดั่งได้หลอมรวมเข้าด้วยกันกับแคว้นว่านโซ่ว นาทีนี้พวกเขากับรากฐานของแคว้นว่านโซ่วคือผูกติดกันแน่นแกะกันไม่ออก ยามที่พวกเขาหลอมรวมเข้าด้วยกันกับรากฐานนั้น เป็นการลิขิตเอาไว้แล้ว่าจะร่วมเป็นร่วมตายด้วยกัน ถ้าหากแคว้นว่านโซ่วล่มสลาย พวกเขาก็ต้องกลายเป็นเถ้าธุลีตามไปด้วย
“อมตะในอดีตที่ผ่านมา…” เสียงสวดมนต์ดังก้องไปทั่วฟ้าดินภายในเขตพระราชฐานของแคว้นว่านโซ่ว เสียงสวดมนต์ของพวกเขาดังก้องไปทั่วระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ สยบจิตใจของสรรพสิ่งมีชีวิตนับล้านล้านชีวิต
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกลุ่มตำหนักที่ว่านโซ่วเหล่าจวินอาศัยอยู่ ปรากฏร่างเงายี่สิบห้าคน ร่างเงาทั้งยี่สิบห้าล้วนแล้วแต่เป็นร่างผู้เฒ่าที่แก่หง่อม ล้วนแล้วแต่มีผมเผ้าสีขาวที่เป็นไม้ใกล้ฝั่ง แต่ว่า พวกเขากลับแผ่กระจายพลังอำนาจเทพแท้จริงที่น่าเกรงขามและยิ่งใหญ่ออกมา ยามที่พวกเขาสวดมนต์นั้น เสียงสวดมนต์ของพวเขาดังกังวานมากกว่าใครๆ อีกทั้งประกายที่เปล่งออกมาจากตัวของพวกเขาก็ละลานตามากกว่าใครๆ ประกายที่เปล่งออกมาจากบนตัวของพวกเขาคล้ายเป็นดวงตะวันแต่ละดวงอย่างนั้น
‘ยี่สิบห้าบัณฑิต!’ ไม่รู้ว่ามียอดฝีมือผู้บำเพ็ญตนของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะจำนวนเท่าไรต้องรู้สึกเย็นวาบในใจ เมื่อมองเห็นการปรากฏของร่างเงาทั้งยี่สิบห้าคนนี้
ผู้เฒ่าทั้งยี่สิบห้าคนที่เห็นอยู่ตรงหน้าก็คือธาตุแท้ภายในสุดท้ายของแคว้นว่านโซ่วนั่นเอง และเป็นระดับบรรพบุรุษที่แข็งแกร่งที่สุดกลุ่มสุดท้ายของแคว้นว่านโซ่ว ได้รับการยกย่องว่าเป็นยี่สิบห้าบัณฑิต แม้ว่ายี่สิบห้าบัณฑิตนี้จะไม่เท่าว่านโซ่วเหล่าจวิน แต่แข็งแกร่งมากกว่าสามสิบหกจ้าวมังกร
ยี่สิบห้าบัณฑิตล้วนแล้วแต่เคยได้รับการแต่งตั้งจากราชันแท้จริงของแคว้นว่านโซ่วทั้งสิ้น พวกเขาไม่เพียงมีตำแหน่งและอำนาจสูงส่ง อีกทั้งยังมีศักยภาพที่เข้มแข็ง พวกเขาถูกยกย่องว่าเป็นโล่แห่งแคว้นว่านโซ่ว พวกเขาเป็นทั้งแนวป้องกันสุดท้ายของแคว้นว่านโซ่ว และเป็นธาตุแท้ภายในสุดท้ายของแคว้นว่านโซ่ว หากไม่ถึงคราวจำเป็นจริงๆ ยี่สิบห้าบัณฑิตเช่นพวกเขาจะไม่ปรากฏตัวออกมาอยู่แล้ว
เวลานี้แคว้นว่านโซ่วไม่เพียงนำเอารากฐานของทั้งแคว้นมาใช้ ยิ่งไปกว่านั้นแม้แต่ยี่สิบห้าบัณฑิตก็ลงมือเช่นกัน แคว้นว่านโซ่วร่วมแรงร่วมใจกันทุกระดับชั้น ช่างเป็นเรื่องที่สะเทือนหวั่นไหวต่อจิตใจของผู้คนเพียงใด
“ศิษย์ทุกระดับทั้งหมดร่วมแรงร่วมใจกันทั้งแคว้น ความทะเยอทะยานของแคว้นว่านโซ่วช่างใหญ่อะไรขนาดนั้น นี่เป็นการทุ่มหมดหน้าตัก จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็จะไม่มีทางที่จะถอยได้อีกแล้ว” ระดับบรรพบุรุษสำนักเจ้าลัทธิของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะถึงกับหวาดกลัวจนขนลุกซู่ เมื่อได้มองเห็นภาพนี้แล้ว
เพื่อชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ ศิษย์ทุกระดับชั้นนับสิบล้านของแคว้นว่านโซ่วถึงกับร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว พวกเขายินดีร่วมเป็นร่วมตายพร้อมกับแคว้นของตน ช่างเป็นพลังความร่วมมือที่น่ากลัวอะไรปานนั้น ช่างเป็นการรวบรวมพลังที่น่ากลัวเหลือเกิน
เอี๊ยด…เอี๊ยด…เอี๊ยด…จังหวะที่ศิษย์ทุกระดับชั้นนับสิบล้านคนของแคว้นว่านโซ่วร่วมใจกับสวดมนต์ เพื่อเปิดพลังที่ยิ่งใหญ่อยู่นั้น เสียงเคลื่อนที่ของของหนักดังขึ้นเป็นระลอก
เวลานี้ มองเห็นว่านโซ่วเหล่าจวินที่นั่งอยู่บนท้องฟ้าที่สูงนั่นค่อยๆ ยกเอาวงล้อกลมที่ใหญ่โตมโหฬารขึ้นมาช้าๆ ล้อกลมนี้มีลักษณะที่แปลกอย่างยิ่ง คล้ายเป็นชิงช้าสวรรค์ แต่ก็เหมือนกังหันน้ำที่ตั้งอยู่ข้างลำน้ำอย่างนั้น
วงล้อทั้งวงหลอมสร้างขึ้นโดยโลหะราชัน ซี่ล้อทุกซี่ล้วนแล้วแต่แผ่ขยายออกไป ขณะที่ด้านนอกของกะทะล้อได้ทำการเชื่อมโลหะราชันแต่ละชิ้นเข้าไป ซึ่งโลหะราชันเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ผ่านการหลอมสร้างและชุบกลั่น ที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ล้อยักษ์ทั้งล้อล้วนแล้วแต่ฝังประดับศิลาแกร่งที่ดีที่สุดเอาไว้ เกรงว่าแคว้นว่านโซ่วคงสิ้นเปลืองกำลังของแคว้นไปไม่น้อยกับศิลาแกร่งมากมายเช่นนี้
โลหะราชันคือโลหะราชันที่มีอยู่เฉพาะในแดนลัทธิราชันเท่านั้น…บนแท่นโอสถ ตัวแทนระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิผู้หนึ่งดูออกถึงประวัติความเป็นมาของโลหะราชันชนิดนี้ เมื่อมองเห็นวงล้อขนาดยักษ์นี้หลอมสร้างขึ้นด้วยโลหะราชัน ถึงกับรู้สึกใจหายใจคว่ำ
เมื่อได้เห็นวงล้อขนาดยักษ์สร้างขึ้นมาจากโลหะราชันที่มีเฉพาะในแดนลัทธิราชันเท่านั้น ทำให้ผู้พเนจรหยางหมิงถึงกับต้องเพ่งสายตาไปข้างหน้า โลหะราชันของแดนลัทธิราชัน ในแดนลัทธิพรรษอย่าว่าแต่สำนักๆ หนึ่งเลย ต่อให้เป็นระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่งคิดจะได้มาก็ไม่ง่ายนัก แม้ว่าระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิอย่างพรรคหยางหมิงก็มีโลหะราชันชนิดนี้ในครอบครองก็ตาม
แต่ว่าแคว้นว่านโซ่วยังมีกำลังไม่แข็งแกร่งถึงขั้นที่จะสั่งสมโลหะราชันได้มากมายถึงเพียงนี้ ถ้าหากแคว้นว่านโซ่วไม่ได้มีกำลังที่จะสั่งสมโลหะราชันได้มากถึงเพียงนี้ เช่นนั้นแล้วก็บ่งบอกว่าเบื้องหลังมีผู้ที่คอยให้การสนับสนุนแคว้นแคว้นว่านโซ่วแล้ว เฉกเช่นว่านโซ่วเหล่าจวินได้พูดเอาไว้อย่างนั้น มันไม่ได้เป็นเพียงแคว้นว่านโซ่วพวกเขาเท่านั้นที่ต้องการชิงบัลลังก์แย่งอำนาจแค่นั้นแล้วล่ะ
เอี๊ยด…เอี๊ยด…เอี๊ยด…ในเวลานี้เอง ล้อยักษ์ได้หมุนอย่างช้าๆ จากนั้นได้หมุนเร็วขึ้นๆ เรื่อยๆ และมันได้เปล่งประกายออกมาเป็นสายๆ แต่ประกายนี้ได้ทำให้ภายในใจของผู้พบเห็นต้องเต้นกระตุกทีหนึ่ง เนื่องจากประกายเหล่านี้คล้ายมาจากอัญมณีที่มาจากความมือที่ส่งประกายแวบวับ เหมือนว่ามันเป็นพลังที่มาจากความมืด
ตูม ตูม ตูมนาทีนี้ทั่วทั้งแคว้นว่านโซ่วปรากฏเสียงดังตูมตามดังขึ้นมาเป็นระลอก ในเวลานี้พลังยิ่งใหญ่ทั่วแคว้นว่านโซ่วถูกเปิดออกใช้ ทั่วทั่วแคว้นว่านโซ่วเปี่ยมด้วยพลังน่าเกรงขามที่ไม่มีสิ้นสุด ทั่วแคว้นว่านโซ่วเหมือนถูกพลังที่คล้ายดั่งทะเลท่วมจนมิดอย่างนั้น
กระทั่งบนท้องฟ้าเบื้องบนของแคว้นว่านโซ่วปรากฎฟ้าแลบฟ้าร้อง แคว้นว่านโซ่วได้กลายเป็นทะเลพลังไปแล้ว เหมือนว่าศัตรูใดๆ เมื่อเหยียบเข้าไปในแคว้นว่านโซ่วก็จะถูกพลังที่น่ากลัวเช่นนี้บดขยี้จนกลายเป็นเนื้อบด
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ทันใดนั่นเอง เมื่อวงล้อขนาดยักษ์นั้นหมุนด้วยความเร็วที่เพียงพอแล้ว เหมือนว่าวงล้อยักษ์จะเลือนหายไปอย่างนั้น ช่องว่างสั่นเทา และประกายสีดำทั้งหมดได้รวมตัวกันอยู่ที่ตรงกลางของวงล้อยักษ์ ได้ยินเสียงดังปุ ช่องว่างพังทลายลงมากลายเป็นหลุมดำหลุมหนึ่ง
นาทีนี้ล้อยักษ์ปรากฏอักขระยันต์ลอยขึ้นมา โดยอักขระยันต์มีลักษณะคล้ายเป็นซี่ลออย่างนั้น จากการหมุนเคลื่อนที่ของวงล้อยักษ์ ได้อาศัยพลังที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งทำการหมุนความมืดนั้นให้เคลื่อนที่ไป็น
ตูม…ในเวลานี้เอง พลังทั่วทั้งแคว้นของแคว้นว่านโซ่วพวยพุ่งขึ้นมาโดยพลัน พลังที่ยิ่งใหญ่ทั่วทั้งแคว้นว่านโซ่วดุจดั่งน้ำหลากพุ่งตรงเข้าไปยังความมืดที่อยู่ตรงกลางวงล้อยักษ์นั่น
ช่าาา ช่าาาเสียงเหมือนวิ่งฮ้อดังไม่ขาดสาย นาทีนี้เอง หลุมดำที่อยู่กลางวงล้อยักษ์ของแคว้นว่านโซ่วนี้ได้กลืนกินพลังยิ่งใหญ่ที่พุ่งเข้ามาดั่งน้ำหลากเอาไว้
หลังจากที่หลุมดำนี้ได้กลืนกินพลังจากทั่วแคว้นของแคว้นว่านโซ่วแล้ว หลุมดำได้กลายเป็นขนาดที่ใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งจากการที่กระทะล้อหมุนเคลื่อนที่ไปหลุมดำก็หมุนตามไปด้วย ทั้งยังหมุนเร็วขึ้นๆ เรื่อยๆ สุดท้ายความมืดเหมือนดั่งโลกหมุนอย่างรุนแรง กลายเป็นช่องว่างที่กลืนกินที่น่าสยองขวัญที่สุด
ตูมเสียงหนึ่งดังขึ้น สุดท้ายพลังของแคว้นว่านโซ่วทั้งหมดก็ได้ถูกหลุมดำที่น่าสยองขวัญยิ่งกลืนกินไปทั้งหมด
นาทีนี้ เรื่องที่เหลือเชื่อเกิดขึ้น มองเห็นหลุมดำนี้ยิ่งหมุนยิ่งเร็ว และยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ถึงกับคล้ายต้องการกลืนกินฟ้าดินอย่างนั้น มันถึงกับดึงระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะทั้งหมดเอาไว้
ตูม ตูม ตูม…พริบตาเดียวนั่นเอง ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะก็ได้รับผลกระทบ ทำให้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะทั้งหมดเกิดการสั่นไหวโคลงแคลงขึ้นมา
นาทีนี้ ทำให้ทุกคนต่างมีสีหน้าที่ขาวซีด สมควรทราบว่าทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะกลั่นบูชาขึ้นโดยเซียนโอสถ มีพลังของปฐมบรรพบุรุษที่เฝ้าคุ้มครอง แต่ว่า นาทีนี้ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะถูกดึงจนโอนเอนไปมา ช่างเป็นเรื่องที่น่ากลัวเพียงใด เป็นการสั่นคลอนต่อฐานเต๋าทั้งหมดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะ
แว้งค์ แว้งค์ แว้งค์ในเวลานี้ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิหุบเขาอมตะปรากฏประกายขึ้นมา โดยเฉพาะบนผืนแผ่นดินโดยรอบของแคว้นว่านโซ่ว ยิ่งปรากฏประกายที่พุ่งขึ้นมาอย่างรุนแรง นี้เป็นพลังป้องกันของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิๆ หนึ่ง
…………….