ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2336 ท่วงท่าของเทพธิดาสงคราม
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2336 ท่วงท่าของเทพธิดาสงคราม
“ฆ่า…” ครั้นมองเห็นหวู่ปิงหนิงลงมือทำลายอากาศที่ว่างเปล่าจนแหลก บีบบังคับให้องค์ชายดาบมารปรากฎตัวแล้ว นางเองก็เปิดเผยตัวเองขึ้นมา พริบตาเดียวนั่นเองคุณชายพานหลงและเจี้ยนจุนคำรามเสียงยาวขึ้นมา อาศัยความเร็วที่รวดเร็วมากโจมตีเข้าใส่หวู่ปิงหนิง
คุณชายพานหลงนั้นคำรามเสียงยาวคำหนึ่ง พร้อมกับของวิเศษแปดชิ้นที่โจมตีเข้าไปจากทุกทิศทุกทาง บดขยี้ช่องว่างปิดกั้นฟ้าดิน โดยไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงหนีรอดไปได้
ขณะที่เจี้ยนจุนนั้นกระบี่คำรามเก้าชั้นฟ้า ได้ยินเสียงตึงดังขึ้น ปรากฎประกายกระบี่ที่เจิดจ้าอาศัยท่วงท่าที่ยอดเยี่ยมปราศจากผู้เทียบเทียมฟาดฟันลงมา วิชากระบี่ที่น่าเกรงขามพลันล็อคเป้าที่ตัวของหวู่ปิงหนิง เห็นแสงกระบี่แวบผ่านไปแวบหนึ่ง หวังจากตัดศีรษะของหวู่ปิงหนิงออกมา
เรียกได้ว่าพวกเขาทั้งสามคนพลันลงมือก็ไม่เปิดโอกาสให้หวู่ปิงหนิงอีกเลย พวกเขาต้องการให้ถึงแก่ชีวิตจากการโจมตีครั้งเดียว คาดหวังอาศัยเพียงกระบวนท่าเดียวเล่นงานหวู่ปิงหนิงให้ถึงตาย
แต่ทว่า ไม่ว่าพวกของคุณชายพานหลงจะบดขยี้ช่องว่างอย่างไร ทำการปิดกั้นฟ้าดินเช่นใดก็ตาม ก็ไม่สามารถพันธนาการหวู่ปิงหนิงเอาไว้ได้ ได้ยินเสียงดังแว้งค์เสียงหนึ่ง ภายใต้การพันธนาการและสยบช่องว่าง เมื่อหวู่ปิงหนิงโจมตีไม่เป็นผลพลันล่องหนหายตัวไปทันที และหลุดรอดจากช่องว่างหนีไปได้
นาทีนี้ หวู่ปิงหนิงไม่เพียงอาศัยหญ้าเร้นกายที่ฝืนลิขิตสวรรค์ยิ่งเท่านั้น ขณะเดียวกันวิชาล่องหนของนางก็ยอดเยี่ยมมาก กระทั่งเหนือกว่าองค์ชายดาบมารเสียด้วยซ้ำ
ปุ…เสียงหนึ่งดังขึ้น จังหวะที่หวู่ปิงหนิงหายตัวไปในพริบตาเดียวกันนั้น พลันปรากฏประกายเยือกเย็นขึ้นที่ด้านหลังของเจี้ยนจุน ประกายเยือกเย็นอาศัยความเร็วที่ปราศจากผู้เทียบเทียมแทงเข้าใส่แผ่นหลังของเจี้ยนจุน ง้าวกระบวนท่านี้หมายแทงทะลุหัวใจของเจี้ยนจุน
ตึงเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง กระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มที่หมุนวนอยู่รอบตัวของเจี้ยนจุนส่งประกายเจิดจ้าขึ้นมาโดยพลัน และกระบี่ศักดิ์สิทธิ์แต่ละเล่มได้ขยายตัวมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น กลายเป็นกำแพงกระบี่ที่แน่นหนาด้านหนึ่ง
อีกทั้งในเสี้ยววินาทีนี้เอง เจี้ยนจุนได้ฟันสวนออกไปหนึ่งกระบี่ อาศัยท่าทีที่เบิกฟ้าเปิดดินหวังทำให้ง้าวกระเด็นหลุดจากมือ
ตึง…เสียงหนึ่งดังขึ้นอ สะเก็ดไฟแตกกระจาย เสียงตึงเสียงนี้ไม่เพียงแต่ง้าวของหวู่ปิงหนิงที่แทงทะลุกำแพงกระบี่เข้าไป ขณะเดียวกันยังเป็นเสียงกระบี่ของเจี้ยนจุนที่ฟันเข้าไปที่ง้าว เสียงกระทบกันเช่นนี้ดังก้องจนแก้วหูแทบแตก
ในเวลานี้ มองเห็นหยดเลือดกระเซ็นออกมา แม้ว่าหนึ่งง้าวจากการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของหวู่ปิงหนิงไม่สามารถแทงทะลุร่างของเจี้ยนจุน แต่ปลายแหลมของง้าวที่กวาดผ่านไปบนแผ่นหลังของจี้ยนจุน ได้ฝากรอยแผลลึกแผลหนึ่งเอาไว้
“ฆ่า…” ในเสี้ยววินาทีนี้เอง องค์ชายดาบมารและคุณชายพานหลงได้พุ่งเข้าถึงตัว พวกเขาทั้งสองคนต่างลงมือด้วยกระบวนท่าสังหารที่เด็ดขาด หวังสังหารหวู่ปิงหนิงเสีย
แต่ว่า ร่างของหวู่ปิงหนิงแวบหนึ่ง ได้หายตัวไปในทันที เมื่อองค์ชายดาบมารกับคุณชายพานหลงมีปฏิกิริยาขึ้นอีกครั้ง หวู่ปิงหนิงได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้ว
ฉึก…ในขณะที่พวกขององค์ชายดาบมารเฝ้าระวังอย่างเต็มที่นั้น ประกายเยือกเย็นปรากฏขึ้นอีกครั้ง พุ่งเป้าไปที่คอหอยของคุณชายพานหลง
พริบตาเดียวนั่นเอง พวกขององค์ชายดาบมารก็เข้ารุมสังหาร ได้ยินเสียงดังปัง ปัง ปังขึ้นมา สามารถบีบให้หวู่ปิงหนิงต้องล่าถอยกลับไป แต่ จังหวะที่หวู่ปิงหนิงสู้ไม่ได้ก็ได้หายตัวไปอีกครั้งในพริบตาเดียว
ย่อมไม่ต้องสงสัย ด้วยศักยภาพของหวู่ปิงหนิงหาใช่คู่ต่อสู้ของพวกองค์ชายดาบมารเด็ดขาด บางทีอาจไม่ได้เหนือกว่าพวกขององค์ชายดาบมารสักเท่าไร แต่ หญ้าเร้นกายของหวู่ปิงหนิงนั้นฝืนลิขิตสวรรค์มากเหลือเกิน ทำให้นางสามารถไปมาได้อย่างอิสระภายใต้การล้อมปราบของพวกองค์ชายดาบมารสามคน พวกขององค์ชายดาบมารไม่สามารถขวางนางเอาไว้ได้อยู่แล้ว ออกจากจนด้วยเกล้าอยู่บ้าง
ในด้านนี้หวู่ปิงหนิงดูจะแข็งแกร่งกว่าคุณชายผิงเฉิงมากทีเดียว เมื่อคุณชายผิงเฉิงเผชิญหน้ากับการล้อมปราบของพวกองค์ชายดาบมารสามคนนั้น ส่วนใหญ่เขาจะอาศัยการปะทะซึ่งหน้า เขาไม่สามารถทำได้เหมือนเช่นหวู่ปิงหนิงที่ไปมาไร้ร่องรอย ไปมาได้อิสระเสรี และลอบสังหารพวกขององค์ชายดาบมารอยู่เสมอๆ ทำให้พวกขององค์ชายดาบมารต่างจนด้วยเกล้า
“หญ้าเร้นกาย หญ้าประหลาดที่มีเพียงหนึ่งไม่มีสอง” แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิก็ต้องกล่าวทอดถอนใจออกมา
ผู้คนจำนวนมากต่างมองออกว่า ถ้าหากหวู่ปิงหนิงไม่มีหญ้าเร้นกายต้องไม่ใช่คุ่ต่อสู้ขององค์ชายดาบมารอย่างแน่นอน สถานการณ์ของนางไม่เห็นจะดีไปกว่าคุณชายผิงเฉิงสักเท่าไร แต่ภายใต้ประสิทธิผลประหลาดของหญ้าเร้นกายที่ทำให้หวู่ปิงหนิงไปมาไร้ร่องรอย พลันสามารถตรึงพวกขององค์ชายดาบมารไว้อย่างแน่นหนาในทันที บังเอิญพวกขององค์ชายดาบมารก็ทำลายประสิทธิผลวิเศษของหญ้าเร้นกาย พวกเขาไม่มีศักยภาพเช่นหลี่ชิเย่ ไหนเลยสามารถขัดขวางการไปๆ มาๆ ระหว่างช่องว่างอย่างอิสระเสรีได้อย่างไรเล่า?
แม้ว่าพวกของคุณชายพานหลงจะถูกหวู่ปิงหนิงลอบฆ่าหลายครั้ง แม้ว่าหวู่ปิงหนิงจะทำการไม่สำเร็จ แต่ทว่า อย่างน้อยก็ทำให้บนร่างกายของพวกคุณชายพานหลงได้รับบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ แม้ว่าอาการบาดเจ็บเหล่านี้สำหรับพวกคุณชายพานหลงแล้วไม่นับเป็นอะไรได้
แต่ว่า การที่พวกเขายอดฝีมือทั้งสามคนกลับทำอะไรหวู่ปิงหนิงคนเดียวไม่ได้ นับว่าทำให้ชื่อเสียงของพวกเขาไม่หลงเหลืออีกเลย และไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน
ในเวลานี้เอง สายตาของคุณชายพานหลงพลันตกไปอยู่บนตัวของหลี่ชิเย่ที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นมาโดยตลอด เขาพลันบังเกิดความคิดขึ้นมา โดยสบตากับองค์ชายดาบมาร และเจี้ยนจุน
“ตรึงนางเอาไว้…” พริบตาเดียวนั่นเอง คุณชายพานหลงไม่สนใจต่อหวู่ปิงหนิงว่าจะลอบโจมตีเขาหรือไม่ เห็นกายของเขาแวบหนึ่งดั่งสายฟ้า เสียงตูมดังสนั่นขึ้นมา เจดีย์วิเศษในมือพลันพุ่งเข้าโจมตีต่อหลี่ชิเย่
ปัง…เสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเอง ง้าวปรากฏขึ้นและปัดเอาเจดีย์วิเศษที่พุ่งโจมตีเข้าหาหลี่ชิเย่
“ฆ่า…” พริบตาเดียวนั่นเอง องค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุนทั้งสองคนได้บุกโจมตีเข้ามาพร้อมกัน คนหนึ่งดาบดั่งมาร ทุกๆ ดาบพกพาความบ้าระห่ำมาด้วย คลื่นดาบดุจดั่งคลื่นยักษ์ ปณิธานดาบที่น่ากลัวกดดันเข้าหาหวู่ปิงหนิง
อีกคนหนึ่งนั้นรวมทุกสิ่งในหนึ่งกระบี่ ภายใต้หนึ่งกระบี่ได้รวบรวมปณิธานกระบี่ที่แข็งกร้าวปราศจากผู้ต่อกร หนึ่งกระบี่ที่เจิดจ้ายิ่งนัก ทำให้ดวงตะวันยังต้องสลดและอับแสง หนึ่งกระบี่ที่พุ่งแหวกอากาศดุจดั่งสายรุ้งที่พาดผ่านทะลุดวงตะวัน พลันแทงทะลุทุกสิ่งทุกอย่าง มุ่งตรงไปยังลำคอของหวู่ปิงหนิง
หวู่ปิงหนิงส่งเสียงคำรามเสียงหนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับกระบวนท่าสังหารที่เข้ามาพร้อมกันจากองค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุน ง้าวที่อยู่ในมือกวัดแกว่ง พลันทำให้เสมือนหนึ่งเกิดเป็นคลื่นยักษ์ที่น่ากลัวขึ้นมาอย่างนั้น ง้าวนั้นพร้อมสรรพทั้งรุกและรับ ดุจดั่งกลายเป็นกำแพงทองแดงสูงหมื่นจ้าง ต้านรับซึ่งหน้ากับกระบวนท่าขององค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุน
แม้ว่ากระบวนท่าสังหารขององค์ชายดาบมารและเจี้ยนจุนจะมีความยอดเยี่ยมยิ่งนัก แต่ หวู่ปิงหนิงยังคงสามารถล่องหนหายตัวได้ อย่างไรก็ตามเวลานี้หวู่ปิงหนิงกลับไม่สามารถล่องหนหายตัวได้อีก นางได้แต่รับเอาไว้ตรงๆ
ถ้าหากหวู่ปิงหนิงหายตัวไปในเวลานี้ล่ะก็ หนึ่งดาบหนึ่งกระบี่นั้นก็จะฟันเข้าร่างของหลี่ชิเย่ที่อยู่ด้านหลัง เมื่อถึงเวลานั้นเกรงว่าหลี่ชิเย่จะต้องเสียชีวิตภายใต้ดาบและกระบี่นี้
ปัง ปังแต่ละเสียงที่ดังขึ้น พริบตาเดียวนั่นเองง้าวของหวู่ปิงหนิงได้ต้านรับหนึ่งดาบหนึ่งกระบี่เอาไว้ ร่างของนางถูกแรงกระแทกจนต้องตึง ตึง ตึงก้าวถอยหลังติดต่อกันหลายก้าว ในเวลานี้เอง ที่มุมปากของนางปรากฎเลือดที่ไหลออกมา
ถ้าหากสู้กับองค์ชายดาบมาร หรือเจี้ยนจุนโดยลำพังล่ะก็ หวู่ปิงหนิงยังสามารถต้านเอาไว้ได้ แต่เมื่อพวกเขาทั้งสองร่วมมือกัน หากหวู่ปิงหนิงคิดจะรับมือดื้อๆ ล่ะก็ หาใช่คู่ต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
ในเสี้ยววินาทีนี้เอง พวกของคุณชายพานหลงได้ทำการล้อมหวู่ปิงหนิงเอาไว้ได้อีกครั้ง ผู้ที่ถูกล้อมเอาไว้ยังมีหลี่ชิเย่และหลินซิม่ออีกด้วย
ทุกคนสามารถเข้าใจได้เมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว พวกของคุณชายพานหลงทำอะไรกับหญ้าเร้นกายของหวู่ปิงหนิงโดยแท้ พวกเขาไม่สามารถขัดขวางการไปมาอย่างไร้ร่องรอยของหวู่ปิงหนิงได้
แต่ว่า พวกเขาสามารถอาศัยหลี่ชิเย่มาตรึงหวู่ปิงหนิงเอาไว้ ขอเพียงหวู่ปิงหนิงไม่ต้องการให้หลี่ชิเย่ต้องเสียชีวิตล่ะก็ นางจะไปจากหลี่ชิเย่ไม่ได้แม้เพียงครึ่งก้าว ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้หญ้าเร้นกายของหวู่ปิงหนิงไม่สามารถนำมาใช้ได้อีกต่อไป
“เทพธิดาสงคราม เวลานี้เจ้าถอนตัว และหรือยอมแพ้ยังทัน” เวลานี้คุณชายพานหลงกล่าวน่าครั่นคร้ามว่า “มิฉะนั้นล่ะก็ เกรงว่าเจ้าจะตายอย่างไร้ที่ฝัง”
“อย่างนั้นรึ?” หวู่ปิงหนิงหัวเราะเยาะทีหนึ่ง เหยียดหยามและกล่าวว่า “อาศัยพวกเจ้าน่ะหรือ? รับมือข้าหนึ่งกระบวนท่าก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ขาดคำยกง้าวขึ้น
แว้งค์…เสียงหนึ่งดังขึ้น ในพริบตาเดียวนั้นเอง ง้าวของหวู่ปิงหนิงพลันส่งประกายเจิดจ้า เสมือนหนึ่งกลับกลายเป็นมีความใสและเป็นประกายสวยงามอย่างนั้น
จี๊ดเสียงหนึ่งดังขึ้น พริบตาเดียวนั้นเอง ง้าวพลันพุ่งตัวออกไป ความเร็วนั้นเหนือกว่าฟ้าแลบเสียอีก แม้แต่กาลเวลาก็เหมือนชงักงันอย่างนั้น
โฮ่ววว…จังหวะที่ง้าวพุ่งออกไปนั่นเอง มองเห็นประกายไฟฟ้า ไม่ใช่สิ นั่นมันทะเลไฟฟ้า ท่ามกลางทะเลไฟฟ้าปรากฏซวนหนีขึ้นมาตัวหนึ่ง โดยที่ซวนหนีตัวนี้ได้กระโดดขึ้นมาโดยพลัน กรงเล็บแหลมคมมากของมันได้ฉีกฟ้าดินจนขาด ภายใต้ความเร็วที่รวดเร็วเพียงนี้ ไม่มีสิ่งใดสามารถต้านรับการพุ่งเข้าสังหารของซวนหนีได้ กระทั่งไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ รวดเร็วเหลือเกิน
ตูม…เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ขณะที่ซวนหนีเพิ่งจะปรากฏตัวขึ้นมา ร่างเงาอีกสายหนึ่งก็ได้ปรากฏตัวขึ้น พริบตาเดียวนั้นเสมือนดั่งก้าวข้ามนิรันดร์กาลอย่างนั้น
เสียงปัง ปัง ปังดังขึ้น นี่หาใช่เป็นกระบวนท่าเดียว จังหวะที่ง้าวของหวู่ปิงหนิงพุ่งขึ้นนั้นเป็นสามกระบวนท่าติดต่อกัน โดยสามกระบวนท่าสำแดงออกมารวดเดียว ดังนั้น ในขณะที่ซวนหนีพุ่งออกมา จึงปรากฎร่างเงาขนาดยักษ์อีกสองที่ปรากฎขึ้นมาพร้อมกัน แม้ว่าจะมีลำดับก่อนหลัง แต่ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากจนเป็นเนื้อเดียวกัน ขณะที่ร่างเงาทั้งสามพุ่งออกมาจึงทำให้ผู้คนรู้สึกยากจะแยกแยะ
ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ขณะที่ร่างเงาทั้งสามพุ่งตัวออกมาจังหวะนั้น พลังที่น่ากลัวพลันทะลุผ่านฟ้าดิน ฉีกทุกสิ่งทุกอย่างจนกระจุย ยิงทะลุหมื่นชาติ ภายใต้ง้าวเล่มนี้ทุกอย่างคล้ายทำด้วยกระดาษ ล้วนแล้วแต่ไม่สามารถรับกับสามกระบวนท่าที่เชื่อมติดต่อกัน
ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่…มีระดับบรรพบุรุษของระบบถ่ายทอดความคิดทางด้านลัทธิผู้หนึ่งเมื่อรู้สึกตัวจึงร้องเสียงดังขึ้นมา กล่าวด้วยความหวาดผวาว่า “ไม่ใช่ เป็นสามกระบวนท่า สามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน!”
‘สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่’ ทุกคนต่างรู้สึกใจหายใจคว่ำเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ กล่าวด้วยความหวาดผวาว่า ‘สามกระบวนท่าเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน!’ ทันใดนั้น ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่สั่นเทิ้มทีหนึ่ง
สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่คือเคล็ดวิชาสูงสุดของจูเซียงหวู่ถิงแล้ว มีความฝืนลิขิตสวรรค์ปราศจากผู้ต่อกร และเป็นกระบวนท่าที่หวู่จู่ภูมิใจที่สุดในชีวิต ปราศจารกผู้ต่อกรทั่วหล้า แค่หนึ่งกระบวนท่าที่สำแดงออกมาก็ไม่มีผู้ใดต้านทานได้ เวลานี้สามกระบวนท่ากลับถูกสำแดงออกมาพร้อมกันเมื่ออยู่ในมือของหวู่ปิงหนิง
ด้วยพลังเช่นนี้มันช่างน่ากลัวอะไรอย่างนั้น เท่ากับเป็นการทำให้พลังของหนึ่งกระบวนท่าเพิ่มขึ้นอย่างอย่างบ้าคลั่งโดยไม่มีขีดจำกัดอย่างนั้น ดังนั้นในพริบตาเดียวนั่นเอง ทุกคนต่างได้เห็นภาพที่อลังการอย่างยิ่ง ขณะที่ง้าวยังไม่ทันพุ่งโจมตีออกไป ช่องว่างที่อยู่ด้านหน้าพลันกลายเป็นผลึก เสมือนดั่งกระจกที่แตกละเอียดไปอย่างนั้น
ในเวลาเดียวกัน ทำให้ผู้คนสามารถมองเห็นแสงไฟที่แวบวับ ทันใดนั้นเองแม้แต่กาลเวลาก็ถูกแซง โดยง้าวได้วิ่งอยู่ด้านหน้าของแสง ในสายตาของทุกคนมองดูแล้วจึงคล้ายกับว่าฟ้าดินและทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่ชะงักงันอย่างนั้น กระทั่งเหมือนไหลย้อนกลับ ทุกคนจึงบังเกิดภาพลวงตา เหมือนว่ากาลเวลากำลังย้อนกลับไป เป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาดอย่างยิ่ง
สิบสองกระบวนท่าหวู่จู่ได้อาศัย ‘ซวนหนีไฟฟ้าลงเขา’ เป็นกระบวนท่าเปิด สามกระบวนท่าเชื่อมประสานกัน เมื่อโจมตีออกมาในลักษณะเช่นนี้แล้ว จึงน่ากลัวเหลือเกิน
ทันใดนั้นเอง พวกองค์ชายดาบมารสามคนต่างมีสีหน้าที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว รับรู้ได้ถึงการคุกคามที่น่ากลัวอย่างยิ่ง องค์ชายดาบมารลงมือนำก่อนเพื่อน ร้องคำรามเสียงดัง ‘หนึ่งดาบเบิกสวรรค์! ’
แกร๊งเสียงหนึ่งดังขึ้น แสงจากทั่วฟ้าดินล้วนแล้วแต่มารวมตัวกันอยู่บนดาบยาวขององค์ชายดาบมาร หนึ่งดาบกลับกลายเป็นเหมือนฝูงนกเป็ดน้ำที่โผบินขึ้นด้วยความตระหนก ทันใดนั้นเอง หนึ่งดาบขององค์ชายดาบมารฟันออกไปตรงๆ โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ เป็นหนึ่งดาบที่ฟันตรงออกไป
นาทีนี้กล่าวสำหรับองค์ชายดาบมารแล้ว การรุกคือการป้องกันที่ดีที่สุด เนื่องจากการป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงใดก็ไม่สามารถต้านรับกับหนึ่งง้าวของหวู่ปิงหนิงได้ ดังนั้น เขาจึงต้องอาศัยหนึ่งกระบวนท่าที่แข็งแกร่งที่สุดของตนฟันใส่ง้าวของหวู่ปิงหนิง
เสียงปังดังขึ้น ขณะที่หนึ่งดาบได้ฟาดฟันลงไปนั้น ฟ้าดินและความขมุกขมัว ดวงดาวล้วนแล้วแต่ถูกผ่าให้แยกออก และเกิดระเบิดขึ้นโดยพลัน ทั่วฟ้าดินเสมือนหนึ่งตกอยู่ท่ามกลางความมืดมิดอย่างนั้น
‘อาณาจักรกระบี่หลายหลาก’ เจี้ยนจุนคำรามเสียงดัง ร่างกายของเขาได้กลับกลายเป็นอาณาจักรกระบี่ที่กว้างใหญ่ไพศาลไร้ขอบเขต กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นับล้านล้านเล่มได้ซ้อนกันจนกลายเป็นป้อมปราการที่ยอดเยี่ยมที่สุด และตัวของเขาอยู่ท่ามกลางป้อมปราการกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดไม่สามารถตีแตกได้ นี่คือหนึ่งกระบี่ที่แกร่งที่สุดของเจี้ยนจุนแล้ว
“หมื่นของวิเศษเสมอฟ้า…” นาทีนี้คุณชายพานหลงถูกทำให้ตกใจไม่เบา เขาคำรามเสียงดังและเสกเอาของวิเศษออกมามากมาย และสำแดงกระบวนท่าที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมา ภายในหนึ่งกระบวนท่านี้เป็นทั้งรุกและรับ
ทุกคนต่างได้มองเห็นภาพที่อลังการอย่างยิ่ง เมื่อคุณชายพานหลงได้เสกของวิเศษออกมามากมาย เสมือนดั่งดวงตะวันร้อยพันดวงที่ค่อยๆ ลอยขึ้นมา ดุจดั่งทำลายฟ้าดินจนแหลกละเอียด
……………………………..