ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2466 จิตที่ไม่หวาดหวั่น
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2466 จิตที่ไม่หวาดหวั่น
เป็นเช่นนี้จริงๆ รึ? ครั้นหลิ่วชูฉิงได้สติกลับมา จ้องมองไปที่หลี่ชิเย่ และกล่าวด้วยท่าทีที่ไม่ค่อยแน่ใจนัก
หลี่ชิเย่ถึงกับหัวเราะขึ้นมา ใช้นิ้วดีดเส้นผมบนหน้าผากของนางเบาๆ ทีหนึ่ง และกล่าวว่า เด็กโง่ ใช่ว่าเจ้าจะไม่มีความกล้า ยิ่งหาใช่ไม่ได้มีจิตที่ไม่หวาดหวั่นดวงหนึ่ง ที่ว่าตนเองเป็นคนไม่กล้านั้น เป็นเพราะเจ้าเองขี้อายเท่านั้นเอง ซึ่งมันเป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง สิ่งที่เจ้าขาดไปเป็นเพียงประสบการณ์ที่โชกโชนเท่านั้น
เป็นความจริงรึ? หลิ่วชูฉิงรู้สึกตื่นตระหนกตกใจระคนกับความดีใจน้อยๆ และเอ่ยถามขึ้นมาเบาๆ ด้วยความรู้สึกเขินอายอยู่บ้าง
วางใจเถอะ ข้าไม่หลอกเจ้าอยู่แล้ว หลี่ชิเย่ยิ้มเฉยเมย และกล่าวว่า ถ้าหากว่าเจ้าไม่มีความกล้าหาญ ไม่มีจิตที่ไม่หวาดหวั่นดวงนั้น เจ้าก็จะไม่มายืนอยู่ตรงนี้ในเวลานี้ ผู้ที่มีสัญญาหมั้นหมายกับข้าในวันนั้นใช่ว่ามีเพียงเจ้าเท่านั้น มีองค์หญิงของห้าสำนักใหญ่ แต่ว่า ผู้ที่มายืนอยู่ตรงหน้าของข้าในเวลานี้ก็มีเพียงเจ้าเท่านั้น
สิ่งนี้ไม่เพียงเพราะเจ้าเซ่อซ่าจนดูน่ารักเท่านั้น หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า ยังเป็นเพราะเจ้าไปเผชิญหน้ากับมันตรงๆ ไม่หลบเลี่ยงมัน และไม่ปฏิเสธมัน เจ้าเลือกที่จะหลีกหนีกับการหมั้นหมายในลักษณะเช่นนี้ได้ และสามารถเลือกที่จะปฏิเสธมัน กระทั่งสามารถทำหน้าไหว้หลังหลอกได้ แต่ว่า บ่อยครั้งอยู่เสมอที่จะต้องไปยอมรับเรื่องที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง ไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่ต้องการไปเผชิญหน้านั้น มันจำเป็นต้องอาศัยความกล้าอย่างยิ่งทีเดียว
เจ้าสามารถไปเผชิญหน้ากับมัน ยินดีไปยอมรับมัน กระทั่งไปเปลี่ยนแปลงมัน ครั้นหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้ มองดูหลิ่วชูฉิงแล้วกล่าวว่า แน่นอน สิ่งนี้ก็เป็นเพราะเจ้าโง่เขลา ขณะเดียวกันก็เพราะเจ้ามีความกล้าตรงนี้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหัวใจที่ไม่หวาดหวั่นอยู่ดวงหนึ่ง
เกลียดนักเชียว ข้า ข้า ข้าไม่โง่น่ะ หลิ่วชูฉิงถูกว่าจนเขินยิ่งนัก กระทืบเท้าเบาๆ ทีหนึ่ง ท่าทางเอียงอายอยู่เจ็ดส่วน ออดอ้อนฉอเลาะอยู่สามส่วน งดงามปราศจากผู้เทียบเทียม เสมือนหนึ่งเป็นภรรยาตัวน้อยๆ ที่น่ารักคนหนึ่ง
หลี่ชิเย่ก็แค่ยิ้มๆ นิดหนึ่งเท่านั้น จ้องมองไปยังสถานที่ที่ห่างไกลออกไป
แต่ว่า มีบางสิ่งสามารถขัดเกลาได้อยู่แล้ว บางอย่างสามารถขัดเงาได้ หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลี่ชิเย่ได้ละสายตากลับมาและยิ้มกล่าว
ขัดเงาต้องทำอย่างไร? หลิ่วชูฉิงเอ่ยถามด้วยความงุนงง
ไม่มีใครเกิดมาก็มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งมาแต่กำเนิดอยู่แล้ว ถ้าหากสามารถมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งไม่สั่นคลอนดวงหนึ่งมาแต่กำเนิดล่ะก็ นั่นคือผู้มีใจแกร่งดั่งเหล็กเพชร ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ จิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่เกิดจากการสั่งสมมาเรื่อยๆ ผ่านการลังเล ผ่านการรู้สึกขี่ขลาดตาขาว และผ่านการหวั่นไหว…แต่ว่า ท้ายที่สุดแล้วยังคงยืนหยัดต่อไปเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรต้องมีเป็นขั้นเป็นตอน หาใช่ร่วงหล่นลงมาจากฟ้า
เมื่อหลี่ชิเย่เอ่ยมาถึงตรงนี้แล้วได้จ้องมองดูหลิ่วชูฉิง หัวเราะและกล่าวว่า สิ่งนี้เสมือนดั่งความกล้าหาญ ยามที่เจ้ารู้สึกขลาดกลัวนั้น ยามที่ภายในใจของเจ้าเกิดความท้อถอยขึ้นมา ภายในใจของเจ้าก็จะปลุกเร้าความกล้าขึ้นมา ให้เจ้าไปเผชิญหน้ากับมันอย่างกล้าหาญ ให้เจ้าได้ก้าวเดินต่อไปข้างหน้า
ถูกต้อง หลิ่วชูฉิงถึงกับฟังจนเหม่อลอยกับคำพูดเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ ขณะที่นางมาปฏิบัติตามสัญญาหมั้นหมายในครั้งนี้ นางคิดจะหลบหนี และท้อถอยอยู่หลายครั้งขณะอยู่ต่อหน้าหลี่ชิเย่ หลายครั้งที่รู้สึกขลาดกลัว แต่ว่า สุดท้ายแล้ว ภายในใจของนางยังคงปลุกเร้าความกล้าขึ้นมาในขั้นตอนสุดท้าย ทำให้นางก้าวเดินไป่ข้างหน้าต่อไป
ดังนั้น ที่เจ้าต้องการคือการขัดเกลาอีกสักนิด หลี่ชิเย่ที่แฝงไว้ซึ่งรอยยิ้มจ้องมองดูหลิ่วชูฉิง และกล่าวว่า ที่ข้ามีเคล็ดลับอยู่แขนงหนึ่งซึ่งจะมีประโยชน์ต่อเจ้า แม้ว่ามันไม่สามารถทำให้เจ้าปราศจากผู้ต่อกรใต้หล้า และไม่สามารถทำให้การฝึกปรือของเจ้าก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มันกลับสามารถทำให้เจ้าบังเกิดความกล้าหาญขึ้นภายในใจ ทำให้เจ้ามีพลังที่จะก้าวไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ
โลกนี้มีเคล็ดวิชาเช่นนี้อยู่จริงหรือ? หลิ่วชูฉิงที่ได้ยินถึงกับเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ
ทำไมถึงไม่มี? หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า มนุษย์ปุถุชนธรรมดาศึกษาพุทธเพื่ออะไร เพื่อพระธรรมหรือว่าเพื่อเป็นพระอรหันต์? พระธรรมไร้ขอบเขต มันสามารถช่วยให้เจ้าไปยังอภินิหารยิ่งใหญ่ ขณะที่เป็นพระอรหันต์ทำให้เจ้าไม่หวั่นไหวต่อทุกสรรพสิ่ง พุทธจิตไม่แตกดับ เจ้าคิดว่าพระธรรมไร้ขอบเขตแข็งแกร่งกว่า หรือว่าพุทธจิตไม่แตกดับแข็งแกร่งกว่า?
เรื่องนี้…หลิ่วชูฉิงไม่สามารถตอบได้ในเวลานี้
เรื่องนี้ต้องไล่ย้อนกลับไปยังหลักฐานอ้างอิงการฝึกบำเพ็ญเพียร การฝึกบำเพ็ญเพียรเพื่อต้องการอภินิหารที่ปราศจากผู้ต่อกร หรือต้องการจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรที่ไม่แตกดับกันแน่ หลี่ชิเย่กล่าวเฉยเมย
หลิ่วชูฉิง ตะลึงงันอยู่ตรงนั้น เนื่องจากคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ได้เปิดประตูที่ไม่เคยมีมาก่อนออกมาบานหนึ่ง ทำให้นางได้มองเห็นโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมด
การเป็นราชันแท้จริงที่ปราศจากผู้ต่อกรคนหนึ่งไม่ยาก แต่ทว่า ต้องการกลายเป็นราชันแท้จริงที่มีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แตกดับก็คงยากแล้วล่ะ ในหนึ่งศตวรรษก็ไม่แน่ว่าสามารถให้กำเนิดผู้ดำรงอยู่ในฐานะมีจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่แตกดับสักคน หลี่ชิเย่เอ่ยขึ้นช้าๆ ว่า เมื่อจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรของเจ้าไม่แตกดับ ทุกสรรพสิ่งในโลกไหนเลยทำให้เจ้าหวั่นไหวได้ แม้ว่าฟ้าดินจะแตกสลายเจ้าก็ยังคงอยู่เป็นนิรันดร์ แม้แต่ฟ้าดินถูกทำลายพินาศย่อยยับเจ้ายังคงสามารถคงอยู่เป็นนิรันดร์ เจ้าลองนึกดู เป็นวิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งกว่า หรือจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรแกร่งกว่ากัน? วิถีแห่งการบำเพ็ญเพียรไม่สามารถทำให้เจ้าไม่ดับสลายเป็นนิรันดร์ แต่ว่าจิตแห่งการบำเพ็ญเพียรกลับสามารถทำให้เจ้าไม่ดับสลายได้เป็นนิรันดร์!
เมื่อหลี่ชิเย่ได้อธิบายและบอกเล่าด้วยมุมมองที่ใหม่ทั้งหมดเช่นนี้ ทำให้หลิ่วชูฉิงรับฟังจนเหม่อโดยพลัน ในพริบตาเดียวนั่นเองเสมือนดั่งมีโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดปรากฏอยู่ตรงหน้าของนาง โดยที่โลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดได้เปล่งรัศมีออกมา อีกทั้งโลกธาตุที่ใหม่ทั้งหมดเช่นนี้ไม่เคยมีใครถ่ายทอดให้กับนางมาก่อน และไม่เคยมีใครบรรยายกับนางมาก่อน
สำหรับคำพูดลักษณะเช่นนี้ของหลี่ชิเย่นั้น หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงส่ายหน้าด้วยความระอา กระทั่งมีผู้ที่คิดว่านี่เป็นเพียงคำพูดที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิดเท่านั้นเอง ไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึง
แต่ว่าหลิ่วชูฉิงนั้นแตกต่าง นางมีจิตใจที่บริสุทธิ์ดวงหนึ่ง ไร้เดียงสาแต่มีสติปัญญาฉลาด ความโชคดีของนางนั้นหาใช่พวกที่ได้ชื่อว่าเป็นอัจฉริยะบุคคลสามารถเทียบเคียงได้อยู่แล้ว นางจึงเป็นผู้ที่มีความบริสุทธิ์อย่างแท้จริง
เมื่อนางได้ฟังคำบอกเล่าเช่นนี้จากหลี่ชิเย่แล้ว ทำให้นางพลันหลงใหลไปกับวิธีการพูดเช่นนี้ กล่าวสำหรับนางแล้วนี่คืออาณาจักรที่ใหม่ทั้งหมด
เป็นไปได้จริงๆ รึ? ไม่ง่ายนักกว่าหลิ่วชูฉิงจะได้สติกลับมา จึงเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
กล่าวสำหรับข้าแล้วมีอะไรที่ไม่ได้ หลี่ชิเย่หัวเราะและกล่าวว่า ฟังให้ดี ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดลับกับเจ้า เจ้าไปพินิจพิเคราะห์และฝึกปรือให้ดีก็แล้วกัน มีอะไรไม่เข้าใจมาถามข้า กล่าวพลางได้ถ่ายทอดเคล็ดลับบทหนึ่งให้กับหลิ่วชูฉิง
หลิ่วชูฉิงฟังอย่างตั้งใจ โดยจดจำเคล็ดลับที่หลี่ชิเย่ถ่ายทอดให้ทุกตัวอักษร ไม่ปล่อยให้ข้อปลีกย่อยใดๆ พลาดหลุดรอดไปได้
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นคงไม่ใยดีและส่ายหน้าด้วยความระอา สมควรทราบว่า หลิ่วชูฉิงนั้นมีชาติกำเนิดมาจากหอหลินไห่เก๋อ ในฐานะที่เป็นองค์หญิงแห่งหอหลินไห่เก๋อ นางได้ฝึกปรือเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งและยอดเยี่ยมที่สุดของหอหลินไห่เก๋อมา กระทั่งได้ฝึกปรือ ‘เคล็ดวิชาหลินมี่’ หนึ่งในเก้าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ที่ผู้คนใฝ่ฝันถึง!
ขณะที่หลี่ชิเย่เป็นเพียงฮ่องแต้ชั่วผู้มีชื่อเหม็นเป็นที่ประจักษ์คนหนึ่งเท่านั้นเอง เฉกเช่นตัวเขาที่เป็นเพียงฮ่องแต้ชั่วที่มั่วโลกีย์ไร้คุณธรรม ในสายตาของชาวโลกทักษะของเขาไม่คู่ควรที่จะกล่าวถึง อ่อนแอไร้ความสามารถ!
เป็นไปได้อย่างไรที่คนอย่างเขาจะไปรู้เคล็ดลับของสุดยอดเคล็ดวิชาที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมซึ่งมีเพียงหนึ่งไม่มีสองได้อย่างไรกัน เป็นเรื่องที่น่าขันมากที่สุดในโลกโดยแท้
เฉกเช่นฮ่องแต้ชั่วอย่างเขาไปถ่ายทอดเคล็ดลับเคล็ดวิชาให้กับองค์หญิง อัจฉริยะบุคคลแห่งหอหลินไห่เก๋อ เป็นเรื่องที่หัวเราะจนฟันหักสำหรับสายตาของผู้อื่น ในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ยังจะมีเคล็ดลับเคล็ดวิชาอะไรเหนือกว่าเคล็ดวิชาจิ่วมี่ได้อีก ขณะที่หลิ่วชูฉิงก็คือผู้ที่ได้ฝึกเคล็ดวิชาหลินมี่คนนั้น
หากมีผู้อื่นอยู่ในเหตุการณ์ด้วย และได้เห็นพฤติกรรมเช่นนี้ของหลี่ชิเย่ จะต้องเยาะเย้ยหลี่ชิเย่แน่นอน นี้มันเป็นการโอ้อวดต่อหน้าผู้รู้ชัดๆ ไม่รู้จักเจียมตน
แต่ทว่า หลิ่วชูฉิงนั้นแตกต่าง นางกลับรับฟังเคล็ดลับของหลี่ชิเย่อย่างออกรสออกชาติ ลุ่มหลงอยู่ท่ามกลางสิ่งนี้โดยสิ้นเชิง
ภาษิตว่าเอาไว้ว่า ผู้หญิงที่ตกอยู่ในทะเลแห่งความรักล้วนแล้วแต่เป็นคนโง่ ในความคิดของหลิ่วชูฉิงนั้น หลี่ชิเย่มีฐานะที่สูงส่ง แม้ว่าหลี่ชิเย่จะถ่ายทอดเคล็ดลับให้กับนางไปตามอารมณ์นางก็จะจำใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่หลี่ชิเย่ถ่ายทอดให้กับนางนั้นเป็นคาถาที่คนอื่นใฝ่ฝันให้ได้มา ทำให้นางจมปลักอยู่ท่ามกลางสิ่งนั้นโดยสิ้นเชิง
ผู้อื่นอาจจะมองเรื่องนี้ว่า อาจเป็นเพราะคนโง่ย่อมมีวาสนาของคนโง่ ความจริงแล้ว มันเป็นเพราะหลิ่วชูฉิงที่มีจิตใจที่บริสุทธิ์ดวงหนึ่งจึงได้รับโชคเช่นนี้ ได้รับการดูแลจากหลี่ชิเย่ มิฉะนั้นแล้วหากเปลี่ยนเป็นคนอื่น ต่อให้คุกเข่าเลียเขาอย่างไร ต่อให้ประจบสอพรอ ประจบประเจงเขาอย่างไร เกรงว่าหลี่ชิเย่ก็คงไม่ยอมถ่ายทอดคาถาเช่นนี้ให้อยู่แล้ว
แม้ว่าหลิ่วชูฉิงจะเป็นหญิงสาวที่ขี้อายคนหนึ่ง เรียบง่ายไม่ซับซ้อนจนดูน่ารัก ความจริงแล้วพรสวรรค์ของนางนั้นสูงมาก เพียงแต่นางไม่ได้เหมือนเช่นอัจฉริยะบุคคลจำนวนมากที่ไปฝึกอย่างเต็มที่เท่านั้นเอง
ดังนั้น หลังจากที่หลี่ชิเย่ได้ถ่ายทอดเคล็ดลับเพียงเที่ยวเดียวให้ หลิ่วชูฉิงก็จดจำได้ทันที และจมปลักอยู่ท่ามกลางคาถาที่ลึกซึ้งและยอดเยี่ยมนี้แล้ว
เวลาได้ไหลเคลื่อนไปจนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไรแล้ว หลิ่วชูฉิงจึงได้สติจากคาถาที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมยิ่งนักนี้กลับมา นางทั้งตระหนกระคนกับความดีใจ และกล่าวว่า คาถานี้ช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน ลึกซึ้งและเยี่ยมยอดมีเพียงหนึ่งไม่มีสอง รู้สึกเหมือนว่ามันไหลรินอยู่ภายในร่างกายของข้าอย่างนั้น
เนื่องจากเจ้ามีสายเลือดหยก และด้วยสายเลือดที่เงียบสงัดใสสะอาด ยิ่งส่งผลให้เจ้าสามารถบรรลุได้อีกขั้นหนึ่ง หลี่ชิเย่ยิ้มกล่าวเฉยเมย
ท่านก็รู้เรื่องนี้ หลิ่วชูฉิงถึงกับอ้าปากกว้างด้วยความตื่นตระหนกยิ่งเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ ท่าทางดูน่ารัก
สายเลือดของนางนั้นสูงส่งมาก ทุกคนรู้แต่เพียงนางมีสายเลือดที่สูงส่งเท่านั้นเอง บุคคลภายนอกไม่มีทางรู้อยู่แล้วว่านางมีสายเลือดอย่างไร แม้แต่ในหอหลินไห่เก๋อของพวกเขาก็จำกัดอยู่ระดับบรรพบุรุษไม่กี่คนเท่านั้นเอง เวลานี้หลี่ชิเย่สามารถบอกถึงสายเลือดของนางออกมาได้ตามอารมณ์
เรื่องนี้ไม่เห็นมีอะไรยาก หลี่ชิเย่หัวเราะทีหนึ่งและกล่าวว่า ในโลกนี้มีเรื่องอะไรที่สามารถปิดบังดวงตาทั้งสองของข้าไปได้? ขอเพียงข้าต้องการก็สามารถรู้ได้
หลิ่วชูฉิงถึงกับเอียงคอจ้องมองดูหลี่ชิเย่ มองดูผู้ชายคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า ดูไปแล้วก็ธรรมดา แต่ในสายตาของนางช่างเปี่ยมด้วยเสน่ห์ ช่างเป็นที่หลงใหลมองดูไม่รู้จักเบื่อ
ท่าน ท่านกับที่ลือกันข้างนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง สุดท้าย หลิ่วชูฉิงอดที่จะพึมพำเช่นนี้ขึ้นมา
เมฆหมอกบนโลกนี้มีมากมายเหลือเกิน จะมีสักกี่คนที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเล่า หลี่ชิเย่ยิ้มๆ และกล่าวว่า เรื่องราวบนโลกดั่งหมากรุกเท่านั้นเอง ตัวหมากไหนเลยสามารถมองเห็นหมากเกมได้ชัดเจน? ยิ่งมองคนที่เป็นผู้เล่นไม่ชัดเจน ดังนั้นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาบนโลกส่วนใหญ่คือพูดตามคนอื่นโดยไม่มีความคิดที่เป็นของตนเอง
เป็นเช่นนี้นี่เอง หลิ่วชูฉิงฟังไปพลางรู้สึกว่ามันสลับซับซ้อนเหลือเกิน ไม่อยากจะไปคิดให้มันมาก ทำท่าสะบัดศีรษะท่าทางน่ารักยิ่ง จากนั้นก็จมปลักอยู่กับความลึกซึ้งยอดเยี่ยมของคาถาต่อไป
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่ หลิ่วชูฉิงทำเอียงคอนึกดูแล้วพูดกับหลี่ชิเย่ขึ้นมาว่า มีความรู้สึกที่คุ้นเคยมากอย่างหนึ่ง เหมือนเคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน แต่ก็ไม่เคยเห็น นี่มันคือเคล็ดลับของคาถาใดเล่า?
ทีหลังเจ้าก็จะรู้เอง หลี่ชิเย่กล่าวพร้อมกับแฝงด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เมื่อเจ้าบรรลุได้แล้ว เจ้าก็จะค่อยๆ เข้าใจแจ่มแจ้งเอง เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะถ่ายทอดเคล็ดลับคาถาบทอื่นๆ ให้อีก
ตกลง หลิ่วชูฉิงพยักหน้าด้วยท่าทางจริงจัง น่ารักน่าเอ็นดูและเชื่อฟังยิ่ง เสมือนหนึ่งเป็นภรรยาตัวน้อยๆ ที่เพียบพร้อมด้วยความอ่อนโยน ช่างชวนให้หลงใหล ช่างน่ารักเหลือเกิน
หลี่ชิเย่เผยรอยยิ้มบางๆ ออกมา ขณะมองดูท่าทางเช่นนี้ของหลิ่วชูฉิง
เรื่องเช่นนี้ในสายตาของผู้อื่นมองว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย องค์หญิงของหอหลินไห่เก๋อซึ่งมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด เพียงเพื่อสัญญาหมั้นหมายที่ไม่ได้มีกำลังสามารถบังคับให้ต้องปฏิบัติตามได้ กลับยินดีติดตามฮ่องแต้ชั่วคนหนึ่งไปชั่วชีวิต
อีกทั้ง นางยังเต็มใจที่จะยอมรับความลำบาก เมื่อฮ่องแต้ชั่วที่อ่อนแอกว่านางถ่ายทอดเคล็ดลับให้
ในทัศนะคติของผู้อื่นมองว่าเรื่องเช่นนี้มันคือเรื่องที่เสียสติไปแล้ว เกรงว่าผู้คนจำนวมากจะเข้าใจว่าหลิ่วชูฉิงนั้นเรียกว่าโง่เขลาเบาปัญญาจนสุดจะเยียวยาได้เมื่อได้ทราบเรื่องนี้แล้ว
ทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้กล่าวสำหรับหลิ่วชูฉิงแล้วอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น เนื่องจากขณะที่นางเดินทางมาเพื่อทำตามคำมั่นสัญญาหมั้นหมายนี้ ภายในใจของนางได้เตรียมการสำหรับกรณีที่เลวร้ายที่สุดเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มาอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่อย่างแท้จริงแล้ว หาได้มีความน่ากลัวเช่นที่จินตนาการเอาไว้อย่างสิ้นเชิง นางกลับรู้สึกมีความสุข และโชคดีอะไรอย่างนั้น นางยินดีรั้งอยู่ข้างกายและเต็มใจยอมรับความลำบาก กล่าวสำหรับนางแล้วชั่วชีวิตดูจะสั้นเกินไป
ดังนั้น แม้ว่าเวลานี้จะมีผู้ที่คิดว่านางโง่เกินไปนางก็ไม่สนใจ และนางก็ไม่แคร์ความคิดของคนอื่น เนื่องจากนาทีนี้นางมีความสุขมาก นางชื่นชอบที่จะอยู่ข้างกายหลี่ชิเย่ ส่วนหลี่ชิเย่จะเป็นฮ่องแต้ชั่วที่เล่าลือกันภายนอกนั้นจะเป็นอะไรไปเล่า?