ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล - ตอนที่ 2474 ค่ายกลโบราณจูเซียน
- Home
- ราชันอหังการ Emperor’s Domination จักรพรรดิบรรพกาล
- ตอนที่ 2474 ค่ายกลโบราณจูเซียน
ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนเท่าไรที่ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงขณะมองดูหยางฟู่ฝาน แม้แต่บรรดาอัจฉริยะบุคคลรุ่นเยาว์จำนวนไม่น้อยที่มองว่าตัวเองสูงเด่นกว่าใคร กระทั่งอัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ก็ต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง
การที่หยางฟู่ฝานสามารถทำให้ผู้คนต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงเช่นนี้ หาใช่เป็นเพราะอาจารย์ของเขาคือราชันแท้จริงปาเจิ้น ยิ่งไม่ได้เป็นเพราะเขามีชาติกำเนิดมาจากแคว้นว่านเจิ้น
แต่เป็นเพราะพรสวรรค์ที่ปราศจากผู้เทียบเทียมของเขา สมควรทราบว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นเพียงราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาเท่านั้นเอง ขณะที่หยางฟู่ฝานในฐานะศิษย์ของราชันแท้จริงปาเจิ้น เขาคือระดับเทพแท้จริง ขั้นสวรรค์ชั้นที่สามแล้ว
แม้ว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นในฐานะราชันแท้จริงขั้นสองลัคนายากจะเทียบเคียงกับราชันแท้จริงขั้นอมตะได้ แต่ระดับเทพแท้จริงทั่วไปไม่สามารถต่อกรกับเขาได้อยู่แล้ว
ปัญหาก็คือ หยางฟู่ฝานนั้นอายุเยาว์วัยมาก เข้าเป็นศิษย์ของราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ไม่นานนักก็คือระดับเทพแท้จริงขั้นสวรรค์ชั้นที่สามแล้ว ย่อมสามารถจินตนาการได้ว่าพรสวรรค์ของเขานั้นสูงมากแค่ไหน
กระทั่งมีคนพูดว่า พรสวรรค์ของหยางฟู่ฝานนั้นสูงกว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขาเสียอีก และปราดเปรื่องน่าทึ่งกว่าราชันแท้จริงปาเจิ้น ไม่แน่นักสักวันหนึ่งเขายังจะสามารถล้ำหน้ากว่าราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขา
มาวันนี้ หยางฟู่ฝานมาขอพบฉินเจี้ยนเหยาในนามตัวแทนของราชันแท้จริงปาเจิ้นย่อมไม่เหมือนกัน
“พักนี้ราชันแท้จริงปาเจิ้นสบายดีรึ” หลายวันมานี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ไปเยี่ยมคารวะฉินเจี้ยนเหยา แต่นางก็ไม่รับแขกโดยหลีกเลี่ยงที่จะพบ แต่ว่า เมื่อหยางฟู่ฝานมาขอพบนางยังคงยกเว้นให้พบได้เป็นกรณีพิเศษ
สามารถได้รับการยกเว้นจากฉินเจี้ยนเหยาให้เข้าพบได้ ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยต้องชมเปาะด้วยความตื่นตะลึง เป็นความจริงที่หยางฟู่ฝานนั้นปราดเปรื่องน่าทึ่งในหล้า การที่เขาสามารถได้รับอนุญาตจากฉินเจี้ยนเหยาให้เข้าพบได้ไม่เพียงเพราะราชันแท้จริงปาเจิ้นผู้เป็นอาจารย์ของเขาเท่านั้น ขณะเดียวกัน เขาก็นับเป็นอัจฉริยะบุคคลที่มีพลังแฝงไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง
ในข้อนี้ หม่าจินหมิงที่มีชาติกำเนิดมาจากกองทัพส่วนกลางก็เทียบไม่ได้กับหยางฟู่ฝานแล้ว แม้จะกล่าวว่าหม่าหมิงชุนบิดาของหม่าจินหมิงจะเป็นแม่ทัพของกองทัพส่วนกลาง และเป็นระดับเทพแท้จริงขั้นอมตะ ศักยภาพของเขามีความแข็งกร้าวและพาลอย่างแน่นอน
แต่ทว่า หม่าจินหมิงยังคงไม่ได้รับความโปรดปรานจากฉินเจี้ยนเหยา ย่อมเป็นการบ่งชี้ว่าผู้คนมั่นใจในตัวหยางฟู่ฝานมากกว่ามากทีเดียว
“เรียนเทพธิดา เร็วๆ นี้ท่านอาจารย์ได้กักตนเพื่อบรรลุ” หยางฟู่ฝานรีบโค้งคำนับและกล่าวขึ้น
“ราชันแท้จริงปาเจิ้นต้องการบุกเบิกลัคนาที่สามแล้วรึ? ”
“เรียนเทพธิดา การกักตนของท่านอาจารย์ไม่ได้เพื่อลัคนาที่สาม แต่เป็นการบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้” หยางฟู่ฝานกล่าวตอบ
ค่ายกลโบราณจูเซียน…ฉินเจี้ยนเหยาเองก็รู้สึกประหลาดใจเมื่อได้ยินคำพูดคำนี้ และกล่าวว่า “ความรู้แจ้งรู้จริงด้านค่ายกลของราชันแท้จริงปาเจิ้น ไม่มีผู้ใดสามารถเทียบเคียงได้ในยุคนี้อีกแล้ว นึกไม่ถึงเขาต้องกักตนเพื่อทำความบรรลุ เช่นนี้แสดงว่าเขาได้รู้ลึกถึงแก่นของค่ายกลโบราณแล้วสิ เยี่ยมมาก เกรงว่าวันที่เขาออกจากการกักตนก็จะเป็นวันที่สำเร็จโดยสมบูรณ์”
“อาศัยคำพูดที่เป็นมงคลของเทพธิดา” หยางฟู่ฝานรีบเร่งกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ก่อนกักตนก็มีความรู้ประสบการณ์อยู่มากทีเดียวอยู่ก่อนแล้ว มาคราวนี้คือต้องการตรองให้ทะลุปรุโปร่งถึงแก่นที่ลึกซึ้งยอดเยี่ยมของค่ายกลโบราณ ดังนั้น จึงได้กักตนเป็นกรณีพิเศษ”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ยากจะมีใครสามารถควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนได้” ฉินเจี้ยนเหยาพยักหน้าและกล่าวชื่นชมคำหนึ่ง “หากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถทำความบรรลุค่ายกลดังกล่าวนี้ได้ จะต้องเหมือนดั่งพยัคฆ์ติดปีก เกรียงไกรทั่วหล้า”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น อนาคตยังคงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากเทพธิดา” หยางฟู่ฝานรีบเอ่ยขึ้นมา
การที่ได้รับคำชื่นชมเช่นนี้จากฉินเจี้ยนเหยา ทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยแอบตระหนกอยู่ในใจ และผู้คนจำนวนไม่น้อยที่รู้สึกอิจฉา
ค่ายกลโบราณจูเซียน…ผู้บำเพ็ญตนกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมากต่างไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเมื่อได้ยินคำพูด่ของหยางฟู่ฝาน แต่ว่า ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยกลับมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป แม้แต่ระดับบรรพบุรุษของสำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขุนนางโบราณต่างก็มีท่าทีรู้สึกเย็นวาบบ
“ค่ายกลโบราณจูเซียนแข็งแกร่งมากรึ? ” กลุ่มคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักค่ายกลโบราณจูเซียน อดที่จะถามขึ้นด้วยความสงสัยไม่ได้
“แข็งแกร่งมาก” ระดับบรรพบุรุษกล่าวเสียงทุ้มต่ำว่า “แคว้นว่านเจิ้นอาศัยค่ายกลเป็นหนึ่งในหล้า นอกจากตัวแคว้นว่านเจิ้นเองที่เป็นสุดยอดค่ายกลใหญ่แล้ว สามสุดยอดค่ายกลแคว้นว่านเจิ้นเรียกได้ว่าเป็นที่ปราดเปรื่องน่าทึ่งในหล้า แต่ทว่า ลำพังอาศัยเรื่องของค่ายกลอย่างเดียว ค่ายกลโบราณจูเซียนอยู่เหนือสุดยอดค่ายกลใหญ่ทั้งสาม…”
“…อีกทั้งค่ายกลโบราณจูเซียนไม่ได้สร้างขึ้นโดยราชันแท้จริงของแคว้นว่านเจิ้น มันเป็นค่ายกลโบราณที่มีความโบราณอย่างยิ่งและมีประวัติความเป็นมาไม่ชัดเจน มีอานุภาพสูงมาก คำว่า ‘จูเซียน’ สองคำก็เพียงพอที่จะบ่งบอกถึงอานุภาพของมันแล้ว แต่ทว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาในแคว้นว่านเจิ้นมีผู้ที่สามารถควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนได้อย่างแท้จริงมีอยู่เพียงไม่กี่คนเท่านั้น เนื่องจากมันทรงพลังมากเกินและลึกซึ้งยอดเยี่ยมเกินไป กระทั่งมีผู้กล่าวว่า คิดจะควบคุมค่ายกลโบราณจูเซียนขั้นต่ำจะต้องเริ่มด้วยระดับราชันแท้จริง…” ครั้นระดับบรรพบุรุษผู้นั้นเอ่ยมาถึงตรงนี้ได้หยุดนิดหนึ่ง ท่าทางหนักแน่นจริงจัง และกล่าวว่า “ถ้าหากปล่อยให้ราชันแท้จริงปาเจิ้นทำความบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนได้ล่ะก็ นับว่ายอดเยี่ยมมากจริงๆ แม้ว่าเขาจะเป็นราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาแต่ก็จะไม่ด้อยไปกว่าราชันแท้จริงขั้นสามลัคนา กระทั่งมีโอกาสสู้กับราชันแท้จริงขั้นสี่ลัคนาได้”
การต่อสู้ข้ามขั้นของราชันแท้จริง” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างเสียวสันหลังวาบบ เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว
ผู้ที่มีความรู้ล้วนแล้วแต่ทราบดีว่า เรื่องศักยภาพของราชันแท้จริงมีความเข้มงวดยิ่ง ภายใต้กฎเกณฑ์ปรกติ ราชันแท้จริงขั้นสองลัคนาจะไม่ใช่คู่ต่อสู่ของราชันแท้จริงขั้นสามลัคนาอย่างเด็ดขาด การมีลัคนาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแน่นอน เว้นแต่ฝ่ายตรงข้ามจะงัดเอาอาวุธปฐมบรรพบุรุษออกมาใช้ มิฉะนั้นล่ะก็ ภายใต้กฎเกณฑ์ปรกติแล้วหากคิดจะท้าสู้ข้ามรุ่นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากอย่างยิ่ง
แต่ทว่า หากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถทำความบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนและถึงกับสามารถท้าสู้ข้ามรุ่นได้ กระทั่งสามารถสู้กับราชันแท้จริงขั้นสี่ลัคนาก็เป็นได้ ช่างเป็นค่ายกลโบราณที่น่ากลัวเพียงใด
“นี่มันเท่ากับเสมือนดั่งอาวุธปฐมบรรพบุรุษ หรือบางทีอาจทรงพลังยิ่งกว่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษทั่วไปนะเนี่ย” มีผู้ที่บ่นพึมพำขึ้นมา
สมควรทราบว่า ระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่สืบทอดต่อกันมายาวนานถึงเพียงนี้ ยุคของปฐมบรรพบุรุษนับว่าห่างไกลกันมากแล้ว ทั่วทั้งระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่สำนักที่มีอาวุธปฐมบรรพบุรุษไว้ในครอบครองอย่างแท้จริงมีอยู่ไม่กี่สำนักเท่านั้น
เวลานี้หากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถทำความบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนได้จริงล่ะก็ ย่อมเป็นการบ่งบอกว่ามีอาวุธที่เทียบเท่าอาวุธปฐมบรรพบุรุษมาเป็นท่าไม้ตาย เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเป็นการวางรากฐานอย่างมั่นคงให้กับฐานะของราชันแท้จริงปาเจิ้น
“เห็นทีเทพธิดาฉินจะมั่นใจในตัวของราชันแท้จริงปาเจิ้นนะเนี่ย” มีผู้พึมพำเสียงแผ่วเบาขึ้นมาเมื่อได้เห็นภาพนี้แล้ว
“ถ้าหากราชันแท้จริงปาเจิ้นสามารถบรรลุค่ายกลโบราณจูเซียนได้จริงล่ะก็ เป็นความจริงที่สมควรได้รับความไว้วางใจ” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับพยักหน้า และกล่าวด้วยท่าทีจริงจังว่า “เมื่อไรที่ราชันแท้จริงปาเจิ้นได้ค่ายกลโบราณจูเซียนมาครอบครอง ย่อมเพียงพอที่จะเกรียงไกรไปทั่วหล้า ยากจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่สามารถต่อกรกับเขาได้ เกรงว่าดาบศักดิ์สิทธิ์กวานไห่ก็ไม่ไหว เมื่อถึงขั้นนี้แล้ว ไม่แน่นักวัดจิ้งเหลียนกวานอาจจะให้การสนับสนุนราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นผู้ได้กุมอำนาจฮ่องเต้จริงๆ ”
“นั่นสิ” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสจำนวนไม่น้อยต่างพยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวว่า “หากราชันแท้จริงปาเจิ้นเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ปราศจากผู้ต่อกรจริง เขาจะต้องได้กลายเป็นผู้ที่มีศักยภาพแฝงมากที่สุดของระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่พวกเรา มาถึงขั้นนี้แล้ว ก็นับว่าเป็นผู้ได้รับความไว้วางใจจากทุกผู้ทุกนาม กลายเป็นฮ่องเต้ในยุคใหม่ และไม่อยู่เหนือความคาดคิด”
ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือยอดเยี่ยมมากนะเนี่ย มีสายตาที่ไม่เหมือนใคร เริ่มจากการส่งองค์หญิงตกยากไปแต่งงานกับฮ่องเต้องค์ใหม่ แล้วยกปิงฉือหานยวี่ให้กับราชันแท้จริงปาเจิ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ ระหว่างตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือกับแคว้นว่านเจิ้นก็คือแข็งแกร่งผนึกกับแข็งแกร่งด้วยกัน หากได้รับการสนับสนุนจากวัดจิ้งเหลียนกวานอีก เกรงว่าสถานการณ์คงจะแน่นอนแล้ว” ผู้คนจำนวนไม่น้อยถึงกับสะท้านภายในใจเมื่อนึกถึงข้อนี้แล้ว
เดิมทีตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือและแคว้นว่านเจิ้นก็คือหนึ่งในห้าแกร่งอยู่แล้ว การเกี่ยวดองสมรสกันของสองฝ่าย ก็ยากจะมีใครสั่นคลอนได้อยู่แล้ว ถ้าหากราชันแท้จริงปาเจิ้นได้รับการเห็นด้วยจากฉินเจี้ยนเหยา ได้รับการสนับสนุนจากวัดจิ้งเหลียนกวาน ในจำนวนห้าแกร่งก็จะมีสามแกร่งที่สนับสนุนราชันแท้จริงปาเจิ้นแล้ว
เมื่อถึงขั้นนั้น ย่อมบ่งบอกว่าสถานการณ์เป็นที่แน่นอน ในยุคนี้ยากจะมีใครสามารถต่อกรกับเขาได้อีกแล้ว ตำแหน่งฮ่องเต้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากราชันแท้จริงปาเจิ้น
จังหวะที่ทุกคนต่างชมเปาะด้วยความตื่นตะลึงอยู่นั้น และไม่ได้มีเพียงหยางฟู่ฝานที่ฉินเจี้ยนเหยายอมให้เข้าพบได้เท่านั้น
ในวันนี้ ชายผู้หนึ่งได้เดินทางมาด้วยการขี่อาชาเทพมาโดยลำพัง อาชาเทพวิ่งเหยียบอยู่บนผิวน้ำ เสมือนดั่งเป็นมังกรแท้จริงที่อยู่ท่ามกลางหมอกควันอย่างนั้น
ชายคนนี้วิ่งผ่านทะเลสาบเข้ามา ด้วยท่าทางที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยว อาชาเทพที่เขาขี่มานั้นวิ่งไม่เร็วนัก แต่การมาอย่างช้าๆ ของเขาคล้ายดั่งมีท่วงท่าที่ก้าวข้ามใต้หล้า เหมือนว่าแต่ละย่างก้าวของเขาสามารถเกรียงไกรไปทั่วหล้าอย่างนั้น ด้วยท่วงท่าของพยัคฆ์แลมังกร พลันเป็นที่ดึงดูดสายตาของผู้คน
เขาคือแม่ทัพทัง…การขี่ม้าที่เหยียบมาบนผิวน้ำทะเลสาบของชายคนนี้ มีผู้สังเกตเห็นและจดจำเขาได้ทันที
‘ทังเฮ่อเสียง’ มีผู้เอ่ยขึ้นมาทันทีที่เห็นชายผู้นี้ “เขามาที่เขาจิ่วเหลียนซานตั้งแต่เมื่อไหร่กัน เหตุใดจึงไม่มีความเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย”
“ไม่รู้เหมือนกัน ไม่มีใครได้เห็นเขามาที่เขาจิ่วเหลียนซานตั้งแต่เมื่อไร” ผู้คนจำนวนไม่น้อยต่างมองหน้ากันและกันหลังจากที่ได้เห็นชายผู้นี้แล้ว ไม่มีใครรู้ได้อย่างชัดเจนว่าเขามาที่เขาจิ่วเหลียนซานตั้งแต่เมื่อไร
ผู้ชายที่เหยียบน้ำทะเลสาบมาผู้นี้ก็คือทังเฮ่อเสียง และก็คือแม่ทัพทหารองครักษ์วังหลวงแห่งราชวงศ์โต่วเซิ่น และตัวเขาก็คืออัจฉริยะบุคคลกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยอดเยี่ยมของราชวงศ์โต่วเซิ่น
“เขาก็เดินทางไปเยี่ยมคารวะเทพธิดาฉินนะเนี่ย” ทุกคนต่างรู้แล้วว่าทังเฮ่อเสียงต้องการทำอะไร เมื่อเห็นเขามุ่งหน้าไปยังเกาะเซียงหลี
“จะอย่างไรเสียเขาก็คือผู้ที่มีกำลังในการเป็นตัวเลือกชิงบัลลังก์นะเนี่ย และตัวเขาก็ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากราชวงศ์โต่วเซิ่น คือตัวเลือกที่จะเป็นฮ่องเต้ยุคใหม่” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสถึงกับเอ่ยขึ้นมา
ทังเฮ่อเสียงในฐานะที่เป็นอัจฉริยะบุคคลของราชวงศ์โต่วเซิ่น ทั้งยังเป็นผู้ที่ได้ฝึก ‘เคล็ดวิชาเจ่อมี่’ หนึ่งในเก้าของเคล็ดวิชาจิ่วมี่ กล่าวได้ว่าเขานั้นคือผู้มีชาติกำเนิดที่ดีผู้หนึ่ง
หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ใหม่สูญเสียแผ่นดินไปแล้ว ทังเฮ่อเสียงได้รับเสียงสนับสนุนมากที่สุดจากภายในของราชวงศ์โต่วเซิ่น ผู้คนจำนวนมากต่างให้การสนับสนุนต่อทังเฮ่อเสียงที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งฮ่องเต้
จะอย่างไรเสีย ทังเฮ่อเสียงไม่เพียงเป็นแม่ทัพของทหารองครักษ์วังหลวง เขาเองก็มีชาติกำเนิดมาจากราชนิกูล ซึ่งเป็นจุดแข็งที่เหนือกว่าทุกคน หลังจากที่ฮ่องเต้องค์ใหม่หายสาบสูญไปแล้ว หากจะค้นหาผู้ที่จะมาสืบทอดตำแหน่งฮ่องเต้ที่ถูกต้องชอบธรรมล่ะก็ ทังเฮ่อเสียงย่อมมีสิทธิ์กว่าผู้ใดอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้เอง แม่ทัพหกกองทัพใหญ่ของราชวงศ์โต่วเซิ่นล้วนแล้วแต่ให้การสนับสนุนทังเฮ่อเสียง และแม่ทัพกองทัพส่วนกลางก็สนับสนุนให้ทังเฮ่อเสียงขึ้นดำรงตำแหน่งฮ่องเต้
ด้วยเหตุที่ได้รับการสนับสนุนจากหกกองทัพใหญ่ ทำให้ตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือ และแคว้นว่านเจิ้นหลังจากตีเมืองหลวงแตกแล้ว ก็ต้องยื้อกันจนถึงปัจจุบัน ไม่สามารถเลือกผู้ที่จะมาเป็นฮ่องเต้คนใหม่ได้
“แม้ว่าทังเฮ่อเสียงจะมีความแข็งแกร่ง แต่ยากที่จะเทียบเคียงกับราชันแท้จริงปาเจิ้น จะอย่างไรเสียหากตระกูลขุนนางโบราณปิงฉือร่วมมือกับแคว้นว่านเจิ้นล่ะก็ เกรงว่ากำลังจะเหนือกว่าหกกองทัพใหญ่” มีผู้ที่เอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ตามหลักการเป็นเช่นนี้” ยอดฝีมือรุ่นอาวุโสได้กล่าวว่า “แต่ทว่า อย่าลืมไปสิ หากคิดจะขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ล่ะก็ ทังเฮ่อเสียงมีความชอบธรรมมากกว่าคนอื่นๆ และมีเหตุผลที่พูดได้เต็มปากเต็มคำมากกว่าคนอื่น ทังเฮ่อเสียงมีชาติกำเนิดมาจากราชนิกูล หากเขาขึ้นนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้สำนักเจ้าลัทธิและตระกูลขันนางโบราณจำนวนมากในระบบถ่ายทอดทางความคิดด้านลัทธิจิ่วมี่ไม่ได้มีปัญหาอะไร จะอย่างไรเสียเขาถือว่าสืบทอดตำแหน่งได้ชอบธรรม ถ้าหากเป็นราชันแท้จริงปาเจิ้นก็ดูจะไม่มีที่มาที่ไปนิดหนึ่ง หากจะพูดไปในทางที่ไม่ดี นี่เป็นการชิงบัลลังก์แย่งอำนาจ ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นที่ยอมรับของผู้คน
ทุกคนต่างรู้สึกว่าคำพูดนี้มีเหตุผล แม้ว่าทังเฮ่อเสียงจะไม่ใช่เป็นโอรสของฮ่องเต้ไท่ชิง แต่ว่าเขามีชาติกำเนิดมาจากราชนิกูล ข้อนี้ทำให้เขาดูมีชาติกำเนิดที่ดี
..